การไปเที่ยวมันเปิดโลกยังไงอะครับ สายเที่ยวบอกที ผมเริ่มสนใจ แต่ไม่เก็ท

จริงๆไม่ใช่คนเที่ยวเลยครับ แล้วก็ไม่ได้รู้ว่ามีปัญหากับการไม่เที่ยว หรืออยากไปเที่ยว
แต่พักหลังก็อยากลองดู ประกอบกับช่วงนี้มีเรื่องคิดเยอะครับ ก็เผื่อจะช่วยได้

ขอเป็นสโคปในระดับเที่ยวต่างประเทศก็ได้ครับ

ที่ผมไม่เก็ท คือไอประโยคที่ว่า ไปเห็นโลกกว้าง หรือคำอะไรแบบนี้ทั้งหมด
คือมันยังไงอะครับ มันจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้

มันเหมือนเป็นคำหลวมๆสวยหรูเฉยๆอะครับ
ผมก็ลองคิดตาม 

โอเค สมมุติไปอังกฤษ ไปแอฟริกา 
แล้วไง บ้าน ตึก ถนน แม่น้ำ
แล้วไงต่อ วิถีชีวิตผู้คนหรอ 
ยังไงอะ ไม่ได้เข้าถึงขนาดนั้นไหมอะ
ไม่ได้ไปคุยสารทุกสุขดิบ ไม่ได้ลองใช้ชีวิตแบบเค้า
จะเอาไรมา justify ตรงนี้อะครับ ว่าได้เปิดโลก
เดินผ่านแค่ 5 นาทีด้วยซ้ำหรือเปล่า

มันเหมือนแค่ไปถ่ายรูปอะ ว่ากันตรงๆ อย่าโกรธกัน
วิวสวย ภูเขา แม่น้ำสวย อะ แล้วไงต่อ
อ่า สวย จบ 

แล้ว..

เปิดโลกคือความรู้ไหมอะ ที่เป็นสิ่งสำคัญ
ในเน็ตมีหมดแล้วอะครับ 

มองภาพไม่ออก

ย้ำอีกที ผมอยากลองไปเที่ยวนะ พักหลัง
แต่อยากเห็นความเห็นที่เมกเซ้นครับ

อันนี้ไม่ใช่ประเด็นเรื่องผ่อนคลาย หรือไปแชร์โมเม้นกับใครนะครับ
คนละประเด็นกัน
คืออยากรู้ว่า มันเปิดโลกยังไง
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
คนเรามีวิธีการเรียนรู้ ซึมซับประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป บางคนชอบมองชอบเห็นชอบสังเกต บางคนชอบฟัง ชอบเข้าไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมใหม่ บ้างชอบลองทำ สาย hardcore ชอบเรียนรู้ด้วยตัวเอง ไม่เชื่อคำพูดความคิดเห็นประสบการณ์ของคนอื่นจนกว่าจะได้ลองทำเอง

ผมเริ่มเที่ยว ตปท.ครั้งแรกกับเพื่อนสมัยมัธยมสิบกว่าปีก่อน ไปญี่ปุ่น ไปนอน cafe ที่มีการ์ตูน เครื่องเล่น ไปแบบพูดญี่ปุ่นไม่เป็นกันทั้งกลุ่ม ไปหลง ไปลองขึ้นรถไฟ ไปเดิน trekking ตามเขา ไปหัวเราะ ไปสนุก ผ่านไปตอนนี้สิบกว่าปีแล้ว ยังเอามาเล่ากันทุกครั้งที่รวมกลุ่มกันราวกับพึ่งไปมาเมื่อเดือนก่อน

หลังจากครั้งแรก เริ่มรู้สึกว่าตัวเองแกร่งมากขึ้น  เดิมผมพูดอังกฤษได้อยู่แล้ว แต่พอเห็นว่าการสื่อสารภาษาท้องถิ่นไม่ได้ ไม่ได้มีอุปสรรคกับการเที่ยวเลย หลังจากนั้นก็เริ่มเอาตัวเองไปลองทำสิ่งใหม่ที่อยากทำมากขึ้น ไปตุรกี ไปจีน ไปยุโรป เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม ฝรั่งเศส สเปน ไปไอซ์แลนด์ ไปแสกนฯ ไปในที่ๆไม่ใช่ safezone ของเราเลย เพราะเดิมนั้นผมคิดจะไปแค่ประเทศที่พูดอังกฤษได้เพราะเรารู้สึกว่าเราสบายใจเวลาไปเที่ยวแค่นั้นเอง

พอเริ่มโตขึ้น จากเดิมนั้นจะเป็นการเที่ยวแค่ในเมืองหลวง เมืองหลัก เมืองชอปปิ้ง เริ่มสงสัย สนใจว่าทำไมแต่ละประเทศที่มีพื้นฐานทั้งโครงสร้างทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง เทคโนโลยีคล้ายๆกัน ทำไมถึงเจริญออกมาแตกต่างกัน ทำไมบางเมืองรวยบางเมืองจน ทำไมคนฝรั่งเศสถึงชิลจัง ทำไมคนอิตาลีเหมือนกับคนไทยที่แค่อาศัยในยุโรป ทำไมคนดำถึงถูกกดขี่ ทำไมมีความขัดแย้ง ทำให้ช่วงหลังๆมานี้ ผมจะเริ่มไปเที่ยวในที่ๆแตกต่างจากสมัยวัยรุ่น เริ่มไปเมืองเก่าสมัยยุคกลาง ไปเมืองมรดก ไปเมืองชนบท ไปแอฟริกาใต้ ไปดู ไปเห็น ไปตอบคำถามที่อยู่ในหัวเรา

แต่พอหลังๆมา พ่อแม่เริ่มแก่ขึ้น แกเริ่มไม่อยากไปไหนแล้ว การไปเที่ยวของผมคือการไปเติมความสุขให้ครอบครัว ยอมขับรถพันกิโล เพื่อพาพ่อแม่ไปขึ้นเขา บางครั้งแค่เพื่อไปดูน้ำตกของจริงที่แกเคยเห็นในโปสเตอร์เก่าที่บ้านมาเป็นสิบปี

การเปิดโลกของผม มันไม่ใช่แค่การมีเรื่องใหม่ๆมาเล่าสู่กันฟังแค่นั้นนะคับ  ผมเชื่อว่าการท่องเที่ยวมันเติบโตขึ้นไปพร้อมกับเรา มันปรับ mindset เรา มันหล่อหลอมเราให้มีนิสัยใหม่ เป็นคนใหม่ทุกครั้งหลังจากกลับมาจากการไปเที่ยว มี empathy เห็นใจผู้อื่นมากขึ้น มีการยอมรับในความแตกต่างกันของแต่ละคน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่มีทางเกิดขึ้นกับชีวิตผมได้เลยหากผมไม่เริ่มเที่ยว

การท่องเที่ยวให้อะไรมากกว่าที่คิดคับ
ความคิดเห็นที่ 6
บางทีมันไม่ใช่แค่การไปให้ถึงจุดหมายระหว่างทางต่างหาก  ไปกับเพื่อน สร้างความทรงจำดีๆด้วยกัน ประสบการณ์ วิธีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
มันเลยเป็นสเน่ห์ ในการเดินทางไม่ใช่ อยากไปภูกระดึง เปิดกลูเกิ้ลแม๊พ ลากเม้าให้เพื่อนนั่งดูด้วยกัน มันจะซาบซึ้งไหม ไหนจะบรรยากาศ
ความเหนื่อยสายลมแสงแดดที่มาปะทะใบหน้า ผุ้คน สัตว์ ต่างๆที่ได้เจอระหว่างทาง ได้พบผู้คนวิธีคิดใหม่ๆอาจได้แรงบันดาลใจบางอย่างมาใช้ในชีวิต
ประจำวัน
ความคิดเห็นที่ 5
จริงอย่างที่บอกครับ ทุกอย่างอยู่ในเนตหมดแล้ว รีวิวการเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆ ในยูทูป กูเกิ้ล มีรีวิว ให้เราเห็นหมด

แต่การที่เราออกไปเที่ยว คือการได้ ไปเจอกับประสบการณ์จริง เห็นของจริง เจอสถานการณ์จริงๆ ในการเอาตัวรอด การแก้ไขปัญหาเฉพราะหน้าต่างๆที่เราเจอ อาจจะไม่เหมือน ที่เราอ่านหรือ ดูมา   

อย่างตัวผม เคยหาข้อมูลมา เคยอ่านรีวิว เคยดูยูป อ่านในเวปต่างๆ เกี่ยวกับพวกที่แบคเพค แบกเป้ แล้วเดินทางไปเรื่อยๆ ค่ำไหน นอนนั้น  เที่ยวไปเรื่อยๆ มันดูน่าไป น่าตามรอย

จบวันนึง ผมทำบ้าง แล้วก็ทำได้  มันจะเป็นความทรงจำของเราครับ เป็นเรื่องเล่าของเรา ครั้งหนึ่งในชีวิต
เช่น การแบกเป้ นั่งรถไปเรื่อยๆ จากไทย ไป มอสโก แล้ว ก็นั่งรถเรื่อยๆ กับมาประเทศไทย
ความคิดเห็นที่ 11
ถ้าทุกอย่างอยู่ในเน็ตหมดแล้ว
เที่ยงนี้เปิดดูรูปข้าวไข่เจียวละกันนะคะ
ความคิดเห็นที่ 2
ต้องลองไปสักครั้งคะ แล้วจะรู้เองโดยอัตโนมัติ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่