JJNY : 'เราพลาดไม่ได้อีกต่อไป'คุณหญิงสุดารัตน์ย้ำ/หุ้นไทยเช้าดิ่งแรง54.56จุด/แม่สอดผวา/สุพรรณฯพบป่วย/สระบุรี3ราย/เลยผวา

'เราพลาดไม่ได้อีกต่อไป' คุณหญิงสุดารัตน์ย้ำแนวทางแก้ปัญหาโควิด-19 ระบาด
https://voicetv.co.th/read/FvFU0rwa7

 
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ระบุ 3 มาตรการที่ต้องทำรับมือการระบาดโควิด-19 "รวดเร็ว เร่งด่วน รัดกุม"
 
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า 
 
เราพลาดไม่ได้อีกต่อไปแล้ว” 3 มาตรการที่ต้องรวดเร็ว เร่งด่วน รัดกุม เพื่อรับมือการระบาดโควิด-19 รอบใหม่ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรสาคร ที่เวลานี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมเป็นตัวเลขที่พุ่งสูงไปแตะ 600 กว่ารายแล้วนั้น
 
ดิฉันได้เคยเตือนผ่านเฟซบุ๊กตั้งแต่ 8 กย. ว่าให้ระวังและคุมเข้มชายแดนด้านตะวันออกให้เข้มแข็ง เพราะตัวเลข ผู้ติดเชื้อในประเทศอินเดียพุ่งขึ้นสูงมาก ซึ่งจะกระทบถึงประเทศเมียนม่าแน่นอน จึงต้องเข้มงวดในการตรวจตราผู้ใช้แรงงานที่ข้ามแดนมาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างจริงจังปรากฏว่าก็เป็นไปตามที่ดิฉันเตือน ในที่สุดการระบาดก็กลับมารุนแรงอีกครั้งจากแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าไทย
 
ทั้งหมดนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความบกพร่องของมาตรการในการป้องกันโรค โดยเฉพาะการตรวจตรา “ชายแดน” ที่มีการตั้งข้อสังเกตและมีข้อมูลว่าเกิดการทุจริตในการจัดเก็บหัวคิว โดยปล่อยให้แรงงานเพื่อนบ้านสามารถข้ามแดนมาได้โดยที่ไม่ต้องมีการตรวจโรค และการกักตัว 14วัน
 
ดิฉันขอบอกอย่างตรงไปตรงมาว่า 
 
เราพลาดไม่ได้อีกต่อไปแล้ว” จึงขอเสนอ 3 มาตรการเร่งด่วนที่ต้องทำทันที ทำให้เร็วอย่างเข้มข้น และรัดกุมมากที่สุด
 
1. “ล็อกดาวน์จริงจัง ป้องกันการแพร่ข้ามอำเภอ ข้ามจังหวัด”
 
ไม่ใช่เพียงการห้ามแรงงานเพื่อนบ้านเคลื่อนย้ายเข้าหรือออกจังหวัดสมุทรสาคร แต่ต้องห้ามประชาชนในพื้นที่เสี่ยงและมีการแพร่ระบาดไม่ให้ออกนอกพื้นที่เด็ดขาด ด้วยการล็อกดาวน์พื้นที่ย่อยในระดับอำเภอไม่ให้การแพร่ระบาดขยายข้ามเขตอำเภอ และป้องกันไม่ให้ขยายข้ามจังหวัด
 
ต่อมาต้องปูพรมตรวจหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งแรงงานและประชาชนที่มีความเสี่ยง เพื่อยับยั้งการแพร่เชื้อให้ได้เร็วที่สุด
 
ภาครัฐต้องสนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น รวมถึงงบประมาณแก่เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหา อย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์
 
ต้องไม่ปล่อยให้โรงพยาบาลต้องออกมาขอรับบริจาคอย่างในขณะนี้ ทั้งที่รัฐบาลมีงบกลางเป็นแสนล้าน รวมทั้งมีงบประมาณที่กู้มาหลายแสนล้าน 
 
2. “เข้มข้นตรวจตรา เฝ้าระวังชายแดน” 
 
ทั้งแนวชายแดนด้านตะวันตก และแนวชายแดนด้านตะวันออก โดยเฉพาะด้านตะวันตก ต้องให้เข้มข้น รัดกุม กำลังทหาร ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ต้องเสริมเข้ามาในพื้นที่และปฏิบัติการตรวจตราให้เข้มข้น ป้องกันการลักลอบเข้าเมือง รวมทั้งต้องเสริมกำลังเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตามแนวชายแดนในการคัดกรอง ตรวจหาเชื้อ อย่างเต็มกำลัง รวมถึงมีการกักตัวแรงงาน และคนไทย เป็นเวลา 14 วัน ด้วยการเตรียมพร้อมสถานที่กักกัน ก่อนให้ผ่านแดนออกมาสู่ชุมชนภายในประเทศไทย
 
3. “ปูพรมตรวจเชื้อทุกจังหวัด” 
 
เร่งปูพรมตรวจเชื้อเป็นการเร่งด่วน ในจังหวัดที่มีแรงงานเพื่อนบ้านเข้าไปทำงานเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงในระยะนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องจัดให้มีการปูพรมตรวจหาเชื้อเชิงรุก รวมถึงมีแผนการควบคุมและจัดการพื้นที่ในแต่ละจังหวัดอย่างเคร่งครัด
 
ดิฉันขอเรียนย้ำอีกครั้งว่า “เราพลาดไม่ได้อีกต่อไปแล้ว” 
  
https://www.facebook.com/241115389300595/posts/3572278756184225/
  

 
พิษโควิด19 สมุทรสาคร ทุบหุ้นไทย เปิดตลาดเช้าดิ่งแรง 54.56 จุด
https://www.matichon.co.th/economy/news_2494146
 
พิษโควิด-19 สมุทรสาคร ทุบหุ้นไทย เปิดตลาดเช้าดิ่งแรง 54.56 จุด
 
วันที่ 21 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นไทยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,482.38 จุด เคลื่อนไหวในแดนลบที่ระดับ 1,427.82 จุด ปรับลดลง 54.56 จุด หรือ 2.85% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ 1,441.63 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,427.82 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 21,974.61 ล้านบาท
 
โดยนางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย เปิดตลาดในภาคเช้า คาดว่าดัชนีหุ้นไทยจะปรับตัวลงแรง เนื่องจากประเด็นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรสาคร หลังจากกรณีเจ้าของแพปลา ในตลาดกลางกุ้งติดเชื้อโควิด-19 จนทำให้มีผู้ติดเชื้อล่าสุดแล้วมากกว่า 600 ราย ส่งผลให้เกิดการล็อกดาวน์ทั้งจังหวัดขึ้น โดยนักลงทุนยังต้องติดตามจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างใกล้ชิด ทำให้คาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,450-1,465 จุด
 

 
แม่สอดผวาซ้ำ พบแคชเชียร์สาวพม่าติดโควิด สธ.ต้องลงพื้นที่พ่นยาฆ่าเชื้อ
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1998611
 
แม่สอดผวาซ้ำ พบแคชเชียร์สาวพม่าทำงานในซุปเปอร์มาร์เก็ตติดโควิด-19 ถูกนำส่ง รพ.แม่สอด พร้อมสอบสวนพนักงาน เจ้าของห้าง รวมทั้งมีการกักตัวผู้ที่มีความเสี่ยง ก่อนนำ จนท.สธ. อสม.ทำการพ่นยาฆ่าเชื้อ
 
เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแม่สอด อ.แม่สอด จังหวัดตาก ได้ไปตรวจสอบซุปเปอร์มาร์เก็ตชื่อดังแห่งหนึ่งของอำเภอแม่สอด และเป็นที่รู้จักของลูกค้าชาวเมียนมา บนถนนประสาทวิถี ตำบลแม่สอด หลังจากพบว่ามีพนักงานหญิงชาวเมียนมา มีอาการป่วย และพบชื้อโควิด-19 โดยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแม่สอดได้ทำการสอบสวนพนักงานในห้าง และเจ้าของห้าง ซึ่งจะต้องมีการให้กักตัวผู้มีความเสี่ยงมาก และน้อยของในบ้านและนอกบ้านต่อไป
 
โดยเมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแม่สอด เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ อสม. ได้ทำการพ่นยาฆ่าเชื้อห้างดังกล่าวรวมทั้งบริเวณใกล้เคียง สำหรับพนักงานเคาน์เตอร์รายนี้จะสัมผัสลูกค้ามาก เพราะเป็นผู้ตรวจสอบสินค้า และรับเงิน ทอนเงิน ซึ่งวันนี้ทางห้างดังกล่าวมีการปิด 1 วันเพื่อทำความสะอาด สำหรับพนักงานหญิงชาวเมียนมาได้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแม่สอดแล้ว
 
ขณะที่ชาวบ้านร้านค้าต่างๆ ที่ ทำมาค้าขายอยู่บริเวณหน้าตลาดสดนครแม่สอด ห่างห้างที่พนักงานติดเชื้อเพียง 20 เมตร ต่างบอกว่าโรคมาใกล้ตัวแล้วน่ากลัวมากๆ หยุดก็ไม่ได้เพราะต้องทำมาหากิน ขณะที่วินมอเตอร์ไซค์ บอกว่าช่วงนี้หากินลำบาก ลูกค้าไม่ค่อยมี เจอโควิดอีกย่ำแย่มากๆ.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่