เป็นการรีวิวขยายเพิ่มเติมจากเดิมที่เคยลงรีวิวไว้ในเพจ หลินฟง-Raymond Lam 林峯Thailand Fanclub เป็นละครทีวีบีเรื่องล่าสุดที่มีโอกาสได้ดูก่อนที่จะหมดปี 2020 นี้ไปในอีกไม่กี่วันนี้

แฟนคลับหรือคนที่ได้ดูละครแนวสายลับสืบสวน เห็นชื่อเรื่องก็คงจะคุ้นๆ กันบ้างเพราะละครเรื่องนี้ถือเป็นละครแฟรนสไชส์ที่สร้างมาถึง 2 ภาคด้วยกัน ภาคแรกถือกำเนิดเกิดขึ้นในปี 2014 ด้วยวิธีการถ่ายทำที่แปลกตาออกไป สไตล์การเล่าเรื่องที่แตกต่างจากละครสายลับที่เราๆ คุ้นเคย เพราะเนื้อเรื่องแทรกความเป็นคอมเมดี้เข้ามารวมไว้ด้วยกัน เมื่อละครออกฉายก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนทำให้มีการนำไปสร้างเป็นเวอร์ชั่นหนังใหญ่ถึง 2 ภาคด้วยกัน(และใช้ทีมนักแสดงคนละชุดกับเวอร์ชั่นละคร

ความสำเร็จในภาคแรก นำมาสู่การทำละครภาคต่อ ซึ่งถ่ายทำขึ้นในปี 2016 โดยเป็นการนำเสนอเล่าเรื่องย้อนต้นที่มาความสัมพันธ์ของตัวละครที่เป็นตำรวจ สายลับ หัวหน้าสายลับแม้ว่าภาค 2 นี้จะไม่ใช่ผู้กำกับคนเดียวกับภาคแรก แต่ก็นำเสนอมุมมองที่จริงจัง การทำงานของสายลับที่มีความเสี่ยงมีชีวิตแขวนบนเส้นด้ายอยู่ตลอดเวลา และที่สำคัญพร้อมที่จะเปลี่ยนสถานะจากดีเป้นร้ายได้ทุกเมื่อเชื่อวัน

และสุดท้ายปี 2019 คือจุดเริ่มต้นของละครสายลับแฟรนไชส์เรื่องนี้อีกครั้ง เนื้อเรื่องของภาคนี้คือการรวมตัวของเหล่าสายลับในภาคแรกและภาค 2 รวมกัน ดาราจึงแน่นมากเป็นพิเศษ โดยมีปมหลักคือน้องชายของตัวร้ายที่เป็นแก๊งมาเฟียกับมาทวงคืนกับเหล่าตำรวจและสายลับ จั๋วข่าย สารวัตรหน่วย CIB แก๊ง UC ฉีเทียนถัง เจิ้งซูเหมย ถานฮวนสี่ (ซึ่ง 4 คนนี้คือเป้าหมายที่คนร้ายหมายหัว) ขณะที่ซือเจียเฉียง(เป้าซี) และเฮียฮวนสี่มีเป้าหมายที่ตามหาการหายตัวไปของติงเสี่ยวเจีย หลังจากที่ได้รับหน้าที่ไปทำภารกิจ ที่เกี่ยวข้องกับแก๊งมาเฟียข้ามชาติ นอกจากน้ีก็มีตัวละครเพิ่มเติมที่มีบทบาทหลักในภาคนี้คือมาดาม G จางจื่อจีและเหวยจื่อหรง หรืออีกนัยคือเว่ยเต๋อหลี่ น้องชายของอดีตแก๊งมาเฟียที่เป็นตัวการเบื้องหลัง

เรื่องราวก็ผูกปมแก้ปัญหาไปทีละจุด มีการปฏิบัติภารกิจตามหาผู้ร้ายที่วนเวียนเกี่ยวข้องกับบรรดาแก๊งมาเฟียที่ยังคงมีอิทธิพลอยู่ มีเรื่องราวของหน่วยสืบสวน CIB เกิดขัดแย้งกับหน่วยงานใหม่ SIA ที่มีแนวคิดในการสืบหาข้อมูลด้วยการใช้ big data และ AI มาทำงาน โดยเชื่อว่าจะมีประสิทธภาพมากกว่าการใช้ระบบสายลับอย่างที่ทำกันมานมนาน นั่นคือเนื้อหาคร่าวๆ ของเรื่องเลย

ความที่เราชอบภาคแรก และก็ไม่ได้คาดหวังกับภาค 2 และ 3 มากนัก เพราะว่าละครภาคต่อ ไม่ใช่ว่าทุกเรื่องจะดีงามไปเสียหมด และผู้กำกับภาคแรกก็ต่างจากภาค 2 และ 3 ที่เป็นผู้กำกับเดียวกัน สไตล์การเล่าเรื่องราวก็แตกต่างกันด้วย ภาคแรก เราไม่มีฐานข้อมูลอะไรอยู่เลย เราจึงรับสารและสนุกไปกับเรื่องราวของตัวละครเต็มที่ ขณะที่ภาคต่อๆ มา ความว้าวทั้งหมดอาจไม่เหลืออยู่แล้ว แต่มันเป็นเรื่องราวของสายลับที่จริงจังมากขึ้น ซึ่งมันก็อาจขัดกับความประทับใจของคนดูที่มีต่อภาคแรกแบบเต็มๆ แต่ถึงกระนั้นเมื่อเราได้ดู เรากลับชอบภาคที่ 3 นี้ไม่น้อยแม้จะไม่เท่ากับภาคแรกก็ตาม

บทของพี่เป้าซีในภาค 3 นี้ อาจดรอปลงตรงที่มันไม่มีคู่หูแบบติงเสี่ยวเจียเพราะคนส่วนมากมีภาพจำของคู่นี้แล้วเมื่อไม่เห็นคู่นี้มันจึงกลายเป็นความโหวงเหวงในใจแบบบอกไม่ถูกสำหรับเราพี่เป้าซีอาจจะไม่ชวนว้าวเพราะว่าเรารู้แล้วว่าเค้าคือสายลับแต่แอดว่าจะได้เห็นมุมที่เป็นมนุษย์มากขึ้นในบทนี้สายลับไม่ใช่เรื่องสนุกไม่ใช่ฮีโร่เหมือนในละครมีพลาดมีล้มเหลวและต้องยอมรับกับมันให้ได้และดูเหมือนจะเป็นคนตัวเล็กๆที่ทำหน้าที่เสี่ยงตายแต่สุดท้ายหัวหน้าตัวเบ้งๆกลับได้ความดีความชอบส่วนนั้นไปเราชอบบทของพี่เป้าซีในแง่ของสายลับที่มีความเป็นมนุษย์สูงมากและหลินฟงเล่นในซีนดราม่าได้ดีเต็มที่ละเสียแค่ที่บทมันจำกัดที่เป็นสายลับที่อยู่ในแก๊งมาเฟียมันเลยดูเหมือนไม่ได้ใช้ความสามารถในด้านการวางแผนหรือเป็นกุนซือเพราะฉายาพี่คือเป้าซีระเบิดพร้อมลุยเป็นกองหน้าเสี่ยงเจ็บตัวตลอดและเพราะตัวละครแน่นขนาดนี้ในส่วนของพี่เป้าซีจึงสะท้อนออกมาในแง่ของการลังเลอยากมีชีวิตปกติมีครอบครัวหรือจะเป็นสายลับต่อไป

และอีกบทบาทนึงที่ดีมากๆ คือตัวแกนหลักของเรื่องนั่นคือสารวัตรจั๋วข่าย รับบทโดยเฮียเหมียวเฉียวเหว่ย บทเฮียดีมากๆ คือเฮียสมเป็นตำรวจที่เป็นตำรวจน้ำดีจริงๆ แกได้เรียนรู้ในโลกนี้ไม่ได้มีแค่ดำกับขาว แต่มีสีเทาๆ ปนอยู่ด้วย เฮียคือศูนย์กลางและเป็นขวัญกำลังใจของเหล่า UC เลยล่ะ รักเฮียมาไล่ๆ กับพี่เป้าซี และเราให้คะแนนสูงขึ้นมานิดนึงอะ 55

ถามว่าผิดหวังกับภาคนี้มั้ย แอดตอบว่าไม่นะ เพราะแอดสนุกเพลิดเพลินในการดูมาก อาจจะไม่ใช่อารมณ์แบบภาคแรก แต่มันคืออารมณ์แบบรื้อค้นลิ้นชักเก่าๆ ทบทวนความรู้จักกับตัวละครที่เราคุ้นเคย แล้วเรายิ้มหัวเราะไปกับตัวละครเหล่านั้น ไม่อยากให้ใครตายจากไปไม่อยากให้มีการสูญเสีย ข้อเสียของภาคนี้มีข้อเดียวสำหรับแอดคือจงใจดับวาสนาคู่รักมากๆ ค่ะ ใครที่ลุ้นให้เขาและเธอลงเอยกัน สุดท้ายกลับจากลากันไปเสียอย่างนั้น อารมณ์รักลึกล้ำ วาสนาตื้นเขินจริงๆ

เราชอบจูเชี่ยนลูกศิษย์คนแรกของพี่เป้าซี มานิดๆ แค่ 2 ตอน แต่อึ้งอยู่ในใจ ชอบคู่ฉีเทียนถังกับเจิ้งซูเหมย จากเพื่อนคู่หูที่ร่วมฝ่าฟันอะไรมากันมากมาย มิตรภาพกลายเป้นความรักลึกซึ้ง ชอบความสัมพันธ์ของลูกน้องนายจ้างที่ร้านสปานวดเท้าที่พี่เป้าซีเป็นบอสใหญ่ ชอบหลานหนานหญิงสาวที่มีฝันอยากเป็นแพทย์แผนโบราณ ที่สุดท้ายแม้ไม่ได้ครอบครองความรักแต่สุขใจที่ได้เป็นผู้ให้ ชอบเฮียฮวนสี่เฮียที่เป็นยิ่งกว่าแมวเก้าชีวิต รอดมาได้ทุกครั้งราวกับมีของขลังประจำตัว ชอบอินเทียนเสี่ย (น้องเจิงซุ่นซี) ที่ตกลงว่าสถานะของพี่เป็นใครกันแน่ อุตส่าห์ซึ้งกับเรื่องของพี่แต่ว่าสุดท้าย คุณหลอกดาวชัดๆ มาดาม G ผู้ที่ทำให้เราโกรธเธอไม่ลง หญิงสาวที่ไอคิวสูงมาก แต่มีปัญหาด้านมนุษยสัมพันธ์ เธอมาจากดาวอังคารหรือยังไง เหวยจื่อหรงนายมันพวกสองบุคลิก เพราะนายทำให้ตัวละครที่เราชอบตาย(หม่ากั๋วหมิงโรคจิตมากกับการรับบทผู้ร้ายจริงจังครั้งแรกตั้งแต่อยู่ในวงการ) โตว้หย่าซือ นางน่ารัก เคารพลูกพี่เป้าซีมาก แม้แอดจะแอบรำไยตอนนางมีแฟนอยู่บ้าง หวานเกินลูกพี่น่าจะเป็นคู่ที่ลงเอยได้มีความหวังที่สุดละ

รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในละครเราจะซึมซับกับมัน และแอบยิ้มกับมันได้ และมองข้ามความดราม่าที่ทำไมต้องให้ตายจากเป็นใบไม้ร่วงแบบนั้น สุดท้ายแล้วลองดูเหอะจะไม่ผิดหวัง มีคนถามไถ่ภาค 4 จะมีมั้ย เราว่าอย่าทิ้งช่วงนานถ้าอยากจะทำ เฮียๆ ในเรื่องอายุอานามก็ไม่ได้น้อยๆ แล้ว คือถ้าเปลี่ยนคนเล่นใหม่ก็ไม่มั่นใจว่าจะอินได้มั้ย

ร่ายยาวขนาดนี้โฆษณาชวนเชื่อมั้ยต้องลองพิสูจน์กัน บางคนอาจชอบหรือไม่ชอบไปเลยก็ได้  หาชมได้ทางแอพ MVHub  ส่วนภาคแรกนั้นทาง  TVB Thailand เอามารีรันฉายอีกรอบในช่องแชนแนล YouTube

ใครชอบเรื่องนี้ก็มาคุยกันได้เป็นอีกละครทางเลือกให้รับชม

cr. หลินฟง-Raymond Lam 林峯Thailand Fanclub