โฆษกเพื่อไทย จี้รัฐอย่าโยนปัญหาให้ ปปช. พร้อมเสนอทางออกป้องกันหลังโควิดระบาด
https://www.matichon.co.th/politics/news_2511123
 
โฆษกเพื่อไทย จี้รัฐอย่าโยนปัญหาให้ ปปช. พร้อมเสนอทางออกป้องกันหลังโควิดระบาด ลั่นประเทศที่ล้มเหลว มาจากผู้บริหารที่ล้มเหลวที่มักโทษประชาชนก่อนเสมอ
 
นางสาวอรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มาตรการรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ สิ่งที่รัฐควรทำเพื่อควบคุมโรค คือต้องล็อกเป้าหมายให้ชัดในแต่ละพื้นที่ อย่าโยนปัญหาให้ประชาชนเป็นคนจัดการ ก่อนประชาชนจะถูกลงโทษจนทำมาหากินไม่ได้ อย่าลืมลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นต้นเหตุใช้กฎหมายหากินกับพวกผิดกฎหมายด้วย พร้อมเสนอให้รัฐบาลเตรียมความพร้อม 5 ด้าน เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในทุกมิติ
 
1. การล็อกดาวน์หรือใช้มาตรการใดๆ ที่กระทบการทำมาหากินของประชาชน รัฐบาลต้องชดเชยรายได้ โดยงบประมาณที่ใช้มาจากการกู้ผ่านการออกตราสารหนี้ ขายให้สถาบันทางการเงินของรัฐและเอกชน เป็นการกู้ที่ไม่เกิดประโยชน์กับคนที่เดือดร้อนจริง
 
2. รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยนำมาตรการพักชำระหนี้กลับมาใช้อีกครั้งเพื่อบรรเทาปัญหาในะระยะสั้น
 
3. รัฐบาลควรปรับแผนสั่งซื้อวัคซีนเร่งด่วน เพื่อนำมาป้องกันประชาชนกลุ่มเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูงและบุคลากรทางการแพทย์ เมื่อวัคซีนเพียงพอแล้ว จึงควรวางแผนให้ประชาชนล่วงหน้าอย่างเป็นระบบอย่างเท่าเทียมให้คุ้มกับภาษีประชาชน ไม่ใช่การชิงโชครับภูมิคุ้มกันเหมือนที่รัฐบาลทำมาโดยตลอด
 
4. รัฐควรเพิ่มทางเลือกวัคซีนตัวอื่นที่มีประสิทธิภาพสูง นอกเหนือจากบริษัท อ็อกซ์ฟอร์ด-แอสตราเซเนกา (Oxford-Astrazeneca) บริษัทเดียว
 
5. รัฐควรให้วัคซีนสังคม (social vaccination) ด้วยการปลูกฝังประชาชน เข้มงวดสวมหน้ากากและ Social distancing ให้เป็นนิสัย เตรียมอุปกรณ์ทางการแพทย์ สถานที่กักตัว และสถานบริการบำรุงรักษาอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้เพียงพอ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับสังคม เพราะหากตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น การเตรียมพร้อมที่ดีพอจะช่วยลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้
 
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นอกจากแผนทั้ง 5 ข้อข้างต้น รัฐบาลควรวางแผนเยียวยาและปรับโครงสร้างประเทศในระยะยาวไปพร้อมกันด้วย โดยต้องหาทางสร้างโอกาสใหม่ๆ หารายได้ให้กับประชาชนในระยะยาว
 
“คนออกคำสั่งปิดธุรกิจ ปิดสถานศึกษา โดยไม่หามาตรการรองรับ คือคนที่กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน ไม่รู้ถึงความเดือดร้อนของคนหาเช้ากินค่ำ ประเทศที่ประชาชนไม่มีกิน คือประเทศที่ล้มเหลว มาจากผู้บริหารที่ล้มเหลวที่มักโทษประชาชนก่อนเสมอ” น.ส.อรุณีกล่าว
 

---

 
ตัวเลข New High สถานการณ์โควิดวันนี้ ติดเชื้อยังพุ่งต่อเนื่อง 315 ราย
https://www.thairath.co.th/news/politic/2005507
  
ศบค. แถลงสถานการณ์โควิดวันนี้ 3 ม.ค. 64 พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 315 ราย เฉพาะคนไทยติดเชื้อในประเทศ 274 ราย ยอดป่วยยืนยันสะสม 7,694 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต
    
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 3 ม.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย เป็นดังนี้
 
ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อในประเทศ 294 ราย
สถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 21 ราย
รักษาหายเพิ่มขึ้น 38 ราย
กลับบ้านแล้ว 4,337 ราย
อยู่ระหว่างรักษาตัว 3,293 ราย
ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยอดผู้เสียชีวิตรวม 64 ศพ
ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 7,694 ราย นับเป็นรายที่ 7,380 - 7,694
ประเทศไทย เป็นอันดับที่ 136 ของโลก
 
ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสเดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันของรัฐ หรือ State Quarantine มีดังนี้
 
บาห์เรน 1 ราย
ปากีสถาน 3 ราย
คูเวต 1 ราย
สหรัฐอเมริกา 4 ราย
รัสเซีย 2 ราย
อิตาลี 1 ราย
อินโดนีเซีย 1 ราย
กาตาร์ 2 ราย
อียิปต์ 3 ราย
เอธิโอเปีย 1 ราย
อินเดีย 1 ราย
สหราชอาณาจักร 1 ราย
 
ผู้ติดเชื้อในประเทศ 274 ราย
มีประวัติเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์ จ.สมุทรสาคร 2 ราย
มีประวัติเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์พัทยา จ.ชลบุรี 1 ราย
มีประวัติเชื่อมโยงสถานบันเทิง, สถานที่ชุมชน, อาชีพเสี่ยง 37 ราย
อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 234 ราย
 
ส่วนผู้ติดเชื้อในแรงงานต่างด้าวจากการคัดกรองเชิงรุก 20 ราย ยอดสะสม 1,460 ราย
 

---

 
สปป.ลาว เริ่มฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้กลุ่มเสี่ยงแล้ว หลังได้รับจากรัฐบาลจีน 2,000 โดส
https://covid-19.kapook.com/view235744.html
 
         สปป.ลาว เริ่มฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้กลุ่มเสี่ยงลำดับแรกแล้ว หลังได้รับจากรัฐบาลจีน 2,000 โดส และจะได้จากรัฐบาลรัสเซียอีก 500 โดส ในวันที่ 2 มกราคม 2564
  
         วันที่ 1 มกราคม 2564 รายการ B Times ช่อง 3 รายงานว่า ดร.บุนกอง สีหาวง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สปป.ลาว ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าในการจัดหา และฉีดวัคซีนโควิด 19 เพื่อใช้งานฉุกเฉินว่า รัฐบาลจีน ได้ส่งมอบวัคซีนโควิด-19 ที่ผลิตโดยบริษัทที่มีชื่อว่า ซิโนฟาร์ม (Sinopharm) มาให้เป็นจำนวน 2,000 โดสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
 
         ทั้งนี้ สาธารณสุข สปป.ลาว ได้เริ่มฉีดวัคซีนดังกล่าวกับกลุ่มเสี่ยงในลำดับแรกให้กับเจ้าหน้าที่อาสาสมัครและแพทย์ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย covid 19 จำนวน 200 โดสแล้ว นอกจากนี้ รัฐบาลรัสเซียได้จัดส่งวัคซีนโควิด-19 มีชื่อว่า สปุ๊ตนิค ไฟว์  (SPUTNIK V) ในล็อตแรกจำนวน 500 โดส มาถึง สปป.ลาว ในวันที่ 2 มกราคม 2564 
 
ขอบคุณข้อมูลจาก รายการ B Times ช่อง 3