สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอบอกเลยว่านี่เป็นกระทู้แรกของเรา คิดอยู่นานว่าจะลงดีมั้ย สุดท้ายก็ลง 55555 ตามหัวข้อกระทู้เลยค่ะ “แอบชอบเพื่อนคนนึงในคณะเดียวกัน” คือเรื่องมีอยู่ว่าเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วเราเห็นคำแนะนำขอเป็นเพื่อนของเฟสม. (เราขอใช้ตัวย่อแทนเค้าว่าม.นะ) มันขึ้นแนะนำเฟสเพื่อนคนนี้มาเราคงมีเพื่อนร่วมกันเยอะเพราะอยู่คณะเดียวกัน เราก็แอดไปตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร แค่รู้สึกถูกชะตา...
.
..
...
เวลาเห็นโพสต์เค้า เราก็กดไลค์ตลอดแต่ไม่ทุกโพสต์นะ ก็ตามประสาเพื่อนในเฟสทั่วไป จนเห็นเค้าลงรูปเรื่อยๆก็ยิ่งชอบ life style การใช้ชีวิตของเค้า เค้าดูสวยและน่ารักมากๆในสายตาเราอ่ะ อาจจะในสายตาคนอื่นด้วยแหละ แฮะๆ เราชอบดูรูปเค้าบ่อยๆเห็นรูปสวยๆก็ต้องชอบดูเป็นธรรมดาสิ 5555 มีครั้งนึงจำได้ว่าเคยพูดกับเพื่อนตัวเองว่าชอบหน้าเพื่อนคนนี้จัง จนมาวันนึงเค้าไปเที่ยวปีใหม่กับที่บ้านที่ต่างประเทศ เราแบบโหหห! (ชีวิตนี้เรายังไม่เคยนั่งเครื่องเลย 5555) ก็ติดตามรูปที่เค้าอัพ ซึ่งปกติเราก็ชอบเที่ยวอยู่แล้ว ยิ่งติดตามเค้าก็เหมือนได้ไปเที่ยวด้วย แล้วเราก็เข้าไปส่องเฟสเค้าแล้วเห็นว่ามีไอจีแปะไว้ เราจะช้าอยู่ใย กด Follow ไปดิ 555555 และดูเหมือนอิทธิฤทธิ์ในการอยู่คณะเดียวกันจะช่วยได้เยอะ ทำให้เค้า Follow กลับในเวลาทึ่ห่างกันไม่กี่นาที นี่ก็ใจชื้นไปอีก 5555 จากนั้นก็ได้รู้กันเค้ามากขึ้นผ่านไอจีสตอรี่ ฮ่าๆ หรืออาจเป็นเราที่รู้จักมากขึ้นเพราะเราชอบไปกดดูสตอรี่เค้า แรกๆเค้าก็ไม่ค่อยได้เข้ามาดูหรือแทบไม่ดูเลยก็ว่าได้ 55555 เวลาผ่านไปทำให้เราเริ่มรู้จักเค้ามากขึ้น ยิ่งรู้สึกว่าเรามีอะไรที่ชอบเหมือนๆกันอยู่หลายๆเรื่องเลยแหละ เช่น ชอบแมว เล่นกีตาร์ ชอบต้นไม้ (มั้งนะ5555) แล้วจุดเริ่มต้นมันก็มาจากเค้าอัพสตอรี่เกี่ยวกับเล่นกีตาร์นี่แหละ นี่ก็เนียนๆ Reply story ไปคุยเกี่ยวกับกีตาร์นี่แหละ เค้าก็ตอบนะ ตอบน่ารักด้วยอาจเพราะเค้านิสัยน่ารักอยู่แล้วมั้ง และเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น...
.
..
...
เค้ามาดูสตอรี่เรา ฮ่าๆ เย้! แล้วเค้าก็มาดูเรื่อยๆนะ ปริ่มมมมม 5555 เค้าคงเริ่มรู้จักเราบ้างแล้วสินะ เราก็ได้คุยกันบ้างแต่ก็ครั้งละประโยคสองประโยค เราเป็นคนพูดไม่เก่งด้วยแหละ กลัวพิมพ์ไปเยอะแล้วเค้าจะสงสัย เอาพองามก็พอ ฮ่าๆ เค้าก็มี Reply story เราบ้างเหมือนกันนะ คนอะไรน่าตาก็ดีนิสัยก็น่ารัก โง้ยยยย >.<
จนมาช่วงรับปริญญา เรามีของจะให้เค้านะ เก็บไว้ติดตัวอยู่ตลอดกะว่าหาจังหวะดีๆก็จะให้ มาถึงวันที่ซ้อมรับอยู่คณะเราก็นั่งกินข้าวกับเพื่อนที่เล่นด้วยกันปกติ แล้วโต๊ะข้างๆก็เป็นกลุ่มเพื่อนเค้าแล้วอยู่ดีๆเพื่อนคนนึงก็ตะโกนขึ้นเรียกชื่อม.ดังมาก เราเลยหันหน้าไปมอง ในใจคือ ชิปหายยย! เค้าจะเดินมามั้ยวะ มือนี่สั่น เริ่มทำตัวไม่ถูกไม่รู้จะอิ่มเลยดีมั้ย อารมณ์เหมือน puppy love วัยมัธยมอ่ะ 55555 แล้ววันนั้นก็ไม่รู้ว่าเค้าเดินไปที่ไหนต่อนี่ไม่กล้าหันไปมองโต๊ะข้างๆอีก แล้วจังหวะนี้แหละที่ทำให้รู้ว่าเราคงไม่กล้าให้ของที่ตั้งใจจะให้แน่ ฮ่าๆ เก็บไว้ต่อไป...
จนถึงวันรับปริญญา(วันรับจริง) และเป็นวันสุดท้ายที่จะได้เจอกันก่อนที่จะต้องแยกย้ายกันไป ซึ่งถ้าไม่ให้วันนี้ก็ไม่รู้จะมีโอกาสอีกมั้ย เราก็มองหาเค้าตลอดแต่ก็ไม่เจอเลย แล้วสรุปว่าวันนั้นทั้งวันเราก็ไม่ได้เจอกัน ในเย็นวันนั้นเราก็ทักไอจีเค้าไปเลยว่าเสียดายไม่เจอกันเลย ว่าจะขอถ่ายรูปด้วยกัน เค้าก็ตอบนะแต่มีประโยคนึงที่สะกิดใจเรามากๆว่า "มากรุงเทพชวนเที่ยวได้น้า" นี่รีบวางแผนเที่ยวกรุงเทพเลย55555 จริงๆก็ตั้งใจไว้อยู่แล้วด้วยว่าอยากไปเที่ยวที่ไหนสักที่หลังรับปริญญาเสร็จ เราก็ไปส่องไอจีเค้าแหละดูว่าเค้าเคยเช็คอินที่ไหนในกทม. อารมณ์เหมือนตามรอยซีรี่ย์เกาหลีอ่ะ เราก็วางแผนจะเที่ยวโดยที่จะไปถ่ายรูปตรงที่เค้าเคยไป ซึ่งทริปนี้เราตั้งใจว่าจะไปคนเดียว อยากลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง จะลองนั่งเครื่องครั้งแรกในชีวิต 55555 ก็วางแผนจองที่พักจองตัวเครื่องบินอะไรเสร็จเรียบร้อย และวันต่อมา...โควิดจ้าาาาา! -_- สรุปทุกอย่างล่ม ล่มไม่เป็นท่าเลย เฮ้ออออออ..
...ไหนๆก็ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันตอนไหนและอีกเมื่อไหร่ เลยอยากถามคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ว่าเราควรบอกเค้าไปเลยดีมั้ยว่าเรารู้สึกยังไงกับเค้า ใจนึงก็อยากบอก ใจนึงก็กลัวจะเสียความสัมพันธ์นี้ไป แล้วถ้าไม่บอก เราก็คงทำได้แค่คอยมองเค้าอยู่ห่างๆแบบนี้ไปเรื่อยๆ สุดท้ายนี้อยากบอกว่าเรามีของจะให้ม.นะ และเราอยากบอกว่าถ้ามีโอกาสไปถ่ายรูปเล่นด้วยกันนะ ยินดีที่ได้รู้จักกันมากๆ
"แอบชอบเพื่อนคนนึงในคณะเดียวกัน" บอกหรือไม่บอกดี ?
.
..
...
เวลาเห็นโพสต์เค้า เราก็กดไลค์ตลอดแต่ไม่ทุกโพสต์นะ ก็ตามประสาเพื่อนในเฟสทั่วไป จนเห็นเค้าลงรูปเรื่อยๆก็ยิ่งชอบ life style การใช้ชีวิตของเค้า เค้าดูสวยและน่ารักมากๆในสายตาเราอ่ะ อาจจะในสายตาคนอื่นด้วยแหละ แฮะๆ เราชอบดูรูปเค้าบ่อยๆเห็นรูปสวยๆก็ต้องชอบดูเป็นธรรมดาสิ 5555 มีครั้งนึงจำได้ว่าเคยพูดกับเพื่อนตัวเองว่าชอบหน้าเพื่อนคนนี้จัง จนมาวันนึงเค้าไปเที่ยวปีใหม่กับที่บ้านที่ต่างประเทศ เราแบบโหหห! (ชีวิตนี้เรายังไม่เคยนั่งเครื่องเลย 5555) ก็ติดตามรูปที่เค้าอัพ ซึ่งปกติเราก็ชอบเที่ยวอยู่แล้ว ยิ่งติดตามเค้าก็เหมือนได้ไปเที่ยวด้วย แล้วเราก็เข้าไปส่องเฟสเค้าแล้วเห็นว่ามีไอจีแปะไว้ เราจะช้าอยู่ใย กด Follow ไปดิ 555555 และดูเหมือนอิทธิฤทธิ์ในการอยู่คณะเดียวกันจะช่วยได้เยอะ ทำให้เค้า Follow กลับในเวลาทึ่ห่างกันไม่กี่นาที นี่ก็ใจชื้นไปอีก 5555 จากนั้นก็ได้รู้กันเค้ามากขึ้นผ่านไอจีสตอรี่ ฮ่าๆ หรืออาจเป็นเราที่รู้จักมากขึ้นเพราะเราชอบไปกดดูสตอรี่เค้า แรกๆเค้าก็ไม่ค่อยได้เข้ามาดูหรือแทบไม่ดูเลยก็ว่าได้ 55555 เวลาผ่านไปทำให้เราเริ่มรู้จักเค้ามากขึ้น ยิ่งรู้สึกว่าเรามีอะไรที่ชอบเหมือนๆกันอยู่หลายๆเรื่องเลยแหละ เช่น ชอบแมว เล่นกีตาร์ ชอบต้นไม้ (มั้งนะ5555) แล้วจุดเริ่มต้นมันก็มาจากเค้าอัพสตอรี่เกี่ยวกับเล่นกีตาร์นี่แหละ นี่ก็เนียนๆ Reply story ไปคุยเกี่ยวกับกีตาร์นี่แหละ เค้าก็ตอบนะ ตอบน่ารักด้วยอาจเพราะเค้านิสัยน่ารักอยู่แล้วมั้ง และเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น...
.
..
...
เค้ามาดูสตอรี่เรา ฮ่าๆ เย้! แล้วเค้าก็มาดูเรื่อยๆนะ ปริ่มมมมม 5555 เค้าคงเริ่มรู้จักเราบ้างแล้วสินะ เราก็ได้คุยกันบ้างแต่ก็ครั้งละประโยคสองประโยค เราเป็นคนพูดไม่เก่งด้วยแหละ กลัวพิมพ์ไปเยอะแล้วเค้าจะสงสัย เอาพองามก็พอ ฮ่าๆ เค้าก็มี Reply story เราบ้างเหมือนกันนะ คนอะไรน่าตาก็ดีนิสัยก็น่ารัก โง้ยยยย >.<
จนมาช่วงรับปริญญา เรามีของจะให้เค้านะ เก็บไว้ติดตัวอยู่ตลอดกะว่าหาจังหวะดีๆก็จะให้ มาถึงวันที่ซ้อมรับอยู่คณะเราก็นั่งกินข้าวกับเพื่อนที่เล่นด้วยกันปกติ แล้วโต๊ะข้างๆก็เป็นกลุ่มเพื่อนเค้าแล้วอยู่ดีๆเพื่อนคนนึงก็ตะโกนขึ้นเรียกชื่อม.ดังมาก เราเลยหันหน้าไปมอง ในใจคือ ชิปหายยย! เค้าจะเดินมามั้ยวะ มือนี่สั่น เริ่มทำตัวไม่ถูกไม่รู้จะอิ่มเลยดีมั้ย อารมณ์เหมือน puppy love วัยมัธยมอ่ะ 55555 แล้ววันนั้นก็ไม่รู้ว่าเค้าเดินไปที่ไหนต่อนี่ไม่กล้าหันไปมองโต๊ะข้างๆอีก แล้วจังหวะนี้แหละที่ทำให้รู้ว่าเราคงไม่กล้าให้ของที่ตั้งใจจะให้แน่ ฮ่าๆ เก็บไว้ต่อไป...
จนถึงวันรับปริญญา(วันรับจริง) และเป็นวันสุดท้ายที่จะได้เจอกันก่อนที่จะต้องแยกย้ายกันไป ซึ่งถ้าไม่ให้วันนี้ก็ไม่รู้จะมีโอกาสอีกมั้ย เราก็มองหาเค้าตลอดแต่ก็ไม่เจอเลย แล้วสรุปว่าวันนั้นทั้งวันเราก็ไม่ได้เจอกัน ในเย็นวันนั้นเราก็ทักไอจีเค้าไปเลยว่าเสียดายไม่เจอกันเลย ว่าจะขอถ่ายรูปด้วยกัน เค้าก็ตอบนะแต่มีประโยคนึงที่สะกิดใจเรามากๆว่า "มากรุงเทพชวนเที่ยวได้น้า" นี่รีบวางแผนเที่ยวกรุงเทพเลย55555 จริงๆก็ตั้งใจไว้อยู่แล้วด้วยว่าอยากไปเที่ยวที่ไหนสักที่หลังรับปริญญาเสร็จ เราก็ไปส่องไอจีเค้าแหละดูว่าเค้าเคยเช็คอินที่ไหนในกทม. อารมณ์เหมือนตามรอยซีรี่ย์เกาหลีอ่ะ เราก็วางแผนจะเที่ยวโดยที่จะไปถ่ายรูปตรงที่เค้าเคยไป ซึ่งทริปนี้เราตั้งใจว่าจะไปคนเดียว อยากลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง จะลองนั่งเครื่องครั้งแรกในชีวิต 55555 ก็วางแผนจองที่พักจองตัวเครื่องบินอะไรเสร็จเรียบร้อย และวันต่อมา...โควิดจ้าาาาา! -_- สรุปทุกอย่างล่ม ล่มไม่เป็นท่าเลย เฮ้ออออออ..
...ไหนๆก็ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันตอนไหนและอีกเมื่อไหร่ เลยอยากถามคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ว่าเราควรบอกเค้าไปเลยดีมั้ยว่าเรารู้สึกยังไงกับเค้า ใจนึงก็อยากบอก ใจนึงก็กลัวจะเสียความสัมพันธ์นี้ไป แล้วถ้าไม่บอก เราก็คงทำได้แค่คอยมองเค้าอยู่ห่างๆแบบนี้ไปเรื่อยๆ สุดท้ายนี้อยากบอกว่าเรามีของจะให้ม.นะ และเราอยากบอกว่าถ้ามีโอกาสไปถ่ายรูปเล่นด้วยกันนะ ยินดีที่ได้รู้จักกันมากๆ