Exclusive สัมภาษณ์ พล.ท.สรภฎ นิรันดร
ทายาท“ขุนนิรันดรชัย” ครั้งที่ 1 วันที่ 26 ธันวาคม 2563 โดย อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
อ.ปานเทพ –เริ่มแรกนับเวลาผ่านมา 60 ปี ตั้งแต่อายุ 14 ขวบที่ท่านรับรู้เรื่องราว ทำไมถึงมีวันนี้ ?
พล.ท.สรภฎ –เพราะผมมีอาชีพทหาร ตอนผมอายุ 14 ขวบขณะเรียนเตรียมอุดมและเซ็นต์คาเบรียลก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องพวกนี้ แต่พอมาเป็นทหาร ได้เห็นบุญคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ สิ่งนี้ก็ฝังใจเราและได้พระมหากรุณาธิคุณหลายๆอย่างจากพระมหากษัตริย์ แม้แต่ตอนขึ้นเป็นนักเรียนนายร้อย สมเด็จพระบรมฯท่านก็พระราชทานกระบี่สั้นให้ มันก็ยิ่งทำร้ายจิตใจผมใหญ่(เล่าด้วยเสียงสั่นเครือ)ว่า พ่อเราเป็นอย่างนี้ แล้วเราก็ไม่มีโอกาส และพ่อก็สั่งเสียบอกคุณแม่ไว้ตั้งแต่เราอายุ 14 ขวบขณะเรายังเป็นเด็ก แล้วเราจบเตรียมทหาร เป็นนายร้อย แล้วเราจะไหวเหรอ? ก็ได้แต่คิด ยังทำไม่ได้ เพราะหน้าที่ราชการก็เบียดบังเราเต็มที่
อ.ปานเทพ-แล้วคุณแม่เล่าอะไรให้ฟังบ้างนอกจากเรื่องนี้ และเล่าเรื่องการเมืองอะไรบ้างที่สังคมไทยควรเรียนรู้?
พล.ท.สรภฎ-คุณแม่ก็เล่าให้ฟังว่า คุณพ่อเป็นคล้ายๆเหรียญอีกด้านหนึ่งของคณะราษฎร เพราะการจะทำอะไรจะต้องมีท่อน้ำเลี้ยง คุณพ่อก็เป็นท่อน้ำเลี้ยงของคณะราษฎร และออกจากทหารขณะยศพันตรี ก็มาเป็นท่อน้ำเลี้ยงของคณะราษฎรในเรื่องธุรกิจ ที่เห็นได้ชัดคือการก่อตั้งธนาคารนครหลวงไทยขึ้นมา
อ.ปานเทพ-ตอนก่อตั้งธนาคารนครหลวงไทย ท่านก็ร่วมกับหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ ทำไมถึงคิดตั้งแบงก์ ท่านเล่าให้ฟังไหมครับ?
พล.ท.สรภฎ-ตอนนั้นหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ซึ่งเป็นเพื่อนคุณพ่อ เป็นฝ่ายทหารเรือ คุณพ่อเล่าให้คุณแม่ฟังว่า คนไทยยังไม่รู้จักเรื่องของหุ้น และระบบธนาคาร แล้วคุณพ่อได้ตั้งธนาคารอีกแห่งชื่อธนาคารไทยทนุ ซึ่งเลิกไปแล้ว รวมเป็นสองธนาคาร
อ.ปานเทพ-ตอนนั้นทุนมาอย่างไร มีเงินเยอะตั้งแต่ออกจากราชเลขาธิการ หรือใช้วิธีสั่งสมมา?
พล.ท.สรภฎ-เงินหามา ตอนที่เบียดบังเอาจากสถาบันฯตอนนั้น เพราะคณะราษฎร เพราะตอนทำคุณพ่อเป็นร้อยตรี เจ้านายก็เป็นพันโท พวกนี้ไม่มีเงิน มีแต่เงินเดือน ก็ต้องหาเงินส่วนหนึ่งมาเป็นท่อน้ำเลี้ยง เงินตั้งต้นก็ต้องเอามาจากสถาบันฯ
อ.ปานเทพ-ขุนนิรันดรชัยเดิมทีเป็นเลขานายกฯพระยาพหลฯ และผู้ช่วยราชเลขาธิการในพระองค์
พล.ท.สรภฎ-คุณพ่อได้ดีเพราะจอมพล ป.ปั้นขึ้นมา ส่วนพระยาพหลฯก็เป็นเหรียญอีกด้านหนึ่ง ใจซื่อมือสะอาด และถ้าท่านต้องการอะไรก็มีคนให้ ท่านไม่ต้องหาเอง ท่านมีMotto คติพจน์ว่าชายชาติเสือ (ชาติเสือไว้ลาย ชาติชายไว้ชื่อ) นั่นแหละ...ท่านสร้างม็อตโต้ของท่านนี้ให้คงไว้ตลอดกาล ท่านไม่เกี่ยวข้องด้วยเลย
อ.ปานเทพ-แสดงว่า ขุนนิรันดรชัยเป็นคนของจอมพล ป. ?
พล.ท.สรภฎ- เป็นขุนศึกของจอมพล ป. สาเหตุเพราะคุณพ่อสังกัดปืน 1 ซึ่งมีจอมพล ป.เป็นผู้บังคับบัญชาตอนนั้นเป็นพันตรี และมีพระยาฤทธิ์อัคเนย์เป็นผู้การ เพราะฉะนั้น จอมพล ป.ก็ใช้แต่คุณพ่อ เพราะเข้าใจกันและเป็นลูกน้องตามกันมาเลย
อ.ปานเทพ-ท่อน้ำเลี้ยงก็มาจากทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์?
พล.ท.สรภฎ-ท่อน้ำเลี้ยงทรัพย์สินที่เกิดดอกออกผล ซึ่งก็ไม่สามารถเอาทรัพย์สินจากไหนมาได้หรอก ก็ต้องเอามาจากก้อนนี้แหละ ...พระคลังข้างที่
อ.ปานเทพ-เมื่อเอามาแล้วก็ไม่ใช่มีแต่กลุ่มจอมพล ป.ได้กลุ่มเดียวหรือเปล่า ดูเหมือนยังมี ส.ส.บัญชีรายชื่อประเภท2 และนักการเมืองหลายคนรับซื้อที่ดินด้วย
พล.ท.สรภฎ-ตามคำบงการของจอมพล ป.ซึ่งอยู่เบื้องหลังทั้งหมด แม้แต่เรื่องเอาที่ดินคืน คุณพ่อเอาที่ให้จอมพล ป. พอมีเรื่องพระยาพหลฯลาออก จอมพล ป.ก็ต้องเอาที่ดินคืน พระยาพหลฯเป็นเหรียญที่แสดงความโปร่งใส จริงๆเหรียญนั้นต้องแสดงภาพด้านนี้ตลอด
อ.ปานเทพ-ดูจากคำให้การต่อศาลอาชญากรสงครามของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา ขุนนิรันดรชัยเป็นคนให้เงินจอมพล ป.ประจำ
พล.ท.สรภัฎ-ถูกต้องครับ เพราะเป็นท่อน้ำเลี้ยงใหญ่ นี่คือสาเหตุที่ขุนนิรันดรต้องให้เงินจอมพล ป.
อ.ปานเทพ-การให้เงิน ขุนนิรันดรถือเป็นนอมินีของจอมพล ป.ในแง่ธุรกิจหรือไม่ครับ
พล.ท.สรภฎ-ถ้าเป็นนอมินีคือต้องเป็นผู้รู้และบงการธุรกิจ แต่จอมพล ป.ท่านไม่ชำนาญเรื่องธุรกิจ ท่านปล่อยให้ขุนนิรันดรชัยทำ สิ่งที่จอมพล ป.ไว้วางใจขุนนิรันดรชัยคือความซื่อสัตย์และความใจกว้าง แม้แต่ครอบครัว คุณรัชนีบูลกับผม ท่านยังจำได้ก่อนเสียชีวิต
อ.ปานเทพ-ในหนังสืองานศพขุนนิรันดรชัย จอมพล ป.บอกว่าขุนนิรันดรชัยดูแลเรื่องการงานและเรื่องส่วนตัว เรื่องเงินถูกต้องไหมครับ
พล.ท.สรภฎ-ถูกต้องครับ เป็นคนไว้วางใจกัน
อ.ปานเทพ- ขุนนิรันดรชัยในฐานะเป็นท่อน้ำเลี้ยง เขาเป็นตัวเชื่อมนักธุรกิจยุคนั้นไหมครับ?
พล.ท.สรภฎ-นักธุรกิจในยุคนั้นที่เป็นเพื่อนคุณพ่อ คุณแม่เล่าให้ฟังและผมเคยเห็นคุณแม่ได้รู้จัก คือคุณจุรินทร์ ล่ำซำ และคุณทรง บุลสุข เจ้าของเป๊ปซี่ใหญ่ และตระกูลโสภณพนิช ซึ่งตอนนั้นเพิ่งเริ่มเข้ามา
โดยสรุปคุณพ่อเป็นนักธุรกิจตอนนั้น การต่างประเทศต้องผ่านคุณพ่อว่าจะให้ใครเป็นแฟรนไชนส์ แต่คุณพ่อขาดคนที่จะมอบแฟรนไชนส์ให้ เช่น สมัยก่อนสถาบัน MAX FACTOR หรือ ไนติงเกล โอลิมปิค และการมอบแฟรนไชนส์ คุณพ่อก็มาตั้งขายของที่อาคารไทยนิยม ที่อยู่ถนนราชดำเนิน ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพซึ่งเป็นสถาบันลูก เขาเรียกอาคารไทยนิยม แต่ไม่สำเร็จเพราะไม่มีใครมารับงานต่อเรื่องแฟรนไชนส์ นอกจากพ่อค้านักธุรกิจ
ผมสามารถพูดได้ว่า นักธุรกิจเจเนอเรชั่นรุ่นที่3และรุ่นที่4 ก็ได้รับความช่วยเหลือจากคุณพ่อ
อ.ปานเทพ-ดูรายชื่อของขุนนิรันดรชัยเป็นประธานและกรรมการบริษัทหลายสิบแห่งจำนวนมากขณะนั้น ในฐานะเป็นตัวแทนรัฐบาลจอมพล ป.หรือเป็นผู้ถือหุ้น หรือลักษณะแบบไหน?
พล.ท.สรภฎ-เป็นผู้แทนรัฐบาลในการค้าขายทั้งหลาย และอยู่เบื้องหลังกระทรวงต่างๆ ถ้าเผื่อมีดำริจากคุณพ่อ ทุกอย่างจะง่ายไปหมด
อ.ปานเทพ-พอมาถึงจุดที่จอมพล ป.พ้นตำแหน่งรอบแรก ขุนนิรันดรชัยก็ลาออกไปด้วย หลังจากนั้นก็ไม่กลับเข้ามาอีก ไปทำธุรกิจ แม้จอมพล ป.จะกลับมาอีกครั้ง ก็ไม่กลับมาเพราะอะไร?
พล.ท.สรภฎ-เพราะว่าตอนนั้น จอมพล ป.เริ่มมีขุนศึกคนใหม่ขึ้นมา คือพลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์ คือเห็นแก่ตระกูลจอมพลผิน ชุณหะวัณที่ได้ทำรัฐประหาร คุณพ่อเลยคิดว่าทำการค้าดีกว่า เลิกยุ่งการเมือง แต่ความจงรักภักดีต่อจอมพล ป.ก็เสมอต้นเสมอปลาย ไม่มีเสื่อมคลาย
อ.ปานเทพ-ขุนนิรันดรชัยเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้จอมพลผินทำรัฐประหารไหมครับ?
พล.ท.สรภฎ-คุณพ่อกับจอมพลผินไม่สนิทกัน ผมมีความเข้าใจส่วนตัวว่า ใครจะทำให้จอมพล ป.(รัฐประหารปี 2494) จอมพล ป.ต้องจ่ายเงินให้ แต่คงจะไม่มีใครถามว่าจอมพล ป.เอาเงินมาจากไหน และผมเข้าใจว่าเงินอันนั้นก็มาจากขุนนิรันดร
อ.ปานเทพ-แต่ว่าท้ายที่สุด ขุนนิรันดรแม้จะเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้จอมพล ป. สุดท้ายจอมพล ป.ก็ถูกรัฐประหารอีกรอบในปี 2500
พล.ท.สรภฎ-เพราะว่าหลังจากปี 2495 คุณพ่อเริ่มไม่สบาย เป็นอัมพาต ไปผ่าสมองที่อเมริกาในปี2498 ไปอยู่ที่ รพ.เมโยที่รัฐมินนิโซตา คุณพ่อไม่หายเพราะเป็นเนื้องอก และสุดท้ายสโตรกและมาเสียชีวิตในปี 2499 รัฐประหารสำเร็จปี2500หลังจากคุณพ่อเสียชีวิตไปแล้ว
อ.ปานเทพ-คือไม่มีท่อน้ำเลี้ยง พ่อค้าย้ายข้างก็เลยหมดตัวเชื่อม?
พล.ท.สรภฎ- เรื่องท่อน้ำเลี้ยง ทายาทของคุณพ่อปรากฏว่าพี่ๆทั้งหลายเสียชีวิตและไม่ถนัดทางนี้ ก็มีคุณ”ธรรมนูญ นิรันดร” ลูกชายคนเล็กของคุณพ่อที่ถนัดทางนี้ก็ดูแลธนาคารนครหลวงไทย ต่อมาธนาคารก็ต้องขายให้แก่ธนชาต
อ.ปานเทพ คุณพ่อขุนนิรันดรชัยเส้นเลือดในสมองตีบและเป็นอัมพาตในปี 2496 ไปรักษาในปี2498 แสดงว่าป่วยหลายปี?ตอนปีไหนที่ท่านน้ำตาไหลสำนึกผิด
พล.ท.สรภฎ- เป็นอัมพาตสี่ปีเต็มครับ ตอนปีที่น้ำตาไหลสำนึกผิด ผมว่าคุณแม่ไปหา คุณพ่อพักรักษาตัวที่อาคารถนนราชดำเนินซึ่งเป็นของตระกูล ชั้นบนของเมอร์แรงรูจ ปัจจุบันนี้เป็นอาคารหัวมุมอยู่ใกล้ศูนย์โชว์รถเบนซ์
คุณพ่อก็ได้พูดกับผมและคุณแม่ว่า ที่เป็นอย่างนี้เพราะคุณพ่อเสียน้ำพิพัฒน์สัตยา พูดแล้วท่านก็น้ำตาไหล ที่พิการแม้จะมีเงินทองสารพัดแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะเสียน้ำพิพัฒน์สัตยา ไปเบียดบังพระราชทรัพย์ของพระมหากษัตริย์
อ.ปานเทพ-พอได้ฟังคุณพ่อพูดอย่างนี้แล้ว รู้สึกอย่างไรตอนนั้นท่านเพิ่งอายุ14ขวบในปี2498
พล.ท.สรภฎ-ผมยังจำความรู้สึกได้ว่า เอ๊ะ..สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องจริง สถาบันกษัตริย์เป็นสิ่งที่ล่วงละเมิดมิได้ (พูดด้วยเสียงสั่นเครือ) ตอนนั้นก็ยังไม่เข้าใจ เห็นพ่อน้ำตาไหล คุณแม่น้ำตาไหล ทั้งคู่น้ำตาไหล ตอนนั้นทำอะไรไม่ได้แล้ว จำภาพได้ติดตา มันก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผมไม่มีความโลภ เห็นคุณพ่อตอนนั้น จำได้ว่าท่านใส่เสื้อคอกลมสีขาว และนุ่งผ้าโสร่ง ขยับตัวไม่ได้ พูดก็ไม่ชัด แล้วเราเคยเห็นภาพคุณพ่อนั่งรถลินคอล์นเปิดประทุนแล้วพาผมไปเที่ยว แล้วมาเจอภาพนี้ (เสียงสั่นคล้ายสะอื้น) สะเทือนใจไม่เคยภาพคุณพ่อแบบนี้
อ.ปานเทพ-พอคุณพ่อบอกว่า หนึ่ง-เสียสาบานน้ำพิพัฒน์สัตยา สอง-เบียดบังพระราชทรัพย์ของพระมหากษัตริย์ แล้วขุนนิรันดรชัยพูดไหมครับว่าจะขอพระราชทานอภัยโทษ?
พล.ท.สรภฎ-คุณพ่อก่อนจะเป็นอัมพาต.. เคยพูดกับคุณแม่มาก่อนแล้ว แต่พอเป็นอัมพาตก็พยายามเน้นย้ำ เรียกคุณแม่ว่าแดงว่า “แดง..ฉันอยากจะสำนึกผิด อภัยโทษ แต่มันไม่มีโอกาสแล้ว” (เล่าด้วยเสียงสั่นเครือ) ตอนนั้นท่านอายุ 58-59 จำได้แม่นเลยว่าท่านพูดว่า ไม่มีโอกาสแล้ว
อ.ปานเทพ-ตอนนั้นอายุก็ยังไม่มาก 58-59 และรู้ตัวว่าไม่มีโอกาสแล้วเพราะเป็นอัมพาต และได้สั่งเสียท่านไหมว่าเราควรจะทำอะไร?
พล.ท.สรภฏ-ไม่ๆ เราคิดเองเลย ตอนนั้นยังไม่มีความคิดเลย พอฟังคุณพ่อพูด ผมเรียนเตรียมอุดมรุ่น 23 สมัยนั้นสงครามรบทัพจับศึกกันเยอะช่วงสงครามเย็น ผมก็เปลี่ยนเส้นทางไปเข้าเตรียมทหารรุ่น 5 เลย
อ.ปานเทพ-ประโยคที่เสียใจอยากจะขอพระราชทานอภัยโทษ เนื่องจากมีคุณแม่หลายคนใช่ไหม ทุกครอบครัวรู้เหมือนกันหมดไหมครับ
พล.ท.สรภฎ-ผมไม่ทราบว่าทุกครอบครัวรู้กันหมดหรือไม่ แต่ที่คุณแม่ซึ่งจบเตรียมธรรมศาสตร์รุ่นที่ 3 ท่านเข้าใจเรื่องการเมืองของคณะราษฎร คุณพ่อมีอะไรก็เล่าให้คุณแม่ฟังตลอด แต่ผมไม่ทราบว่าท่านจะเล่าเรื่องนี้ให้กับคุณแม่ท่านอื่นหรือเปล่า เพราะท่านมีภรรยาอีกคน คือคุณหญิงจรูญ
อ.ปานเทพ-แสดงว่าทรัพย์สินพระคลังข้างที่ ที่นายเลียง ไชยกาล อภิปรายในปี 2480 ล้วนแล้วแต่เป็นเครือข่ายจอมพล ป.ทั้งสิ้น เพราะจอมพล ป.เป็นคนจัดสรรทรัพย์สินใช่ไหมครับ แล้วความสำนึกผิดนี้พอลูกๆทราบก็คงเป็นปมมาหลายสิบปี
(ส่วนนี้ไม่เปิดเผย เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์)
อ.ปานเทพ-แสดงว่าขุนนิรันดรชัยที่เป็นราชเลขาธิการในรัชกาลที่ 8คือหลักประกันไม่ให้เป็นอันตราย
พล.ท.สรภฎ-เพื่อปกป้องพระมหากษัตริย์จะไม่เป็นอันตรายตามที่รับปากกับพระราชชนนีแล้ว พอตอนหลังที่มีเหตุการณ์วุ่นวาย จอมพล ป.ตกกระป๋องไป แย่งอำนาจกัน คุณพ่อก็ออกจากทั้งหมด ไม่เอาอะไรทั้งหมด นายเฉลียว ประทุมรสขึ้นมาเป็นแทน
อ.ปานเทพ-ทีนี้ความสัมพันธ์ระหว่างขุนนิรันดรชัยกับอาจารย์ปรีดี เขาเข้ากันได้ไหมครับ
พล.ท.สรภฎ-ถือว่าเป็นคนละสาย ไม่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันเลย
อ.ปานเทพ-เหตุการณ์พระคลังข้างที่ อาจารย์ปรีดีไม่เกี่ยวข้องเลย เป็นเรื่องเครือข่ายจอมพล ป.ทั้งหมดที่มี 20-50 คนรึป่าว? สุดท้ายเขาบอกว่าหลังจากอภิปรายในวันที่ 27 ก.ค.2480 ที่ดินนั้นบางส่วนอ้างว่าคืน บางส่วนไม่ได้คืน บางส่วนบอกผ่อนซื้อ สุดท้ายก็ยกให้เลย เป็นอย่างไรครับ
พล.ท.สรภฏ-คือเกิดช่องว่างก่อนจะส่งกระทรวงการคลัง ใครมีอำนาจก็ได้ตามอำเภอใจ คือใครได้แล้วก็ได้เลย ไม่คืนเลย
อ.ปานเทพ-มีคนได้ที่ดินเปล่าๆเลยไหมครับ
พล.ท.สรภฏ-อันนี้ผมไม่ทราบ แต่ดูจากโฉนดที่หัวหิน คุณพ่อเอามาจากเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ และที่บางลำพูก็ได้มาจากตระกูลของกรมพระนครสวรรรค์วรพินิต เพราะตอนนั้นพวกเจ้ากลัวคณะราษฎร์ จะเอาอะไรก็ยกให้หมด เป็นการตัดไม้ข่มนาม
อ.ปานเทพ-หลังจากขุนนิรันดรชัยเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้จอมพล ป.และมาทำธุรกิจส่วนตัวเยอะแยะ เป็นมหาเศรษฐีไทยยุคนั้น แล้วเหตุการณ์อะไรที่ทำให้ต้องแถลงข่าวในปี 2563
สัมภาษณ์สารภาพผิดของทายาทขุนนิรันดรชัย อยากให้ม้อบที่อยากเบิกเนตรมาอ่าน คนทุรยศไม่ตายดีทุกคน
ทายาท“ขุนนิรันดรชัย” ครั้งที่ 1 วันที่ 26 ธันวาคม 2563 โดย อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
อ.ปานเทพ –เริ่มแรกนับเวลาผ่านมา 60 ปี ตั้งแต่อายุ 14 ขวบที่ท่านรับรู้เรื่องราว ทำไมถึงมีวันนี้ ?
พล.ท.สรภฎ –เพราะผมมีอาชีพทหาร ตอนผมอายุ 14 ขวบขณะเรียนเตรียมอุดมและเซ็นต์คาเบรียลก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องพวกนี้ แต่พอมาเป็นทหาร ได้เห็นบุญคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ สิ่งนี้ก็ฝังใจเราและได้พระมหากรุณาธิคุณหลายๆอย่างจากพระมหากษัตริย์ แม้แต่ตอนขึ้นเป็นนักเรียนนายร้อย สมเด็จพระบรมฯท่านก็พระราชทานกระบี่สั้นให้ มันก็ยิ่งทำร้ายจิตใจผมใหญ่(เล่าด้วยเสียงสั่นเครือ)ว่า พ่อเราเป็นอย่างนี้ แล้วเราก็ไม่มีโอกาส และพ่อก็สั่งเสียบอกคุณแม่ไว้ตั้งแต่เราอายุ 14 ขวบขณะเรายังเป็นเด็ก แล้วเราจบเตรียมทหาร เป็นนายร้อย แล้วเราจะไหวเหรอ? ก็ได้แต่คิด ยังทำไม่ได้ เพราะหน้าที่ราชการก็เบียดบังเราเต็มที่
อ.ปานเทพ-แล้วคุณแม่เล่าอะไรให้ฟังบ้างนอกจากเรื่องนี้ และเล่าเรื่องการเมืองอะไรบ้างที่สังคมไทยควรเรียนรู้?
พล.ท.สรภฎ-คุณแม่ก็เล่าให้ฟังว่า คุณพ่อเป็นคล้ายๆเหรียญอีกด้านหนึ่งของคณะราษฎร เพราะการจะทำอะไรจะต้องมีท่อน้ำเลี้ยง คุณพ่อก็เป็นท่อน้ำเลี้ยงของคณะราษฎร และออกจากทหารขณะยศพันตรี ก็มาเป็นท่อน้ำเลี้ยงของคณะราษฎรในเรื่องธุรกิจ ที่เห็นได้ชัดคือการก่อตั้งธนาคารนครหลวงไทยขึ้นมา
อ.ปานเทพ-ตอนก่อตั้งธนาคารนครหลวงไทย ท่านก็ร่วมกับหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ ทำไมถึงคิดตั้งแบงก์ ท่านเล่าให้ฟังไหมครับ?
พล.ท.สรภฎ-ตอนนั้นหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ซึ่งเป็นเพื่อนคุณพ่อ เป็นฝ่ายทหารเรือ คุณพ่อเล่าให้คุณแม่ฟังว่า คนไทยยังไม่รู้จักเรื่องของหุ้น และระบบธนาคาร แล้วคุณพ่อได้ตั้งธนาคารอีกแห่งชื่อธนาคารไทยทนุ ซึ่งเลิกไปแล้ว รวมเป็นสองธนาคาร
อ.ปานเทพ-ตอนนั้นทุนมาอย่างไร มีเงินเยอะตั้งแต่ออกจากราชเลขาธิการ หรือใช้วิธีสั่งสมมา?
พล.ท.สรภฎ-เงินหามา ตอนที่เบียดบังเอาจากสถาบันฯตอนนั้น เพราะคณะราษฎร เพราะตอนทำคุณพ่อเป็นร้อยตรี เจ้านายก็เป็นพันโท พวกนี้ไม่มีเงิน มีแต่เงินเดือน ก็ต้องหาเงินส่วนหนึ่งมาเป็นท่อน้ำเลี้ยง เงินตั้งต้นก็ต้องเอามาจากสถาบันฯ
อ.ปานเทพ-ขุนนิรันดรชัยเดิมทีเป็นเลขานายกฯพระยาพหลฯ และผู้ช่วยราชเลขาธิการในพระองค์
พล.ท.สรภฎ-คุณพ่อได้ดีเพราะจอมพล ป.ปั้นขึ้นมา ส่วนพระยาพหลฯก็เป็นเหรียญอีกด้านหนึ่ง ใจซื่อมือสะอาด และถ้าท่านต้องการอะไรก็มีคนให้ ท่านไม่ต้องหาเอง ท่านมีMotto คติพจน์ว่าชายชาติเสือ (ชาติเสือไว้ลาย ชาติชายไว้ชื่อ) นั่นแหละ...ท่านสร้างม็อตโต้ของท่านนี้ให้คงไว้ตลอดกาล ท่านไม่เกี่ยวข้องด้วยเลย
อ.ปานเทพ-แสดงว่า ขุนนิรันดรชัยเป็นคนของจอมพล ป. ?
พล.ท.สรภฎ- เป็นขุนศึกของจอมพล ป. สาเหตุเพราะคุณพ่อสังกัดปืน 1 ซึ่งมีจอมพล ป.เป็นผู้บังคับบัญชาตอนนั้นเป็นพันตรี และมีพระยาฤทธิ์อัคเนย์เป็นผู้การ เพราะฉะนั้น จอมพล ป.ก็ใช้แต่คุณพ่อ เพราะเข้าใจกันและเป็นลูกน้องตามกันมาเลย
อ.ปานเทพ-ท่อน้ำเลี้ยงก็มาจากทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์?
พล.ท.สรภฎ-ท่อน้ำเลี้ยงทรัพย์สินที่เกิดดอกออกผล ซึ่งก็ไม่สามารถเอาทรัพย์สินจากไหนมาได้หรอก ก็ต้องเอามาจากก้อนนี้แหละ ...พระคลังข้างที่
อ.ปานเทพ-เมื่อเอามาแล้วก็ไม่ใช่มีแต่กลุ่มจอมพล ป.ได้กลุ่มเดียวหรือเปล่า ดูเหมือนยังมี ส.ส.บัญชีรายชื่อประเภท2 และนักการเมืองหลายคนรับซื้อที่ดินด้วย
พล.ท.สรภฎ-ตามคำบงการของจอมพล ป.ซึ่งอยู่เบื้องหลังทั้งหมด แม้แต่เรื่องเอาที่ดินคืน คุณพ่อเอาที่ให้จอมพล ป. พอมีเรื่องพระยาพหลฯลาออก จอมพล ป.ก็ต้องเอาที่ดินคืน พระยาพหลฯเป็นเหรียญที่แสดงความโปร่งใส จริงๆเหรียญนั้นต้องแสดงภาพด้านนี้ตลอด
อ.ปานเทพ-ดูจากคำให้การต่อศาลอาชญากรสงครามของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา ขุนนิรันดรชัยเป็นคนให้เงินจอมพล ป.ประจำ
พล.ท.สรภัฎ-ถูกต้องครับ เพราะเป็นท่อน้ำเลี้ยงใหญ่ นี่คือสาเหตุที่ขุนนิรันดรต้องให้เงินจอมพล ป.
อ.ปานเทพ-การให้เงิน ขุนนิรันดรถือเป็นนอมินีของจอมพล ป.ในแง่ธุรกิจหรือไม่ครับ
พล.ท.สรภฎ-ถ้าเป็นนอมินีคือต้องเป็นผู้รู้และบงการธุรกิจ แต่จอมพล ป.ท่านไม่ชำนาญเรื่องธุรกิจ ท่านปล่อยให้ขุนนิรันดรชัยทำ สิ่งที่จอมพล ป.ไว้วางใจขุนนิรันดรชัยคือความซื่อสัตย์และความใจกว้าง แม้แต่ครอบครัว คุณรัชนีบูลกับผม ท่านยังจำได้ก่อนเสียชีวิต
อ.ปานเทพ-ในหนังสืองานศพขุนนิรันดรชัย จอมพล ป.บอกว่าขุนนิรันดรชัยดูแลเรื่องการงานและเรื่องส่วนตัว เรื่องเงินถูกต้องไหมครับ
พล.ท.สรภฎ-ถูกต้องครับ เป็นคนไว้วางใจกัน
อ.ปานเทพ- ขุนนิรันดรชัยในฐานะเป็นท่อน้ำเลี้ยง เขาเป็นตัวเชื่อมนักธุรกิจยุคนั้นไหมครับ?
พล.ท.สรภฎ-นักธุรกิจในยุคนั้นที่เป็นเพื่อนคุณพ่อ คุณแม่เล่าให้ฟังและผมเคยเห็นคุณแม่ได้รู้จัก คือคุณจุรินทร์ ล่ำซำ และคุณทรง บุลสุข เจ้าของเป๊ปซี่ใหญ่ และตระกูลโสภณพนิช ซึ่งตอนนั้นเพิ่งเริ่มเข้ามา
โดยสรุปคุณพ่อเป็นนักธุรกิจตอนนั้น การต่างประเทศต้องผ่านคุณพ่อว่าจะให้ใครเป็นแฟรนไชนส์ แต่คุณพ่อขาดคนที่จะมอบแฟรนไชนส์ให้ เช่น สมัยก่อนสถาบัน MAX FACTOR หรือ ไนติงเกล โอลิมปิค และการมอบแฟรนไชนส์ คุณพ่อก็มาตั้งขายของที่อาคารไทยนิยม ที่อยู่ถนนราชดำเนิน ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพซึ่งเป็นสถาบันลูก เขาเรียกอาคารไทยนิยม แต่ไม่สำเร็จเพราะไม่มีใครมารับงานต่อเรื่องแฟรนไชนส์ นอกจากพ่อค้านักธุรกิจ
ผมสามารถพูดได้ว่า นักธุรกิจเจเนอเรชั่นรุ่นที่3และรุ่นที่4 ก็ได้รับความช่วยเหลือจากคุณพ่อ
อ.ปานเทพ-ดูรายชื่อของขุนนิรันดรชัยเป็นประธานและกรรมการบริษัทหลายสิบแห่งจำนวนมากขณะนั้น ในฐานะเป็นตัวแทนรัฐบาลจอมพล ป.หรือเป็นผู้ถือหุ้น หรือลักษณะแบบไหน?
พล.ท.สรภฎ-เป็นผู้แทนรัฐบาลในการค้าขายทั้งหลาย และอยู่เบื้องหลังกระทรวงต่างๆ ถ้าเผื่อมีดำริจากคุณพ่อ ทุกอย่างจะง่ายไปหมด
อ.ปานเทพ-พอมาถึงจุดที่จอมพล ป.พ้นตำแหน่งรอบแรก ขุนนิรันดรชัยก็ลาออกไปด้วย หลังจากนั้นก็ไม่กลับเข้ามาอีก ไปทำธุรกิจ แม้จอมพล ป.จะกลับมาอีกครั้ง ก็ไม่กลับมาเพราะอะไร?
พล.ท.สรภฎ-เพราะว่าตอนนั้น จอมพล ป.เริ่มมีขุนศึกคนใหม่ขึ้นมา คือพลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์ คือเห็นแก่ตระกูลจอมพลผิน ชุณหะวัณที่ได้ทำรัฐประหาร คุณพ่อเลยคิดว่าทำการค้าดีกว่า เลิกยุ่งการเมือง แต่ความจงรักภักดีต่อจอมพล ป.ก็เสมอต้นเสมอปลาย ไม่มีเสื่อมคลาย
อ.ปานเทพ-ขุนนิรันดรชัยเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้จอมพลผินทำรัฐประหารไหมครับ?
พล.ท.สรภฎ-คุณพ่อกับจอมพลผินไม่สนิทกัน ผมมีความเข้าใจส่วนตัวว่า ใครจะทำให้จอมพล ป.(รัฐประหารปี 2494) จอมพล ป.ต้องจ่ายเงินให้ แต่คงจะไม่มีใครถามว่าจอมพล ป.เอาเงินมาจากไหน และผมเข้าใจว่าเงินอันนั้นก็มาจากขุนนิรันดร
อ.ปานเทพ-แต่ว่าท้ายที่สุด ขุนนิรันดรแม้จะเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้จอมพล ป. สุดท้ายจอมพล ป.ก็ถูกรัฐประหารอีกรอบในปี 2500
พล.ท.สรภฎ-เพราะว่าหลังจากปี 2495 คุณพ่อเริ่มไม่สบาย เป็นอัมพาต ไปผ่าสมองที่อเมริกาในปี2498 ไปอยู่ที่ รพ.เมโยที่รัฐมินนิโซตา คุณพ่อไม่หายเพราะเป็นเนื้องอก และสุดท้ายสโตรกและมาเสียชีวิตในปี 2499 รัฐประหารสำเร็จปี2500หลังจากคุณพ่อเสียชีวิตไปแล้ว
อ.ปานเทพ-คือไม่มีท่อน้ำเลี้ยง พ่อค้าย้ายข้างก็เลยหมดตัวเชื่อม?
พล.ท.สรภฎ- เรื่องท่อน้ำเลี้ยง ทายาทของคุณพ่อปรากฏว่าพี่ๆทั้งหลายเสียชีวิตและไม่ถนัดทางนี้ ก็มีคุณ”ธรรมนูญ นิรันดร” ลูกชายคนเล็กของคุณพ่อที่ถนัดทางนี้ก็ดูแลธนาคารนครหลวงไทย ต่อมาธนาคารก็ต้องขายให้แก่ธนชาต
อ.ปานเทพ คุณพ่อขุนนิรันดรชัยเส้นเลือดในสมองตีบและเป็นอัมพาตในปี 2496 ไปรักษาในปี2498 แสดงว่าป่วยหลายปี?ตอนปีไหนที่ท่านน้ำตาไหลสำนึกผิด
พล.ท.สรภฎ- เป็นอัมพาตสี่ปีเต็มครับ ตอนปีที่น้ำตาไหลสำนึกผิด ผมว่าคุณแม่ไปหา คุณพ่อพักรักษาตัวที่อาคารถนนราชดำเนินซึ่งเป็นของตระกูล ชั้นบนของเมอร์แรงรูจ ปัจจุบันนี้เป็นอาคารหัวมุมอยู่ใกล้ศูนย์โชว์รถเบนซ์
คุณพ่อก็ได้พูดกับผมและคุณแม่ว่า ที่เป็นอย่างนี้เพราะคุณพ่อเสียน้ำพิพัฒน์สัตยา พูดแล้วท่านก็น้ำตาไหล ที่พิการแม้จะมีเงินทองสารพัดแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะเสียน้ำพิพัฒน์สัตยา ไปเบียดบังพระราชทรัพย์ของพระมหากษัตริย์
อ.ปานเทพ-พอได้ฟังคุณพ่อพูดอย่างนี้แล้ว รู้สึกอย่างไรตอนนั้นท่านเพิ่งอายุ14ขวบในปี2498
พล.ท.สรภฎ-ผมยังจำความรู้สึกได้ว่า เอ๊ะ..สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องจริง สถาบันกษัตริย์เป็นสิ่งที่ล่วงละเมิดมิได้ (พูดด้วยเสียงสั่นเครือ) ตอนนั้นก็ยังไม่เข้าใจ เห็นพ่อน้ำตาไหล คุณแม่น้ำตาไหล ทั้งคู่น้ำตาไหล ตอนนั้นทำอะไรไม่ได้แล้ว จำภาพได้ติดตา มันก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผมไม่มีความโลภ เห็นคุณพ่อตอนนั้น จำได้ว่าท่านใส่เสื้อคอกลมสีขาว และนุ่งผ้าโสร่ง ขยับตัวไม่ได้ พูดก็ไม่ชัด แล้วเราเคยเห็นภาพคุณพ่อนั่งรถลินคอล์นเปิดประทุนแล้วพาผมไปเที่ยว แล้วมาเจอภาพนี้ (เสียงสั่นคล้ายสะอื้น) สะเทือนใจไม่เคยภาพคุณพ่อแบบนี้
อ.ปานเทพ-พอคุณพ่อบอกว่า หนึ่ง-เสียสาบานน้ำพิพัฒน์สัตยา สอง-เบียดบังพระราชทรัพย์ของพระมหากษัตริย์ แล้วขุนนิรันดรชัยพูดไหมครับว่าจะขอพระราชทานอภัยโทษ?
พล.ท.สรภฎ-คุณพ่อก่อนจะเป็นอัมพาต.. เคยพูดกับคุณแม่มาก่อนแล้ว แต่พอเป็นอัมพาตก็พยายามเน้นย้ำ เรียกคุณแม่ว่าแดงว่า “แดง..ฉันอยากจะสำนึกผิด อภัยโทษ แต่มันไม่มีโอกาสแล้ว” (เล่าด้วยเสียงสั่นเครือ) ตอนนั้นท่านอายุ 58-59 จำได้แม่นเลยว่าท่านพูดว่า ไม่มีโอกาสแล้ว
อ.ปานเทพ-ตอนนั้นอายุก็ยังไม่มาก 58-59 และรู้ตัวว่าไม่มีโอกาสแล้วเพราะเป็นอัมพาต และได้สั่งเสียท่านไหมว่าเราควรจะทำอะไร?
พล.ท.สรภฏ-ไม่ๆ เราคิดเองเลย ตอนนั้นยังไม่มีความคิดเลย พอฟังคุณพ่อพูด ผมเรียนเตรียมอุดมรุ่น 23 สมัยนั้นสงครามรบทัพจับศึกกันเยอะช่วงสงครามเย็น ผมก็เปลี่ยนเส้นทางไปเข้าเตรียมทหารรุ่น 5 เลย
อ.ปานเทพ-ประโยคที่เสียใจอยากจะขอพระราชทานอภัยโทษ เนื่องจากมีคุณแม่หลายคนใช่ไหม ทุกครอบครัวรู้เหมือนกันหมดไหมครับ
พล.ท.สรภฎ-ผมไม่ทราบว่าทุกครอบครัวรู้กันหมดหรือไม่ แต่ที่คุณแม่ซึ่งจบเตรียมธรรมศาสตร์รุ่นที่ 3 ท่านเข้าใจเรื่องการเมืองของคณะราษฎร คุณพ่อมีอะไรก็เล่าให้คุณแม่ฟังตลอด แต่ผมไม่ทราบว่าท่านจะเล่าเรื่องนี้ให้กับคุณแม่ท่านอื่นหรือเปล่า เพราะท่านมีภรรยาอีกคน คือคุณหญิงจรูญ
อ.ปานเทพ-แสดงว่าทรัพย์สินพระคลังข้างที่ ที่นายเลียง ไชยกาล อภิปรายในปี 2480 ล้วนแล้วแต่เป็นเครือข่ายจอมพล ป.ทั้งสิ้น เพราะจอมพล ป.เป็นคนจัดสรรทรัพย์สินใช่ไหมครับ แล้วความสำนึกผิดนี้พอลูกๆทราบก็คงเป็นปมมาหลายสิบปี
(ส่วนนี้ไม่เปิดเผย เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์)
อ.ปานเทพ-แสดงว่าขุนนิรันดรชัยที่เป็นราชเลขาธิการในรัชกาลที่ 8คือหลักประกันไม่ให้เป็นอันตราย
พล.ท.สรภฎ-เพื่อปกป้องพระมหากษัตริย์จะไม่เป็นอันตรายตามที่รับปากกับพระราชชนนีแล้ว พอตอนหลังที่มีเหตุการณ์วุ่นวาย จอมพล ป.ตกกระป๋องไป แย่งอำนาจกัน คุณพ่อก็ออกจากทั้งหมด ไม่เอาอะไรทั้งหมด นายเฉลียว ประทุมรสขึ้นมาเป็นแทน
อ.ปานเทพ-ทีนี้ความสัมพันธ์ระหว่างขุนนิรันดรชัยกับอาจารย์ปรีดี เขาเข้ากันได้ไหมครับ
พล.ท.สรภฎ-ถือว่าเป็นคนละสาย ไม่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันเลย
อ.ปานเทพ-เหตุการณ์พระคลังข้างที่ อาจารย์ปรีดีไม่เกี่ยวข้องเลย เป็นเรื่องเครือข่ายจอมพล ป.ทั้งหมดที่มี 20-50 คนรึป่าว? สุดท้ายเขาบอกว่าหลังจากอภิปรายในวันที่ 27 ก.ค.2480 ที่ดินนั้นบางส่วนอ้างว่าคืน บางส่วนไม่ได้คืน บางส่วนบอกผ่อนซื้อ สุดท้ายก็ยกให้เลย เป็นอย่างไรครับ
พล.ท.สรภฏ-คือเกิดช่องว่างก่อนจะส่งกระทรวงการคลัง ใครมีอำนาจก็ได้ตามอำเภอใจ คือใครได้แล้วก็ได้เลย ไม่คืนเลย
อ.ปานเทพ-มีคนได้ที่ดินเปล่าๆเลยไหมครับ
พล.ท.สรภฏ-อันนี้ผมไม่ทราบ แต่ดูจากโฉนดที่หัวหิน คุณพ่อเอามาจากเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ และที่บางลำพูก็ได้มาจากตระกูลของกรมพระนครสวรรรค์วรพินิต เพราะตอนนั้นพวกเจ้ากลัวคณะราษฎร์ จะเอาอะไรก็ยกให้หมด เป็นการตัดไม้ข่มนาม
อ.ปานเทพ-หลังจากขุนนิรันดรชัยเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้จอมพล ป.และมาทำธุรกิจส่วนตัวเยอะแยะ เป็นมหาเศรษฐีไทยยุคนั้น แล้วเหตุการณ์อะไรที่ทำให้ต้องแถลงข่าวในปี 2563