สวัสดีค่ะ วันนี้อยากมาแชร์กับเพื่อนๆถึงประสบการณ์การขับรถถอยลงเนิน รวมถึงถ้าใครกำลังคิดว่าจะทำประกันรถยนต์ที่ไหนดี ก็ลองอ่านของเราก่อนนะคะ ขอเกริ่นก่อนเลย ตอนนั้นเราเพิ่งได้รถจากแม่มาใช้ใหม่ๆสดๆร้อนๆได้เพียงสองอาทิตย์เอง ด้วยความเห่อรถใหม่จ้าพอเวลาสังเกตเห็นไรผิดปกติก็จะเข้าศูนย์ เลยจะเอารถไปอัพเดทซอฟแวร์ เพราะรู้สึกว่าของรถเรามันจะงงๆไม่ได้พูดอะไรอยู่ๆ ระบบก็พูดขึ้นมาเองเลย กะว่าจะเอาไปให้ศูนย์เช็คให้ แต่พอเช็คเสร็จ พื้นที่ที่ออกด้านหลังเค้าจอดรถเต็มเลยบวกกับเรารีบด้วย เราเลยตัดสินใจบอกแฟนให้ถอยเอง ถอยหลังลงจากเนินสูงเองโดยมีพนักงานช่วย ดูให้ แต่ด้วยความที่มันถอยลงมา แล้วดันไปติดกับหลุมอะไรสักอย่างเดินหน้าก็ไม่ไปถอยหลังก็ไม่ได้ แฟนเราเลยตัดสินใจ เหยียบคันเร่งเพิ่มโดยเข้าเกียร์ถอยหลังเพียงแค่เสี้ยววินาทีเอง รถถอยยย เป็นวงกลม ด้วยความเร็วมากกกก ไปชนกับรถเก๋งที่กำลังขับมาจากถนนสามเลนเราชนเลนสองเลยง่าาา โอ้ยยยตอนนั้นแทบกรี๊ดดด ตกใจมากค่ะ สติหายวับไปไหนหมดไม่รู้ แต่คนขับสติหายหนักกว่า เราตั้งสติได้รีบวิ่งลงไปดู และขอโทษรถเก๋งด้านหลัง คือถ้าไฟเขียวเร็วกว่านี้สักพักนึงเชื่อได้เลยว่าได้กวาด รถมเตอร์ไซค์ที่วิ่งมาแน่ๆ
เราวิ่งกลับไปที่ศูนย์เพราะไม่รู้จะต้องทำยังไงเริ่มจากตรงไหน พี่ที่ศูนย์เลยบอกว่าให้โทรหาประกันโชคดีทำประกันรถยนต์ ชั้น 1 กับทิพยประกันภัยไว้ ขอชมพนักงานมาเร็วมาก ตอนนั้นรู้สึกว่าไม่ถึง 30 นาที พี่แกก็มาถึงแล้ว น่าจะด้วยความที่เห็นว่าเรายังเด็กด้วยพี่แกก็มาปลอบและจัดการกับประกันทางคู่กรณีให้เสร็จสรรพ แต่คู่กรณีเราไม่ใช่มีเพียงแค่คนเดียวนะบอกเลย มีสองคนจ้า นอกจากรถเก๋งแล้วนั้นก็ มีที่ต้องรับผิดชอบกับศูนย์ด้วยเพราะตอนถอยลงมาคือหน้าไปฟาดกับผนังและเสาของศูนย์รถด้วย โอ้ยยยตายยยคิดว่าจะต้องแย่แน่ๆจ่ายเยอะแน่นอน แต่พี่ประกันเค้ามาบอกว่าพี่จัดการเคลมให้หมดแล้วนะ อย่าคิดมาก ไม่มีอะไรมาก
พี่เค้าก็ถามว่า จะส่งซ่อมศูนย์นี้เลยไหมหรือจะไปศูนย์อื่น เราเห็นว่าไหนๆก็อยู่หน้าศูนย์ขนาดนี้ ก็ซ่อมมันซะที่นี่เลย แต่ก็รบกวนให้พี่เขาช่วยขับเข้าไปเพราะแฟนเรายังไม่หายตกใจ แล้วนี่อีกเดือนนึงเราต้องขับรถไปรับปริญญา กลัวแม่รู้ที่สุด อยากให้ซ่อมรถเสร็จเร็วๆ เดี๋ยวจะไม่ทันวันรับ แม่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง ทางศูนย์ซ่อมเขาก็ของประกันรับปาก จะรีบสั่งของ จะรีบทำให้ สรุปเสร็จทันเวลาเป๊ะ โอ้ยลุ้นแทบแย่
อ้อ! ลืมเล่าเลย ตอนนั้นระหว่างที่ประกันเค้ากำลังถ่ายรูปเก็บหลักฐานอยู่ รถคู่กรณีมาถามเรื่องค่าเสียหาย เราเองก็ไม่ค่อยมีความรู้ด้านกฎหมายเลยตอนนั้นคือเราก็แอบตกใจว่าเราต้องจ่ายให้เค้าแน่ๆเราต้องรับผิดชอบเพราะเอาจริงรู้สึกผิดมากกับเหตุการที่เกิดขึ้น แต่จะหาเงินจากไหนละนี่ ยังไม่ได้ทำงานเลยเพิ่งเรียนจบหมาดๆ เราเลยไปขอความช่วยเหลือกับพี่ประกันของเรา พี่เค้าแนะนำดีมาก เค้าจัดการคุยให้เรียบร้อย พี่เค้าก็อธิบายให้เราฟัง ว่าประกันชั้นหนึ่งเค้าจะดูแลแทนและคุยแทนให้หมด น้องไม่ต้องจ่ายอะไรทั้งนั้น บอกเลยว่ารู้สึกขอบคุณพี่ประกันเลย เรื่องนี้สอนให้รู้เลยว่าสติสำคัญมาก อย่าตกใจ ยิ่งตกใจยิ่งเหยียบเพิ่ม จะเหยียบเบรคไปเหยียบคันเร่งแทน และ สิ่งสำคัญมากคือประกันห้ามขาดเด็ดขาด นี่แหละที่จะเข้ามาช่วยเราได้ในเวลาที่พบปัญหาแบบนี้เอา
ประสบการณ์ที่ต้องเจอกับอุบัติเหตุครั้งแรกในชีวิต
เราวิ่งกลับไปที่ศูนย์เพราะไม่รู้จะต้องทำยังไงเริ่มจากตรงไหน พี่ที่ศูนย์เลยบอกว่าให้โทรหาประกันโชคดีทำประกันรถยนต์ ชั้น 1 กับทิพยประกันภัยไว้ ขอชมพนักงานมาเร็วมาก ตอนนั้นรู้สึกว่าไม่ถึง 30 นาที พี่แกก็มาถึงแล้ว น่าจะด้วยความที่เห็นว่าเรายังเด็กด้วยพี่แกก็มาปลอบและจัดการกับประกันทางคู่กรณีให้เสร็จสรรพ แต่คู่กรณีเราไม่ใช่มีเพียงแค่คนเดียวนะบอกเลย มีสองคนจ้า นอกจากรถเก๋งแล้วนั้นก็ มีที่ต้องรับผิดชอบกับศูนย์ด้วยเพราะตอนถอยลงมาคือหน้าไปฟาดกับผนังและเสาของศูนย์รถด้วย โอ้ยยยตายยยคิดว่าจะต้องแย่แน่ๆจ่ายเยอะแน่นอน แต่พี่ประกันเค้ามาบอกว่าพี่จัดการเคลมให้หมดแล้วนะ อย่าคิดมาก ไม่มีอะไรมาก
อ้อ! ลืมเล่าเลย ตอนนั้นระหว่างที่ประกันเค้ากำลังถ่ายรูปเก็บหลักฐานอยู่ รถคู่กรณีมาถามเรื่องค่าเสียหาย เราเองก็ไม่ค่อยมีความรู้ด้านกฎหมายเลยตอนนั้นคือเราก็แอบตกใจว่าเราต้องจ่ายให้เค้าแน่ๆเราต้องรับผิดชอบเพราะเอาจริงรู้สึกผิดมากกับเหตุการที่เกิดขึ้น แต่จะหาเงินจากไหนละนี่ ยังไม่ได้ทำงานเลยเพิ่งเรียนจบหมาดๆ เราเลยไปขอความช่วยเหลือกับพี่ประกันของเรา พี่เค้าแนะนำดีมาก เค้าจัดการคุยให้เรียบร้อย พี่เค้าก็อธิบายให้เราฟัง ว่าประกันชั้นหนึ่งเค้าจะดูแลแทนและคุยแทนให้หมด น้องไม่ต้องจ่ายอะไรทั้งนั้น บอกเลยว่ารู้สึกขอบคุณพี่ประกันเลย เรื่องนี้สอนให้รู้เลยว่าสติสำคัญมาก อย่าตกใจ ยิ่งตกใจยิ่งเหยียบเพิ่ม จะเหยียบเบรคไปเหยียบคันเร่งแทน และ สิ่งสำคัญมากคือประกันห้ามขาดเด็ดขาด นี่แหละที่จะเข้ามาช่วยเราได้ในเวลาที่พบปัญหาแบบนี้เอา