ทดสอบกล้องไอโฟนภาคสนามแบบจริงจัง !!
iPhone 12 Pro Max Camera Field Test with Apple ProRAW
สวัสดีครับ ผมชื่อ นก นะครับ เป็นคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ครับ
หลังจากที่ผมได้ซื้อเจ้า iPhone 12 Pro Max มาเมื่อเดือนก่อนนั้น ผมตื่นเต้นมากกกก เพราะรอบนี้ไอโฟนสามารถถ่ายภาพเป็นไฟล์ RAW ผ่าน ฟังก์ชั่น Apple ProRAW ได้แล้ว เจ๋งเนอะ !
ก่อนอื่น วิธีเปิดใช้งาน Apple ProRAW ก็เข้าไปที่ Setting --> Camera --> Format --> Apple ProRAW
ผมอาจจะมีการใช้ศัพท์ของช่างภาพบ้างนะครับ เพราะเป็นการรีวิวกล้อง ถ้าเพื่อนๆไม่เข้าใจไม่เป็นไรครับไม่ต้องคิดมาก กล้อง iPhone มัน Auto แทบทั้งหมดอยู่แล้ว สามารถข้ามไปดูภาพที่ผมถ่ายได้เลยครับ ^^
_______________________________________________
รู้จักกับกล้องของ iPhone 12 Pro / 12 Pro Max กันก่อนครับ
โดยกล้องจะมี 3 ตัวคือ
1. กล้องหลัก (Wide) ตัวนี้มีระยะที่ 26mm รูรับแสง F/1.6 ครับ เป็นกล้องที่เหมาะแก่การถ่ายทั่วไป และคุณภาพจะดีที่สุดจากกล้องทั้ง 3 ตัวเลยครับ
2. กล้องมุมกว้าง (Ultra Wide) กล้องตัวนี้มีระยะที่กว้างมากกกกก กว้างถึง 13mm ครับ กว้างสะใจมากๆ ความกว้างที่ระยะนี้ได้เปรียบกล้องดิจิตอลหลายๆแบรนด์ในตลาดเลยนะครับ เพราะส่วนใหญ่ เลนส์ Ultra Wide จะกว้างสุดเพียง 14mm หรือ 16mm เท่านั้น นั่นทำให้ไอโฟนสามารถถ่ายภาพในสถานที่แคบมากๆได้เป็นอย่างดีครับ
3. กล้องเทเลโฟโต้ (Telephoto) สำหรับ iPhone 12 Pro จะมีทางยาวโฟกัส 52mm ส่วน iPhone 12 Pro Max จะไกลกว่าที่ระยะ 65mm นะครับ เหมาะกับถ่ายวัตถุที่อยู่ไกลออกไปให้ดูใหญ่ครับ และยังเป็นเลนส์ตัวหลักที่เอาไว้ถ่ายคนอีกด้วยครับ
_______________________________________________
Apple ProRAW คืออะไร?
ถ้าคนที่เคยใช้งานกล้องดิจิตอลไม่ว่าจะเป็นกล้อง DSLR หรือกล้อง Mirrorless ก็จะคุ้นๆว่า เราสามารถตั้งค่าให้กล้องมันบันทึกภาพได้ 2 แบบ นั่นก็คือ RAW และ JPG
โดยที่ JPG คือภาพที่เราปรับค่าต่างๆหลังกล้อง เช่น Profile สี, White Balance หรืออะไรก็ตามแต่ แล้ว กล้องจะปรุงแต่งค่าต่างๆที่เราปรับไว้และบันทึกเป็นไฟล์ JPG พร้อมใช้งานได้ทันที
ส่วน RAW นั้น กล้องจะบันทึกเป็นภาพดิบๆ ค่าต่างๆที่เราตั้งไว้จะไม่ถูกปรุงแต่งโดยกล้องเลย (ยกเว้น ค่าที่เกี่ยวกับปริมาณแสง ก็คือ ISO, Speed Shutter, และรูรับแสง) และขนาดไฟล์จะใหญ่กว่า JPG มาก เพราะรายละเอียดแสงและสีต่างๆถูกเก็บเอาไว้อย่างครบถ้วนในไฟล์ประเภท RAW ซึ่งเหมาะกับการนำภาพที่ถ่ายได้ ไปแต่งต่อในภายหลัง โดยที่ RAW ของ iPhone 12 Pro/Pro Max จะบันทึกภาพเป็นนามสกุล .DNG นะครับ และแต่ละใบจะมีขนาดใหญ่ถึง 25 MB เลยทีเดียว ซึ่งใหญ่กว่าไฟล์ภาพธรรมดาถึง 4-5 เท่าเลยครับ
ผมจะไม่ลงรายละเอียดลึกมากนะครับ มันจะเป็นข้อมูลเฉพาะทางเกินไป
เพื่อนๆจำไว้แค่ว่าการถ่ายทั่วๆไป หรือถ่ายในไอโฟนรุ่นก่อนๆ จะได้ไฟล์ JPG หรือ HEIC ซึ่งกล้องปรุงเสร็จแล้ว พร้อมใช้งานได้เลย อยากแต่งนิดหน่อยแต่งได้ แต่ถ้าแต่งเยอะภาพจะช้ำครับ
ส่วนไฟล์ RAW เป็นภาพดิบ เหมือนหมูดิบ ไก่ดิบ ยังกินไม่ได้ ต้องปรุง ต้องแต่งก่อน แต่จะปรุงแต่งได้เยอะกว่า JPG มากๆ ซึ่งเหมาะกับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ หรือภาพ Landscape นั้นเองครับ
การจะถ่ายไฟล์เป็น RAW อย่าลืมไปกดที่ไอคอนคำว่า RAW ด้านขวาบน ในแอพ Camera ด้วยนะครับ
ผมเองชอบถ่ายภาพ Landscape อยู่แล้ว เลยตื่นเต้นมากที่ไอโฟนของผมสามารถถ่ายเป็น RAW ได้ แถมไม่ใช่ RAW ทั่วๆไป Apple ได้มีการใส่ Work Process บางอย่างในระบบ ProRAW นี้ ทำให้ไฟล์ที่ได้มีคุณภาพสูงกว่าไฟล์ RAW จากมือถือแบรนด์อื่นๆในตลาดปัจจุบันครับ บางสถานการณ์ยังทำได้ดีกว่ากล้องใหญ่ที่ผมใช้อีกด้วยแหละ !!
ผมได้มีโอกาสเอาไปทดสอบตามสถานที่ต่างๆ โดยใช้ Function Apple ProRAW จึงค้นพบได้ว่า ไอโฟนเครื่องนี้ ให้ไฟล์ที่ไม่ธรรมดาจริงๆครับ มาดูความสามารถในการดึงรายละเอียดส่วนสว่าง และการขุดรายละเอียดส่วนมืดของไฟล์ RAW ไอโฟนรุ่นนี้ดูครับ
จะเห็นว่า รายละเอียดริ้วเมฆของท้องฟ้าที่เป็นส่วนสว่าง สามารถดึงกลับมาได้หมดครับ ส่วนพวกเงา มืดก็สามารถขุดขึ้นมาได้แบบใช้งานได้เลยทีเดียว
ผมเจอข้อดี ข้อเสียตามนี้ครับ
ข้อดี
1. RAW ไฟล์มีความยืดหยุ่นสูงมาก เข้าใจว่า Apple น่าจะมีกระบวนการ Blend ภาพแบบ HDR และบันทึกเป็นไฟล์เดียว เพราะ Dynamic Range (ความสามารถในการเก็บแสง) กว้างมาก ไฟล์สามารถขุดส่วนมืด และถมส่วนสว่างได้ดีมาก ดีเทียบเคียงกล้องใหญ่หลายๆรุ่นได้เลยครับ
2. สะดวกมาก เพราะเราพกโทรศัพท์ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว เราสามารถเก็บภาพที่มีคุณภาพดีได้ทุกที่ ทุกเวลา แม้ในวันที่เราไม่ได้ตั้งใจจะถ่ายภาพ หรือพกกล้องใดๆ
3. ระบบ Auto ให้หมดเลย คนที่ถ่ายภาพไม่เก่งสามารถใช้งานได้ทันที ไม่ต้องศึกษาอะไรเพิ่มเติมเลย
4. ในที่แสงน้อยแบบพอมีแสงบ้าง ยังสามารถถือถ่ายด้วยมือเปล่าได้เลย ไม่จำเป็นต้องใช้ขาตั้งกล้อง ทำให้สะดวกในการจัดองค์ประกอบภาพ และหามุมได้
ง่ายกว่ากล้องใหญ่
5. สำหรับงานที่ไม่ได้จริงจังมาก สามารถใช้ไอโฟนในการถ่ายภาพแทนกล้องดิจิตอลได้เลยครับ
6. ช่วงเลนส์ครอบคลุมระยะตั้งแต่ 13mm ถึง 65mm มีความยืดหยุ่นในการถ่ายภาพ Landscape สูง
ข้อเสีย
1. ไฟล์ภาพมีขนาดแค่ 12 ล้าน เล็กไปนิดนึง ไม่ยืดหยุ่นในการ Crop ภาพเท่าไร
2. เนื่องจากมีแต่โหมด Auto ทำให้เราไม่สามารถตั้งค่า ISO, Speed ได้อย่างอิสระ จึงทำให้บางครั้งกล้องดัน ISO สูงเกินไป หรือไม่สามารถลาก Speed Shutter เพื่อถ่ายไฟรถ หรือถ่ายพลุได้ (Speed จะลากได้สูงสุด 30 วินาที เฉพาะตอนที่กล้องเห็นว่าแสงน้อยมากๆเท่านั้น เราไม่สามารถไปปรับอะไรได้)
3. ถ่ายภาพต่อเนื่องนานๆ กล้องร้อนไวมาก ทำให้แสงหน้าจอปรับต่ำลงแบบอัตโนมัติ ไม่สะดวกเวลาถ่ายกลางแดดนานๆ เพราะมองไม่เห็นจอเลย
ส่วนคำถามที่ว่า มันเทียบเคียงกล้องใหญ่ได้หรือยัง ผมขอตอบตรงนี้ก่อนว่า ถ้าเทียบกับกล้องระดับล่างๆในตลาด หรือกล้องที่ออกมานานมากแล้ว ผมมีความเห็นว่าไอโฟนทำได้ดีเทียบเคียง หรือดีกว่านะครับ แต่ถ้าเทียบกับกล้องที่เพิ่งวางขายในปัจจุบัน หรือกล้องรุ่นกลางๆถึงบนๆ ไอโฟนยังไม่สามารถสู้ได้นะครับ กล้องสามารถเก็บดีเทลได้ดีกว่าไอโฟนเยอะครับ
มาดูกันครับ ว่าภาพที่ถ่ายจาก iPhone 12 Pro Max ของผม เป็นยังไง ไปดูภาพต่อๆไปเลยครับ !! ผมมีแนวคิดและเทคนิคขณะที่ถ่ายภาพแต่ละภาพให้ด้วยนะครับ
ปล. ภาพทุกภาพมีการแต่งภาพด้วย Lightroom และ Photoshop นะครับ ผมต้องการทำให้ดูว่า มือถือเครื่องนี้ ต่อยอดผลงานได้ขนาดไหน
(การแต่งแค่ปรับแสงและสีเฉยๆนะครับ ไม่มีการตัดต่อ ซ้อนฟ้า หรือเพิ่มลดขนาดวัตถุให้ผิดไปจากความจริงแต่อย่างใด)��
ภาพแรก
สามย่าน
เลนส์: Wide
เทคนิคพิเศษ: ถ่ายวิธี Braketing (คร่อมหลายๆแสง) แล้วนำส่วนที่แสงพอดีของแต่ละภาพมารวมกัน
ใบนี้ทดลองถ่ายแนวที่ไอโฟนรุ่นก่อนๆทำได้แย่มาก ก็คือถ่ายกลางคืนครับ ผมใช้เลนส์ Wide และเนื่องจากสภาพแสงที่น้อย กล้องจึงเปิด Night Mode ให้อัตโนมัติ ก็ลากยาวไป 5 วินาทีครับ ผมตั้งบนขาตั้งกล้อง พบว่าไฟล์ที่ได้มามีการเก็บรายละเอียดส่วนสว่างและส่วนมืดค่อนข้างดี มุมนี้ผมเก็บมา 3 ภาพนะครับ คือถ่ายแบบสภาพแสงปกติมาหนึ่งภาพ ถ่ายแบบชดเชยแสงอันเดอร์ (ถ่ายมืด) -2ev มาหนึ่งภาพ และถ่ายชดเชยโอเวอร์ (สว่าง) +1ev มาอีกหนึ่งภาพ โดยตอนแต่งภาพ ใช้ใบแสงปกติเป็นหลัก เอาส่วนสว่างคือพวกไฟหน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ และพวกป้ายไฟโฆษณาของใบที่ถ่ายอันเดอร์มาใส่ และเอาส่วนมืดพวกตึกที่อยู่ในเงามืดของใบที่ถ่ายโอเวอร์มาใส่ เพื่อให้ภาพที่ได้มีรายละเอียด และคุณภาพดีที่สุดครับ
ภาพที่ 2
พญานาค วัดพระธาตุหนองบัว จ.อุบลราชธานี
เลนส์: Ultra Wide
ดูผ่านๆเหมือนเทพเจ้ามังกรจากการ์ตูนดราก้อนบอลเลยครับ ใบนี้ถ่ายด้วยเลนส์ Ultra Wide นะครับ และผมดันลืมถ่ายเป็น RAW ด้วย ใบนี้เลยเก็บมาเป็น JPG เฉยๆครับ
แนวคิดก็คือ เนื่องจากมุมนี้ หันหลังให้ทิศตะวันตก ผมจึงมาถ่ายในช่วงเย็น เพราะอาจจะได้สีสันของฟ้าช่วงพระอาทิตย์ตกครับ ผมก็เดินหามุมให้เจดีย์พระธาตุ อยู่ตรงกลางในช่องท้องมังกร เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้ภาพ โดยยกถ่ายมือเปล่า ไม่ใช้ขาตั้งกล้อง ตั้งใจเก็บเกล็ดมังกรเป็นฉากหน้า และให้ตัวมังกรเป็นเส้นพุ่งเข้าไปในภาพเพื่อให้ภาพดูมีมิติครับ
ภาพที่ 3
ภูเขาทอง วัดสระเกศ
เลนส์: Telephoto
ใบนี้ถ่ายช่วงพระอาทิตย์ตกนะครับ ถ่ายด้วยเลนส์ Telephoto เพื่อต้องการให้ภูเขาทองดูใหญ่ครับ ยกถ่ายแบบไม่ใช้ขาตั้งกล้อง โดยเล็งให้ภูเขาทองอยู่กลางภาพ ไม่ตัดฐานภูเขาทองทั้งด้านซ้ายและขวา ขยับระยะถ่ายเพื่อให้ยอดแหลมของหลังคาเจดีย์ทั้งซ้ายและขวาอยู่ในความสูงที่ระดับพอดี เพื่อเสริมความเด่นให้ภูเขาทองที่อยู่ตรงกลางภาพครับ
ภาพนี้ต้นฉบับที่เป็น RAW ส่วนมืดค่อนข้างมืดมากในขณะที่ฟ้าสว่าง แต่ไฟล์ก็สามารถขุดเอาส่วนมืด และดึงเอาฟ้าที่สว่างลงมาได้ครับ
ภาพที่ 4
ภูเขาทองอีกภาพนะครับ
เลนส์: Ultra Wide
เป็นอีกมุมที่ผมชอบเป็นการส่วนตัวมากครับ เพราะเป็นเฟรมที่มืดและแบ่งความเด่นของภูเขาทองที่อยู่ในกรอบหน้าต่างทางซ้าย และไฟส่ององค์พระทางขวาครับ
ภาพนี้ใช้เลนส์ Ultra Wide ไม่ได้ใช้ขาตั้งกล้องครับ ถ่ายมือเปล่าๆเลย ไอโฟน Auto ออกมาสวยเลย โดยภาพนี้แทบไม่ได้แต่งอะไรเลยครับ
ภาพที่ 5
ปราสาทพระเทพบิดร วัดพระแก้ว
เลนส์: Ultra Wide
มุมนี้ถ่ายไม่ยากครับ ยกไอโฟนถ่ายโดยใช้เลนส์ Ultra Wide เล็งให้ปราสาทอยู่กลาง เก็บเจดีย์ทั้งสองข้าง และเอาหนุมาน กับนิลพัทเป็นฉากหน้า ก็จะช่วยเสริมความเด่นให้กับปราสาทครับ
ภาพนี้ไม่ได้แต่งมากเลยครับ ดึงสีท้องฟ้าให้สดนิดหน่อย จบเลย
[CR] ทดสอบกล้อง iPhone 12 Pro Max แบบจริงจัง ด้วยโหมด Apple ProRAW !
ก่อนอื่น วิธีเปิดใช้งาน Apple ProRAW ก็เข้าไปที่ Setting --> Camera --> Format --> Apple ProRAW
โดยกล้องจะมี 3 ตัวคือ
1. กล้องหลัก (Wide) ตัวนี้มีระยะที่ 26mm รูรับแสง F/1.6 ครับ เป็นกล้องที่เหมาะแก่การถ่ายทั่วไป และคุณภาพจะดีที่สุดจากกล้องทั้ง 3 ตัวเลยครับ
2. กล้องมุมกว้าง (Ultra Wide) กล้องตัวนี้มีระยะที่กว้างมากกกกก กว้างถึง 13mm ครับ กว้างสะใจมากๆ ความกว้างที่ระยะนี้ได้เปรียบกล้องดิจิตอลหลายๆแบรนด์ในตลาดเลยนะครับ เพราะส่วนใหญ่ เลนส์ Ultra Wide จะกว้างสุดเพียง 14mm หรือ 16mm เท่านั้น นั่นทำให้ไอโฟนสามารถถ่ายภาพในสถานที่แคบมากๆได้เป็นอย่างดีครับ
3. กล้องเทเลโฟโต้ (Telephoto) สำหรับ iPhone 12 Pro จะมีทางยาวโฟกัส 52mm ส่วน iPhone 12 Pro Max จะไกลกว่าที่ระยะ 65mm นะครับ เหมาะกับถ่ายวัตถุที่อยู่ไกลออกไปให้ดูใหญ่ครับ และยังเป็นเลนส์ตัวหลักที่เอาไว้ถ่ายคนอีกด้วยครับ
_______________________________________________
Apple ProRAW คืออะไร?
ถ้าคนที่เคยใช้งานกล้องดิจิตอลไม่ว่าจะเป็นกล้อง DSLR หรือกล้อง Mirrorless ก็จะคุ้นๆว่า เราสามารถตั้งค่าให้กล้องมันบันทึกภาพได้ 2 แบบ นั่นก็คือ RAW และ JPG
โดยที่ JPG คือภาพที่เราปรับค่าต่างๆหลังกล้อง เช่น Profile สี, White Balance หรืออะไรก็ตามแต่ แล้ว กล้องจะปรุงแต่งค่าต่างๆที่เราปรับไว้และบันทึกเป็นไฟล์ JPG พร้อมใช้งานได้ทันที
ส่วน RAW นั้น กล้องจะบันทึกเป็นภาพดิบๆ ค่าต่างๆที่เราตั้งไว้จะไม่ถูกปรุงแต่งโดยกล้องเลย (ยกเว้น ค่าที่เกี่ยวกับปริมาณแสง ก็คือ ISO, Speed Shutter, และรูรับแสง) และขนาดไฟล์จะใหญ่กว่า JPG มาก เพราะรายละเอียดแสงและสีต่างๆถูกเก็บเอาไว้อย่างครบถ้วนในไฟล์ประเภท RAW ซึ่งเหมาะกับการนำภาพที่ถ่ายได้ ไปแต่งต่อในภายหลัง โดยที่ RAW ของ iPhone 12 Pro/Pro Max จะบันทึกภาพเป็นนามสกุล .DNG นะครับ และแต่ละใบจะมีขนาดใหญ่ถึง 25 MB เลยทีเดียว ซึ่งใหญ่กว่าไฟล์ภาพธรรมดาถึง 4-5 เท่าเลยครับ
ผมจะไม่ลงรายละเอียดลึกมากนะครับ มันจะเป็นข้อมูลเฉพาะทางเกินไป
เพื่อนๆจำไว้แค่ว่าการถ่ายทั่วๆไป หรือถ่ายในไอโฟนรุ่นก่อนๆ จะได้ไฟล์ JPG หรือ HEIC ซึ่งกล้องปรุงเสร็จแล้ว พร้อมใช้งานได้เลย อยากแต่งนิดหน่อยแต่งได้ แต่ถ้าแต่งเยอะภาพจะช้ำครับ
ส่วนไฟล์ RAW เป็นภาพดิบ เหมือนหมูดิบ ไก่ดิบ ยังกินไม่ได้ ต้องปรุง ต้องแต่งก่อน แต่จะปรุงแต่งได้เยอะกว่า JPG มากๆ ซึ่งเหมาะกับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ หรือภาพ Landscape นั้นเองครับ
การจะถ่ายไฟล์เป็น RAW อย่าลืมไปกดที่ไอคอนคำว่า RAW ด้านขวาบน ในแอพ Camera ด้วยนะครับ
ผมเองชอบถ่ายภาพ Landscape อยู่แล้ว เลยตื่นเต้นมากที่ไอโฟนของผมสามารถถ่ายเป็น RAW ได้ แถมไม่ใช่ RAW ทั่วๆไป Apple ได้มีการใส่ Work Process บางอย่างในระบบ ProRAW นี้ ทำให้ไฟล์ที่ได้มีคุณภาพสูงกว่าไฟล์ RAW จากมือถือแบรนด์อื่นๆในตลาดปัจจุบันครับ บางสถานการณ์ยังทำได้ดีกว่ากล้องใหญ่ที่ผมใช้อีกด้วยแหละ !!
ผมได้มีโอกาสเอาไปทดสอบตามสถานที่ต่างๆ โดยใช้ Function Apple ProRAW จึงค้นพบได้ว่า ไอโฟนเครื่องนี้ ให้ไฟล์ที่ไม่ธรรมดาจริงๆครับ มาดูความสามารถในการดึงรายละเอียดส่วนสว่าง และการขุดรายละเอียดส่วนมืดของไฟล์ RAW ไอโฟนรุ่นนี้ดูครับ
จะเห็นว่า รายละเอียดริ้วเมฆของท้องฟ้าที่เป็นส่วนสว่าง สามารถดึงกลับมาได้หมดครับ ส่วนพวกเงา มืดก็สามารถขุดขึ้นมาได้แบบใช้งานได้เลยทีเดียว
(การแต่งแค่ปรับแสงและสีเฉยๆนะครับ ไม่มีการตัดต่อ ซ้อนฟ้า หรือเพิ่มลดขนาดวัตถุให้ผิดไปจากความจริงแต่อย่างใด)��
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้