ถ้าสำเพ็ง พาหุรัด คือแหล่งรวมผ้าขนาดใหญ่ และเป็นที่รู้จักของคนไทย เราว่าที่ๆเราจะไปก็คงมีความหมายไม่ต่างกันของโตเกียว กระทู้นี้เอาใจคนรักงานผ้าโดยเฉพาะ เพราะเราจะพาคุณไปเที่ยวสถานที่ที่เต็มไปด้วยลายผ้าน่ารักๆ เห็นแล้วมันถึงกับร้อนรนกันเลยทีเดียว ที่นี่คือตลาดผ้านิปโปริ Nippori Textile Town หรือ Nippori Fabric Town บ้างก็เรียก Nippori Fabric Street ไม่ว่าจะใช้ชื่อไหนแต่ความหมายที่เข้าใจตรงกันก็คือมันเป็นแหล่งขายผ้าที่ใหญ่ไม่แพ้สำเพ็ง พาหุรัด บ้านเราเลย
ต้องขอบอกก่อนว่าเรื่องที่จะนำมาเล่าเป็นเรื่องตั้งแต่ปี 2017 ตอนนั้นเป็นการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิต ไปทั้งหมด 9 วัน มีแพลนเที่ยวในโตเกียว และเมืองใกล้เคียง และหนึ่งในแพลนที่ตั้งใจว่าต้องไปให้ได้ก็คือ Nippori Textile Town หรือ Nippori Fabric Town นั่นเอง ความตั้งใจที่จะไปนี่หลักๆคงไม่ได้ไปเดินเที่ยวเฉยๆ แต่ตั้งใจไปหาช้อปผ้าสวยๆ เพราะประเทศญี่ปุ่นเราก็คงทรกาบว่าของเขาไม่ว่าจะอะไรๆมันก็มีความน่ารักน่าใช้ไปหมด
Nippori Textile Town หรือ Nippori Fabric Town ไปอย่างไร?
ศูนย์รวมร้านผ้าแห่งนี้อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟนิปโปริ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น รถไฟที่จะเดินทางมาที่ Nippoti Textile Town ที่เรารู้มี 5 สาย คือ
1. Nippori-tonerti Liner มาลงที่สถานี Nippori Station ออกทางออก East Exit
2. JR สาย Yamanote Line มาลงที่สถานี Nippori Station ออกทางออก East Exit
3. JR Keihin-Tohoku Line
4. JR Joban Line Rapid
5. Keisei Main Line ลงสถานี Nippori Station
หลังออกจากสถานีรถไฟก็เดินไปอีกสักพักเดินตามลูกศรสีแดงมาเลยค่ะ จะเจอป้ายที่บอกทางไป Nippori Textile Town
จากแผนที่วงกลมสีเหลืองนั่นคือ Nippori Textile Town หรือ Nippori Fabric Town คือเขามีชื่อเรียกกันหลายชื่อแล้วแต่ว่าใครจะเป็นคนให้ข้อมูลนั่นแหละ
เดินมาสักพักก็จะเจอกับร้านผ้าๆๆ ตลอด 2 ข้างถนนเลย แต่นอกจากที่นี่จะขายผ้าแล้ว ก็ยังมีอุปกรณ์งานฝีมือด้วย
ร้านขายผ้าในย่าน Nippori นี้ เขาจะอยู่กันเป็นตึกๆ มีถนนกว้างกั้นกลาง ซ้ายขวาก็เป็นร้านขายผ้าตลอดทาง แต่ถนนเส้นนี้คาดคะเนจากความเหนื่อยของเราแล้วไม่ไกล และไม่ยาวมาก เดินสบายๆ สิ่งที่ชอบมากคือไม่แออัด ดีงาม และคนก็ไม่เยอะมากด้วย ไม่แน่ใจว่าขึ้นอยู่กับวันหรือเปล่า
ผ้าที่ขายในย่านนี้มีหลายต่อหลายประเภท ขึ้นอยู่กับว่าเราจะนำไปใช้ทำอะไร เราไม่ทราบเหมือนกันว่านอกจากย่าน Nippori นี้แล้ว ยังมีที่อื่นในโตเกียวอีกไหมที่เป็นแหล่งขายผ้าใหญ่ๆบ้าง ปกติจะเห็นเป็น shop อยู่ตามห้าง
ที่นี่มีชื่อเรียกกันหลายแบบจริงๆ Nippori Textile Town , Nippori Fabric Town หรือจะเรียกกันย่อๆ ว่า Fabric Town , Fabric Street ก็คงจะความหมายเดียวกัน แต่ละร้านน่าเข้าทั้งนั้น เราเข้าร้านโน้นออกร้านนี้ เพลิดเพลินจำเริญใจ
ผ้าที่ขายที่นี่ก็มีแบบขายยกม้วน ตัดเป็นเมตร หรือตัดเป็นชิ้นเล็ก รวมไปถึงผ้าปลายไม้เหมือนบ้านเราก็มีนะ บางร้านก็นำออกมาวางเรียกแขกที่ด้านนอกร้าน สำหรับคนที่มีความตั้งใจจะไปซื้อผ้า และเป็นคนที่เดินสำเพ็งบ่อย หรืออาจจะซื้อผ้านอกออนไลน์อยู่แล้ว การมาเดินเลือกซื้อผ้าที่ย่าน Nippori จะทำให้เราเลือกได้อย่างมีเหตุผลมากขึ้น ผ้าบางชนิดบางลายเราอาจไปจ๊ะเอ๋กับที่สำเพ็ง แต่ก็ต้องดูเนื้อผ้าด้วย เพราะเนื้อผ้าบางทีไม่เหมือนกัน ลายถูกทำเลียนแบบมาเหมือนกันแต่จับแล้วผ้ามีความหยาบต่างกัน มีผ้าบางลายเหมือนกันที่เราซื้อมาปรากฏไปเจอที่สำเพ็งที่สำเพ็งถูกกว่ากันแบบเจ็บใจ และมันเป็นผ้าเนื้อคุณภาพเดียวกันด้วย
ผ้าหลายๆร้านก็จะม้วนๆ หรือทำชิ้นเล็กๆมาขาย เราได้ผ้าชิ้นละครึ่งหลา ครึ่งเมตรมาเยอะเหมือนกัน แต่การซื้อผ้าแบบนี้ถ้ามีเวลาเราอยากให้คลี่ดู บางทีเราไว้ใจความเป็นญี่ปุ่นว่าต้องได้ของดี คือมีผ้าชิ้นหนึ่งที่เราซื้อมาเป็นรอยขาดแหว่งยาวมากตรงกลางผ้า คือทำให้เราไม่สามารถนำผ้าชิ้นนั้นไปทำงานที่หลากหลายได้ เสียดายเลย อีกทั้งไม่ใช่เป็นผ้าลดราคา
เราเข้าร้านโน้นออกร้านนี้ไปเรื่อยๆ ได้ผ้าลายน่ารักๆมามากมาย แต่ร้านที่ทำให้เราเสียหายหนักมากๆ ก็คือร้าน Tomato ที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปมะเขือเทศสีแดงๆนี่ไง ร้าน Tomato เป็นร้านขายผ้าที่น่าจะมีสาขามากที่สุดในย่าน nippori ซึ่งมีมากถึง 5 สาขา กระจายอยู่ทั้ง 2 ฝั่งถนน และแต่ละร้านไม่ได้ห่างกันเลยจ้า
แผนที่ร้าน Tomato ใน Nippori Textile Town Tokyoเราเข้าไปอยู่ในร้าน Tomato สาขาที่ใหญ่ที่สุดนานมากกกกกกก เล่ากันก่อนว่าร้าน Tomato แต่ละสาขาจะมีขนาดของร้านไม่เหมือนกัน บางสาขาก็ดูจะมีของน้อย บางสาขาผ้าที่อยู่ในร้านก็ไม่น่าสนใจ หลังจากที่เราลองดูจนครบทุกสาขาแล้วเราก็มาปักหลักอยู่ที่สาขาที่ใหญ่ที่สุด หรือที่เรียกว่า Main Building (จากภาพด้านบนเป็นร้านที่อยู่ทางขวา)
ร้านผ้า Tomato สาขาที่ใหญ่ที่สุดใน nippori จะแบ่งออกเป็นชั้นๆ แต่ละชั้นจะแบ่งเกรดของผ้าไม่เหมือนกัน ยิ่งสูงผ้ายิ่งแพง ชั้นล่างสุดจะเป็นผ้าราคาถูกที่สุด และสวยน้อยที่สุดในสายตาเรา เรียกว่าไม่ได้แอ้มเงินเราแม้แต่น้อย นอกจากแบ่งตามราคาเราว่าเขาแบ่งตามประเภทการใช้งานด้วย เราไต่บันไดขึ้นไปชั้นบนๆ และขลุกตัวอยู่ที่นี่จนลืมเวลา
ลายผ้าที่ร้าน Tomato ก็จะมีหลายๆแนว คือชอบแบบไหนค่อยๆเดินดูรับรองว่าเจอที่ถูกใจแน่ๆ ส่วนหนึ่งก็เป็นลายที่แสดงความเป็นเอกลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น เช่น ซูชิ ซูโม่ หมาชิบะ ดอกซากุระ ดอกบ๊วย นกกระเรียง เป็นต้น
หรือถ้าชอบลายจุดก็มีให้เลือกหลายสี หลายขนาด ทั้งจุดเล็ก จุดกลาง จุดใหญ่ สีเข้ม สีอ่อน ลายจุดนี่คลาสสิคตลอดกาล แต่ลายจุดเราไม่ได้ซื้อกลับมาเลย เพราะเป็นลายที่หาได้ไม่ยากในเมืองไทย
คิดดูแล้วกันว่าร้าน Tomato สาขานี้มีตั้ง 5 ชั้น มันจะสนุกขนาดไหนกัน แนะนำว่าถ้าเราไปคนเดียวจะเดินเพลินมาก แต่ถ้ามีเพื่อนไปด้วยเพื่อนต้องชอบผ้าเหมือนกันเพราะถ้าไม่ชอบเพื่อนคงเบื่อ แต่ถ้าชอบมันจะสนุกมากๆที่ช่วยกันชี้ชวนให้ดูลายโน้น ลายนี้
ชั้นนี้เอาใจคนทาสแมว สารพัดน้องแมว ใครชอบหมาชอบแมว บอกเลยหาผ้าลายเหล่านี้ไม่ยากเลยในประเทศญี่ปุ่น เชื่อว่าไปร้านขายผ้าร้านไหนๆ ก็ต้องมีแน่นอนพี่น้อง
เราเลือกซื้อสีผ้าลายแมวพื้นทองออกเหลืองนี้มา 1 เมตร ที่ร้านนี้เขาจะตัดผ้าเป็นเมตร ถ้าในเมืองไทยร้านที่นำเข้าผ้าญี่ปุ่นมักจะตัดผ้าเป็นหลา เราเคยสงสัยว่าทำไมถึงตัดเป็นหลาเขาบอกว่าถ้าตัดเป็นเมตรแล้วมันดูแพงเลยตัดเป็นหลา ไม่แน่ใจว่าร้านอื่นๆใช้เหตุผลเดียวกันหรือไม่
ราคาผ้าที่แสดงเป็นราคาที่ยังไม่รวม Vat อย่างผ้าลายแมวพื้นทองออกเหลืองชิ้นนี้ เมตรละ 900 เยน + vat 8% (น่าจะ 8 % นะคะ เมื่อปี 2017) ถ้าคิดเรทที่ .32 ราคาผ้าญี่ปุ่นลายแมวชิ้นนี้เมตรละประมาณ 311 บาท นั่นเอง
เวลาที่เราจะซื้อผ้าที่ร้าน Tomato ไม่ใช่ว่าจะชี้ๆ บอกพนักงานแล้วได้เลยนะคะ แต่เราต้องหยิบเองค่ะ อ่านไม่ผิดเราต้องหยิบผ้าเอง ผ้าเป็นม้วนๆเราต้องนำออกมาจากชั้นแล้วใส่ไว้ในรถเข็ญแล้วก็เข็ญไปให้เจ้าหน้าที่ตัดให้ รถเข็ญมีลักษณะคล้ายๆพวกรถเข็ญใส่ลูกวอลเล่ย์บอลเวลาซ้อมเลย คล้ายๆนะคะ พอเจ้าหน้าที่ตัดเสร็จเขาก็จะนำมาเก็บเอง ไม่ต้องกังวลว่าเราต้องเอามาเก็บอีก ถ้าเป็นเช่นนั้นตายแน่
ข้อดีของร้าน Tomato ที่เราชอบมากถึงแม้จะต้องยกผ้าเองก็คือ ไม่มีใครมาคอยยืนเฝ้า มายืนจ้องเพราะมันจะรู้สึกกดดันมาก เราสามารถใช้เวลายืนเพ่งพิจารณาได้นานตามที่เราต้องการ จะหยิบเข้า เอาออก เอาไม่เอา เอาไม่เอา ไม่มีใครมาว่าอะไร คุณมีแรงคุณก็หยิบเข้า หยิบออกตามใจปารถนา คือดีงามพระราม8 จริงๆนะ แล้วเราก็เป็นประเภทชอบจับเนื้อผ้า เพ่งลาย เรื่องเยอะ555 ผ้าบางลายที่ยังเต็มๆม้วนเวลายกมันก็ค่อนข้างจะหนัก อีกทั้งบางลายที่อยากได้มันอยู่ล่างสุดเรายกไม่ไหว ก็สามารถเรียกพนักงานให้มาช่วยได้
จากภาพด้านล่างนี่คือลายบางส่วนที่เราเลือกไว้ค่ะ มีลายแมว หมาชิบะ และลายซูชิ ลายชิบะของจริงน่ารักมากๆ เป็นลายที่ไม่มีขายในเมืองไทยแน่นอน (ณ ปี 2017 นะคะ) แต่เมื่อไม่นานมานี้ก็มีร้านนำเข้าผ้าญี่ปุ่นนำมาขาย และเปิดตัวที่ราคาหลาละ 500 บ. ราคาไม่ธรรมดาเลย แต่ถ้าเราต้องเดินทางไปซื้อเองที่ญี่ปุ่น ไหนจะค่าเครื่อง ค่าที่พัก ค่ากิน ก็ลองๆคำนวณดูนะคะว่าถ้าไปเองมันจะคุ้มหรือไม่
เลือกผ้าแล้วเราก็ทยอยนำมาให้เจ้าหน้าที่ตัดที่โต๊ะนี้ค่ะ แล้วก็ไปเลือกต่อ
เดินดูต่อไป
ถ้าชอบแนวการ์ตูนลิขสิทธิ์ก็มีนะคะ
มีต่อค่ะ
พาเที่ยวพาหุรัดแห่งโตเกียว Nippori Textile Town แหล่งขายผ้าสวยในโตเกียว
ราคาผ้าที่แสดงเป็นราคาที่ยังไม่รวม Vat อย่างผ้าลายแมวพื้นทองออกเหลืองชิ้นนี้ เมตรละ 900 เยน + vat 8% (น่าจะ 8 % นะคะ เมื่อปี 2017) ถ้าคิดเรทที่ .32 ราคาผ้าญี่ปุ่นลายแมวชิ้นนี้เมตรละประมาณ 311 บาท นั่นเอง
เวลาที่เราจะซื้อผ้าที่ร้าน Tomato ไม่ใช่ว่าจะชี้ๆ บอกพนักงานแล้วได้เลยนะคะ แต่เราต้องหยิบเองค่ะ อ่านไม่ผิดเราต้องหยิบผ้าเอง ผ้าเป็นม้วนๆเราต้องนำออกมาจากชั้นแล้วใส่ไว้ในรถเข็ญแล้วก็เข็ญไปให้เจ้าหน้าที่ตัดให้ รถเข็ญมีลักษณะคล้ายๆพวกรถเข็ญใส่ลูกวอลเล่ย์บอลเวลาซ้อมเลย คล้ายๆนะคะ พอเจ้าหน้าที่ตัดเสร็จเขาก็จะนำมาเก็บเอง ไม่ต้องกังวลว่าเราต้องเอามาเก็บอีก ถ้าเป็นเช่นนั้นตายแน่
ข้อดีของร้าน Tomato ที่เราชอบมากถึงแม้จะต้องยกผ้าเองก็คือ ไม่มีใครมาคอยยืนเฝ้า มายืนจ้องเพราะมันจะรู้สึกกดดันมาก เราสามารถใช้เวลายืนเพ่งพิจารณาได้นานตามที่เราต้องการ จะหยิบเข้า เอาออก เอาไม่เอา เอาไม่เอา ไม่มีใครมาว่าอะไร คุณมีแรงคุณก็หยิบเข้า หยิบออกตามใจปารถนา คือดีงามพระราม8 จริงๆนะ แล้วเราก็เป็นประเภทชอบจับเนื้อผ้า เพ่งลาย เรื่องเยอะ555 ผ้าบางลายที่ยังเต็มๆม้วนเวลายกมันก็ค่อนข้างจะหนัก อีกทั้งบางลายที่อยากได้มันอยู่ล่างสุดเรายกไม่ไหว ก็สามารถเรียกพนักงานให้มาช่วยได้