พลาดท้อง ที่จริงก็ไม่ถือว่าพลาดเพราะผู้ชาย เดือนหน้าก็ตกลงมาหมั้นให้แล้ว อายุก็ถึงวัยทำงานแล้ว แม่จี้บังคับให้เราคุยกับแฟนให้เขามาคุยเป็นทางการ ถ้าไม่ทำจะให้ไปอยู่อื่นเพราะอายคนข้างนอกมาก ฝ่ายชายทางบ้านเขาก็รับรู้ ถึงสงสัยว่าอายขนาดต้องไล่ให้ไปอยู่อื่นเลยเหรอ เข้าใจแต่ตอนนี้ว่างงานอยู่ จะให้ไปอยู่ไหนยังไง หนีไปยังงั้นเหรอ แล้วถ้าคนอื่นถามไม่อายกว่าเหรอว่าลูกตนเองไปไหน แฟนก็ตกลงจะจดทะเบียนให้แล้ว คือร้อนใจว่างั้นแค่รอและให้เวลาฝ่ายชายสักนิด ลูกมีแฟนจะต้องปกปิดชาวบ้านถึงไหน สถานะในเฟสก็ตั้ง อายขนาดนั้นเหรอลูกแค่มีแฟนเนี้ย ยังต้องให้ปกปิดอยู่อีกไม่ใช่วัยเรียนแล้ว ฝ่ายชายก็ยอมรับเป็นพ่อเด็กแล้วนะไม่ได้ทิ้งไปไหน คือจะอายไปถึงไหนจนต้องอยากไล่ลูกไป เวลาแก่ไม่คิดจะพึ่งลูกแล้วเหรอ พอหมดโควิดก็ออกไปหางานเลี้ยงลูกอยู่ดี จอมบังคับบงการตลอด ตอนที่ทำงาน แม่ให้ลาออกจากงาน พอที่ฝึกงานเขาจะรับเข้าทำงาน กลับไม่ยอมให้ทำ ให้มาอยู่บ้าน พออยู่บ้านก็ไล่ไปหางานทำ คือทำตัวไม่ถูกจริงๆ ก่อนหน้านี้ก็หางานมาสักพักแล้ว ใจก็อยากออกไปหางานใหม่อีกครั้งแต่ท้องแล้วใครจะรับเข้าทำงาน เมื่อตอนเรียนอยากจะไปหางานทำแต่ถูกบังคับเรียนให้จบมหาวิทยาลัย ทั้งที่ใจอยากทำงานมากกว่า เพราะให้เรียนแต่ไม่สนับสนุนเรื่องอุปกรณ์การศึกษา โทรศัพท์ไม่ซื้อให้ อันนี้สำคัญเพราะข่าวสารเขาแจ้งทางเฟส ไลน์ โน๊ตบุ๊คไม่ซื้อให้ ทั้งที่เอาไว้ทำงานกลุ่ม รถไม่ให้ขับ กลัวพาไปล้ม ไม่ยอมซื้อรถให้หอไม่ให้เช่า กางเกงขาสั้นไม่ให้ใส่ ตอนฝึกงานจะไม่ให้พารถจักรยานยนต์ไป แฟนมีก็เปิดเผยไม่ได้ถูกด่าว่า ที่บ้านฐานะปานกลาง คือใช้ชีวิตแบบอึดอัดขัดตลอดเลย ลำบากกายและใจไม่รู้จะเพิ่งใคร ใครมีปัญหาครอบครัวแบบนี้บ้าง รักลูกชายมากกว่าลูกหญิงอีก ซื้อรถยนต์ให้ขับ ทั้งที่เราขออุปกรณ์การศึกษาแบบเหนื่อยใจ งานหายากกว่าแต่ครอบครัวกลับมองว่าเรียนสำคัญกว่า ตอนนี้เรียนสูงก็ไม่มีงานทำ ไม่รู้จะทำยังไงต่อสับสนกับชีวิตที่ถูกบังคับแบบนี้
ใครมีพ่อแม่รักโลกสังคมข้างนอกมากกว่ารักลูกตนเองบ้างยอมที่จะไล่ลูกออกจากบ้าน