[กระทู้ตามรอยอนิเม△] ฉลองอนิเมภาคสองของ Yuru Camp△ กับการตระเวนแคมป์หน้าหนาวของเด็กสาว ม.ปลาย (ฉบับรถไฟเข้าถึง)

สวัสดีครับ กระทู้ตามรอยอนิเม กระทู้แรกประจำปี 2021
เรียกว่าหาโอกาสทำมานานแต่หมดไฟมาตลอดปีโควิด ทีนี้พออนิเมภาค 2 จะฉาย ไฟเลยลนก้นทำมาจนได้ครับ (ฮา)
 


เนื่องจากข้อมูลค่อนข้างเยอะ รีวิวตามรอยเรื่องนี้เลยจะแบ่งเป็นสองพาร์ท โดยครั้งนี้เป็น "ฉบับรถไฟเข้าถึง" เหมาะสำหรับคนที่ชอบนั่งรถไฟเป็นหลัก มี JR Pass และไม่อยากทำใบขับขี่สากล ส่วนพาร์ทหลังจะเป็น "ฉบับรถเช่า" ซึ่งเที่ยวโดยการขับรถเท่านั้น

ส่วนเนื้อหา จะไม่ได้เรียงตามตอน แต่เรียงตามสถานที่ซึ่งชมรมแคมป์และชิมะรินเค้าไปกันเป็นหลัก (บางตอน สถานที่ก็ย้อนไปย้อนมา) แต่รวมสองพาร์ทแล้วจะมีทั้งสิ้น 15 แห่ง

ถ้าพร้อมแล้ว ออกเดินทางไปชมกันครับ ^^

อนึ่ง ทั้งหมดนี่ใช้เวลาเก็บภาพ 1 ปี บิน 6 ไฟลท์ เพื่อเก็บให้ครบทั้ง 12 ตอน ดังนั้นถ้าจะแชร์ต่อรบกวนขอเครดิตกระทู้ด้วยนะครับ



#01 สถานีอุทสึบุนะ

เริ่มจากภาพใบปิดที่คุ้นตาของอนิเมเรื่องนี้ อยู่บน เส้นรถไฟสายมิโนบุ ของ JR Tokai และเป็นสถานีที่นาเดชิโกะเดินทาง
จากบ้านไปโรงเรียน การเดินทางนั้นนั่งหวานเย็นหรือรถด่วนจากสถานีฟูจิ จ.ชิซึโอกะ หรือถ้าจะตามรอย Love Live! 
Sunshine!! ที่นูมาสึอยู่ก็ไม่ไกลแล้ว นั่งต่อยาวมาหน่อยก็ได้


ภาพนี้พลาดที่ตอนแรกใจเย็น รอคนให้ขึ้นรถไฟหมดก่อน สุดท้ายมีรถไฟขาออกมาจอดคู่ขนาบด้วย เลยรอกันใหม่เป็นชม.เลย ดังนั้นถ้ามีโอกาสกดถ่ายได้ให้รีบกดนะครับ

ภายนอกสถานี วาดอย่างเป๊ะ


ภายในสถานี ยิ่งวาดเหมือน


ปก CD เพลงเปิด SHINY DAYS ก็เอาต้นแบบมาจากที่นี่ มาถึงแล้วต้องลองนั่งทำท่าตะเบ๊ะด้วยนะเอ้อ


เดินจากสถานีไปราวๆ 7 นาที จะถึง สะพานนัมบุ ข้ามแม่น้ำฟูจิระหว่างบ้านนาเดชิโกะกับสถานี


บ้านนาเดชิโกะ ตามท้องเรื่องจะอยู่ตรงสี่แยกพอดีข้างปั้มน้ำมัน โดยอิงจากตำแหน่งตอนที่จิอากิมาส่ง (แต่บ้านทรงไม่เหมือนกัน หาที่คล้ายๆ กันก็ไม่มี T_T)




#02 สถานีมิโนบุ

แหล่งของกินชั้นเยี่ยมของน้องเคอร์บี้นาเดชิโกะเรา เมืองท่องเที่ยวเล็กๆ ที่เงียบสงบ เหมาะกับการใช้เวลาผ่านไปอย่าง
เรื่อยๆ ชมวิวริมแม่น้ำซักสองชั่วโมง
 
 
ภาพเปิดของน้องขี้ยุสุดชิลและชิกุวะสุดน่ารัก คือวิวของสะพานเหล็กข้ามแม่น้ำฟูจิที่อยู่ฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟ การจะเดินเข้ามาถ่ายที่ทางกั้นน้ำหินนี้จะค่อนข้างชัน ดังนั้นต้องระวังตัวด้วยนะครับ

เมื่อมาถึงสถานีรถไฟแล้ว ข้างในเค้าก็จัดนิทรรศการ Yuru Camp ด้วย เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวไปในตัว


เดินออกมาข้างนอก ก็จะเห็นบรรยากาศของชนบทที่เรียบง่ายของชาวเมืองมิโนบุ

น้องหมาสีดำมีตัวตนจริงๆ นะ

ตามกลิ่นของกินไปไม่ไกล จะเจอร้านขนมญี่ปุ่นชื่อ เอโชโด ซึ่งนาเดชิโกะเหมา มันจูมิโนบุ ครั้งละ 10 ชิ้น ซึ่งจะขอบอกว่าเหมาไปเถอะ อร่อยจริง ไม่ใช่แค่สปอนเซอร์ คุณป้าคนขายก็น่ารัก ลูกค้ายืนรอเข้าคิวกันเพียบ


บรรยากาศภายในร้าน ตกแต่งด้วย Yuru Camp อีกเช่นกัน


เดินออกจากร้าน นั่งกินริมลมพัดเบาๆ อากาศหนาวนิดๆ สไตล์เดือนตุลาคม
อ้อ!! ชาร้อนขอรับฟรีได้ที่ร้านเลยนะครับ


หมดแล้ว...เติมอีกรอบ




#03 สถานีฮาดากะจิมะ

เป็นสถานีที่ไม่ได้บทบาทอะไรในเรื่อง แต่แค่เห็นน้องหมานั่งหลับสบายในรถไฟก็เพียงพอแล้ว



ฉากข้างล่างนี่ออกมาแบบผ่านๆ ก็จริง แต่จังหวะมีครั้งเดียวที่รถไฟจะมาจอดเป็นฉากหลัง แล้วต้องรีบวิ่งออกมาถ่ายให้ทันแล้วกลับขึ้นไปใหม่ 
ไม่งั้นรอขบวนต่อไปอีกรวมชั่วโมง (ชอบฟอนต์อักษรวาดมือในอนิเมมาก เหมือนของจริงมากๆ)
 



#04 ซุปเปอร์ ZEBRA มิโนบุ และร้านเหล้าคาวาโมโต้

สถานที่ทำงานพิเศษของสมาชิกชมรมแคมป์ ซึ่งทั้งสองแห่งอยู่ติดๆ กันเลย โดยชื่อจริงๆ ของซุปเปอร์คือ SELVA การเดินทางโดยไม่
มีรถนี่ออกจากโหดหน่อยๆ คือเดินทางจากสถานีรถไฟฮาดากะจิมะไปราวๆ 40 นาที (3 กิโลเมตร) ...ส่วนรถยนต์แค่ 5 นาที 
5555



ชั้นของกินสำหรับแคมป์หน้าหนาวยังมีเยอะแยะมากมาย

เลขเคาท์เตอร์จ่ายตังค์ สลับกันจากน้อยไปมากแทน

โซนใดที่มีของกินโผล่ในอนิเม ก็ไม่พลาดที่จะโฆษณาสินค้า


มาถึงโซนโหดวัดใจ นั่นก็คือโซนขายสินค้า Yuru Camp วางเรียงรายราวกับอากิบะก็ไม่ปาน มาครั้งแรกยังเป็นโซนเล็กๆ อยู่ดีๆ มาครั้งสุดท้ายขยายเป็นอาณาจักร กำเงินหมื่นหมดหมื่น กำเงินแสนหมดแสน ใครใจไม่แข็งพอหนีปายยยย!!!


ส่วนข้างๆ ร้านเหล้าที่จิอากิทำงานนั้นปรากฎว่าปิดไปแล้ว (พอไปส่อง Google Maps ปรากฏว่าเดิมใช้ชื่อเดียวกับอนิเมเลย) ถ้ายังอยู่รับรองได้อานิสงค์จากอนิเมไปด้วยชัวร์ๆ




#05 สถานีไค-โทคิวะ

เป็นที่ตั้งของ โรงเรียนม.ปลายโมโตสุ ที่เหล่าชมรมแคมป์ใช้ชีวิตแสนชิลส่วนใหญ่อยู่ที่นี่ โดยทันทีที่ถึงสถานีเราจะเห็นป้ายแนะนำเส้นทางทำไว้เป็นระยะๆ ให้นักท่องเที่ยวเดินตามไม่หลง เรียกว่าโปรโมตการท่องเที่ยวกันสุดๆ



ฉากภายในสถานีรถไฟ


ทางเดินไปโรงเรียน กับรถประหลาดติดกล้องที่นาเดชิโกะเจอ จนทำให้ได้ไปยืนหราใน Street View


ทางเดินกลับไปยังสถานีรถไฟ ไม่มีตู้กดน้ำที่ตรงหัวมุมนะครับ (แต่มีทื่อื่น)


หลังจากเดินตามป้ายบอกทาง ขึ้นเนินเขาไปราวๆ 15 นาที ก็จะพบโรงเรียนเป้าหมายของเรา โดยต้นแบบนั้นคือ อดีตโรงเรียนประถมชิโมเบะ ซึ่งปิดตัวไปในปี 2016 (ก่อนอนิเมฉาย 2 ปี) เนื่องจากมีการควบเขตบริหารมิโนบุและด้วยจำนวนนักเรียนที่น้อย แต่หลังจากที่ละครดราม่าเรื่องนี้ฉายในมกราคมปี 2020 จึงมีการเปิดอาคารอีกครั้งเพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์ของ Yuru Camp ด้วย


ถือเป็นตึกที่มีความเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด เพราะมาครั้งแรกช่วงกันยายนปี 2018 ยังไม่มีอะไรตกแต่งเลย (ภาพซ้ายบนสุดยังไม่มีอะไรมาแปะกระจก) ผ่านไปปีนึงค่อยๆ มีอะไรเต็มไปหมด


ส่วนอันนี้พิเศษ! "อีเวนต์ดนตรีผ้าห่มอาวุธลับ" ซึ่งจัดขึ้นวันที่ 3 พฤศจิกายน 2018 เป็นกิจกรรมแบบลิมิตเต็ดวันเดียวเพื่อแฟนๆ อนิเมเรื่องนี้ได้นั่งห่มผ้าฟังเพลงเพราะๆ หน้าหนาว เรียกว่าบินมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ 5555 ทว่าเนื่องจากห้ามถ่ายภาพในงาน เลยมีแค่สแตนดี้เล็กน้อย + โลโก้เสื้อผู้จัดงาน


รายละเอียด+รายงานดูจากเว็บออฟฟิเชี่ยลครับ https://www.yamanashi-kankou.jp/special/sp_yurucamp/yurucamp_fes.html

ส่วนอันนี้ล่าสุดไปอีกทีปลายปี 2019 มีตู้กดน้ำแล้วอยู่ด้านล่างของโรงเรียน มีอิตาฉะมาจอดด้วย ขอแลกทวิตกันเรียบร้อย




#06 ฟุเอฟุกิกาว่า

อันนี้เคยรีวิวแบบละเอียดยาวๆ ไปแล้ว ขออนุญาตยกยอดไปที่กระทู้นี้ครับ https://ppantip.com/topic/37977345


สำหรับเมืองนี้ ยังเป็นต้นแบบของอนิเมเรื่อง Kamisama ni Natta Hi ของ P.A.Works ด้วย พอเอาที่เคยถ่ายมาเทียบ
แล้วมุมไม่ตรงเป๊ะเท่าไหร่ คราวหน้าถ้าบินเข้าประเทศญี่ปุ่นได้เมื่อไหร่คงได้ไปซ้ำอีกรอบแน่นอน


ส่วนที่ตั้งแคมป์ East Wood นั้น...

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



#07 ร้านอุปกรณ์แคมป์ Caribou

ในอนิเมอาจจะดูใกล้บ้านเดินทางสะดวก แต่ของจริงอยู่ห่างกันคนละจังหวัด ต้นแบบคือร้าน SWEN ที่เมืองฮามะมัตสึ จ.ชิซึ
โอกะ ซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิดของนาเดชิโกะและเพื่อนสนิท โทคิ อายาโนะ หรือ อายะจัง ตัวละครใหม่ในภาค 2

การเดินทางคือลงสถานีเทนริวกาวะแล้วเดินประมาณ 10 นาที ชาวแคมป์เข้าไปแบบไม่เตรียมใจ มีสิทธิ์เสียเงินแน่เพราะของเยอะจริงๆ เสียดายข้างในไม่เหมือนฉบับอนิเมเลย คิดว่าจัดชั้นใหม่หมด เอาเป็นดูบรรยากาศข้างในก็แล้วกันครับ (ต้องขออนุญาตก่อนถ่ายด้วยนะ)



ตัดมาอีกฉากนึงซึ่งอยู่ห่างกัน 4 ป้าย สถานีรถไฟเบ็นเทนจิมะ และเดินเข้ามาประมาณ 15 นาที ก็จะถึง สะพานนางิสะ


ใบปิดภาค 2 อายะจังกับนาเดชิโกะสมัย ม.ต้น ยืนอยู่บนสะพานนี้


ข้างๆ จะเป็นแคมป์นางิสะเอ็น หนึ่งในที่ตั้งแคมป์ซึ่งรินเคยมาใช้บริการในมังกะเล่ม 5 คิดว่าโผล่ในอนิเมซีซั่นสองแน่ๆ แต่ถ่ายมุมสุ่มๆ จะเป๊ะแค่ไหนต้องรอลุ้นเอา


ขากลับเราสามารถแวะสวนสาธารณะเบ็นเทนจิมะได้ ซึ่งก็คือจุดชมวิวเคาท์ดาวน์ปีใหม่ที่สวยงามและขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ตอนที่ไปก็ได้อยู่ชมพระอาทิตย์ตกดินพอดี


สำหรับพาร์ทนี้จบแค่นี้ครับ คราวหน้าจะเป็นการตามรอย Yuru Camp ที่จำเป็นต้องเดินทางด้วยรถยนต์เท่านั้น
ขอบคุณที่ติดตามรับชม ดูกระทู้นี้เพื่อบิ้วอารมณ์ แล้วติดตาม Yuru Camp 2 ต่อให้สนุก

สวัสดีครับ ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่