สัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็กเช่น กิ้งก่าและตุ๊กแก เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีความสามารถพิเศษในการงอกหางซึ่งเป็นทักษะในการช่วยชีวิตในป่า แต่ปรากฎว่าสัตว์เลื้อยคลานเหล่านี้ไม่ใช่สัตว์ชนิดเดียวในตระกูลถุงน้ำคร่ำที่มีความสามารถในการสร้างอวัยวะใหม่ คู่หูที่ใหญ่กว่าและดุร้ายกว่าของพวกมันก็สามารถสร้างอวัยวะใหม่ได้เช่นกัน ซึ่งนักวิจัยประหลาดใจที่พบว่าจระเข้วัยเยาว์ (Alligator mississippiensis) มีความสามารถในการงอกหางของพวกมันได้ถึง 9 นิ้วหรือเพิ่มขึ้นถึง 18% ของความยาวลำตัว จากการศึกษาใหม่ในการรายงานทางวิทยาศาสตร์
โดยเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2563 จากรายงานของCNN ทีมนักวิทยาศาสตร์จาก Arizona State University และ Louisiana Department of Wildlife and Fisheries ใช้เทคนิคการถ่ายภาพขั้นสูงร่วมกับวิธีการทดสอบตามเวลาในการศึกษากายวิภาคศาสตร์และการจัดเนื้อเยื่อ พบว่าหางที่งอกของจระเข้มีกระดูกอ่อนส่วนกลางที่ไม่ใช่โครงกระดูก รวมทั้งคุณสมบัติทั้งการฟื้นฟูและการซ่อมแซมบาดแผลของตัวเอง
"โครงกระดูกที่งอกใหม่ ภายใต้ผิวหนังถูกห่อหุ้มด้วยเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่สอดประสานกับเส้นเลือดและเส้นประสาท แต่ไม่มีกล้ามเนื้อยึดกระดูกใด ๆที่ช่วยในการเคลื่อนไหว (แบบเดียวกับหางของจิ้งจกที่งอกขึ้นมาใหม่) " Kenro Kusumi ศาสตราจารย์ผู้ร่วมในการวิจัยและผู้อำนวยการของ ASU's School of Life Sciences และรองคณบดีในวิทยาลัย College of Liberal Arts and Sciences กล่าวกับ CNN
ในการศึกษาโดยรวมจะศึกษาจากหางจระเข้อเมริกันที่อายุยังน้อยที่จับได้ในป่า ซึ่งบ่งบอกถึงรูปแบบของการซ่อมแซมบาดแผลตัวเอง ในลักษณะที่เหมือนกับการงอกใหม่ โดยนักวิทยาศาสตร์ระบุว่าจระเข้ที่จับได้ในป่ามักจะสูญเสียหางจากการบาดเจ็บ และทีมงานยังมีตัวอย่างหางที่งอกจากจระเข้ที่เสียชีวิตแล้วด้วย
หางที่งอกใหม่ของจระเข้อเมริกัน (Alligator mississippiensis)
และภาพเอ็กซเรย์แสดงกระดูก (โครงสร้างส่วนสีขาว) และกระดูกอ่อน (โครงสร้างส่วนกลางสีเทาที่สว่างน้อยกว่า)
Kusumi ได้กล่าวเสริมอีกว่า แม้ว่าหางที่งอกใหม่จะไม่มีกล้ามเนื้อที่จำเป็นในการงอและเคลื่อนไหว แต่ก็ยังมีความสำคัญต่อต่อการอยู่รอดของสัตว์นักล่าขนาดใหญ่ ซึ่งทีมนักวิจัยกล่าวว่าการทำความเข้าใจในข้อจำกัด เหล่านี้อาจช่วยในการพัฒนาการบำบัดฟื้นฟูในมนุษย์ได้ ซึ่งงานวิจัยดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงเว็บไซต์ Scientific Reports วารสารทางวิทยาศาสตร์ฉบับล่าสุด
ในการงอกหางใหม่นี้มีเพียงจระเข้ที่อายุน้อยเท่านั้นที่สามารถทำได้ และที่แตกต่างกันอีกอย่างคือ จระเข้ไม่สามารถสลัดอวัยวะของตัวเองออกได้เมื่อถูกคุกคาม แต่ alligators จะสูญเสียแขนขาที่เกิดขึ้นในการต่อสู้เหนือดินแดนที่แย่งกินกันจากจระเข้ที่มีขนาดใหญ่กว่า หรือความเสียหายที่เกิดจากจากการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งที่มนุษย์ใช้เช่น ใบมีด หรือมอเตอร์ ตามการแจ้งเตือนวิทยาศาสตร์
นอกจากนี้ การงอกหางใหม่ของจระเข้อาจใช้เวลานานกว่าจะสร้างส่วนที่หายไป ในขณะที่ จิ้งเหลนสามารถทำได้ภายในเวลาเพียงหกเดือน โดยหางของจระเข้อาจต้องใช้เวลานานถึง 18 เดือนในการงอกหางของพวกมัน
ทั้งนี้ จระเข้เป็นสัตว์เลื้อยคลานเชื้อสายเก่าแก่ซึ่งมีบรรพบุรุษร่วมกันกับนกเมื่อประมาณ 245 ล้านปีก่อน ย้อนกลับไปเมื่อไดโนเสาร์ที่ไม่ใช่นกครองโลก
ซึ่งมีหลักฐานฟอสซิลของจระเข้โบราณในยุคจูราสสิกที่มีหางงอกใหม่ สิ่งนี้ "ทำให้เกิดคำถามว่า วิวัฒนาการความสามารถนี้สูญหายไปเมื่อใด และพบในฟอสซิลจากไดโนเสาร์หรือไม่ ซึ่งเชื้อสายของมันจะนำไปสู่นกยุคใหม่ที่หางอาจงอกใหม่ได้ " Kenro Kusumi ตั้งคำถาม
จระเข้ จิ้งจก และมนุษย์ทั้งหมดอยู่ในกลุ่มของสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังที่เรียกว่า amniotes (ถุงน้ำคร่ำ)
จระเข้อเมริกัน ( Alligator mississippiensis ) มีความยาวได้ถึง 15 ฟุตและหนัก 1,000 ปอนด์ตามข้อมูลของ National Geographic สายพันธุ์นี้พบในทะเลสาบหนองน้ำและแหล่งที่อยู่อาศัยที่เต็มไปด้วยน้ำอื่น ๆ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา
นักวิจัยกล่าวว่า การค้นพบล่าสุดเกี่ยวกับสัตว์เลื้อยคลานทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับวิวัฒนาการ เนื่องจากร่างกายของนกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมไม่สามารถสร้างเนื้อเยื่อที่ซับซ้อนขึ้นมาใหม่ได้ และการศึกษาความแตกต่างของสัตว์เลื้อยคลานอาจเป็นแนวทางในการรักษาที่ผู้ที่เป็นโรคข้ออักเสบ หรือการบาดเจ็บจากบาดแผลได้ รวมถึงอาจสามารถจะใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้เพื่อช่วยคนที่สูญเสียแขนขาหรือแผลไฟไหม้ที่ต้องการการฟื้นฟูผิวหนังได้
ทั้งนี้ ต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาต่อไป และคงยังไม่ใช่ในอนาคตอันใกล้นี้
ที่มา CNN , New York Daily News, livescience
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
การศึกษาใหม่พบว่าจระเข้สามารถงอกหางใหม่ได้
Kusumi ได้กล่าวเสริมอีกว่า แม้ว่าหางที่งอกใหม่จะไม่มีกล้ามเนื้อที่จำเป็นในการงอและเคลื่อนไหว แต่ก็ยังมีความสำคัญต่อต่อการอยู่รอดของสัตว์นักล่าขนาดใหญ่ ซึ่งทีมนักวิจัยกล่าวว่าการทำความเข้าใจในข้อจำกัด เหล่านี้อาจช่วยในการพัฒนาการบำบัดฟื้นฟูในมนุษย์ได้ ซึ่งงานวิจัยดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงเว็บไซต์ Scientific Reports วารสารทางวิทยาศาสตร์ฉบับล่าสุด
ทั้งนี้ จระเข้เป็นสัตว์เลื้อยคลานเชื้อสายเก่าแก่ซึ่งมีบรรพบุรุษร่วมกันกับนกเมื่อประมาณ 245 ล้านปีก่อน ย้อนกลับไปเมื่อไดโนเสาร์ที่ไม่ใช่นกครองโลก
ซึ่งมีหลักฐานฟอสซิลของจระเข้โบราณในยุคจูราสสิกที่มีหางงอกใหม่ สิ่งนี้ "ทำให้เกิดคำถามว่า วิวัฒนาการความสามารถนี้สูญหายไปเมื่อใด และพบในฟอสซิลจากไดโนเสาร์หรือไม่ ซึ่งเชื้อสายของมันจะนำไปสู่นกยุคใหม่ที่หางอาจงอกใหม่ได้ " Kenro Kusumi ตั้งคำถาม
นักวิจัยกล่าวว่า การค้นพบล่าสุดเกี่ยวกับสัตว์เลื้อยคลานทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับวิวัฒนาการ เนื่องจากร่างกายของนกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมไม่สามารถสร้างเนื้อเยื่อที่ซับซ้อนขึ้นมาใหม่ได้ และการศึกษาความแตกต่างของสัตว์เลื้อยคลานอาจเป็นแนวทางในการรักษาที่ผู้ที่เป็นโรคข้ออักเสบ หรือการบาดเจ็บจากบาดแผลได้ รวมถึงอาจสามารถจะใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้เพื่อช่วยคนที่สูญเสียแขนขาหรือแผลไฟไหม้ที่ต้องการการฟื้นฟูผิวหนังได้
ทั้งนี้ ต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาต่อไป และคงยังไม่ใช่ในอนาคตอันใกล้นี้