พ่อแม่แฟนกลัวโควิดจะไม่ไปร่วมงานแต่งควรทำยังไงดีค่ะ สงสารแม่ตัวเองจัง

คือเรากับแฟนจะแต่งงานวันที่ 10 มกราคม 64 แต่พ่อแม่แฟนกลัวโควิดจะไม่ไปร่วมงาน อยากให้เราเลื่อนงานแต่งออกไป ซึ้งจังหวัดที่เราอยู่ไม่ได้เป็นจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อเลย และแม่เราก็ขออนุญาตทางอำเภอแล้วว่าจะจัดงานแต่ง ทางอำเภอก็ได้อนุมัติคำร้องขอไปแล้ว แขกในงานก็ไม่ได้เยอะเลยมีแต่ญาติๆและเพื่อนๆ เพราะไม่ได้แจกการ์ด เป็นแบบนี้ไปไม่เป็นเลย จะเลื่อนงานออกไปรอโควิดซามันตอนไหนล่ะ โรคนี้คงอีกนานแล้วเรากับแม่ก็เตรียมงานไว้หมดแล้ว จ่ายมัดจำไว้หมด ทางญาติเราก็มาร่วมงานได้หมด ติดแต่พ่อแม่แฟน เราควรทำยังไงดี
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
คุณดูเหมือนไม่นึกถึงความรู้สึกของพ่อแม่แฟนเลย คุณเอาแต่ใจรู้ตัวมั้ยเนี่ย
โควิดนั้นถ้าไม่ตรวจก็ไม่มีวันเจอหรอก แล้วแน่ใจได้ไงว่าจังหวัดคุณมันไม่มี
พ่อแม่แฟนท่านอายุมากแล้ว โควิดนี่คนแก่ติดจะออกอาการมากกว่าคนหนุ่มสาวแล้วถ้าท่านมาก็จะไม่สบายใจไง ทีนี้ไม่ต้องอ้างเรื่องกลัวแฟนน้อยใจอะไรหรอกแฟนคุณนี่แหล่ะต้องเข้าใจหัวอกพ่อแม่ ถ้าท่านไม่สบายใจจะทำไปทำไม
และคุณเองถ้าอยากจัดงานแต่งต่อก็จัด และถ้าพ่อแม่แฟนไม่สบายใจจะมาก็ไม่ต้องให้ท่านมาสิคะ

งานแต่งนี่จัดเพื่อใคร เพื่อตัวเองไม่ใช่หรือ
ถ้าพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายรับรู้แล้วมันก็จบแค่นั้น
ความคิดเห็นที่ 8
คุณจะไปเป็นสะใภ้ อย่าออกตัวเรื่องนี้เยอะ ต้องให้แฟนคุณเป็นคนออกตัว แต่หากแฟนคุณไม่กล้า
       มีแนวทาง คือ
1. เลื่อนไป ตามที่พ่อแม่ ว่าที่สามีขอ แต่วันนั้น คุณกับแฟน ไปจดทะเบียนสมรสก่อน เอาฤกษ์ตามเดิม  10 มกราคม 64
        ส่วนจัดงาน แจ้งทุกท่าน ว่าขอเลื่อนไป อีกระยะหนึ่ง เพื่อความปลอดภัยของทุกท่าน เนื่องจากเวลานี้ อัตราการระบาดเพิ่มสูงมาก
     และต้อง Save ผู้สูงอายุด้วย
         ส่วนเลื่อนไปนั้น ส่วนตัวผมคาดว่า อีกประมาณ 1-2 เดือน จะเริ่มลดลง ค่อยว่าเรื่องจัดงานอีกที เพื่อให้ญาติผู้ใหญ่สบายใจ อ่าไปฝืนเลย
     การจัดในอีก 2 เดือนข้างหน้า ก็อาจจะจัดช่วงของเดือน กุมภาพันธ์ ก็ดีเหมือนกัน เป็นเดือนแห่งความรัก ปลายหนาวเข้าร้อน เชื้อจะลดอัตราการแพร่ลงได้มาก   รูปแบบการจัด อาจปรับใหม่จัดสองโซน โซนผู้ใหญ่ คือ ช่วงพิธีการ เอาเฉพาะญาติสนิท เพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว จำกัดคน
      ทำพิธีง่ายๆ ไม่รู้ว่าจีนหรือไทย หากจีนก็ยกน้ำชา รับไหว้ หากไทยก็ผู้กข้อไม้ข้อมือ ให้พ่อแม่นั้นหล่ะ เจิม ไม่ต้องพระ
           เก็บภาพ แล้วเอามาถ่ายทอดภาพผ่าน LCD ที่ห้องจัดเลี้ยง อีกโซนหนึ่ง สำหรับเพื่อนๆ แขกเหรื่อ จัดให้เหลื่อมเวลา
       พ่อแม่บ่าวสาว ทานอาหารแยกไป ส่วนบ่างสาว เพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว แยกมาต้อนรับแขก
       พ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่ของบ่าวสาว ส่งตัวแทนต้อนรับแขกเท่าที่จำเป็น ไม่ต้องเชิญเยอะ ทุกคนรู้ว่าสถานการณ์อะไร ไม่มีใครตำหนิ

2. ไม่เลื่อน จัดตามเดิม แต่ให้แฟนเจรจาพ่อแม่ ว่า ใช้ถ่ายทอดผ่านซูมได้ไหม อาจต้องขอโทษแขกเหรือเนื่องจากข้อจำกัดของอายุและภาวะเสี่ยง
         แต่วิธีนี้ ผลที่ออกมาอาจไม่ดีนัก เพราะภาพที่จะออกมา คือ คุณชนะ ทุกคนต้องยอมคุณ แต่จะเป็นแผลคาใจ พ่อแม่สามีไปตลอด
         และไม่รู้ว่าผลพวงอนาคต จะเป็นอย่างไร
  
          ผมตอบแบบคนมีลูกแล้ว อยากแนะนำว่า ไปทำข้อ 1  น่าจะดีกว่า
          ผมลองใช้ความรู้สึกของคนเป็นพ่อ ที่มีลูกชาย หากวันหนึ่ง ว่าที่สะใภ้ ยืนยันจัดงานแต่ง ในงานมีพ่อแม่ฝ่ายสาวแต่ไม่มีพ่อแม่ฝ่ายชาย
                ภาพจะเป็นไง นี้เป็นเรื่องของการระบาดของโรค เป็นเรื่องความกลัวการติดเชื้อ สังคมจะเข้าข้างใคร
                ต่อไป ภาพในงานแต่งของลูก ยิ่งดูก็ยิ่งตอกย้ำ ว่าพ่อแม่สามีไม่ได้มาร่วมงาน
                เหตุผลอะไรที่ต้องฝืน แต่หากเกรงจะเลื่อนไม่รู้เมื่อไหร่ เป็นผม จะบอกให้ลูกไปจดทะเบียนกัน แล้วมากราบพ่อแม่ ทั้งสองฝ่าย
                    ด้านนิตินัย คือ สมบูรณ์ เหลือแต่ด้านสังคม ก็รอไปหน่อย แค่คุมไว้ อย่าพึ่งปล่อยท้องแล้วกัน ชุดเจ้าสาวจะได้ไม่ต้องแก้ไข
ความคิดเห็นที่ 11
ถ้าคุณไม่ได้มีปัญหากับทางพ่อแม่แฟน
ก็ควรทำความเข้าใจกับสถานการณ์ปัจจุบันค่ะ
ในเมื่อพ่อแม่แฟนไม่สบายที่จะต้องเดินทางมาร่วมงานก็ควรเคารพในความต้องการของท่าน
คุณยังมีความจำเป็นที่จะต้องจัดงานแต่งช่วงนี้เลย
ก็ควรเข้าใจคนที่เค้าไม่สะดวกที่จะมาร่วมงานไม่ว่าจะมีเหตุผลใดๆก็ตาม
การเดินทางข้ามจังหวัดยังไงก็เพิ่มความเสี่ยงจากการติดเชื้อ
คุณมั่นใจได้ยังไงว่าถึงวันที่จัดงานจังหวัดคุณจะยังไม่มีผู้ติดเชื้อเลย
และจะน่าเจ็บปวดกว่าคือตอนที่มาร่วมงานยังไม่มีผู้ติดเชื้อแต่พอกลับไปแล้วถึงเพิ่งพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่ในช่วงเวลานั้น
กลายเป็นต้องวุ่นวายไปตรวจและต้องกักตัวอีก
อีกอย่างคือในระหว่างการเดินทางถ้าขับรถมันก็หนีไม่พ้นต้องแวะกินข้าวแวะเข้าห้องน้ำ
จะมั่นใจได้ยังไงว่าระหว่างที่แวะจะไม่เจอคนติดเชื้อ

เราเห็นด้วยกับคห.บนว่าคุณกำลังทำตัวงี่เง่าเอาแต่ใจมากโดยไม่สนใจเหตุผลอะไรเลย
ถ้าพ่อแม่แฟนเดินทางมาแล้วเกิดติดเชื้อหรือไปมีไทม์ไลน์เกี่ยวข้องกับคนติดเชื้อขึ้นมา
คุณรับผิดชอบไหวเหรอคะ
สิ่งที่คุณควรทำเมื่อฝ่ายนั้นตัดสินใจจะไม่มาร่วมงาน คือพยายามดึงท่านให้เข้ามามีส่วนร่วมในงานโดยไม่ต้องมาเอง
เช่นอาจจะถ่ายคลิปอวยพรมาเปิดในงาน หรือ video call มาในงาน เป็นต้น
และคุณก็ต้องอธิบายให้แม่คุณเข้าใจด้วย
ไม่ใช่เอาแต่คิดว่าการไม่มาร่วมงานคือการไม่ให้เกียรติ
เพราะการที่ทางนั้นบอกให้เลื่อนงานแต่ง แสดงว่าทางนั้นก็อยากมาร่วมแต่ไม่อยากเสี่ยงในสถานการณ์แบบนี้
คิดว่าพ่อแม่แฟนเองก็เสียใจอยู่แล้วนะคะที่ไม่ได้มาร่วมงาน
คุณยังจะทำตัวงี่เง่าใส่อีก
จากที่ไม่มีปัญหากันจะมีปัญหาก็คราวนี้แหละ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่