ปี 2020 ถือเป็นปีที่มีทั้งเรื่องดีและเรื่องแย่สำหรับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กำลังอยู่ในกระบวนการสร้างทีม “ปีศาจแดง” ขึ้นมาใหม่ มีทั้งการคว้าชัยสุดดราม่านัดสุดท้ายของฤดูกาลตลอดจนอกหักตกรอบรองชนะเลิศฟตุบอลยุโรปถ้วยเล็กซึ่งแฟน “เร้ด อาร์มี่” ยังอดทนรอทีมให้กลับมาประสบความสำเร็จต่อไป ถึงกระนั้นเราย้อนมาดูสุดยอดเหตุการณ์ของ แมนฯ​ ยูไนเต็ด ในปีนี้กัน



5.สยบ “จิ้งจอก” วันสุดท้ายของฤดูกาล



แมนฯ​ ยูไนเต็ด ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากเมื่อพวกเขาพลาดเก็บชัยชนะในบ้านช่วงท้ายฤดูกาลทำให้ต้องมาตัดสินกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในนัดสุดท้ายซึ่งเงื่อนไขคือ แมนฯ​ ยูไนเต็ด ห้ามบุกแพ้เด็ดขาดมิเช่นนั้นแล้ว พวกเขาจะชวดคว้าตั๋ว ชปล. ทันที

โซลชา ต้องเจองานลำบากเมื่อ เลสเตอร์ พยายามเปิดเกมรุกสู้ตายถวายหัว ขณะที่ “ผีแดง” ตั้งรับเพื่อรอจังหวะสวนกลับ สร้างความอึดอัดใจให้กับแฟน “เร้ด อาร์มี่” เป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามแนวรับ “จิ้งจอก” มาก่อความผิดพลาดเสียเองจนเสียจุดโทษและเป็น บรูโน่ แฟร์นัน ที่สังหารประตู 
 
เหตุการณ์มันพีคขึ้นไปกว่านั้นเมื่อ เจสซี่ ลินการ์ด แนวรุกแมนฯ ยูไนเต็ด ที่โชว์ฟอร์มย่ำแย่และไม่ยิงประตูมาตลอดทั้งฤดูกาล มาปลดล็อกประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บช่วยย้ำชัยชนะให้กับ “ผีแดง”

นอกจาก แมนฯ ยูไนเต็ด จะจบอันดับ 3 พร้อมคว้าตั๋ว ชปล. แล้ว โซลชา ยังพาทีมไร้พ่ายในลีก 14 นัดติดต่อกันนับตั้งแต่แพ้ เบิร์นลี่ย์ คาบ้านในเดือนมกราคม

4.ยำใหญ่คู่ปรับตลอดกาลใน “สงครามกุหลาบ”



ลีดส์ ยูไนเต็ด กลับมาลงแข่งขันพรีเมียร์ลีกที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปีซึ่งการมาเยือนคู่ปรับตลอดกาลนั้นไม่สวยงามเอาเสียเลยเมื่อลูกทีมของ โซลชา ถล่มทีมของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ขาดลอยถึง 6-2

แม้ “ผีแดง” จะทำผลงานในบ้านฤดูกาลนี้ย่ำแย่เหลือเกินแต่ศึก “สงครามกุหลาบ” ที่เป็นเกมแห่งศักดิ์ศรี พวกเขากลับโชว์ฟอร์มสุดสะเด่า โดยการยำใหญ่ครั้งนี้ต้องขอบคุณสองประตูของ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 3 นาทีแรกหลังจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็รัวกระสุนถึงครึ่งโหลซึ่ง บรูโน่ แฟร์นันด์ส เป็นอีกรายที่ยิงสองประตูในเกมนี้ 

ขณะที่ฝั่ง “ยูงทอง” เองแม้จะโดนยิงเยอะเท่าไหร่ พวกเขาก็ยังเดินหน้าเปิดเกมรุกเต็มที่ ทำให้เกมนี้ถือเป็นแมตช์ที่แม้สกอร์จะขาดลอยแต่ก็สนุกสนานครบรสเช่นกัน

3.”แม็คโทมิเนย์”ซัดประตูย้ำชัยแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้



เกมลีกนัดสุดท้ายของ “ผีแดง” ในเดือนมีนาคมก่อนที่พรีเมียร์ลีกจะถูกสั่งระงับยาวนานกว่า 2 เดือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องทำศึกกับคู่ปรับรวมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่พยายามทำคะแนนไล่ตามจ่าฝูง ลิเวอร์พูล อยู่ห่างๆ

แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มต้นเกมอย่างสวยงามเมื่อ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่กำลังโชว์ฟอร์มฮอตนับตั้งแต่ย้ายเข้ามาในเดือนมกราคมเปิดฟรีคิกสุดแม่นยำให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ยิงประตูตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกหลังจากนั้นทั้งเกม แมนฯ ซิตี้ พยายามบุกอย่างหนักเพื่อเอาประตูตีเสมอจนกระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 6 เอแดร์ซอน นายด่าน “เรือใบ” เขวี้ยงบอลพลาดจนไปเข้าทาง สกอตต์ แท็คโทมิเนย์ ได้หวดตูมเดียวจากระยะไกลเข้าประตู

เมื่อบอลถูกส่งไปซุกก้นตาข่ายกองเชียร์ในโอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็ถึงกับบ้าคลั่งโห่ร้องดีใจกันอย่างสุดขีด ชัยชนะครั้งนี้ทำให้ “ผีแดง” ปราบเพื่อนร่วมเมืองได้แบบ ไป-กลับ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2009-10 และนี่ถือเป็นแมตช์สุดท้ายที่มีแฟนบอลอยู่ในโอลด์ แทรฟฟอร์ด ซึ่งจนปัจจุบันแฟนบอลยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาชมเกม

2.”แรชฟอร์ด” รับเครื่องราชฯชั้นเอ็มบีอี



 นักเตะเบอร์ 10 ของ แมนฯ​ ยูไนเต็ด พิสูจน์ให้เห็นแล้วเขาเป็นฮีโร่ทั้งในและนอกสนามปี 2020 มาร์คัส แรชฟอร์ด ช่วยระดมทุนเพื่อนำอาหารไปบริจาคให้กับเด็กๆ ตามพื้นที่ต่างๆในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

นอกจากนี้เขายังเรียกร้องให้รัฐบาลเปลี่ยนใจเรื่องการยกเลิกแจกคูปองสำหรับการแลกอาหารฟรีด้วยซึ่งการเรียกร้องของเขาก็กลายเป็นกระแสดังในสหราชอาณาจักรจนสุดท้ายรัฐบาลก็ยอมเปลี่ยนใจ การกระทำนี้ทำให้กองหน้า “ปีศาจแดง” ได้รับเสียงชื่นชมมากมายจนเขาได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันวิเศษยิ่งแห่งจักรวรรดิบริติชชั้นเอ็มบีอีในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

แรชฟอร์ด ปฏิญาณตนว่าจะเป็นกระบอกเสียงและคอยซัพพอร์ทเด็กๆราว 1.3 ล้านคนหล่านี้ซึ่งงานของเขาจะต่อเนื่องไปในปี 2021 

1.เซ็นสัญญายอดซุปตาร์ “บรูโน่ แฟร์นันด์ส”



สุดยอดโมเมนต์ประจำปีนี้เป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากการเซ็นสัญญาขวัญใจคนใหม่ของบรรดาสาวก "เร้ด เดวิลส์" นามว่า บรูโน่ แฟร์นันด์ส

หลังจากเป็นมหากาพ์ซื้อขายอยู่นานในช่วงตลาดซัมเมอร์ปี 2019 จน แมนฯ ยูไนเต็ด พลาดคว้าตัว บรูโน่ อย่างน่าเสียดายทำให้ส่งผลมหาศาลต่อฟอร์มการเล่นของทีมในช่วงครึ่งฤดูกาล 2019-20 “ผีแดง” ก็รีบรื้อแผนเสริมทัพอีกครั้งในช่วงตลาดหน้าหนาวปี 2020 แม้จะใช้เวลาเจรจาอยู่นานเหมือนเช่นเดิมแต่ก่อนปิดตลาด แมนฯ ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จในการกระชากตัวจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ด้วยค่าตัวเบื้องต้นราว 47 ล้านปอนด์ พร้อมเปิดตัวกับทีมในวันที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมา

นับแต่นั้นมา บรูโน่ กลายมาเป็นส่วนสำคัญในทัพ “ปีศาจแดง” อย่างรวดเร็วพร้อมกับเปลี่ยนโชคชะตาของทีมในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังซึ่งคงไม่ผิดหากจะบอกว่าเขาเข้ามาช่วยเซฟเก้าอี้กุนซือโซลชาด้วย เจ้าตัวมีส่วนทำให้ทีมไร้พ่าย 14 นัดติดต่อกันในลีก และจนบัดนี้เขามีส่วนร่วมกับประตูมากถึง 43 ประตูจาก 45 นัดที่ลงเล่นในทุกรายการ (26 ประตู, 17 แอสซิสต์) นี่อาจเป็นการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด นับตั้งแต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือ

cr : www.siamsport.co.th