สำหรับร้านนี้ไปลองเพราะได้ยินชื่อเสียงความอร่อยมาซักพัก ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าร้านนี้ walk in ไปไม่ได้ทานนะคะ ต้องโทรไปจองก่อน ซึ่งตอนจอง ทางร้านก็จะให้สั่งเมนูล่วงหน้าเลย ซึ่งคราวนี้ที่เราสั่งไปคือ :
1. ปลาช่อนซอสตะไคร้
2. กุ้ง+ปลาหมึก ต้มมะนาว
3. ซี่โครงหมูต้มเค็ม
4. ข้าวผัดปู
5. ปลาช่อนผัดพริกขิง
6. มะระผัดไข่
7. กุ้งทอดซอสส้ม
ก่อนไปทานคือตื่นเต้นมากที่จะไดัทาน ลองมาดูกันค่ะ ว่าแต่ละเมนูเป็นยังไงบ้าง
เริ่มจาก ‘ปลาช่อนซอสตะไคร้’ มีปลาช่อน 1 ชิ้น (450 บาท) ราคาแรงใช้ได้ ไม่เป็นไร แพงอร่อยเราจ่าย!!! ชิมๆๆๆ .... เค็มจัง.. เค็มมากกก ปาดซอสออกโลด ทนกินปลาไป เสียดาย (คิดในใจ ป้าเค้าน่าจะปรุงพลาดมั้ง)
ต่อมา ‘กุ้ง+ปลาหมึก ต้มมะนาว’ มาเป็นถ้วย ถ้วยขนาดปกติ มีกุ้ง 2 ตัว (เปื่อยและไม่ใหญ่) และปลาหมึกหั่นแว่นๆๆ รสชาติถือว่าใช้ได้นะเมนูนี้ สำหรับถ้วยขนาดนี้ให้ 400 บาทแบบแพงสุด แต่ราคาของมันคือ 700 บาท!!! Omg
700 บาท จริงป๊ะเนี้ยยย ให้มาแบบหม้อไฟยังว่าแพง นี่มาเป็นถ้วย (แต่ต้องบอกว่าบางเมนูที่สั่งคือไม่ได้มีในเล่ม สั่งๆตามรีวิวและไม่ได้ถามราคา อันนี้ก็ความผิดเราเอง แค่ไม่นึกว่าราคาจะเว่อร์วังอลังการขนาดนี้ - ราคาและสภาพร้านไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกัน)
ต่อที่ ‘ซี่โครงหมูต้มเค็ม’ อันนี้รีวิวบอก the best อืมม เปื่อยนะ หมูเปื่อยมาก ปรุงมาก็ประมาณว่า กระเทียม ซีอิ้ว พริกไทย น้ำตาล ตุ๋นๆๆให้เปื่อย ธรรมดาอะ ราคา 350 บาท เฉยๆๆๆมาก
ทีเด็ดอีกอันคือ ‘ข้าวผัดปู’ อันนี้เซ็งละลืมถ่ายรูป แต่ปูอยู่ไหนๆๆๆๆ เรียกข้าวผัดไข่เถอะ จานกลางๆทานได้ซัก 3 คน ราคา 450 บาทจ้าาาา รสชาติใช้ได้นะจานนี้ ถ้ามีปู!!!
‘ปลาช่อนผัดพริกขิง’ รสชาติใช้ได้แบบหาได้ตาม food court ทั่วไป ตัวปลาแข็งมากกว่ากรอบ 450 บาท
555 เบิ่ดคำสิเว้า เราพาที่บ้านไปทานหลายคน เสียหน้าและเจื่อนมากๆ ณ จุดนี้ T T
มาจานผักบ้าง ‘มะระผัดไข่’ (250 บาท) มะระเปื่อยเหมือนเอาไปต้มและเอามาผัด ออกหวาน เอ้ยถึงจานนี้มันไม่ใช่จริงๆละ ราคาภัตตาคาร สภาพร้านเก่าๆไม้ๆไม่สวยงาม รสชาติอาหารไม่ได้เลย แต่ขายได้ราคาแรงมาก งงอ้ะ!!
สุดท้าย ท้ายสุด ‘กุ้งทอดซอสส้ม’ (ในตำนาน?) (ตัวละ 200) กุ้งดูตัวใหญ่มาก ดูน่ากินเลยนะ ชิมๆๆๆ มันคือกุ้งพร้อมเปลือกเอาไปชุบแป้งทอด กินยากมาก เนื้อกุ้งน้อยมาก กุ้งนี้คือหัวโตกว่าตัวมากๆๆๆ เนื้อแทบไม่มี ความสดก็ไม่ได้สดนะ ส่วนซอสนั้น... ให้นึกรสชาติของหน้าของเค้กส้มหน้านิ่มแต่เหลวๆแล้วใส่น้ำปลา แบบนั้นเลย คือรสชาติแปลกมากและไม่อร่อยเลย ฝืนกินสุดๆ
สุดท้ายในสุดท้ายร้านแนะนำว่าบัวลอยอร่อยมาก เอามั้ย สั่งไป 3 ถ้วย แต่เอามาเสริฟ 6 หรือ 7 ถ้วยเนี่ย เราก็บอกร้านไปว่าสั่งแค่ 3 ถ้วย... ความพีคคือคนเสริฟบอกว่า ให้เราเดินไปเจรจากับแม่ครัวเองว่าจะเอา 3 ถ้วย... ห๊ะ สั่ง 3 ถ้วย เสริฟมาเกินทำไมต้องเจรจา งงมากกกกก คนเสริฟดูกลัวและไม่กล้าเข้าไปบอกแม่ครัว พูดซ้ำไปมาว่าให้เราเดินไปหาแม่ครัว ไปบอกเอง นี่มันอะไรกันเนี่ยยยย สุดท้ายงอแงไปมาก็เอากลับไป อันนี้ราคาปกติสุดละ ถ้วยละ 50 บาท ส่วนรสชาติก็เลิกหวังไปละ แค่อยากชิม สรุปคือหวานมากกกกก หวานๆๆๆๆๆๆ กินไป 1 คำ เลิกจ้า แนะนำร้านบัวลอยร้านไหนก็ได้ในตลาดแทน
เรียกเก็บเงิน ช้ามากกกกก ผ่านไปแบบ 20 นาที ยังไม่มา ตามแล้วตามอีก เค้าบอกว่าคนเก็บเงินกับคนทำอาหารเป็นคนเดียวกันเท่านั้น ต้องรอ
ส่วนห้องน้ำของทางร้านไม่มีทิชชู่ เราก็เลยถามขอทิชชู่ไป ได้คำตอบสั้นๆกลับมาว่า “ไม่มี”
โอเคเบ็ดเสร็จมื้อนี้เกือบๆ 5 พันบาท ความรู้สึกเหมือนเพิ่งได้กินข้าวโรงอาหารที่ไม่ค่อยอร่อย อาหารไม่เค็มจัด ก็หวานจัด อายคนที่เราพาไปมากกกโม้ไว้เยอะ 555 แต่ยังไงก็ความเห็นส่วนตัวนะคะ คนอื่นอาจจะชอบกัน ก็ลองดูค่า
(*~JS Happy Belly~*) “ร้านพวงทอง เชียงใหม่” เค้าว่ากันว่าอร่อยนั้น....???
1. ปลาช่อนซอสตะไคร้
2. กุ้ง+ปลาหมึก ต้มมะนาว
3. ซี่โครงหมูต้มเค็ม
4. ข้าวผัดปู
5. ปลาช่อนผัดพริกขิง
6. มะระผัดไข่
7. กุ้งทอดซอสส้ม
ก่อนไปทานคือตื่นเต้นมากที่จะไดัทาน ลองมาดูกันค่ะ ว่าแต่ละเมนูเป็นยังไงบ้าง
เริ่มจาก ‘ปลาช่อนซอสตะไคร้’ มีปลาช่อน 1 ชิ้น (450 บาท) ราคาแรงใช้ได้ ไม่เป็นไร แพงอร่อยเราจ่าย!!! ชิมๆๆๆ .... เค็มจัง.. เค็มมากกก ปาดซอสออกโลด ทนกินปลาไป เสียดาย (คิดในใจ ป้าเค้าน่าจะปรุงพลาดมั้ง)
ต่อมา ‘กุ้ง+ปลาหมึก ต้มมะนาว’ มาเป็นถ้วย ถ้วยขนาดปกติ มีกุ้ง 2 ตัว (เปื่อยและไม่ใหญ่) และปลาหมึกหั่นแว่นๆๆ รสชาติถือว่าใช้ได้นะเมนูนี้ สำหรับถ้วยขนาดนี้ให้ 400 บาทแบบแพงสุด แต่ราคาของมันคือ 700 บาท!!! Omg
700 บาท จริงป๊ะเนี้ยยย ให้มาแบบหม้อไฟยังว่าแพง นี่มาเป็นถ้วย (แต่ต้องบอกว่าบางเมนูที่สั่งคือไม่ได้มีในเล่ม สั่งๆตามรีวิวและไม่ได้ถามราคา อันนี้ก็ความผิดเราเอง แค่ไม่นึกว่าราคาจะเว่อร์วังอลังการขนาดนี้ - ราคาและสภาพร้านไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกัน)
ต่อที่ ‘ซี่โครงหมูต้มเค็ม’ อันนี้รีวิวบอก the best อืมม เปื่อยนะ หมูเปื่อยมาก ปรุงมาก็ประมาณว่า กระเทียม ซีอิ้ว พริกไทย น้ำตาล ตุ๋นๆๆให้เปื่อย ธรรมดาอะ ราคา 350 บาท เฉยๆๆๆมาก
ทีเด็ดอีกอันคือ ‘ข้าวผัดปู’ อันนี้เซ็งละลืมถ่ายรูป แต่ปูอยู่ไหนๆๆๆๆ เรียกข้าวผัดไข่เถอะ จานกลางๆทานได้ซัก 3 คน ราคา 450 บาทจ้าาาา รสชาติใช้ได้นะจานนี้ ถ้ามีปู!!!
‘ปลาช่อนผัดพริกขิง’ รสชาติใช้ได้แบบหาได้ตาม food court ทั่วไป ตัวปลาแข็งมากกว่ากรอบ 450 บาท
555 เบิ่ดคำสิเว้า เราพาที่บ้านไปทานหลายคน เสียหน้าและเจื่อนมากๆ ณ จุดนี้ T T
มาจานผักบ้าง ‘มะระผัดไข่’ (250 บาท) มะระเปื่อยเหมือนเอาไปต้มและเอามาผัด ออกหวาน เอ้ยถึงจานนี้มันไม่ใช่จริงๆละ ราคาภัตตาคาร สภาพร้านเก่าๆไม้ๆไม่สวยงาม รสชาติอาหารไม่ได้เลย แต่ขายได้ราคาแรงมาก งงอ้ะ!!
สุดท้าย ท้ายสุด ‘กุ้งทอดซอสส้ม’ (ในตำนาน?) (ตัวละ 200) กุ้งดูตัวใหญ่มาก ดูน่ากินเลยนะ ชิมๆๆๆ มันคือกุ้งพร้อมเปลือกเอาไปชุบแป้งทอด กินยากมาก เนื้อกุ้งน้อยมาก กุ้งนี้คือหัวโตกว่าตัวมากๆๆๆ เนื้อแทบไม่มี ความสดก็ไม่ได้สดนะ ส่วนซอสนั้น... ให้นึกรสชาติของหน้าของเค้กส้มหน้านิ่มแต่เหลวๆแล้วใส่น้ำปลา แบบนั้นเลย คือรสชาติแปลกมากและไม่อร่อยเลย ฝืนกินสุดๆ
สุดท้ายในสุดท้ายร้านแนะนำว่าบัวลอยอร่อยมาก เอามั้ย สั่งไป 3 ถ้วย แต่เอามาเสริฟ 6 หรือ 7 ถ้วยเนี่ย เราก็บอกร้านไปว่าสั่งแค่ 3 ถ้วย... ความพีคคือคนเสริฟบอกว่า ให้เราเดินไปเจรจากับแม่ครัวเองว่าจะเอา 3 ถ้วย... ห๊ะ สั่ง 3 ถ้วย เสริฟมาเกินทำไมต้องเจรจา งงมากกกกก คนเสริฟดูกลัวและไม่กล้าเข้าไปบอกแม่ครัว พูดซ้ำไปมาว่าให้เราเดินไปหาแม่ครัว ไปบอกเอง นี่มันอะไรกันเนี่ยยยย สุดท้ายงอแงไปมาก็เอากลับไป อันนี้ราคาปกติสุดละ ถ้วยละ 50 บาท ส่วนรสชาติก็เลิกหวังไปละ แค่อยากชิม สรุปคือหวานมากกกกก หวานๆๆๆๆๆๆ กินไป 1 คำ เลิกจ้า แนะนำร้านบัวลอยร้านไหนก็ได้ในตลาดแทน
เรียกเก็บเงิน ช้ามากกกกก ผ่านไปแบบ 20 นาที ยังไม่มา ตามแล้วตามอีก เค้าบอกว่าคนเก็บเงินกับคนทำอาหารเป็นคนเดียวกันเท่านั้น ต้องรอ
ส่วนห้องน้ำของทางร้านไม่มีทิชชู่ เราก็เลยถามขอทิชชู่ไป ได้คำตอบสั้นๆกลับมาว่า “ไม่มี”
โอเคเบ็ดเสร็จมื้อนี้เกือบๆ 5 พันบาท ความรู้สึกเหมือนเพิ่งได้กินข้าวโรงอาหารที่ไม่ค่อยอร่อย อาหารไม่เค็มจัด ก็หวานจัด อายคนที่เราพาไปมากกกโม้ไว้เยอะ 555 แต่ยังไงก็ความเห็นส่วนตัวนะคะ คนอื่นอาจจะชอบกัน ก็ลองดูค่า