แต่ผมก็ไม่อยากให้คนไทยที่มีสื่อในมือทุกท่าน รวมถึงสื่อข่าวหลักทางทีวี และออนไลท์ทั้งหลายด้วยกันปั่นความกลัวกันเอง
ไม่อยากให้กังวลกันจนประสาทเสียเหมือนรอบก่อนๆ
โอเค มันต้องระวัง แต่ตอนนี้ที่เห็นที่พบวันนี้คือ เริ่มเกิดกระแสกักตุนหน้ากากกันแล้ว
อาทิตย์ก่อนยังเห็นมาวางขายลดราคาหน้าร้านอยู่เลย วันนี้เริ่มกลายเป็นของแรร์ไอเทมแล้ว
ก็เหมือนเดิมในช่วงโควิดรอบก่อน อยากให้ทุกท่านตระหนักแต่ไม่ตระหนก ใช้ชีวิตตามปกติ การ์ดไม่ตก ก็น่าจะโอเคแล้ว
แต่ช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ผมสังเกตุได้จากช่วงหยุดยาว ถ้าเป็นช่วงที่ปั่นโควิดจนกลัว จ.ที่มีความเสี่ยงเกิดการติดเชื้อ
ใครที่ไปเที่ยวจ.นั้นมา ต้องกักตัวเองอยู่บ้าน เพราะถือว่ามีความเสี่ยง ก็ไม่เห็นมีการพูดถึงกรณีนี้
ที่บอกว่า ไม่พูดถึง เพราะก็เห็นหลายๆครอบครัวไปเที่ยวกันมา เด็กๆก็ยังไปเรียนปกติ
เรียกว่า การ์ดตกไปกันพอควร อันนี้อะต้องกลับมาตั้งการ์ดให้ดี
สิ่งที่ไม่อยากเห็นคือปั่นกันจนกลัวเกินไป จนเศรษฐกิจกลับมาพังอีกรอบ
รอบนี้เกรงจะหนักเกิน เพราะรู้สึก Q4 คนไทยจะติด top spender กันพอสมควร
ส่วนตัวคิดว่า การก่อหนี้ของคนไทยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาน่าจะเพิ่มขึ้นจากบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
ถ้าสถานการณ์กลับไปเหมือนครึ่งปีแรก มันคงไม่ค่อยดีเท่าไร เพราะลำพังไม่มีเรื่องโควิด
ความเสี่ยงหนี้ครัวเรือนก็สูงอยู่แล้ว และการพยายามกระตุ้นการบริโภคในช่วง 2-3 เดือนหลังก็น่าจะทำให้เกิดการก่อหนี้มากขึ้น
ส่วนตัวที่ไม่พูดให้ระวังการใช้จ่ายในช่วงที่ผ่านมาเพราะของมันจำเป็นเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจฝืดไปมากกว่านี้
แต่ตอนนี้ที่ต้องออกมาพูดดักบรรดาสื่อหลัก และสื่อในมือทุกคนไว้ก่อนก็เพราะไม่อยากส่งต่อความกลัวกันจนเกินไป
ส่วนตลาดหุ้น มันไม่ได้มีอะไรมากกว่า"หาเรื่องจะลง"อยู่แล้ว
แน่นอนไม่ใช่แค่บ้านเรา มันจะลงกันทั้งโลกอะแหละ แต่จะลงน้อยลงมากก็แล้วแต่ปัจจัยของแต่ละประเทศ
บ้านเราชอบเล่นแบบขึ้นให้สุด ลงให้มิดก็ว่ากันไป อาจจะเพราะมี dw มากละมั้งฮะ ตลาดเลยมีลักษณะการเก็งกำไรเยอะ
ถึงผมจะมองตลาดไม่ดี ไม่เพ้อไป 1800
ไม่อยากให้กังวลกันจนประสาทเสียเหมือนรอบก่อนๆ
โอเค มันต้องระวัง แต่ตอนนี้ที่เห็นที่พบวันนี้คือ เริ่มเกิดกระแสกักตุนหน้ากากกันแล้ว
อาทิตย์ก่อนยังเห็นมาวางขายลดราคาหน้าร้านอยู่เลย วันนี้เริ่มกลายเป็นของแรร์ไอเทมแล้ว
ก็เหมือนเดิมในช่วงโควิดรอบก่อน อยากให้ทุกท่านตระหนักแต่ไม่ตระหนก ใช้ชีวิตตามปกติ การ์ดไม่ตก ก็น่าจะโอเคแล้ว
แต่ช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ผมสังเกตุได้จากช่วงหยุดยาว ถ้าเป็นช่วงที่ปั่นโควิดจนกลัว จ.ที่มีความเสี่ยงเกิดการติดเชื้อ
ใครที่ไปเที่ยวจ.นั้นมา ต้องกักตัวเองอยู่บ้าน เพราะถือว่ามีความเสี่ยง ก็ไม่เห็นมีการพูดถึงกรณีนี้
ที่บอกว่า ไม่พูดถึง เพราะก็เห็นหลายๆครอบครัวไปเที่ยวกันมา เด็กๆก็ยังไปเรียนปกติ
เรียกว่า การ์ดตกไปกันพอควร อันนี้อะต้องกลับมาตั้งการ์ดให้ดี
สิ่งที่ไม่อยากเห็นคือปั่นกันจนกลัวเกินไป จนเศรษฐกิจกลับมาพังอีกรอบ
รอบนี้เกรงจะหนักเกิน เพราะรู้สึก Q4 คนไทยจะติด top spender กันพอสมควร
ส่วนตัวคิดว่า การก่อหนี้ของคนไทยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาน่าจะเพิ่มขึ้นจากบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
ถ้าสถานการณ์กลับไปเหมือนครึ่งปีแรก มันคงไม่ค่อยดีเท่าไร เพราะลำพังไม่มีเรื่องโควิด
ความเสี่ยงหนี้ครัวเรือนก็สูงอยู่แล้ว และการพยายามกระตุ้นการบริโภคในช่วง 2-3 เดือนหลังก็น่าจะทำให้เกิดการก่อหนี้มากขึ้น
ส่วนตัวที่ไม่พูดให้ระวังการใช้จ่ายในช่วงที่ผ่านมาเพราะของมันจำเป็นเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจฝืดไปมากกว่านี้
แต่ตอนนี้ที่ต้องออกมาพูดดักบรรดาสื่อหลัก และสื่อในมือทุกคนไว้ก่อนก็เพราะไม่อยากส่งต่อความกลัวกันจนเกินไป
ส่วนตลาดหุ้น มันไม่ได้มีอะไรมากกว่า"หาเรื่องจะลง"อยู่แล้ว
แน่นอนไม่ใช่แค่บ้านเรา มันจะลงกันทั้งโลกอะแหละ แต่จะลงน้อยลงมากก็แล้วแต่ปัจจัยของแต่ละประเทศ
บ้านเราชอบเล่นแบบขึ้นให้สุด ลงให้มิดก็ว่ากันไป อาจจะเพราะมี dw มากละมั้งฮะ ตลาดเลยมีลักษณะการเก็งกำไรเยอะ