WD ก็ยังคงเป็นแบรนด์ที่ต้องบอกว่าพัฒนาในเรื่องของ SSD HDD มาอย่างต่อเนื่อง และเป็นผู้นำในหลายๆเรื่องเลยก็ว่าได้ครับ เพราะว่าครั้งนี้เป็นการกลับมาแบบแรงๆของ SN850 ต่อยอดจาก 750 ก่อนหน้านี้พร้อมกับทำการอ่านเขียนที่เรียกได้ว่า ใช้งานเทคโนโลยี PCIe® GEN4 ได้อย่างลงตัวทำให้การอ่านเขียนพุ่งแรงกว่าเดิมไปมากถึง 7,000 MB/s รองรับการใช้งานได้เร็วกว่าเดิมเท่าตัว ทำให้การโอนย้ายไฟล์นั้นทำได้สะดวกและรวดเร็วกว่าเดิม และมาพร้อมกับ การออกแบบที่มีทั้งแบบ ตัวระบายความร้อน Heatsink ในตัวแบบใหม่ดีไซน์ใหม่ และ แบบธรรมดาครับ ซึ่งในรีวิวนี้นั้นจะเป็นแบบธรรมดากันก่อน แต่ประสิทธิภาพนั้นต้องบอกเลยว่า สมกับราคาและเทคโนโลยีใหม่ครับ
WD BLACK SN850 NVMe™ SSD Black Series เป็นตระกูลที่ต้องบอกว่าเรือธงของทางค่าย และทำการอ่านเขียนที่เร็ว แรงสูงสุด ในครั้งนี้ได้พัฒนาปรับมาใช้งาน PCIe® GEN4 ที่เราจะเห็นบนพอร์ต อย่าง X570 และ B550 และรองรับ สูงสุดถึง 7,000MB/s และเขียนได้เร็วถึง 4,100MB/s บน Slot M.2 ขนาดมาตรฐาน ทำให้รองรับการอ่านเขียน มากกว่าเดิม เท่าตัวครับ จากเดิมที่จะสูงสุด 3,000MB/s ถือว่าพัฒนาขึ้นมาเยอะมาก
WD BLACK SN 850 มาพร้อมกับ รุ่นที่มี Heatsink และ ไม่มี Heatsink ส่วนในรุ่นที่รีวิวนั้นจะไม่มี Heatsink เริ่มต้น 500 GB ราคา 4,990 บาท /1 TB ราคา 8,990 บาท / 2 TB ราคา 18,990 บาท
UNBOX
ตัวกล่องนั้นใช้โทนสีดำ เป็นหลักเล่นกับการออกแบบสวยงามมากขึ้นโทนสีเข้ม เงาด้านตัดกันลงตัว พร้อมกับบอกชื่อรุ่นความจุชัดเจน ส่วนด้านหลังมีช่องว่างเล็กๆ ให้เห็นตัว SSD และ เมื่อเปิดออกมาแล้วก็จะเจอ SSD วางนอนอยู่ไม่มีน็อตมาให้ เป็นตัว SSD อย่างเดียวเลย และ มีคู่มือมาให้ แต่บางค่ายอาจจะมีแถมน็อตมาให้ด้วย เสียดายอันนี้ไม่มีมาให้ครับ ดีไซน์นั้นจะเหมือนกับ SN750 ทั้งหมด
DESIGN
การออกแบบโดยรวมนั้น ยังคงธีมสีดำเข้มไว้ และก็มีการแปะชื่อรุ่นรายละเอียดไว้ในด้านหน้าทั้งหมด ปิดทับด้านหน้าทั้งหมดเลยเป็นโทนสีดำทั้งหมดเลยนั้นเองสมกับชื่อรุ่น การเชื่อมต่อนั้นเป็นแบบ M.2 NVMe PCIe Gen4 x4 รองรับทั้ง PC-NOTEBOOK หลายๆตัวได้สบาย ส่วนด้านหลังนั้น เป็นเรียบๆไม่มีชิ้นส่วนอะไรในด้านนี้เพราะไปอยู่ด้านหน้าทั้งหมดเลยนั้นเอง ยังคงเป็นโทนสีดำทั้งหมดสำหรับด้านหลัง ก็ไม่มีอะไรมากในการออกแบบรุ่นนี้
จะเห็นว่ารายละเอียดดีเทลในการออกแบบนั้นแทบจะเหมือนกับ SN750 ทั้งหมดแต่เปลี่ยนสติกเกอร์ด้านหน้าเท่านั้น ส่วนเส้นสาย วงจรนั้นเป็นโทนสีดำสมกับชื่อ BLACK และ พอร์ตเชื่อมต่อมาตรฐาน NVMe เช่นกัน แต่จะรองรับมาตรฐานที่สูงสุด M.2 NVMe PCIe Gen4 x4 ซึ่งทำให้การอ่านเขียนนั้นสูงกว่าเดิม เท่าตัวเลย
SPEC
- ความจุ 1TB
- อินเทอร์เฟซ PCIe Gen4 x4
- ขนาด (L x W x H) 80mm x 22mm x 2.38mm
- Sequential Read Performance 7,000MB/s
- Sequential Write Performance 4,100MB/s
PERFORMANCE
ในด้านประสิทธิภาพนั้นตัวนี้ต้องบอกว่าจัดเต็มครับ ครั้งแรกนั้นก่อนใช้งานให้เข้า Disk Management เพื่อจัดการกับ SSD หลังจากที่ Format แล้ว ความจุที่ใช้ในการทำงานจะอยู่ที่ 931GB ในแง่ของการติดตั้งต้องบอกก่อนว่าดูเมนบอร์ดของแต่ละรุ่นให้ดีว่ารองรับกี่ช่องและช่องไหนได้ความเร็วสูงสุด ส่วนเมนบอร์ดที่เอามาทดสอบนั้นจะเป็น MSI X570 GAMING PRO CABON WIFI ซึ่งรองรับ GEN4 ทั้ง 2 ช่องทำให้รองรับการอ่านเขียน สูงสุดทั้ง 2 ช่องเลย นั้นในส่วนการทดสอบก็ได้ทดสอบมาเทียบให้ดูว่า 2 แบบในการใช้งาน ทั้งการทดสอบ Gen 3 เทียบกับ Gen 4 ความเร็ว นั้นแตกต่างกันแค่ไหน ในแง่ของความเร็วในการอ่านเขียนนะครับ สเปกที่ใช้ในการทดสอบนั้น
- AMD Ryzen 7 3800X
- MSI X570 GAMING PRO CABON WIFI
- DDR4 3200 16GB
- SSD WD Black SN850 1TB
- GIGABYTE RTX 2070
ในการทดสอบ CrystalDiskMark ทำไปได้ถึง 6,306MB/s (Read) และ 3,220 MB/s (Write) อันนี้ใส่ช่อง Gen 4 นั้นจะทำให้รองรับการอ่านเขียนได้สูงสุดเท่าที่จะรองรับ 7,000 MB/s ที่จะทำให้ความเร็วในการอ่านเขียนนั้นทำงานได้เต็มที่ ส่วนด้านซ้ายนั้นคือการทดสอบ ในช่องที่รองรับ Gen 3 แน่นอนว่าสำหรับใครที่รองรับไม่ถึง Gen 4 นั้นก็ใช้งานได้นะ มาพร้อมกับความเร็วเลยดรอปลงมานะครับอยู่ที่ 3,481 MB/s (Read) และ 3,218 MB/s (Write) ก็ถือว่าเร็วพอสมควรเลย ถึงไม่รองรับ Gen 4 ก็ถือว่ายังใช้งานได้เร็วพอสมควรเลย
ในส่วนของการตรวจเช็คจาก CrystalDiskInfo ทำให้เรารู้รายละเอียดของตัว SSD ทั้งการส่งข้อมูล อุณหภูมิ ของตัว SSD นั้นแอบร้อนได้ง่ายครับเอาจริงๆนั้นทดสอบ แบบต่อเนื่องนั้นทำให้ความร้อนนั้นแอบแตะ 70 ได้เลยแน่นอนว่าตัวนี้ไม่มีซิงค์ เลยทำให้เรื่องของการระบายความร้อนนั้นไม่ดีเท่าไร และถ้าไม่มีตัวช่วยอาจจะใช้งานยาวๆไม่ดีนัก แนะนำว่าหาใช้งานรุ่นที่มี Heatsink หรือว่า เมนบอร์ดที่มีซิลิโคนหรือตัวระบายความร้อนติดมาให้จะดีกว่า
ในส่วนของการทดสอบ Anvil’s ก็ให้ผลออกมาได้ดีมากๆ จะเห็นได้ชัดเจนและเหมือนกับการทดสอบอื่นๆความเร็วแรงนั้นทำได้ดีมาก ถือว่าทำให้โหดเลยแหละในเรื่องของการอ่านเขียนตัวนี้ถือว่าพัฒนามาเยอะและแตกต่างมากถ้าใครใช้ SATA HDD พวกนั้นมาก่อนครับ ทำการอ่านเขียนไปได้ 4,675MB/s (Read) และ 2,618MB/s (Write)
สุดท้ายในการทดสอบบน AS SSD Benchmark 5,046MB/s (Read) และ 2,528MB/s (Write) ทำความเร็วไปได้ดีเลยครับ ก็ถือว่าเป็นความเร็วอันดับต้นๆอยู่แล้วถ้าใครที่ต้องการการอ่านเขียนระดับสูงและการโอนย้ายไฟล์ที่ต้องใช้ความเร็วสูงตัวนี้ตอยโจทย์ได้แน่ๆ และสายเกมเมอร์ทั้งหลายก็ย่อมเห็นผลชัดเจนด้วยเช่นกัน
จริงๆการโอนย้ายไฟล์นั้นก็จะมีส่วนช่วยมากๆถ้าหากเราใช้งานเทคโนโลยีที่ดีขึ้น แต่ทั้งผู้รับผู้ส่งจริงๆก็ต้องเร็วแรงทั้งคู่ถึงจะใช้งานได้เต็มที่ครับ ในภาพทดสอบจากการโอนย้ายไฟล์จาก SN750 ไป SN850 บอกเลยว่า โอนย้ายไฟล์ 30 GB ทำได้ภายใน 15 วินาทีเท่านั้น อันนี้ทดสอบทำให้การใช้งานนั้นรวดเร็วขึ้นเยอะมากจริงๆจุดนี้บอกเลยว่าดี
WD BLACK SN850
” เร็วแรงสุดในตอนนี้ ระดับ 7,000 MB/S รองรับการใช้งานทุกรูปแบบ “
เทคโนโลยีล่าสุดพร้อมกับการใช้งานที่ได้ผลจริงทำให้ภาพรวมทั้งการเล่นเกม การโหลดไฟล์งาน หรือจะเป็นการเคลื่อนย้ายไฟล์ การเข้าถึงนั้นทุกอย่างไม่มีความหน่วง หรือต้องเสียเวลาอะไรทั้งนั้นเป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจในการใช้งานจริงถ้ามีเมนบอร์ดรองรับยิ่งทำให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น ใครที่เน้นประสิทธิภาพหรือการเข้าใช้งานเข้าไฟล์โยนไฟล์ตัดต่อ การอ่านเขียนที่ต้องเน้นความเร็วสูงบอกเลยว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า แต่ถ้าไม่ได้เน้นมาก ราคาตอนนี้อาจจะยังเข้าถึงได้ยากครับ และ เมนบอร์ดตัวไหนไม่มีตัวระบายความร้อนอาจจะมีความร้อนเวลาใช้งานสูง หรือต้องมองเป็นรุ่นที่มี Heatsink มาแทนนั้นเอง ถ้ามองประสิทธิภาพของตัว SSD ตัวนี้บอกเลยว่าโหดที่สุดในยุคนี้แล้ว
ข้อดี
- อ่านเขียนได้ไวที่สุดในตอนนี้
- อ่านได้สูงสุด 7,000MB/s
- ใช้งาน M.2 ทั่วไปได้
- รองรับ PCIe Gen4 เทคโนโลยีใหม่ แต่ก็ใช้กับรุ่นก่อนๆได้ทั้งหมด
- คุณภาพยังคงไว้ใจได้สำหรับ WD
ข้อสังเกต
- ยังคงมีราคาสูง
- แอบร้อนง่ายพอสมควร
- ความเร็วสูงสุดต้องใช้ PCIe Gen4 เท่านั้น
หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ยังไงก็ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>
https://www.facebook.com/Techhangout/
Review by Nineztr
ถูกใจยังไงฝากกด + กันได้นะครับ
[SR] รีวิว WD BLACK SN850 NVMe™ SSD PCIe® GEN4 อ่านได้ถึง 7,000 MB/s !
WD ก็ยังคงเป็นแบรนด์ที่ต้องบอกว่าพัฒนาในเรื่องของ SSD HDD มาอย่างต่อเนื่อง และเป็นผู้นำในหลายๆเรื่องเลยก็ว่าได้ครับ เพราะว่าครั้งนี้เป็นการกลับมาแบบแรงๆของ SN850 ต่อยอดจาก 750 ก่อนหน้านี้พร้อมกับทำการอ่านเขียนที่เรียกได้ว่า ใช้งานเทคโนโลยี PCIe® GEN4 ได้อย่างลงตัวทำให้การอ่านเขียนพุ่งแรงกว่าเดิมไปมากถึง 7,000 MB/s รองรับการใช้งานได้เร็วกว่าเดิมเท่าตัว ทำให้การโอนย้ายไฟล์นั้นทำได้สะดวกและรวดเร็วกว่าเดิม และมาพร้อมกับ การออกแบบที่มีทั้งแบบ ตัวระบายความร้อน Heatsink ในตัวแบบใหม่ดีไซน์ใหม่ และ แบบธรรมดาครับ ซึ่งในรีวิวนี้นั้นจะเป็นแบบธรรมดากันก่อน แต่ประสิทธิภาพนั้นต้องบอกเลยว่า สมกับราคาและเทคโนโลยีใหม่ครับ
WD BLACK SN850 NVMe™ SSD Black Series เป็นตระกูลที่ต้องบอกว่าเรือธงของทางค่าย และทำการอ่านเขียนที่เร็ว แรงสูงสุด ในครั้งนี้ได้พัฒนาปรับมาใช้งาน PCIe® GEN4 ที่เราจะเห็นบนพอร์ต อย่าง X570 และ B550 และรองรับ สูงสุดถึง 7,000MB/s และเขียนได้เร็วถึง 4,100MB/s บน Slot M.2 ขนาดมาตรฐาน ทำให้รองรับการอ่านเขียน มากกว่าเดิม เท่าตัวครับ จากเดิมที่จะสูงสุด 3,000MB/s ถือว่าพัฒนาขึ้นมาเยอะมาก
WD BLACK SN 850 มาพร้อมกับ รุ่นที่มี Heatsink และ ไม่มี Heatsink ส่วนในรุ่นที่รีวิวนั้นจะไม่มี Heatsink เริ่มต้น 500 GB ราคา 4,990 บาท /1 TB ราคา 8,990 บาท / 2 TB ราคา 18,990 บาท
UNBOX
ตัวกล่องนั้นใช้โทนสีดำ เป็นหลักเล่นกับการออกแบบสวยงามมากขึ้นโทนสีเข้ม เงาด้านตัดกันลงตัว พร้อมกับบอกชื่อรุ่นความจุชัดเจน ส่วนด้านหลังมีช่องว่างเล็กๆ ให้เห็นตัว SSD และ เมื่อเปิดออกมาแล้วก็จะเจอ SSD วางนอนอยู่ไม่มีน็อตมาให้ เป็นตัว SSD อย่างเดียวเลย และ มีคู่มือมาให้ แต่บางค่ายอาจจะมีแถมน็อตมาให้ด้วย เสียดายอันนี้ไม่มีมาให้ครับ ดีไซน์นั้นจะเหมือนกับ SN750 ทั้งหมด
DESIGN
การออกแบบโดยรวมนั้น ยังคงธีมสีดำเข้มไว้ และก็มีการแปะชื่อรุ่นรายละเอียดไว้ในด้านหน้าทั้งหมด ปิดทับด้านหน้าทั้งหมดเลยเป็นโทนสีดำทั้งหมดเลยนั้นเองสมกับชื่อรุ่น การเชื่อมต่อนั้นเป็นแบบ M.2 NVMe PCIe Gen4 x4 รองรับทั้ง PC-NOTEBOOK หลายๆตัวได้สบาย ส่วนด้านหลังนั้น เป็นเรียบๆไม่มีชิ้นส่วนอะไรในด้านนี้เพราะไปอยู่ด้านหน้าทั้งหมดเลยนั้นเอง ยังคงเป็นโทนสีดำทั้งหมดสำหรับด้านหลัง ก็ไม่มีอะไรมากในการออกแบบรุ่นนี้
จะเห็นว่ารายละเอียดดีเทลในการออกแบบนั้นแทบจะเหมือนกับ SN750 ทั้งหมดแต่เปลี่ยนสติกเกอร์ด้านหน้าเท่านั้น ส่วนเส้นสาย วงจรนั้นเป็นโทนสีดำสมกับชื่อ BLACK และ พอร์ตเชื่อมต่อมาตรฐาน NVMe เช่นกัน แต่จะรองรับมาตรฐานที่สูงสุด M.2 NVMe PCIe Gen4 x4 ซึ่งทำให้การอ่านเขียนนั้นสูงกว่าเดิม เท่าตัวเลย
SPEC
- ความจุ 1TB
- อินเทอร์เฟซ PCIe Gen4 x4
- ขนาด (L x W x H) 80mm x 22mm x 2.38mm
- Sequential Read Performance 7,000MB/s
- Sequential Write Performance 4,100MB/s
PERFORMANCE
ในด้านประสิทธิภาพนั้นตัวนี้ต้องบอกว่าจัดเต็มครับ ครั้งแรกนั้นก่อนใช้งานให้เข้า Disk Management เพื่อจัดการกับ SSD หลังจากที่ Format แล้ว ความจุที่ใช้ในการทำงานจะอยู่ที่ 931GB ในแง่ของการติดตั้งต้องบอกก่อนว่าดูเมนบอร์ดของแต่ละรุ่นให้ดีว่ารองรับกี่ช่องและช่องไหนได้ความเร็วสูงสุด ส่วนเมนบอร์ดที่เอามาทดสอบนั้นจะเป็น MSI X570 GAMING PRO CABON WIFI ซึ่งรองรับ GEN4 ทั้ง 2 ช่องทำให้รองรับการอ่านเขียน สูงสุดทั้ง 2 ช่องเลย นั้นในส่วนการทดสอบก็ได้ทดสอบมาเทียบให้ดูว่า 2 แบบในการใช้งาน ทั้งการทดสอบ Gen 3 เทียบกับ Gen 4 ความเร็ว นั้นแตกต่างกันแค่ไหน ในแง่ของความเร็วในการอ่านเขียนนะครับ สเปกที่ใช้ในการทดสอบนั้น
- AMD Ryzen 7 3800X
- MSI X570 GAMING PRO CABON WIFI
- DDR4 3200 16GB
- SSD WD Black SN850 1TB
- GIGABYTE RTX 2070
ในการทดสอบ CrystalDiskMark ทำไปได้ถึง 6,306MB/s (Read) และ 3,220 MB/s (Write) อันนี้ใส่ช่อง Gen 4 นั้นจะทำให้รองรับการอ่านเขียนได้สูงสุดเท่าที่จะรองรับ 7,000 MB/s ที่จะทำให้ความเร็วในการอ่านเขียนนั้นทำงานได้เต็มที่ ส่วนด้านซ้ายนั้นคือการทดสอบ ในช่องที่รองรับ Gen 3 แน่นอนว่าสำหรับใครที่รองรับไม่ถึง Gen 4 นั้นก็ใช้งานได้นะ มาพร้อมกับความเร็วเลยดรอปลงมานะครับอยู่ที่ 3,481 MB/s (Read) และ 3,218 MB/s (Write) ก็ถือว่าเร็วพอสมควรเลย ถึงไม่รองรับ Gen 4 ก็ถือว่ายังใช้งานได้เร็วพอสมควรเลย
ในส่วนของการตรวจเช็คจาก CrystalDiskInfo ทำให้เรารู้รายละเอียดของตัว SSD ทั้งการส่งข้อมูล อุณหภูมิ ของตัว SSD นั้นแอบร้อนได้ง่ายครับเอาจริงๆนั้นทดสอบ แบบต่อเนื่องนั้นทำให้ความร้อนนั้นแอบแตะ 70 ได้เลยแน่นอนว่าตัวนี้ไม่มีซิงค์ เลยทำให้เรื่องของการระบายความร้อนนั้นไม่ดีเท่าไร และถ้าไม่มีตัวช่วยอาจจะใช้งานยาวๆไม่ดีนัก แนะนำว่าหาใช้งานรุ่นที่มี Heatsink หรือว่า เมนบอร์ดที่มีซิลิโคนหรือตัวระบายความร้อนติดมาให้จะดีกว่า
ในส่วนของการทดสอบ Anvil’s ก็ให้ผลออกมาได้ดีมากๆ จะเห็นได้ชัดเจนและเหมือนกับการทดสอบอื่นๆความเร็วแรงนั้นทำได้ดีมาก ถือว่าทำให้โหดเลยแหละในเรื่องของการอ่านเขียนตัวนี้ถือว่าพัฒนามาเยอะและแตกต่างมากถ้าใครใช้ SATA HDD พวกนั้นมาก่อนครับ ทำการอ่านเขียนไปได้ 4,675MB/s (Read) และ 2,618MB/s (Write)
สุดท้ายในการทดสอบบน AS SSD Benchmark 5,046MB/s (Read) และ 2,528MB/s (Write) ทำความเร็วไปได้ดีเลยครับ ก็ถือว่าเป็นความเร็วอันดับต้นๆอยู่แล้วถ้าใครที่ต้องการการอ่านเขียนระดับสูงและการโอนย้ายไฟล์ที่ต้องใช้ความเร็วสูงตัวนี้ตอยโจทย์ได้แน่ๆ และสายเกมเมอร์ทั้งหลายก็ย่อมเห็นผลชัดเจนด้วยเช่นกัน
จริงๆการโอนย้ายไฟล์นั้นก็จะมีส่วนช่วยมากๆถ้าหากเราใช้งานเทคโนโลยีที่ดีขึ้น แต่ทั้งผู้รับผู้ส่งจริงๆก็ต้องเร็วแรงทั้งคู่ถึงจะใช้งานได้เต็มที่ครับ ในภาพทดสอบจากการโอนย้ายไฟล์จาก SN750 ไป SN850 บอกเลยว่า โอนย้ายไฟล์ 30 GB ทำได้ภายใน 15 วินาทีเท่านั้น อันนี้ทดสอบทำให้การใช้งานนั้นรวดเร็วขึ้นเยอะมากจริงๆจุดนี้บอกเลยว่าดี
WD BLACK SN850
” เร็วแรงสุดในตอนนี้ ระดับ 7,000 MB/S รองรับการใช้งานทุกรูปแบบ “
เทคโนโลยีล่าสุดพร้อมกับการใช้งานที่ได้ผลจริงทำให้ภาพรวมทั้งการเล่นเกม การโหลดไฟล์งาน หรือจะเป็นการเคลื่อนย้ายไฟล์ การเข้าถึงนั้นทุกอย่างไม่มีความหน่วง หรือต้องเสียเวลาอะไรทั้งนั้นเป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจในการใช้งานจริงถ้ามีเมนบอร์ดรองรับยิ่งทำให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น ใครที่เน้นประสิทธิภาพหรือการเข้าใช้งานเข้าไฟล์โยนไฟล์ตัดต่อ การอ่านเขียนที่ต้องเน้นความเร็วสูงบอกเลยว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า แต่ถ้าไม่ได้เน้นมาก ราคาตอนนี้อาจจะยังเข้าถึงได้ยากครับ และ เมนบอร์ดตัวไหนไม่มีตัวระบายความร้อนอาจจะมีความร้อนเวลาใช้งานสูง หรือต้องมองเป็นรุ่นที่มี Heatsink มาแทนนั้นเอง ถ้ามองประสิทธิภาพของตัว SSD ตัวนี้บอกเลยว่าโหดที่สุดในยุคนี้แล้ว
ข้อดี
- อ่านเขียนได้ไวที่สุดในตอนนี้
- อ่านได้สูงสุด 7,000MB/s
- ใช้งาน M.2 ทั่วไปได้
- รองรับ PCIe Gen4 เทคโนโลยีใหม่ แต่ก็ใช้กับรุ่นก่อนๆได้ทั้งหมด
- คุณภาพยังคงไว้ใจได้สำหรับ WD
ข้อสังเกต
- ยังคงมีราคาสูง
- แอบร้อนง่ายพอสมควร
- ความเร็วสูงสุดต้องใช้ PCIe Gen4 เท่านั้น
หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ยังไงก็ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>> https://www.facebook.com/Techhangout/
Review by Nineztr
ถูกใจยังไงฝากกด + กันได้นะครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้