“ตราบฟ้ามีตะวัน” เคมี"หมาก-เก้า"ที่ล้นจอ ฉากหวานๆจึงเป็นจุดขายสำคัญของเรื่องจริงๆ⛅️❤️⛅️

ไม่รู้ว่าผมเป็นคนเดียวรึปล่าว ที่มักจะชอบดูละคร ที่พระนาง เคมีเข้าถึง ถึงจะทำให้ เวลาดูละครอยากให้มีฉากถึงเนื้อถึงตัวเยอะๆ  
อยากดูความรักของ 2 คนเวลาอยู่ด้วยกัน มันเหมือนเป็นจุดขายสำคัญของเรื่องที่ทำให้ผมอยากดูละครเรื่องนึงอีกหลายรอบเลยจริงๆ 
แต่ละข้อต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ผมยังคงดู “ตราบฟ้ามีตะวัน”ต่อไปจริงๆ
 
1.   เคมี หมาก - เก้า สุดๆครับ ทราบมาว่า ผู้แต่งนิยาย ตอนเขียนเหนภาพ เก้าเป็นนางเอกเลย แต่บทพระเอกให้ไทพ์เดียวกับโซจีซบ  
แต่ยอมมใจ ทีมงาน ที่เลือกหมากมา เป็นพระเอกได้เข้ามากๆ  ไม่เด็กไป ไม่แก่ไป อยู่ในวัยที่ เอาคนอื่นมาเล่น ก็ไม่รู้ว่า จะเคมีดีขนาดนี้มั้ย   
แต่ตอนนี้ วันนี้ หมาก ทำหน้าที่ พี่อาทิตย์ ได้อย่างสมบูรณ์แบบสำหรับผมมาก เช่นเดียวกับ เก้า ซึ่งผู้แต่งให้เก้าเป็นนางเอกในนิยายของเขา 
ซึ่งเก้าไม่ทำให้ผู้แต่ผิดหวังจริงๆ แต่สำรับผม ไม่คิดว่า เรื่องนี้ของเก้า จะเป็น 1 ในเรื่องที่น่าจดจำของเก้าเรื่องแรก ในฐานะนักแสดงเลย 
เก้าเล่นได้ น่ารัก น่าทะนุถนอม ทั้งอิหยังว่ะ ในตอนต้นเรื่อง และเริ่มเอาใจช่วยตั้งแต่กลางเรื่องเป็นต้นมา  แล้วยิ่งมาผสม กับ การเข้าฟอร์มกับ 
หมาก ยิ่งส่งเสริมเคมีไปอีก   ความรู้สึกผม เหมือนดูตอน ณเดช-ญาญ่า (ดวงใจอัคณี)  เบลล่า-เจมจิ(คุณชายพุฒิพัต)  ติ๊ก-แอฟ(วนิดา) 
เจมส์มาร์-คิมเบอร์ลี่(เพียงชายฯ) หมาก-มิว(อกเกือบหักฯ)  สำหรับผมละครที่ พระเอก-นางเอก เคมีจะส่งเสริมกันนั้น สำหรับผมมีน้อยมากนะ 
ไม่ใช่นิดๆหน่อยก็เอา  เลยไม่ค่อยอินกับละครที่ เคมีแค่ผิวเผิน เพราะถ้าผิวเผินจะดู แบบกรอข้ามๆ เอาให้รู้ว่าละครมีอะไร จบยังไง แค่นั้น 
ไม่ค่อยรู้สึกทัชกับความรู้สึก หรือเคมีของพระนาง  ดังนั้น สำหรับผมแล้ว ผมให้ เคมี หมาก-เก้า 10/10 จริงๆ คือไปเล่นเรื่องอื่นก็สบาย ขอแค่ 
ให้ 2 คนนี้เข้าฉากพระนาง กันเยอะๆ ยังไงจุดนี้ทั้ง 2 คนสอบผ่านแล้ว เพราะสำหรับผมแล้ว เคมี พระเอก-นางเอก ไม่ใช่ ปีนึง จะเกิดขึ้นง่ายๆ 
หาสักเรื่องยังยากเลย
 
2.   บทเข้า พระ-นาง เป็นสิ่งจำเป็นจริงๆ ที่ทำให้ละครส่งเสริมเคมีของนักแสดงออกมาได้เยอะมากๆ แต่ๆ....ไม่ใช่เข้าพระเข้านางแบบฉาบฉวย
เอะอะ สะดุดล้มจูบกัน สะดุดล้มกอดกัน เอาตรงๆ ในเรื่องนี้ก็มีเยอะแหละ แต่สำหรับบางคนที่เคมีไม่ถึง มันจะกลายเป็นทำให้คนดูรำคานนะ 
แต่ถ้าเคมีล้นจอ แบบ หมาก-เก้า คือมันทำให้กลายเป็นมุมน่ารักของตัวละครไป นี่แหละ เพราะเคมีถึง การมองข้ามบางอย่าง 
ที่ไม่สมเหตุสมผลจึงไม่ยาก ที่นี้มาต่อที่ เรื่องที่ผมบอก ผมชอบเวลา หมาก-เก้า เข้าบทพระนางกันนะ แต่เข้าในที่นี้คือ ในโทนอบอุ่น 
ดูแลซึ่งกันและกัน มีโมเมนที่ใช้คำว่าจีบกันตอนแรกๆอะ ผมเรียกไม่ถูก แบบเดินจับมือกันทั้งที่ยังไม่เป็นแฟนกัน หรือแบบอยู่ดีๆก็กอดอีกฝ่ายดื่อๆ 
แบบเซอร์ไพรคนดู  ซึ่งทั้งคู่ก็รู้แหละว่า อีกฝ่ายชอบตัวเอง แม้ยังไม่เปนแฟนกัน แต่ใกล้เคียงมากที่สุดแล้ว  คือไม่รู้สิ ผมว่าโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว 
ไม่ใช่ว่านางเอก ไม่รักนวล สงวนตัว แต่ในบางฉาก ผมว่ามันใส่มาได้ในฐานที่เข้าใจอะ ประมาณว่า นางเอก - พระเอกก็คน มีความต้องการ 
มีจิตใจที่ ไม่ใช่ว่า ทั้ง 2 จะต้องเป็นผู้ที่อยู่ใน ศีล 100 ข้อของคนดีอะไรแบบนี้ ผมว่ามันออกจะนิยายเกินไป  ในทางกลับกัน 
ผมชอบความรักที่มันเริ่มซึมลึก ที่นับวันยิ่งรักมาก ยิ่งหลงแฟนมัน ยิ่งคลั่งรักมาก  ซึ่งบท พี่อาทิตย์ ใส่มาเป็น คนคลั่งรักที่ผมชอบมากนะ 
ไม่บ่อยครั้ง ที่จะเจอบทพระเอก ที่คลั่งรักนางเอกแบบนี้ ตรงนี้แหละผมยิ่งอยากยกมือให้เลย มันจึงทำให้ผมรูว่า นอกจากเคมีพระนาง หมาก-เก้า 
ที่แบกเรื่องแล้ว บทเข้า พระ-นาง ยังแบกเรื่องมากจริงๆ ผมรู้สึก โอเคทุกครั้ง ที่ 2 คนนี้ กอดกัน ซบกัน บอกตรงๆ มันเหมือนกับ 
คือเราเห็นว่าจริงๆแล้ว 2 คนนี้รักกัน แต่เขาทะเลาะกันมามากพอแล้ว เวลานี้เป็นเวลาที่ควรมี ฉาก 2 คนนี้ที่ดูแล้วอบอุ่นมาช่วยทำให้ละคร 
มันมีหลายมิติ และยังเป็นมิติที่ ละคร ที่พระนาง เคมีเยอะมากๆควรใส่เข้ามาจริงๆ เพราะไม่งั้น มันก็ไม่ต่างอะไรกับ การที่ คุณเอาพระนาง 
ที่เคมีเขาเยอะมาก แต่เอามาให้เล่นบทที่ ไม่มีฉากแบบนี้แบบนั้น เอานักแสดงไม่มีเคมีมาคู่กัน ยังได้เลยสำหรับผม

3.  บทคนคลั่งรัก ที่ไม่ค่อยเห็นได้บ่อยครั้ง เห็นเรื่องนี้นึกถึงดวงใจอัคนี ตอนพระเอกคลั่งรัก ตามจีบนางเอกเลย นี่แหละจุดขายของ 
ละครโรแมนติก สำหรับผม ซึ่งละครก็ดีไซตพี่อาทิตย์ ออกมาได้เป็นพี่อาทิตย์จริงๆ นะ เวลาโกรธก็ร้อนดั่งดวงอาทิตย์ ตอนเดือนเมษา 
แถมยัง 12.00 แต่เวลาเย็น ก็อบอุ่นเหมือนพระอาทิตย์ตกยามเย็น แล้วยิ่งตอนหมากคลั่งรัก ผมว่าเขาเล่นได้ ไม่เยอะ และไม่น้อยเกินไป 
หรือเพราะเป็นหน้าตาแบบหมาก พอเล่นแล้วมันรับได้ก็ไม่รู้ ไม่เหมือนหนุ่มโรคจิต แต่เหมือนคนคลั่งรัก ที่เพิ่งรู้ใจตัวเองมากกว่า 
ตรงนี้แหละที่ใส่เข้ามาแล้วทำให้ละครดู มีมิติมากยิ่งขึ้นไปอีก ที่แน่ๆ ผมว่า หลายคนน่าจะชอบแบบผม เพราะผมมองว่า เราหาละครที่พระเอก 
คลั่งรักนางเอก แถมยังแสดงออกมากขนาดนี้ไม่ง่ายเลย ดังนั้นแล้ว ชอบมมากๆครับ กับการให้พระเอกเป็นหนุ่มคลั่งรักในเรื่องนี้ 

4.   บทขี้หึง ก็ยังเป็นสินค้าขายดีของละครที่ ต้องมีจริงๆ อย่างที่เอ่ยไปข้างต้นว่า เมื่อคลั่งรัก ก้แสดงว่าต้องรักมาก เมื่อรักมากอาการขี้หึง 
ถึงต้องตามมา ตรงนี้ละครใส่ได้เข้ากับอาทิตย์จริงๆ หึงแล้ว อาการออก พระอาทิตย์ยามเที่ยงวันก็กลับมาอีกครั้ง รวมไปถึง ผมว่า บท มาร์ค 
ใช่ว่าจะใส่มาแล้วไม่ดีเสมอไป ที่แน่ๆ ทำให้ พระเอกเรารุ้ใจตัวเองมากยิ่งขึ้น และอาการออกยิ่งขึ้นไปอีก มันก็เหมือนยิ่งเพิ่มเชื้อไฟให้หนุ่ม
คลั่งรักไปอีก ตรงนี้สำหรับผม บทมาร์คมันทำให้พระเอกยิ่งชัดเจนกับนางเอกมากยิ่งขึ้น เหมือนเป็นน้ำมันให้กองไฟนั่นเอง 

5.       บทเพื่อน-พระเอกนางเอก ก็มีความสำคัญมากๆนะเอาตรงๆ ยิ่งในละครเพิ่มบทนนท์เข้ามา ผมอาจใม่ค่อยโอเคกับบทหลิง แต่กับบท นนท์ 
เห้ย ละครใส่เข้ามาแล้วมันโอเคเลยจริงๆ แล้วยิ่ปั้นจั่นเล่นได้ถึง และบทไม่มางี่เง่าเล่นความรัก นางเอก-นนท์-พระเอก  เป็นบทนนท์ 
คอยมาซัพพอต ทั้งนางเอก และพระเอก มันเลยเพิ่มมิติของละครไปอีก ตรงนี้ผมยกนิ้วให้เลย สำหรับผมการเพิ่มตัวละครเข้าไปสักคนซึ่งส่งผล
ต่อเส้นเรื่อง  แต่สามารถทำให้คนดูชอบ ไม่ใช่เรื่องง่าย มันทำให้รู้สึกว่า ตอนละครหน่วงๆ ยังมีกลุ่มเพื่อนพระเอก ที่ยังคงสามารถพลิกสถานการณ์
ให้มันดูซอฟลง รวมไปถึงบางช่วงที่ทำให้มันดูสนุกขึ้น เช่นตอนที่ พระเอก นางเอก ไปแจกของบนดอย ตรงนี้ผมชอบเลย ดูอึนๆนิดๆ แต่มันตลก
กับแผน ของนนท์-แป้ง จริงๆ 

6. จากข้อดีต่างๆที่กล่าวมาข้างต้น สำหรับผมแล้วกลายเป้นว่า 2 คนนี้เข้าฉากเมื่อไหร่มันส่งเสริมละครน่าดูมากยิ่งขึ้นจริงๆ ยิ่งพวกเขา
มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน มีโมเมนต์ดีๆต่อกัน มันทำให้ดูอบอุ่นดีครับ เพราะอย่างที่บอก ละครบางเรื่องคือเคมีพระเอก-นางเอกไม่ได้
แต่บทละครกลับใส่เข้ามาเยอะๆ ซึ่งเอาตรงๆ มันก็ไม่ได้ส่งเสริมเลย หากเคมีพระนาง เราดูแล้วว่ามันยังเป็นการแสดงอยู่
ตรงนี้แหละที่ทำให้ละคร ตราบฟ้ามีตะวันแข็งกว่า ในเรื่อง เคมีพระนาง ที่ภาษีดีกว่า แม้บทหลังๆจะหน่วงไปบ้าง
แต่เชื่อว่า หาก เรื่องหน้าหมาก-เก้าคู่กันอีก ช่องน่าจะแก้เเมือ ส่งบทละคร ที่ทำให้เราได้เห็นถึงเส้นทางรัก ของทั้ง 2 คน ที่จะส่งเสริม
เคมีของทั้ง 2 ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น ไปอีกนะครับ 

7.   สุดท้ายนี้ หากทีมงานมาเห็นกระทู้นี้  ผมยกนิ้วให้นะครับ กับข้อดี ต่างๆที่ผมกล่าวมา เพราะสำหรับผม บทพระนาง มันต้อง เคมีเข้าถึง 
และบทส่งเสริมให้ใกล้ชิดกันจริงๆ มันถึงทำให้อินกับละคร  

แค่อยากฝากไว้ว่า  ถ้าหาก เรื่องหน้า ช่อง 3 จะต่อยอด เคมี หมาก-เก้า ที่มีต้นทุนมากๆ อย่างนี้ ให้เล่นละครดีๆเรื่องใหม่อีก 
 ผมอยากแนะนำว่า ขอเป็นละคร ที่ บทพระนาง  1.ถึงเนื้อถึงตัวกันบ่อยๆ 2.รักกันควรแสดงออก  3.จะใส่คลั่งรักมาอีกผมก็ว่าดีมากๆ
มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ บทเข้าพระเข้านาง แล้วจะมีเคมี เยอะแบบนี้สำหรับผม    

**ไม่บ่อยครั้ง ที่จะเจอ พระเอก-นางเอก ที่เคมีส่งเสริมกันมากขนาดนี้ เพราะสำหรับผมตอนนี้ หมาก-เก้า แบกเรื่องให้ดูต่อจริงๆ 
จากการที่ตอนหลังๆบทเริ่มออกทะเล**

***มีปลาแซลม่อนชั้นดี แต่ท่านเอาไปทำปลากระป๋อง ผมว่ามันจะทำให้เสียของปล่าวๆนะครับ 

แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ชอบความ "เลิ่กลั่ก" ของพี่อาทิตย์ด้วยค่ะ ยิ่งตอนที่แป้งจูบตัวเอง แล้วบอกแป้งว่า "ชั้นโกรธมาก" คนดูอยากจะจ้าาา เชื่อแล้วว่าโกรธ 5555

ที่ชอบอีกอย่างของเรื่องนี้คือ ฉากจูบของพระนาง ไม่ต้องบดขยี้ให้ดูดูดดื่ม แต่เค้าแค่จูบกันเบาๆ จุ๊บแก้ม จุ๊บหน้าผาก คนดูก็หมอนขาดหมดบ้านแล้วค่ะ 5555
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่