เราอ่อนแอ่ไปหรือญาติเห็นแก่ตัว

ขอระบายในนี้เพราะคิดว่าน่าจะเป็นพื้นที่ ที่ดีที่สุดแล้ว

เริ่มเรื่องเลยคือเราเป็นคนพื้นฐานครอบครัวปานกลางก็ไม่ได้มีเงินมากมายอะไร ย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อนพ่อเราอยากได้รถเก๋งมือสองสักคันหนึ่งมาไว้ใช้งานแต่ตัวพ่อเรานั้นออกไม่ได้เพราะรายได้ไม่มั่นคงเท่าไหร่ ส่วนแม่นั้นเป็นแม่ค้าเลยออกไม่ได้ และน้องชายแม่(ก็คือน้า) เลยเสนอว่าให้ออกชื่อเขามั้ย แล้วให้บ้านเราส่ง พ่อเลยตกลง หลังจากออกมาไม่นานพ่อเราเริ่มไม่พอใจที่รถนั้นตัวเองไม่เคยได้ใช้เลย เพราะวันๆทำแต่งานไม่ได้มีเวลาไปไหนมาไหนมากนัก ส่วนคนที่ใช้รถคือน้า เขามายืมรถอาทิตย์ล่ะ 2-3 ครั้ง และในบางครั้งก็จะอ้างว่ากลับบ้านไปหายายหาญาติบ้าง ไปทีก็ 4-5 วัน ก็มาเอารถไป พ่อเราเริ่มไม่พอใจเท่าไหร่เพราะเขาเป็นคนส่งค่างวด พอเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ พ่อเลยตัดปัญหาโดยการบอกให้เขานั้นเอารถไปใช้เลย แล้วส่งค่างวดเอง เขาไม่พอใจและไม่ได้ส่งค่างวดต่อจนสุดท้ายรถโดยยึด หลังจากนั้นมา 2 ปีก็มีหมายศาลมาตลอดให้ไปจ่ายค่าส่วนต่าง รถเป็นชื่อเขาพ่อเลยขอให้เขายอมไปศาลหน่อยจะช่วยจ่ายให้เรื่องมันจะได้จบ แต่ก็ไร้การตอบรับจนสุดท้ายโดนกรมบังคับคดี จากยอดส่วนต่าง 150000 ขึ้นเป็น 220000 ทันที แต่โชคร้ายตอนนั้นพ่อเราโดนคดีขับรถประมาท ศาลตัดสินจำคุกพอดี ภาระเลยตกที่เรา เป็นช่วงที่เราขึ้นมหาลัยปี 1 พอดี แม่เราไม่ได้มีรายได้เยอะแยะทำให้เราต้องทำงานไปเรียนไปเพื่อหาค่าเทอม แต่เราถูกน้าบังคับให้ใช้หนี้แทนพ่อเดือนละ 3500 เขาบอกว่าถ้าเราไม่จ่ายเขาจะติดคุก เราเลยต้องทั้งหาค่าเทอมค่าใช้หนี้และส่งพ่อที่อยู่ในคุก (แม่เราไม่ได้รับผิดชอบตรงนี้เพราะแม่เลิกกับพ่อก่อนจะติดคุกไม่กี่ปี) ระหว่างที่เราขึ้นปี 3 เราอายุมากพอและพอมีรายได้เดือนละ 15000-17000 เราทำงานเป็น PC ชงชิมอาหาร เราเลยออกรถมือ 2 มาหนึ่งคันเพื่อไว้ใช้งาน แต่นั้นแระสุดท้ายก็เข้าอีร็อปเดิมคือ น้ามาเอารถไปใช้โดยอ้างว่าเราไม่มีใบขับขี่ พอเรามีใบขับขี่ก็อ้างว่าเราเด็กเกินไป และเขาก็จำเป็นที่จะต้องไปดูแลยายและทำงานด้วยต้องไปกลับ ถ้าเราจะไปไหนก็ให้บอกเขาจะมารับเอง เราคิดว่าแม่จะช่วยพูดให้เราได้แต่ก็ไม่ แม่ให้เรายอมเขาตลอดเพราะไม่อยากมีปัญหา สุดท้ายเราก็จ่ายมาตลอดทั้งค่างวดรถและหนี้สินจนเราเรียนจบและปีแรกที่เราได้งานทำ เราไปเอารถเราคืนเพราะเราโตพอแล้ว เราจบมาทำงานธนาคารแห่งหนึ่งในตำแหน่งสินเชื่อบัตรเครดิต และแน่นอนด้วยประสบการณ์ทำให้เราทำยอดได้ดีรายได้ก็ดีตาม บางเดือนได้ถึง 7-8 หมื่นก็มี เราคิดว่าชีวิตเราจะลงตัวแล้วแต่สุดท้ายก็ไม่ เราทยอดโป๊ะหนี้กรมบังคับคดีและค่างวดรถเพื่อหวังให้หมดไว แต่ยิ่งรีบโป๊ะยิ่งทำให้เขารู้ว่าเรามีเงิน ยิ่งทำให้เขาเริ่มมามีบทบาทในชีวิตเราอีกครั้งคือ เขาเข้ามาจัดแจงเงินเราว่าเราต้องส่งเสียน้องเท่าไหร่ ยายเท่าไหร่ เราต้องปลูกบ้านนะให้แม่ให้ยายอยู่ดีๆให้มีบ้านดีๆอยู่ ทั้งที่เราเพิ่งเริ่มต้นและแย่ไปกว่านั้นคือแม่เราเห็นดีงามด้วย และเรามีสามีกำลังตั้งท้องอยู่หลังคลอดวางแผนจะแต่งงาน เราคิดว่านี่น่าจะเป็นวิธีที่ออกมาจากจุดนั้นคือมีครอบครัวแต่ก็ไม่จบ เพราะเขายังคงตามมาจัดการให้เรา และแม่เรามาให้เราทำแบบนั้นแบบนี้ จะเรียกสินสอดเท่านั้นเท่านี้ เราเลยบอกกับแม่ว่าหนูขอ ขอให้หนูได้มีโอกาสได้ใช้เงินที่หามาทั้งชีวิตบ้าง ไม่ใช่หามาให้คนอื่นทำงานมาเหนื่อยแทบตายอยากกินอะไรก็ไม่ได้กิน พอไปเที่ยวหน่อยก็ว่า ว่ามีเงินแล้วไปเที่ยวทั้งที่นั้นคือเงินที่เราหามา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่