JJNY : 6in1 กกร.หั่นจีดีพีปี’64/พ่อค้าแม่ค้าระยองโอด/หม่อมถนัดแ-กถาม/ก้อย อรัชพรสวนตู่/พท.ขอ7วันซักฟอกรบ./โรมวอนเปิดสภา

ผวาโควิดรอบใหม่! กกร.หั่นจีดีพีปี’64 เหลือ 1.5-3.5% จี้รัฐจัดระเบียบต่างด้าว-ล้างบางบ่อนต้นตอแพร่เชื้อ
https://www.khaosod.co.th/economics/news_5678380
 
 
คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน ผวาโควิดรอบใหม่ หั่นจีดีพีปี’64 เหลือ 1.5-3.5% จี้รัฐจัดระเบียบต่างด้าว-ล้างบางบ่อนต้นตอแพร่เชื้อ
 
กกร.ผวาโควิดรอบใหม่ - นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติปรับลดคาดการณ์อัตราการเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทยปี 2564 จะขยายตัวได้ในกรอบ 1.5-3.5% หากควบคุมการแพร่ระบาดได้ภายในระยะเวลา 3 เดือน ลดลงจากเดิมที่คาดจะว่าขยายตัวได้ 2-4% เช่นเดียวกับประมาณการการส่งออกในปี 2564 ที่คาดว่าจะขยายตัวเพียง 3-5% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ในกรอบ 0.8-1%
 
ทั้งนี้ เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มว่าจะช้ากว่าที่คาดไว้เดิม รวมถึงปัจจัยเสี่ยงและผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศ และการใช้งบประมาณเพิ่มเติมอีก 2 แสนล้านบาทในการพยุงเศรษฐกิจ
 
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยหยุดชะงัก การท่องเที่ยวในประเทศซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจตลอดครึ่งหลังของปี 2563 ไม่สามารถเดินต่อได้ชั่วคราว หลังจากมีมาตรการเข้มงวดจำกัดการเดินทางในหลายจังหวัดที่มีประชากรมากหรือเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวในประเทศ คาดว่าจะใช้เวลา 2-3 เดือน และยังส่งผลลบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุน”นายกลินท์ กล่าว
 
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า กิจกรรมการผลิตในภาคอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบทางอ้อมจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ เนื่องจากประเทศสำคัญๆ ในห่วงโซ่อุปทานโลกอย่างจีนและไต้หวันยังควบคุมการระบาดได้ดี ขณะที่ภาคการส่งออกในช่วงต้นปี 2564 อยู่ภายใต้ข้อจำกัดจากปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ในการส่งออก รวมถึงค่าเงินบาทที่ยังมีแนวโน้มแข็งค่า
 
ทั้งนี้ ภาครัฐควรเร่งหามาตรการ ควบคุมโรคระบาด โดยการบังคับใช้มาตรการต่างๆ ที่ประกาศออกมาอย่างเคร่งครัด และเร่งรัดเรื่องวัคซีนให้สามารถได้มาตามกำหนดเวลาและมีปริมาณที่เพียงพอรวมถึงกำหนดวิธีการและหลักเกณฑ์ในการกระจาย การขนส่ง และฉีดวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจัดลำดับผู้ที่ได้รับวัคซีนก่อนหลังอย่างเหมาะสม
 
รัฐควรจะโฟกัสแม่นยำ ตรงจุด ถึงต้นตอการแพร่กระจาย ขอให้ควบคุมดูแลที่อยู่ของคนงานต่างด้าวให้เหมาะสมเพื่อระงับการแพร่ระบาด รวมทั้งเร่งจับผู้กระทำผิดทั้งบ่อนการพนัน และการนำเข้าแรงงานต่างด้าวอย่างผิดกฎหมาย สร้างความเชื่อมั่นให้สินค้าของประเทศว่าปัญหาการแพร่ระบาดส่วนใหญ่มาจากคนสู่คน ไม่ใช่จากอาหารหรือสินค้าสู่คนเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการและแรงงานที่ได้รับผลกระทบด้วย”นายสุพันธุ์ กล่าว
 
นอกจากนี้ ขอให้ภาครัฐเร่งดำเนินการเรื่องงบประมาณช่วยเหลือ 2 แสนล้านบาท โดยให้กำหนดวิธีการให้ชัดเจนปฏิบัติได้เร็วและให้ส่งผลได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะมีความเห็นว่าจะสามารถช่วยพยุงเศรษฐกิจได้ซึ่งอาจเป็นการต่ออายุโครงการคนละครึ่งและเพิ่มงบประมาณการใช้จ่ายต่อบุคคลเป็น 5,000 บาท มาตรลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ เช่น ลดค่าไฟ 5%รวมถึงการใช้เครื่องมือทางการเงินอย่างการซื้อสินทรัพย์ที่มีคุณภาพดีมาพักชั่วคราว (Asset Warehousing) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) อย่างมีประสิทธิภาพ
 
ขณะเดียวกัน เร่งรัดการใช้และการเจรจาการค้าทวิภาคี รวมถึงการให้สัตยาบันลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ในการประชุมรัฐสภา เพื่อให้ข้อตกลงที่ลงนามไปเมื่อเดือนพ.ย. 2563 มีผลบังคับใช้กลางปีนี้ เพื่อให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีแรงส่งเพิ่มในช่วงครึ่งปีหลัง
 

 
พ่อค้าแม่ค้า บุกประจัญหน้า ผู้ว่าฯระยอง โอดถูกสั่ง ปิดตลาดนัด เดือดร้อนหนัก 
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_5678805
 
พ่อค้าแม่ค้า บุกประจัญหน้า ผู้ว่าฯระยอง โอดถูกสั่งปิดตลาดนัด เดือดร้อนหนัก ลงทุนไปเยอะ ของสดเสียหายหมดแล้ว จี้ทบทวนคำสั่ง หาตลาดให้
 
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 6 ม.ค.64 นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง รับเรื่องร้องเรียน ขณะเตรียมแถลงข่าว สถานการณ์โควิด-19 ประจำวันของ จ.ระยอง ปรากฎว่ามี พ่อค้าแม่ค้า บุกขึ้นมาดักรอหน้าห้องแถลงข่าว เพื่อขอความเป็นธรรมจากการสั่งปิดตลาดนัดชั่วคราวทั่ว จ.ระยอง สร้างความเสียหายให้กับพ่อค้าแม่ค้าตลาดเป็นอย่างมาก เพราะลงทุนซื้อมาแล้ว แต่ตลาดนัดถูกปิด ทำให้สินค้าเสียหายหมด
 
นายฐาเศรษฐ์ จิระรัตนศักดิ์ อายุ 36 ปี ตัวแทนพ่อค้าแม่ค้าตลาดนัดนาตาขวัญ อ.เมือง กล่าวว่า อยากทราบว่าทำไมปิดแต่ตลาดนัดที่ไม่มีหลังคา แต่ทำไมตลาดที่มีหลังคา ไม่ปิด ซึ่งความจริงแล้ว การป้องกันโควิด ก็มีเหมือนกัน จึงขอให้ทางจังหวัดทบทวนคำสั่ง หรือ หาตลาดรองรับให้พ่อค้าแม่ค้าได้มีที่ขายของ เพราะลงทุนซื้อสินค้ามาแล้ว โดยเฉพาะของสดจะเกิดความเสียหายทั้งหมดแล้วแต่ใครจะรับผิดชอบ
 
ด้าน นายชาญนะ ชี้แจงว่า จังหวัดไม่ได้เป็นผู้สั่ง แต่เป็นคำสั่งจาก ศบค. ส่วนเรื่องความเดือดร้อน ทางจังหวัดเข้าใจ เตรียมหาทางออก เพื่อหาทางช่วยเหลือผู้ค้า พร้อมจะให้ทาง อบต.นาตาขวัญเจ้าของพื้นที่ เดินทางมารับเรื่อง เพื่อช่วยหาทางออกให้ต่อไป
 
ต่อมานาย นายลำยอง ธรรมยิ่ง นายก อบต.นาตาขวัญ ระยอง เดินทางมารับเรื่อง จากพ่อค้าแม่ค้า ที่มาร้องเรียน ทาง อบต.นาตาขวัญ ยินดี ที่จะให้เข้าไปขาย ในตลาดนัด นาตาขวัญ แต่ต้องไปตรวจหาเชื้อโควิด 19 ก่อน เพื่อเอาผลมายืนยัน เพื่อสร้างความความสบายใจ
 
ด้าน นายฐาเศรษฐ์ กล่าวว่าขอฝากเรื่องไปยัง ศบค.ให้ช่วยหามาตรการช่วยเหลือด้วยพ่อค้าแม่ค้าด้วย เพราะคำสั่งปิดตลาดออกไปไม่มีกำหนด ขอให้เห็นใจพ่อค้าแม่ค้าด้วย เพราะเดือดร้อนมาก ไม่มีรายได้เลย
  


หม่อมถนัดแ-ก ถาม จะให้รับสภาพ โดยไม่คิดจะเอาผิด คนที่ทำให้โควิดระบาดเลยหรือ?
https://www.matichon.co.th/covid19/news_2516358
 
วันนี้ (6 ม.ค.) หม่อมถนัดแ-ก หรือ นายสหัสวรรษ ชอบชิงชัย ยูทูบเบอร์สายกิน เจ้าของร้านข้าวแกงถนัดแ-ก ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงสถานการณ์โควิด-19 โดยระบุตอนหนึ่งว่า
 
“รู้สึกว่า จะมีดราม่าน้อยๆนะ จุดติดง่ายดี พิมพ์อะไรนิดๆหน่อยๆไม่ได้เลย คนมีความสุขคงไม่มานั่งจ้องแต่ดราม่าหรอก ทุกวันนี้สู้กับโควิดก็แย่อยู่แล้ว วันนี้เห็นข่าวเมื่อวานว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิดมันเพิ่มขึ้น ไม่ได้ลดลงเลย เพราะเป็นการแพร่กระจายไปทั่ว ทำให้หลายๆคนกังวล วิตกไม่ออกจากบ้านไปไหนมาไหน
 
“ไม่แปลกๆตอนนี้ธุรกิจท่องเที่ยวเราที่มันแย่มาตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว ต้นปีนี้ก็ฟื้นยาก เพราะว่าการท่องเที่ยวยังไม่กลับมาดีเท่าที่ควร ยังมาเจอโควิดซ้ำอีก ธุรกิจอาหารไม่ต้องพูดถึง มาโดนรอบ 2 ก็เรียบร้อย ถือว่าหนักหน่วง ขณะที่การเยียวยารอบนี้ไม่ชัดเจน รอบที่แล้วรัฐบาลช่วยแรงงาน แต่ครั้งนี้เขาก็ยังไม่ชัดเจน ผู้ประกอบการดิ้นรน ด้วยตัวเองไร้การเยียวยา
 
“ครั้งนี้ไม่มีอะไรชัดเจนเลย ไม่มีแนวทางที่จะช่วยผู้ประกอบการ ตั้งแต่ครั้งที่แล้วก็ยังไม่มี ต้องดิ้นรน ไม่รู้ใช้กลยุทธ์ไหน ผู้ประกอบการหลายๆคนก็คงไปลำบาก ปิดกิจการกันไปเยอะเลย หนักหน่วง ครั้งแรกก็เป็นหนี้เป็นสิน ครั้งนี้ก็เกิดขึ้นโดยที่พวกเราให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่คนที่ทำให้มันเกิดขึ้น กลับไม่มีใครไปคุ้ยไปแคะ หรือให้บทลงโทษเลย ทำไมหละครับ ทำไมประชาชนต้องรับสภาพอย่างเดียว
 
“แต่คนที่ทำให้มันเกิดรอบ 2 กลับไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ลอยนวลโดยไม่มีใครออกมาพูดด้วยว่า ต้นตอจริงๆมาจากไหน มีคนบอกแรงงานต่างด้าว แล้วใครจะครับที่ปล่อยเข้ามา คนไทยคนไหนที่ปล่อยเข้ามา ทำไมจัดการบ้าง มาจัดการแต่พวกเราคนส่วนใหญ่ บีบกันทุกทาง โดยไม่ได้ช่วยเหลือเยียวยาอะไรให้ภาพรวมดีขึ้นเลย ผู้ประกอบการตาย แรงงานตาย ต่อไปก็ตายทั้งระบอบ ครั้งที่แล้วถือว่า แย่กว่าจะกัดฟันสู้มา ยังมาเจออีกรอบ”
 

 
‘ก้อย อรัชพร’ สวนกลับ ‘บิ๊กตู่’ หลังขอให้ประชาชนกักตัวอยู่บ้านเพื่อหยุดเชื้อ
https://www.matichon.co.th/entertainment/thai-entertainment/news_2516298
 
ก้อย อรัชพร’ สวนกลับ ‘บิ๊กตู่’ หลังขอให้ประชาชนกักตัวอยู่บ้านเพื่อหยุดเชื้อ
 
หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา ถึงการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 โดยยืนยันยังไม่มีการล็อกดาวน์ทั้งประเทศ แต่ขอความร่วมมือให้ประชาชนกักตัวอยู่บ้านเพื่อหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อ
 
โดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากปีใหม่ต้องใช้ระยะเวลากี่วันถึงจะประเมินสถานการณ์ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า

ประเมินทุกวันและจะดู 14-15 วัน เพราะเป็นระยะปลอดภัย ซึ่งถ้าทุกคนรู้ว่ามีความเสี่ยงอยู่ก็ขอให้อยู่บ้าน 14-15 วัน work from home และอย่างอื่นก็ปิดหมด ซึ่งเราก็ไม่อยากล็อกดาวน์ทั้งประเทศ เพราะท่านก็รู้ว่าปัญหามันคืออะไรดังนั้นท่านล็อกดาวน์ตัวเองให้ได้บ้างไหม มันอยู่ที่ทุกคน ถ้าเราไม่อยากไปติดเชื้อเราก็ไม่ต้องไปไหนอยู่บ้าน 14-15 วันถ้าทุกคนคิดแบบนี้เราก็ปลอดภัย มันก็จะคัดกรองคนได้ง่ายขึ้น แต่ถ้ายังไปมาหาสู่กันทั้งหมดก็ตรวจสอบคนทั้ง 70 ล้านคนไม่ไหว
 
(อ่านข่าว บิ๊กตู่วอนปชช.ล็อกดาวน์ตัวเอง ขอ15วัน ประเมินระยะปลอดภัย โบ้ยสื่อ ไม่ช่วยพูดให้คนใส่หน้ากาก)
 
คำให้สัมภาษณ์ดังกล่าว ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ขณะที่ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 มกราคม ก้อย อรัชพร โภคินภากร ได้ออกมาโพสต์ไอจี สตอรี่ พร้อมกับภาพของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมข้อความว่า
 
“คนอื่นเข้าไม่ใช่แบบท่านนะค้า ที่อยู่บ้าน 14-15 วันเฉยๆ แล้วมีเงินใช้หนะค่าาาาาา”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่