เรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวผมเอง ประมาณช่วงเดือนต้นเดือนสิงหา ผมย้ายออกจากหอพักแห่งหนึ่งย่านพหลโยธิน
(โดยที่ไม่ได้ทำผิดสัญญาเช่าแม้แต่ข้อเดียว)
หลังจากย้ายออก ผมจึงทวงเงินประกันความเสียหาย 5,000 บาท แต่ปรากฏว่าเจ้าของหอพัก อ้างว่าต้องหักค่าล้างแอร์, ค่าทำความสะอาด, ค่าทาสีห้อง, ค่าไฟและค่าน้ำ อาจจะไม่พอให้หักซะด้วยซ้ำ ก็คือหาเรื่องไม่คืนนั้นแหละครับ
ผมจึงหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับการฟ้องคดีผู้บริโภค และดำเนินการดังต่อไปนี้
1.ไปลงบันทึกประจำวันที่ สน ท้องที่นั้นๆ เพื่อเป็นหลักฐาน
2.นำใบบันทึกประจำวัน ไปขอคัดทะเบียนราษฎรเจ้าของหอพักที่สำนักเขต (แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า เพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการยื่นฟ้องคดีผู้บริโภค) มีค่าธรรมเนียมในการคัด 10 บาท
3.รวบรวมเอกสาร ได้แก่ สัญญาเช่า, หลักฐานการโอนเงิน, ใบแจ้งความ, ใบทะเบียนราษฎรคู่กรณี, รูปถ่ายต่างๆ เช่น แชทไลน์ที่คุยกัน, รูปถ่ายห้องพักก่อนย้ายออก
4.เดินทางไปศาลแขวงในพื้นที่นั้นๆ แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า มายื่นฟ้องคดีผู้บริโภค เค้าจะซักถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพื่อทำการร่างคำฟ้อง (ใช้เวลาประมาณ 3 วัน) และใช้เอกสารประกอบฟ้องตามข้อ 3
5.ผ่านไป 3 วัน เจ้าหน้าที่ จะโทรมาแจ้งว่าร่างใบคำฟ้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เรามาตรวจสอบใบคำฟ้อง เพื่อเซ็นส่งฟ้อง และนัดวันมาศาล (ของผม 90 วัน) ทางเจ้าหน้าที่เรียกไป 25,000 เป็นค่าปรับ 5 เท่า(ตาม วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค) + ค่าเสียเวลา ค่าเดินทางอีก 5,000 บาท รวมเป็น 30,000 บาท
พอถึงวันนัด เจ้าหน้าให้เข้าไปห้องไกล่เกลี่ยพร้อมคู่กรณี หลังจากนั้นจึงเริ่มไกล่เกลี่ยให้ยอมความกัน ทางเจ้าของหอพักจะหักผม 1,300 ซึ่งเป็นค่าน้ำไฟ(ตรงนี้ผมไม่ติดใจ) ค่าแรง+ค่าทาสีห้อง 2,700 จะยกเว้นค่าล้างแอร์และค่าทำความสะอาด 1,000(ในสัญญาเช่าไม่ระบุ แต่ดันมาเรียกเก็บซะงั้น) ผมแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าไม่ยินยอม จึงตกลงกันไม่ได้ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ศาลจึงออกใบนัด เพื่อมาขึ้นศาลอีกรอบ
นัดรอบ 2 ศาลพยายามไกล่เกลี่ยอีกครั้ง ผมจึงแนบรูปถ่ายเข้าไปด้วย ผลปรากฎว่าเจ้าของหอพักยอมคืน 3700 บาท แต่โดยดี ผมมีขอค่าเดินทาง ค่าเสียเวลาเพิ่มแต่ศาลท่านไม่ให้ ผมจึงทำเรื่องถอนฟ้อง รอเซ็นเอกสารนิดหน่อยแล้วเดินทางกลับ
ผมเดินทางไปศาลทั้งหมด 4 รอบ ใช้เวลา 4 เดือนนับตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงวันที่ได้เงินคืน แต่คุ้มกับการที่ได้เงินคืน
สุดท้ายมาแวะเครดิตพี่ธีระเชษฐ์ ผมรู้ว่าต้องดำเนินการยังไงก็เพราะมาอ่านโพสต์พี่เค้านี่แหละครับ
https://www.facebook.com/terachas.p/posts/2723809734330652
แชร์ประสบการณ์ หอพักไม่ยอมคืนเงินมัดจำ หรือค่าประกันความเสียหาย ทำยังไงดี กระทู้นี้มีคำตอบครับ
(โดยที่ไม่ได้ทำผิดสัญญาเช่าแม้แต่ข้อเดียว)
หลังจากย้ายออก ผมจึงทวงเงินประกันความเสียหาย 5,000 บาท แต่ปรากฏว่าเจ้าของหอพัก อ้างว่าต้องหักค่าล้างแอร์, ค่าทำความสะอาด, ค่าทาสีห้อง, ค่าไฟและค่าน้ำ อาจจะไม่พอให้หักซะด้วยซ้ำ ก็คือหาเรื่องไม่คืนนั้นแหละครับ
ผมจึงหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับการฟ้องคดีผู้บริโภค และดำเนินการดังต่อไปนี้
1.ไปลงบันทึกประจำวันที่ สน ท้องที่นั้นๆ เพื่อเป็นหลักฐาน
2.นำใบบันทึกประจำวัน ไปขอคัดทะเบียนราษฎรเจ้าของหอพักที่สำนักเขต (แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า เพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการยื่นฟ้องคดีผู้บริโภค) มีค่าธรรมเนียมในการคัด 10 บาท
3.รวบรวมเอกสาร ได้แก่ สัญญาเช่า, หลักฐานการโอนเงิน, ใบแจ้งความ, ใบทะเบียนราษฎรคู่กรณี, รูปถ่ายต่างๆ เช่น แชทไลน์ที่คุยกัน, รูปถ่ายห้องพักก่อนย้ายออก
4.เดินทางไปศาลแขวงในพื้นที่นั้นๆ แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า มายื่นฟ้องคดีผู้บริโภค เค้าจะซักถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพื่อทำการร่างคำฟ้อง (ใช้เวลาประมาณ 3 วัน) และใช้เอกสารประกอบฟ้องตามข้อ 3
5.ผ่านไป 3 วัน เจ้าหน้าที่ จะโทรมาแจ้งว่าร่างใบคำฟ้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เรามาตรวจสอบใบคำฟ้อง เพื่อเซ็นส่งฟ้อง และนัดวันมาศาล (ของผม 90 วัน) ทางเจ้าหน้าที่เรียกไป 25,000 เป็นค่าปรับ 5 เท่า(ตาม วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค) + ค่าเสียเวลา ค่าเดินทางอีก 5,000 บาท รวมเป็น 30,000 บาท
พอถึงวันนัด เจ้าหน้าให้เข้าไปห้องไกล่เกลี่ยพร้อมคู่กรณี หลังจากนั้นจึงเริ่มไกล่เกลี่ยให้ยอมความกัน ทางเจ้าของหอพักจะหักผม 1,300 ซึ่งเป็นค่าน้ำไฟ(ตรงนี้ผมไม่ติดใจ) ค่าแรง+ค่าทาสีห้อง 2,700 จะยกเว้นค่าล้างแอร์และค่าทำความสะอาด 1,000(ในสัญญาเช่าไม่ระบุ แต่ดันมาเรียกเก็บซะงั้น) ผมแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าไม่ยินยอม จึงตกลงกันไม่ได้ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ศาลจึงออกใบนัด เพื่อมาขึ้นศาลอีกรอบ
นัดรอบ 2 ศาลพยายามไกล่เกลี่ยอีกครั้ง ผมจึงแนบรูปถ่ายเข้าไปด้วย ผลปรากฎว่าเจ้าของหอพักยอมคืน 3700 บาท แต่โดยดี ผมมีขอค่าเดินทาง ค่าเสียเวลาเพิ่มแต่ศาลท่านไม่ให้ ผมจึงทำเรื่องถอนฟ้อง รอเซ็นเอกสารนิดหน่อยแล้วเดินทางกลับ
ผมเดินทางไปศาลทั้งหมด 4 รอบ ใช้เวลา 4 เดือนนับตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงวันที่ได้เงินคืน แต่คุ้มกับการที่ได้เงินคืน
สุดท้ายมาแวะเครดิตพี่ธีระเชษฐ์ ผมรู้ว่าต้องดำเนินการยังไงก็เพราะมาอ่านโพสต์พี่เค้านี่แหละครับ
https://www.facebook.com/terachas.p/posts/2723809734330652