สวัสดีครับ
ผมไปเสี่ยงมาเป็น ช-ญ แบบช่องคลอดปกติแล้วถุงแตกรู้ตัวตอนเสร็จแล้วดึงออกมาเมื่อวันที่ 21 พย จากนั้นก็รีบหาข้อมูลในเน็ตเพื่อไปหาหมอแล้วกินยาต้านฉุกเฉินมาครับ กินยาต้านหลังเกิดเหตุ 7-8 ชั่วโมง บอกเลยว่าตอนนั้นหลอนมาก นี่ทนกินยามา 29 วัน จนวันนี้ไปตรวจ
น้ำยา Gen 4 ผลเลือด ปกติ ครับ ที่เหลือก็คือรอเช็คคอนเฟริ์ม 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี แล้วก็พวกโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆครับ
ผมเลยอยากมาแชร์ข้อมูลให้ทุกท่านครับ เรื่องกินยา เพราะตลอดหนึ่งเดือนที่เข้ามาอ่านๆข้อมูล
อยากบอกท่านที่เสี่ยงมาแล้วเข้ามาถามตลอดว่าเสี่ยงมาทำยังไงดี ผมขอให้ทุกท่านไปหาหมอแล้วก็กินยาต้านฉุกเฉินเถอะครับ
ขอแค่
1.กินตรงเวลาทุกวัน
2.กินครบทุกวัน(ครบโดส)
3.ไม่เสี่ยงเพิ่ม
โอกาสรอดก็สูงแล้วครับ ผมทนกินยามา 28 วันยังเหนื่อยทั้งกายและใจมากๆ อยากให้คนที่ไปเสี่ยงมาแล้วเกิดอุบัติเหตุกินยากันไว้ดีกว่าครับ
ไม่งั้นถ้า หนึ่งในหมื่น หรือ หนึ่งในล้าน เกิดติดขึ้นมา ต้องกินตลอดชีวิตขึ้นมาจะยุ่งยากกว่าครับ
แถมค่าใช้จ่ายในการตรวจและกินยาแค่เดือนเดียวถูกกว่าตลอดชีวิตแน่นอนรวมถึงค่าเสียโอกาสอื่นๆด้วยครับ
ผลกระทบจากยาและพวกข้อมูลอื่นๆ คิดว่าเผื่อเป็นประโยชน์ใช้อ้างอิงนะครับ
1. อาการมึน พะอืดพะอม จากการกินยาต้านฉุกเฉิน
อันนี้ผมคิดว่ากินตอนก่อนนอนน่าจะดีกว่าครับ เพราะว่าถ้ากินตอนเช้าหรือเที่ยง ผมคิดว่าทำงานหรือขับรถไปทำงานลำบากแน่ ส่วนตัวผมกินตอนเที่ยงตรงครับ มาคิดๆดูแล้วน่าจะกินก่อนนอนแล้วก็หลับไปเลย แถมกินหลังอาหารอาจจะทำให้อาเจียนยาออกมาได้ครับ ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ซื้อพวกลูกอมเปรี้ยวๆหวานๆ อย่างฮอล์ salt ดูครับ แก้พะอืดพะอมได้ดีมาก หลายคนอาจจะหายหรือดีขึ้นในไม่กี่วันแต่ผมก็อาการระยะนึงเลยครับ
2. อาหารในกระเพาะ
อันนี้หมอที่จ่ายยาบอกว่าให้กินหลังอาหารทันที แต่หาในเน็ตก็คือขอให้มีอาหารจะช่วยในการดูดซึมยา ผมที่มีอาหารพะอืดพะอมเพราะยาและเครียด ก็เลยมีกินยาหลังอาหาร 5-15 นาทีบ้าง กินอาหารเสร็จแล้วก็กินตามทันทีแล้วก็กินอาหารตามไปบ้างครับ (เพราะว่ากลัวเรื่องไม่ตรงเวลากับอาเจียนเอายาออกมาด้วยเลยไม่นิ่ง) แต่ถ้าคุณกินไม่มีปัญหาก็ไม่ตามที่หมอบอกเลยก็ได้ครับ
3. อาการที่ร่างกายแสดงเหมือนเป็นระยะเฉียบพลัน(ช่วง 2-4 สัปดาห์หลังเสี่ยง)
อันนี้ผมโทรปรึกษาหมอและ 1663(ปรึกษาเรื่องเอดส์) รวมถึงคลินิกนิรนามครับ เพราะว่ามีทั้งลิ้นเป็นฝ้า ร้อนใน น้ำหนักลด อีกฝ่ายก็บอกว่าถ้ากินยาต้านอยู่สาเหตุน่าจะมาจากปัจจัยอื่นครับ และบอกให้ผมกินยาให้ครบและตรงเวลาต่อไปห้ามหยุด พอมาใจเย็นๆคิดแล้วก็คือผมคงเครียดเลยนอนน้อยเลยเป็นร้อนใน ส่วนลิ้นเป็นฝ้าก็คือเวลาแปรงฟันบางทีก็ลืมแปรงลิ้น น้ำหนักลดก็จากเครียดครับ นอนไม่หลับ กินไม่ลงน้ำหนักก็ลงมา 1-2 กิโลกรัมครับ
4. ความเครียด ความกังวล
อันนี้ผมคิดว่าทุกคนเป็นแน่นอนครับ หลังกินยา วันที่ 5-6,10-12, 17-18 ผมจะเครียดมากครับ คิดมาก คิดนู่น นี่ นั่น คิดว่าถ้าติดจะทำยังไง จะบอกที่บ้านยังไง เอาเป็นว่าปกติเป็นคนวิตกจริตอยู่แล้วก็คิดมากทวีคูณครับ เลยพยายามทำงานให้ยุ่ง หรือหาอะไรทำ ดูหนัง ฟังเพลงพวกบรรเลงตาม youtube ฯลฯ ครับ พยายามให้เวลามันผ่านไปเร็วๆ 28 วัน การจัดการอารมณ์ผมว่าเป็นอะไรทียากที่สุดครับ เข้ามาอ่านบอร์ดนี้ก็เยอะ นั่งอ่านข้อมูลย้อนไปถึงปี 2557 เลยครับ
สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณ ทั้งคุณหมอ เจ้าหน้าที่คลินิกนิรนาม เจ้าหน้าที่ 1663 รวมถึงหลายท่านในบอร์ดนี้มากครับ แม้จะไม่เคยเจอหน้ากันแต่ก็ให้ข้อมูลอ้างอิง หรือสถิติต่างๆมา และที่ประทับใจที่สุดก็คือในช่วง 29 วัน ที่ผมเข้ามาอ่านในบอร์ดนี้ ผมเจอมิตรภาพที่ดีมากครับ คนที่เข้ามาให้กำลังใจคนที่ติดเขื้อ คนที่พยายามช่วยเหลือให้ข้อมูลเรื่องยาต้าน เรื่องการดูแลสุขภาพต่างๆ เมื่อก่อน สมัยผมเรียนมัธยม คนที่ติดเชื้อคือรอตรวจ 3 เดือนอย่างเดียวยาต้านหรืออะไรก็ไม่มี พอมาตอนนี้ผมอยากบอกว่าการแพทย์และวิทยาศาสตร์พัฒนามามากขนาดนี้แล้วดังนั้นคนที่กินยาอยู่ ก็พยายามเข้าครับ อนาคตต้องมีพวกยาที่รักษาหายขาดได้แน่ครับ ขอให้ทุกท่านแข็งแรงทั้งสุขภาพกายและใจนะครับ
ถุงแตก กินยาต้าน ผลตรวจเป็นลบ
ผมไปเสี่ยงมาเป็น ช-ญ แบบช่องคลอดปกติแล้วถุงแตกรู้ตัวตอนเสร็จแล้วดึงออกมาเมื่อวันที่ 21 พย จากนั้นก็รีบหาข้อมูลในเน็ตเพื่อไปหาหมอแล้วกินยาต้านฉุกเฉินมาครับ กินยาต้านหลังเกิดเหตุ 7-8 ชั่วโมง บอกเลยว่าตอนนั้นหลอนมาก นี่ทนกินยามา 29 วัน จนวันนี้ไปตรวจ
น้ำยา Gen 4 ผลเลือด ปกติ ครับ ที่เหลือก็คือรอเช็คคอนเฟริ์ม 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี แล้วก็พวกโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆครับ
ผมเลยอยากมาแชร์ข้อมูลให้ทุกท่านครับ เรื่องกินยา เพราะตลอดหนึ่งเดือนที่เข้ามาอ่านๆข้อมูล
อยากบอกท่านที่เสี่ยงมาแล้วเข้ามาถามตลอดว่าเสี่ยงมาทำยังไงดี ผมขอให้ทุกท่านไปหาหมอแล้วก็กินยาต้านฉุกเฉินเถอะครับ
ขอแค่
1.กินตรงเวลาทุกวัน
2.กินครบทุกวัน(ครบโดส)
3.ไม่เสี่ยงเพิ่ม
โอกาสรอดก็สูงแล้วครับ ผมทนกินยามา 28 วันยังเหนื่อยทั้งกายและใจมากๆ อยากให้คนที่ไปเสี่ยงมาแล้วเกิดอุบัติเหตุกินยากันไว้ดีกว่าครับ
ไม่งั้นถ้า หนึ่งในหมื่น หรือ หนึ่งในล้าน เกิดติดขึ้นมา ต้องกินตลอดชีวิตขึ้นมาจะยุ่งยากกว่าครับ
แถมค่าใช้จ่ายในการตรวจและกินยาแค่เดือนเดียวถูกกว่าตลอดชีวิตแน่นอนรวมถึงค่าเสียโอกาสอื่นๆด้วยครับ
ผลกระทบจากยาและพวกข้อมูลอื่นๆ คิดว่าเผื่อเป็นประโยชน์ใช้อ้างอิงนะครับ
1. อาการมึน พะอืดพะอม จากการกินยาต้านฉุกเฉิน
อันนี้ผมคิดว่ากินตอนก่อนนอนน่าจะดีกว่าครับ เพราะว่าถ้ากินตอนเช้าหรือเที่ยง ผมคิดว่าทำงานหรือขับรถไปทำงานลำบากแน่ ส่วนตัวผมกินตอนเที่ยงตรงครับ มาคิดๆดูแล้วน่าจะกินก่อนนอนแล้วก็หลับไปเลย แถมกินหลังอาหารอาจจะทำให้อาเจียนยาออกมาได้ครับ ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ซื้อพวกลูกอมเปรี้ยวๆหวานๆ อย่างฮอล์ salt ดูครับ แก้พะอืดพะอมได้ดีมาก หลายคนอาจจะหายหรือดีขึ้นในไม่กี่วันแต่ผมก็อาการระยะนึงเลยครับ
2. อาหารในกระเพาะ
อันนี้หมอที่จ่ายยาบอกว่าให้กินหลังอาหารทันที แต่หาในเน็ตก็คือขอให้มีอาหารจะช่วยในการดูดซึมยา ผมที่มีอาหารพะอืดพะอมเพราะยาและเครียด ก็เลยมีกินยาหลังอาหาร 5-15 นาทีบ้าง กินอาหารเสร็จแล้วก็กินตามทันทีแล้วก็กินอาหารตามไปบ้างครับ (เพราะว่ากลัวเรื่องไม่ตรงเวลากับอาเจียนเอายาออกมาด้วยเลยไม่นิ่ง) แต่ถ้าคุณกินไม่มีปัญหาก็ไม่ตามที่หมอบอกเลยก็ได้ครับ
3. อาการที่ร่างกายแสดงเหมือนเป็นระยะเฉียบพลัน(ช่วง 2-4 สัปดาห์หลังเสี่ยง)
อันนี้ผมโทรปรึกษาหมอและ 1663(ปรึกษาเรื่องเอดส์) รวมถึงคลินิกนิรนามครับ เพราะว่ามีทั้งลิ้นเป็นฝ้า ร้อนใน น้ำหนักลด อีกฝ่ายก็บอกว่าถ้ากินยาต้านอยู่สาเหตุน่าจะมาจากปัจจัยอื่นครับ และบอกให้ผมกินยาให้ครบและตรงเวลาต่อไปห้ามหยุด พอมาใจเย็นๆคิดแล้วก็คือผมคงเครียดเลยนอนน้อยเลยเป็นร้อนใน ส่วนลิ้นเป็นฝ้าก็คือเวลาแปรงฟันบางทีก็ลืมแปรงลิ้น น้ำหนักลดก็จากเครียดครับ นอนไม่หลับ กินไม่ลงน้ำหนักก็ลงมา 1-2 กิโลกรัมครับ
4. ความเครียด ความกังวล
อันนี้ผมคิดว่าทุกคนเป็นแน่นอนครับ หลังกินยา วันที่ 5-6,10-12, 17-18 ผมจะเครียดมากครับ คิดมาก คิดนู่น นี่ นั่น คิดว่าถ้าติดจะทำยังไง จะบอกที่บ้านยังไง เอาเป็นว่าปกติเป็นคนวิตกจริตอยู่แล้วก็คิดมากทวีคูณครับ เลยพยายามทำงานให้ยุ่ง หรือหาอะไรทำ ดูหนัง ฟังเพลงพวกบรรเลงตาม youtube ฯลฯ ครับ พยายามให้เวลามันผ่านไปเร็วๆ 28 วัน การจัดการอารมณ์ผมว่าเป็นอะไรทียากที่สุดครับ เข้ามาอ่านบอร์ดนี้ก็เยอะ นั่งอ่านข้อมูลย้อนไปถึงปี 2557 เลยครับ
สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณ ทั้งคุณหมอ เจ้าหน้าที่คลินิกนิรนาม เจ้าหน้าที่ 1663 รวมถึงหลายท่านในบอร์ดนี้มากครับ แม้จะไม่เคยเจอหน้ากันแต่ก็ให้ข้อมูลอ้างอิง หรือสถิติต่างๆมา และที่ประทับใจที่สุดก็คือในช่วง 29 วัน ที่ผมเข้ามาอ่านในบอร์ดนี้ ผมเจอมิตรภาพที่ดีมากครับ คนที่เข้ามาให้กำลังใจคนที่ติดเขื้อ คนที่พยายามช่วยเหลือให้ข้อมูลเรื่องยาต้าน เรื่องการดูแลสุขภาพต่างๆ เมื่อก่อน สมัยผมเรียนมัธยม คนที่ติดเชื้อคือรอตรวจ 3 เดือนอย่างเดียวยาต้านหรืออะไรก็ไม่มี พอมาตอนนี้ผมอยากบอกว่าการแพทย์และวิทยาศาสตร์พัฒนามามากขนาดนี้แล้วดังนั้นคนที่กินยาอยู่ ก็พยายามเข้าครับ อนาคตต้องมีพวกยาที่รักษาหายขาดได้แน่ครับ ขอให้ทุกท่านแข็งแรงทั้งสุขภาพกายและใจนะครับ