คิดเหมือนผมป่ะ ตอนเขาออกมาจากเชลซีเเล้วมาซบกับทีมลิเวอร์พูลตอนตลาดหน้าหนาวปี 2013 นับเป็นครึ่งฤดูกาลที่ดีมากๆสำหรับ สเตอร์ริดจ์ เขาเป็นกองหน้าประเภทใช้สปีดได้ดี มีความเร็ว เทคนิคสูง การเลี้ยงบอลที่ดูพริ้วไหวเนียนตา ถ้าพูดถึงเรื่องการจบสกอร์คือใช้โอกาสไม่เปลืองเลยทีเดียวครับ ถ้าวัดกันปอนด์ต่อปอนด์คือ ยิง 10 เข้า 8 ไปเลย อันนี้คนอื่นจะว่าผมอวยไป เเล้วฤดูกาลถัดมาก็จับคู่หู ยิงประตูกับซัวเรซอย่างถล่มทลาย ทะลุตาข่ายคู่เเข่งไป 52 ประตู โดย สเตอร์ริดจ์ ยิงไป 21 ประตู เเละ ซัวเรซยิงไป 31 ประตู ซึ่ง ฤดูกาลถัดมาเขาก็เจอปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนทั้งซีซั่น เเถมได้ลงเล่นเพียงไม่เกิน 10 นัด ซึ่งมันเป็นอะไรที่ช็อคมากๆสำหรับเเฟนบอลอย่างผม เเล้วปีต่อมาก็คล็อปก็ได้เข้าคุมทีมต่อ สเตอร์ริดจ์ก็ได้ลงมากขึ้นจากการที่ หายจากอาการบาดเจ็บ ซึ่งรูปเเบบการเล่นของเขานั้นมันไม่ใช่ "สเตอร์ริดจ์คนเดิม"ซึ่งจังหวะส่งเเกไม่ส่ง เออ อันนี้จริง เเต่ด้วยทีมมันต้องเล่นเป็นทีมด้วยเเหละ อาการบาดเจ็บ พรากเขาไปทำให้ฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐาน ถ้าเป็นตอนพีคๆโอกาสยิงอย่างน้อย 2 ครั้ง ต้องเป็น 1 ประตู สำหรับ สเตอร์ริดจ์ เเต่ในยุคของคล็อปนั้นจ่อๆยิงออกก็มี ข้ามคานก็มี ชนเสา ชนคานก็มี ซึ่งความมั่นใจก็หายไปเลย กลายเป็นนักเตะอับโชคคนนึงของลิเวอร์พูล เเละวงการบอลอังกฤษเลยนะ ผมว่าถ้าเทียบกับ เคน อเกวโร่ ฟาน เพอร์ซี่ย์ คาวานี่ เเล้วนิ ถ้าไม่เจ็บนิระดับเดียวกันเลยนะ คือจะว่าผมอวยก็ไม่ใช่นะ ถ้าเทียบกันเเล้ว คือก็ไม่ได้ห่างอะไรกันมาก ในขณะที่ใน 3 ประสาน ตอนนี้ อย่างซาลาห์ มาเน่ เเละ ฟีร์มิโน่ ผมมองว่า  3 คนนี้ การจบสกอร์ยังมองว่าเป็นรอง สเตอร์ริดจ์อยู่นะครับ ถ้าไกล้เคียงในทีมตอนนี้ ก็มีโชต้านี่เเหละ เเต่ยังมองว่า สเตอร์ริดจ์ยังเหนือกว่า ลูกยิงเหนือๆ เเบบมันไม่เข้าหรอก เเต่เข้า ผมมองว่า เเฟนๆคงคิดถึงเขามากๆเลยครับ

เราคิดดูนะครับ ถ้าเขาไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่ไข้ 
เขาจะเป็นกองหน้าระดับไหนเเล้วเทียบเท่ากับใครคับ