กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นเตรียมความพร้อมฉีดวัคซีนโรคโควิด-19 ให้ประชาชนทั่วประเทศแบบฟรีทั้งหมด โดยจะจัดสรรตามลำดับความสำคัญ คาดว่าจะเริ่มต้นฉีดได้ราวเดือนมีนาคม 2564
กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่นได้นำเสนอร่างแผนการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ เพื่อให้ทางการจังหวัดและเทศบาลต่าง ๆ เตรียมความพร้อม ตามแผนการนี้แพทย์ พยาบาล และผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขราว 10,000 คนจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับวัคซีนราวปลายเดือนกุมภาพันธ์ ถึงต้นเดือนมีนาคม 2564
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 3 ล้านคนจะได้รับวัคซีนเป็นกลุ่มที่ 2 ประมาณกลางเดือนมีนาคม
กลุ่มต่อมาคือ ผู้สูงอายุสูงอายุ 30-40 ล้านคน จะได้รับบัตรให้ไปฉีดวัคซีนในช่วงปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนเมษายน
ส่วนประชาชนทั่วไปน่าจะสามารถเข้ารับวัคซีนได้ในช่วงเดือนเมษายนหรือหลังจากนั้น โดยจะให้กลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัวได้รับวัคซีนก่อน
กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นมุ่งหวังที่จะฉีดวัคซีนให้ประชาชนทั่วประเทศในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า การฉีดวัคซีนจะไม่มีค่าใช้จ่าย และไม่บังคับให้ต้องฉีด แต่จะพยายามรณรงค์ให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนให้ได้จำนวนมากที่สุด
วัคซีนโควิด-19 ที่แจกจ่ายให้ประชาชนในสหรัฐ
รัฐบาลญี่ปุ่นได้ลงนามในสัญญากับบริษัทยาของต่างประเทศ 3 บริษัท บริษัทเหล่านี้จะส่งมอบวัคซีนให้แก่ญี่ปุ่นหลังจากที่พัฒนาวัคซีนสำเร็จ วัคซีนทุกชนิดจะต้องผ่านการทดสอบทางคลินิกในประเทศญี่ปุ่นก่อน เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีกรณีประชาชนได้รับผลข้างเคียงจากวัคซีนไวรัสตับอักเสบ จนรัฐบาลญี่ปุ่นต้องจ่ายค่าชดเชยจนถึงทุกวันนี้
บริษัทไฟเซอร์ ผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐ เป็นรายแรกที่ได้ยื่นคำร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นรับรองวัคซีนโรคโควิด-19 ของตนสำหรับใช้ในญี่ปุ่นเมื่อวันศุกร์ที่ 18 ธ.ค. โดยได้ร้องขอให้มีการรับรองด้วยกระบวนการทางลัด ซึ่งมีขั้นตอนน้อยกว่าการพิจารณาคัดกรองโดยทั่วไป
วัคซีนนี้พัฒนาโดยไฟเซอร์ร่วมกับไบออนเทค บริษัทของเยอรมนี ได้เริ่มใช้ในสหรัฐและอังกฤษแล้ว ไฟเซอร์กล่าวว่าวัคซีนของตนมีอัตราประสิทธิภาพถึงร้อยละ 95 โดยอ้างอิงการวิเคราะห์ผลการทดสอบทางคลินิกในหลายที่ทั่วโลก
รัฐบาลญี่ปุ่นได้ทำข้อตกลงกับไฟเซอร์ว่าจะจัดหาวัคซีนที่เพียงพอสำหรับผู้คน 60 ล้านคนภายในสิ้นเดือนมิถุนายนปีหน้า ทั้งนี้ วัคซีนนี้ได้ดำเนินการทดสอบทางคลินิกในญี่ปุ่นมาตั้งแต่เดือนตุลาคม
กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นมีแผนจะพิจารณาโดยใช้ผลการประเมินของทางกระทรวง ทั้งในด้านประสิทธิภาพ และความปลอดภัยของวัคซีน คาดว่าหากพิจารณาเร่งด่วนอาจจะอนุมัติวัคซีนได้ได้ภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2564.
เครดิตคลิปจาก ANNnewsCH
ข่าวจาก : MGR Online
“ญี่ปุ่น” เตรียมฉีด “วัคซีนโควิด” ให้ประชาชน เริ่มมีนาคม ปีหน้า
กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่นได้นำเสนอร่างแผนการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ เพื่อให้ทางการจังหวัดและเทศบาลต่าง ๆ เตรียมความพร้อม ตามแผนการนี้แพทย์ พยาบาล และผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขราว 10,000 คนจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับวัคซีนราวปลายเดือนกุมภาพันธ์ ถึงต้นเดือนมีนาคม 2564
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 3 ล้านคนจะได้รับวัคซีนเป็นกลุ่มที่ 2 ประมาณกลางเดือนมีนาคม
กลุ่มต่อมาคือ ผู้สูงอายุสูงอายุ 30-40 ล้านคน จะได้รับบัตรให้ไปฉีดวัคซีนในช่วงปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนเมษายน
ส่วนประชาชนทั่วไปน่าจะสามารถเข้ารับวัคซีนได้ในช่วงเดือนเมษายนหรือหลังจากนั้น โดยจะให้กลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัวได้รับวัคซีนก่อน
กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นมุ่งหวังที่จะฉีดวัคซีนให้ประชาชนทั่วประเทศในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า การฉีดวัคซีนจะไม่มีค่าใช้จ่าย และไม่บังคับให้ต้องฉีด แต่จะพยายามรณรงค์ให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนให้ได้จำนวนมากที่สุด
วัคซีนโควิด-19 ที่แจกจ่ายให้ประชาชนในสหรัฐ
รัฐบาลญี่ปุ่นได้ลงนามในสัญญากับบริษัทยาของต่างประเทศ 3 บริษัท บริษัทเหล่านี้จะส่งมอบวัคซีนให้แก่ญี่ปุ่นหลังจากที่พัฒนาวัคซีนสำเร็จ วัคซีนทุกชนิดจะต้องผ่านการทดสอบทางคลินิกในประเทศญี่ปุ่นก่อน เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีกรณีประชาชนได้รับผลข้างเคียงจากวัคซีนไวรัสตับอักเสบ จนรัฐบาลญี่ปุ่นต้องจ่ายค่าชดเชยจนถึงทุกวันนี้
บริษัทไฟเซอร์ ผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐ เป็นรายแรกที่ได้ยื่นคำร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นรับรองวัคซีนโรคโควิด-19 ของตนสำหรับใช้ในญี่ปุ่นเมื่อวันศุกร์ที่ 18 ธ.ค. โดยได้ร้องขอให้มีการรับรองด้วยกระบวนการทางลัด ซึ่งมีขั้นตอนน้อยกว่าการพิจารณาคัดกรองโดยทั่วไป
วัคซีนนี้พัฒนาโดยไฟเซอร์ร่วมกับไบออนเทค บริษัทของเยอรมนี ได้เริ่มใช้ในสหรัฐและอังกฤษแล้ว ไฟเซอร์กล่าวว่าวัคซีนของตนมีอัตราประสิทธิภาพถึงร้อยละ 95 โดยอ้างอิงการวิเคราะห์ผลการทดสอบทางคลินิกในหลายที่ทั่วโลก
รัฐบาลญี่ปุ่นได้ทำข้อตกลงกับไฟเซอร์ว่าจะจัดหาวัคซีนที่เพียงพอสำหรับผู้คน 60 ล้านคนภายในสิ้นเดือนมิถุนายนปีหน้า ทั้งนี้ วัคซีนนี้ได้ดำเนินการทดสอบทางคลินิกในญี่ปุ่นมาตั้งแต่เดือนตุลาคม
กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นมีแผนจะพิจารณาโดยใช้ผลการประเมินของทางกระทรวง ทั้งในด้านประสิทธิภาพ และความปลอดภัยของวัคซีน คาดว่าหากพิจารณาเร่งด่วนอาจจะอนุมัติวัคซีนได้ได้ภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2564.