สวัสดีค่า จบจากกระทู้ก่อนครีมอาบน้ำกลิ่นพีช กลับมาครั้งนี้เรายังคงคอนเซปกับรีวิวของใช้ใกล้ตัวในบ้านที่เราใช้อยู่แล้วและมีซื้อเพิ่มมาเองบ้าง และมาคราวนี้เรามารีวิวโลชั่นสูตรซากุระจ้า (เพราะคิดถึงซากุระมากกก ปีนี้อดไปญี่ปุ่น T^T)
 
ก่อนจะเข้าสู่รีวิววันนี้เรามาทำความรู้จักซากุระให้มากขึ้นกันดีกว่า ประโยชน์ทางด้านความงามของสารที่สกัดได้จากดอกซากุระ มีประโยชน์ในการช่วยบำรุง ยับยั้งการทำลายคอลลาเจนในชั้นผิว และยังมีฤทธิ์ในการควบคุมการสร้างเมลานินในชั้นผิว จริงๆ คือมีอีกเยอะเลยจ้า แต่จากที่เราอ่านมามีเป็นวิจัยจริงจัง และทุกงานวิจัยคือสรุปได้เลยว่าสารที่สกัดออกมาจากจากดอกซากุระมีประโยชน์กับผิวมากจริงๆ ส่วนเรื่องของกลิ่นซากุระเราต้องบอกเลยว่ามันมีกลิ่นแค่ต้นซากุระบางพันธุ์และถึงมีก็น้อยมากๆ ทำให้สินค้าส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็น โลชั่น, ครีมอาบน้ำ ที่เราเห็นขายๆ กันในห้าง เป็นกลิ่นสังเคราะห์ทั้งนั้นค่า เพราะการสกัดกลิ่นจากตัวดอกไม้เลยต้นทุนน่าจะสูงทำให้เกิดการเลียนแบบกลิ่นขึ้นมาแทนจ้า

อ่านมาถึงตรงนี้ต้องบอกเพื่อนๆ ก่อนว่าเราเลือกสูตรซากุระมารีวิวเพราะไม่ค่อยเห็นใครรีวิวและเอาเข้าจริงๆ โลชั่นสูตรที่สารสกัดจากซากุระมีไม่เยอะ ที่เหลือจะเป็นแต่งกลิ่นเลียนแบบเฉยๆ เราเลยเลือกโลชั่นที่เราใช้อยู่และซื้อมาเพิ่มแล้วลองใช้มาระยะนึงมาทำเป็นรีวิวนี้จ้า และเหมือนทุกครั้งที่เราทำรีวิวเราจะมีเกณฑ์ตัดสินให้คะแนนเพราะเราจะมารีวิวและคอมเมนต์งูๆ ปลาๆ โดยไม่มีเกณฑ์ตัดสินไม่ได้!  และที่สำคัญเราก็หวังว่าเพื่อนๆ เข้ามาอ่านกระทู้เราแล้วจะได้อะไรกลับไปบ้าง 

Citra Pinkish White UV Aura
(ขนาด 400 ml. ราคา 165 บาท)
มาเริ่มที่ขวดแรกกันเลยจ้า แบรนด์ Citra ก็ทำสีขวดให้ออกเเนวชมพูๆ เพื่อให้เรารู้ทันทีเลยว่าเป็นโลชั่นสูตรซากุระ ทีนี้มาในส่วนของตัวเนื้อครีมกันบ้าง ตัวครีมเป็นสีขาวปนสีชมพูอ่อนๆ มานิดนึง พอเอานิ้วเเตะสัมผัสดูจะรู้สึกได้เลยว่ามันนิ่มมากๆ เพราะเนื้อโลชั่นไม่ได้ข้นออกแนวน้ำๆ นิดหน่อย หลังจากใช้แล้วตัวนี้ให้ความรู้สึกผิวนุ่มชุ่มชื่นใช้ได้เลย ส่วนกลิ่นหอมเราว่าออกไปทางหวาน ให้ความรู้สึกหอมนมๆ หวานๆ คิดว่าคงเพราะว่าซิตร้าสูตรนี้เค้ามีผสมน้ำนมข้าวมาด้วย จุดเด่นของโลชั่นขวดนี้เลยคือเรื่องของการป้องกันเเสง UV +SPF 20 เข้ามาเเต่ก็ไม่สามารถป้องกันได้เเบบ 100% เพราะเวลาเจอเเดดเเรงจัดๆ SPF 20 ก็เอาไม่อยู่ทำผิวคล้ำได้เหมือนกันจ้า แต่มีมาให้ก็ดีกว่าเนอะ 


D-nee Sakura Baby Lotion
(ขนาด 380 ml. ราคา 179 บาท)
มาถึงขวดที่สอง แบรนด์ D-nee บางคนเห็นคนนึกว่าเหมาะกับเด็กใช้รึป่าวว แต่เราเชื่อว่ามีสาวๆ ผิวแพ้ง่ายแบบเราหลายคนอาจจะคุ้นเคยกับโลชั่นเด็กกันอยู่แล้ว ข้อดีของแบรนด์นี้เลยคือพอเป็นโลชั่นเด็กเราจะสบายใจได้ว่าไม่แพ้ไม่มีสารกลูเตน พาราเบน ต่างๆ ที่ไม่ดีต่อผิวแน่นอนเพราะเค้าทำไว้ให้เด็กใช้ด้วย ตัวครีมจะเป็นสีขาว พอเราเอานิ้วแตะๆ รู้สึกได้ว่ามีความเข้มข้นแต่ก็ไม่รู้สึกเหนอะหนะผิว เราโบกไปหลายทีตรงข้อศอกก็ซึมไว หลังจากใช้ให้ความรู้สึกผิวนุ่มชุ่มชื่นดีเลย แต่กลิ่นหอมออกไปทางหวานคล้ายแป้งเด็ก ส่วนตัวเราชอบนะ สำหรับจุดเด่นของโลชั่นดีนี่ขวดนี้เลยนอกจากที่จะใช้ได้อย่างมั่นใจว่าจะไม่แพ้และก็มีสารสกัดจากดอกซากุระแล้วก็มีส่วนผสมของดอกทานตะวันและวิตามินอีด้วยจ้า


Garnier Sakura White Body Lotion 
(ขนาด 400 ml. ราคา 139 บาท)
มาถึงแบรนด์สุดท้ายท้ายสุด กับแบรนด์ Garnier จ้า ตัวนี้เนื้อครีมออกสีชมพูชัดกว่าตัวอื่นๆ หน่อยนึง แต่ที่สัมผัสได้เลยคือครีมมีความเข้มข้นมากจนแอบรู้สึกว่าเข้มข้นไปเพราะหลังใช้เราว่ามันเหนอะหนะจะมันๆ ที่ผิวหน่อยเหมือนมีน้ำมันเคลือบมากับเนื้อครีมอีกทีคิดว่าอาจจะเป็นสูตรของเค้าที่ช่วยให้ชุ่มชื่น แต่แอบถูๆ หลายทีอยู่นะกว่าจะเข้าผิว ถ้าใครนึกฟีลลิ่งไม่ออกให้นึกถึงพวกโลชั่นที่มีส่วนผสมของกลูต้าไธโอนที่จะมียุคนึงฮิตมากๆ ตัวนี้มีส่วนผสมของเซรั่มนมอยู่ในโลชั่นด้วย แต่พอมาดมกลิ่นก็ไม่รู้สึกถึงกลิ่นนมเหมือนซิตร้านะ แต่กลิ่นออกแนวโลชั่นหอมๆ โลชั่นปกติตามสไตล์การ์นิเย่ สำหรับจุดเด่นของตัวนี้เลยคือแบรนด์เค้าเคลมไว้ที่ขวดเลยว่าใช้แล้วผิวขาวขึ้นใน 1 สัปดาห์ แต่จากความรู้สึกตัวเองก็ไม่ได้รู้สึกขาวขึ้นแบบชัดเจนเหมือนพวกครีมโลชั่นกลูต้านะ 


ก่อนจะมาดูผลสรุปคะแนนกัน เราพามาดูเนื้อครีมกันแบบชัดๆ เทียบกับแต่ละแบรนด์เลยจ้า จะเห็นว่าของโลชั่นซิสตร้ามีความเป็นน้ำนิดนึงจะลื่นๆ บนผิวกว่าตัวอื่นๆ ส่วนที่ซึมไวม๊ากกคือโลชั่นดีนี่ ส่วนอันสุดท้ายการ์นิเย่เนื้อโลชั่นจะมีความเข้มข้นสุดจ้า

และล้าวววก็ถึงเวลาสรุปผลคะแนนนนน~ บอกเลยว่าทุกโลชั่นสูตรซากุระที่เราเอามารีวิวมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน สำหรับใครที่คิดว่าตัวเองผิวบอบบางหรือผิวแห้งง่ายต้องการความชุมชื่นและชอบกลิ่นออกแนวเด็กๆ เราแนะนำของดีนี่โลชั่นเลยจ้า ส่วนใครที่คิดว่าตัวเองเป็นคนทาโลชั่นบ่อยชอบกลิ่นนมๆ และอยากได้ SPF 20 มาช่วยด้วยเราแนะนำเป็นซิสตร้าเลยเพราะนางเนื้อเบาสุดทาบ่อยได้ แต่ถ้าใครจะเน้นผิวขาวไปการ์นิเย่ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจน้าถึงแม้เราจะลองใช้ได้ไม่กี่สัปดาห์อาจจะบอกได้ว่าไม่ได้ขาวขึ้นชัดเจนแบบนั้น แต่คิดว่าถ้าใช้ต่อเนื่องอาจจะเห็นผลชัดก็ได้น้า ส่วนตัวเราเองขอยกให้ดีนี่โลชั่นเป็นตัวที่เรารู้สึกว่าเหมาะกับผิวเราสุดใช้บ่อยมากที่สุดค่า เพราะเราเป็นคนผิวเราแพ้ง่าย เลยเป็นตัวที่ตอบโจทย์มากๆ จบล้าวววจริงๆ กับรีวิวโลชั่นซากุระ สำหรับคะแนนรีวิวในเกณฑ์อื่นๆ ตารางด้านล่างเลยจ้า

ใครใช้ตัวไหนอยู่หรือมีแนะนำก็บอกเราบ้างน้า ขอบคุณที่ติดตามจนจบ ทั้งนี้รีวิวนี้เป็นความเห็นจากเราเพียงคนเดียวทุกยี่ห้อที่เราเอามารีวิวมีจุดเด่นและข้อดีที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความชอบของเพื่อนๆ แต่ละคนนะคะ ถ้าผิดพลาดไปกระทบยี่ห้อใด ขออภัย ณ ที่นี่ด้วยน้า ถือว่าเป็นความเห็นผู้บริโภคคนนึงละกันน้า 😊