COVID รอบแรก ไม่ได้ติดต่อผ่านชุมชนชาวต่างชาติ ยกเว้นที่ภูเก็ต ซึ่งระยะแรกพยายามควบคุม
แต่ไม่ว่าควบคุมแค่ไหน ชาวต่างชาติในขณะนั้นไม่สนใจ ซึ่งอาจมีข้อจำกัดด้านการสื่อสาร แนวคิด วัฒนธรรม
ทำให้คุมไม่ได้ (ไม่กลัว ไม่สนใจป้องกัน เที่ยวตะลอน ดื่มเหล้า เบียร์แก้วเดียวกัน บุหรี่ม้วนเดียวกัน) คนท้องถิ่น
ได้แต่ทำตาปริบ ๆ สุดท้ายนอกจาก shut down ระดับจังหวัดแล้วยังจำกัดในระดับอำเภอ เดินทางข้ามอำเภอไม่ได้
ถึงเอาอยู่ COVID รอบนี้ ภูเก็ตไม่เยอะ ไม่มีต่างชาติให้วุ่นวายแล้ว แต่ COVID รอบนี้หนักจาก 2 ปัจจัย คือ
1. ติดภายในชุมชนชาวต่างชาติ เช่น สมุทรสาคร นนทบุรี
2. ติดต่างผู้ค้าในตลาด ซึ่งมีคนไปจับจ่ายใช้สอยกันเยอะ ต่างจากรอบแรกที่ไม่ได้ติดผ่านผู้ค้าในตลาด เช่น
ตลาดบางใหญ่ ตลาดบางบัวทอง ตลาดพิชัย ติดยกตลาด ปิดตลาดแล้ว ก็ย้ายไปขายตลาดอื่น วนไป
รอบนี้ Driver แรงกว่ารอบแรก แต่การดูแลในระดับการคัดกรอง และการรักษาดีกว่า ส่วนการจัดการขึ้นอยู่กับการจัดการ
driver ที่เป็นสาเหตุของการแพร่กระจายให้ตรงจุด เอาใจช่วยครับ
COVID รอบนี้ บางส่วนคล้ายภูเก็ตโมเดล แต่ Driver แรงกว่า
แต่ไม่ว่าควบคุมแค่ไหน ชาวต่างชาติในขณะนั้นไม่สนใจ ซึ่งอาจมีข้อจำกัดด้านการสื่อสาร แนวคิด วัฒนธรรม
ทำให้คุมไม่ได้ (ไม่กลัว ไม่สนใจป้องกัน เที่ยวตะลอน ดื่มเหล้า เบียร์แก้วเดียวกัน บุหรี่ม้วนเดียวกัน) คนท้องถิ่น
ได้แต่ทำตาปริบ ๆ สุดท้ายนอกจาก shut down ระดับจังหวัดแล้วยังจำกัดในระดับอำเภอ เดินทางข้ามอำเภอไม่ได้
ถึงเอาอยู่ COVID รอบนี้ ภูเก็ตไม่เยอะ ไม่มีต่างชาติให้วุ่นวายแล้ว แต่ COVID รอบนี้หนักจาก 2 ปัจจัย คือ
1. ติดภายในชุมชนชาวต่างชาติ เช่น สมุทรสาคร นนทบุรี
2. ติดต่างผู้ค้าในตลาด ซึ่งมีคนไปจับจ่ายใช้สอยกันเยอะ ต่างจากรอบแรกที่ไม่ได้ติดผ่านผู้ค้าในตลาด เช่น
ตลาดบางใหญ่ ตลาดบางบัวทอง ตลาดพิชัย ติดยกตลาด ปิดตลาดแล้ว ก็ย้ายไปขายตลาดอื่น วนไป
รอบนี้ Driver แรงกว่ารอบแรก แต่การดูแลในระดับการคัดกรอง และการรักษาดีกว่า ส่วนการจัดการขึ้นอยู่กับการจัดการ
driver ที่เป็นสาเหตุของการแพร่กระจายให้ตรงจุด เอาใจช่วยครับ