พอดีดิฉันได้อ่านบทความของคุณและชื่นชอบค่ะเพราะช่วยเหลือผู้คนได้มากจริงๆ ดิฉันขอความช่วยเหลือค่ะว่าจากเหตุการณ์นี้เราสามารถแจ้งความหรือฟ้องร้องได้ไหมคะดิฉันพึ่งเริ่มงานที่บริษัทE commerceชื่อดังแห่งหนึ่งค่ะ และได้รับความกดดันจากการใช้อำนาจกลั่นแกล้งในหลายๆครั้งและถูกบีบให้ออกไม่ผ่านโปรแล้วบังคับให้ลาออกค่ะ มีลำดับเหตุการณ์ดังนี้ค่ะ
1. ดิฉันเข้าทำงานวันที่ 1oct ตอนสัมภาษณ์หัวหน้าบอกจะมีการเทรนนิ่งฝึกให้เราทำงานเป็นโดยส่งเราไป แต่พอมาทำงานจริงกลับไม่มี ดิฉันทวงถามหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยยอมส่งไป และใช้เหตุผลมาบ่ายเบี่ยง บางทีก็ดุ ดิฉันไม่เคยทำงานสายงานนี้และไปต่อไม่ได้ไม่เข้าใจการทำงาน พอถามเยอะก็รำคาญใส่ บางทีถูกหักหน้ากลางห้องประชุมแบบแนบเนียนคือสอนงานเราให้เราพรีเซ็นงานตามที่เขาสอนแต่พอออกไปพูดกลับบอกว่าเราพูดผิด พอเราบอกว่าก็เขาสอนแบบนี้ เขาขึ้นเสียงใส่ดิฉันต่อหน้าทุกคนบอกว่าตัวเองไม่ได้พูด และเวลาให้feedbackชอบdiscreditคือชอบพูดให้เราได้อายต่อหน้าคนเยอะๆ ดิฉันพยายามจะคุยว่าทำยังไงให้เราร่วมงานกันได้ดี ขอถามคำถามขอปรึกษาได้ไหม เขาตอบว่าถ้าเขาตอบเรานั่นก้อเท่ากับว่าผลงานนี้เป็นของเขาสิ งั้นเขาจะมีเราทำไมทำเองไม่ดีกว่าเหรอ ยิ่งทำให้ดิฉันพยายามไปทุกวันแบบไร้จุดหมาย บางวันไม่ได้นอนเลยสักชม.ก็มี คือออยากจะทำให้ได้ แต่มันเหมือนเคว้งอยู่ขนเดียวขอที่ปรึกษา ขอทีมงานก็ไม่ให้
2.ทุกครั้งที่เห็นต่งจะต้องโดนเล่นงานกลับมา เช่นทำslide presentให้เขา เขาพูดเสมอว่าสิ่งที่เขาใช้เอามาจากการกลั่นกรองและทดลองจริงแต่เราไปเจอโมเดลที่เขาใช้ในยูทูปและgoogle เราจึงเปลี่ยนเนื้อหาแล้วให้เหตุผลไปว่าเราไม่ถนัดโมเดลเขา อีกไม่กี่วันก้อจะไปเรียกHRมาบี้เราอีก ทั้งที่เรารักษาหน้าเขานะ อย่างงนี้เราเราสามารถทำอะไรได้บ้างคะ เราเก็บหลักฐานการแอบอ้างไว้
09/12/20 หัวหน้าเรียกคุยถามสารทุกข์สุขดิบ ดิฉันบอกว่าเริ่มเข้าใจการทำงาน เขาก็เข้ามากอด เราก็นึกว่าไม่มีอะไรทุกอย่างกำลังเป็นไปได้ด้วยดี แล้วสักพักHRก็เข้ามาบอกว่าไม่ผ่านโปรนะให้ลาออกเถอะ เดี๋ยวจ่ายเงินเดือนให้จนสิ้นเดือนธันวาแล้วก็ไม่ต้องมาทำงานแล้วก็ได้ แบบไม่มีสัญญาณบอกเหตุใดๆเพราะตะกี้หัวหน้ายังคุยกับเราดีๆอยู่เลย และจากนั้นเค้าหลบหน้า ดิฉันขอคุยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมกลายเป็นแบบนี้ เขายิ้มแบบมีชัยชนะใส่แล้วบอกดิฉันว่าคุณไม่ควรเอาอารมณ์มาใส่ในงานนะเขาไม่รู้เรื่อง มันเป็นหน้าที่ของHR พูดไปยิ้มไป
ในวันเดียวกันHRพยายามให้ดิฉันเซนต์จดหมายลาออกให้ได้ ดิฉันตอบว่าทำไม่ได้ต้องขอคิดดูก่อน
10/12/20 ดิฉันส่งข้อความหาHRว่าจะเข้าไปคืนของและทำทุกอย่างให้เรียบร้อยในวันอังคารและจะไปปฏิบัติธรรม
11/12/20 เนื่องจากHRบอกว่าดิฉัน
สามารถไปได้เลย จึงไม่เข้าoffice แล้วมาสงบสติที่สถานปฏิบัติธรรมแทน ตอนสายๆเพื่อนร่วมงานติดต่อมาว่าให้เข้าofficeเดี๋ยวนี้ เพราะถ้าไม่เข้าจะมีปัญหาเพราะดิฉันหายไปหัวหน้าบอกถ้าหายไป3วันจะไล่ออก ซึ่งคนที่ควรติดต่อมาควรเป็นHRหรือหัวหน้าเพราะข้อมูลดิฉันถูกเปิดเผยทำให้เสื้อมเสียชื่อเสียง ดิฉันโทรหาHRถามว่าเกิดอะไรขึ้น HR ต้องการให้เิฉันออกจากวัดแล้วมาเซนต์ใบลาออกให้ได้ในวันนี้ คือดิฉันงงกับสิ่งนี้มากทำไมเขาเร่งจะไล่เราให้ไปขนาดนั้น ทั้งที่เราก็ยอมลาออกและแจ้งวันแล้ว เขาทำลายความภาคภูมิใจและศักดิ์ศรีความเป็นคนของเราจนหมดแล้วค่ะ จนดิฉันโทรกลับไปบอกว่าจะไม่ออกจากวัด และจะไปวันจันทร์แทน และส่งอีเมล์หาทุกคน ในHRและหัวหน้า ดังนี้
ใจความว่าคุณต้องเคารพเวลาและให้เวลาเราตัดสินใจ เรามีสิทธิ์ตามกฏหมายที่จะทบทวนใช่ไหม เขาตาไล่บี้แม้แต่อยู่ในวัดอ่ะค่ะ และบอกว่าการเปิดเผยข้อมูลเป็นเรื่องที่รับไม่ได้เลยในบริษัทใหญ่ขนาดนี้
ดิฉันไม่รู้จะพึ่งใคร ขอความช่วยเหลือจริงๆค่ะ ขอบคุณจากใจและอนุโมทนาสาธุค่ะ
ถูกใช้อำนาจบีบจากหัวหน้าและฝ่ายบุคคลร่วมมือกันเราสามารถฟ้องร้องหรือแจ้งความได้ไหม
1. ดิฉันเข้าทำงานวันที่ 1oct ตอนสัมภาษณ์หัวหน้าบอกจะมีการเทรนนิ่งฝึกให้เราทำงานเป็นโดยส่งเราไป แต่พอมาทำงานจริงกลับไม่มี ดิฉันทวงถามหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยยอมส่งไป และใช้เหตุผลมาบ่ายเบี่ยง บางทีก็ดุ ดิฉันไม่เคยทำงานสายงานนี้และไปต่อไม่ได้ไม่เข้าใจการทำงาน พอถามเยอะก็รำคาญใส่ บางทีถูกหักหน้ากลางห้องประชุมแบบแนบเนียนคือสอนงานเราให้เราพรีเซ็นงานตามที่เขาสอนแต่พอออกไปพูดกลับบอกว่าเราพูดผิด พอเราบอกว่าก็เขาสอนแบบนี้ เขาขึ้นเสียงใส่ดิฉันต่อหน้าทุกคนบอกว่าตัวเองไม่ได้พูด และเวลาให้feedbackชอบdiscreditคือชอบพูดให้เราได้อายต่อหน้าคนเยอะๆ ดิฉันพยายามจะคุยว่าทำยังไงให้เราร่วมงานกันได้ดี ขอถามคำถามขอปรึกษาได้ไหม เขาตอบว่าถ้าเขาตอบเรานั่นก้อเท่ากับว่าผลงานนี้เป็นของเขาสิ งั้นเขาจะมีเราทำไมทำเองไม่ดีกว่าเหรอ ยิ่งทำให้ดิฉันพยายามไปทุกวันแบบไร้จุดหมาย บางวันไม่ได้นอนเลยสักชม.ก็มี คือออยากจะทำให้ได้ แต่มันเหมือนเคว้งอยู่ขนเดียวขอที่ปรึกษา ขอทีมงานก็ไม่ให้
2.ทุกครั้งที่เห็นต่งจะต้องโดนเล่นงานกลับมา เช่นทำslide presentให้เขา เขาพูดเสมอว่าสิ่งที่เขาใช้เอามาจากการกลั่นกรองและทดลองจริงแต่เราไปเจอโมเดลที่เขาใช้ในยูทูปและgoogle เราจึงเปลี่ยนเนื้อหาแล้วให้เหตุผลไปว่าเราไม่ถนัดโมเดลเขา อีกไม่กี่วันก้อจะไปเรียกHRมาบี้เราอีก ทั้งที่เรารักษาหน้าเขานะ อย่างงนี้เราเราสามารถทำอะไรได้บ้างคะ เราเก็บหลักฐานการแอบอ้างไว้
09/12/20 หัวหน้าเรียกคุยถามสารทุกข์สุขดิบ ดิฉันบอกว่าเริ่มเข้าใจการทำงาน เขาก็เข้ามากอด เราก็นึกว่าไม่มีอะไรทุกอย่างกำลังเป็นไปได้ด้วยดี แล้วสักพักHRก็เข้ามาบอกว่าไม่ผ่านโปรนะให้ลาออกเถอะ เดี๋ยวจ่ายเงินเดือนให้จนสิ้นเดือนธันวาแล้วก็ไม่ต้องมาทำงานแล้วก็ได้ แบบไม่มีสัญญาณบอกเหตุใดๆเพราะตะกี้หัวหน้ายังคุยกับเราดีๆอยู่เลย และจากนั้นเค้าหลบหน้า ดิฉันขอคุยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมกลายเป็นแบบนี้ เขายิ้มแบบมีชัยชนะใส่แล้วบอกดิฉันว่าคุณไม่ควรเอาอารมณ์มาใส่ในงานนะเขาไม่รู้เรื่อง มันเป็นหน้าที่ของHR พูดไปยิ้มไป
ในวันเดียวกันHRพยายามให้ดิฉันเซนต์จดหมายลาออกให้ได้ ดิฉันตอบว่าทำไม่ได้ต้องขอคิดดูก่อน
10/12/20 ดิฉันส่งข้อความหาHRว่าจะเข้าไปคืนของและทำทุกอย่างให้เรียบร้อยในวันอังคารและจะไปปฏิบัติธรรม
11/12/20 เนื่องจากHRบอกว่าดิฉัน
สามารถไปได้เลย จึงไม่เข้าoffice แล้วมาสงบสติที่สถานปฏิบัติธรรมแทน ตอนสายๆเพื่อนร่วมงานติดต่อมาว่าให้เข้าofficeเดี๋ยวนี้ เพราะถ้าไม่เข้าจะมีปัญหาเพราะดิฉันหายไปหัวหน้าบอกถ้าหายไป3วันจะไล่ออก ซึ่งคนที่ควรติดต่อมาควรเป็นHRหรือหัวหน้าเพราะข้อมูลดิฉันถูกเปิดเผยทำให้เสื้อมเสียชื่อเสียง ดิฉันโทรหาHRถามว่าเกิดอะไรขึ้น HR ต้องการให้เิฉันออกจากวัดแล้วมาเซนต์ใบลาออกให้ได้ในวันนี้ คือดิฉันงงกับสิ่งนี้มากทำไมเขาเร่งจะไล่เราให้ไปขนาดนั้น ทั้งที่เราก็ยอมลาออกและแจ้งวันแล้ว เขาทำลายความภาคภูมิใจและศักดิ์ศรีความเป็นคนของเราจนหมดแล้วค่ะ จนดิฉันโทรกลับไปบอกว่าจะไม่ออกจากวัด และจะไปวันจันทร์แทน และส่งอีเมล์หาทุกคน ในHRและหัวหน้า ดังนี้
ใจความว่าคุณต้องเคารพเวลาและให้เวลาเราตัดสินใจ เรามีสิทธิ์ตามกฏหมายที่จะทบทวนใช่ไหม เขาตาไล่บี้แม้แต่อยู่ในวัดอ่ะค่ะ และบอกว่าการเปิดเผยข้อมูลเป็นเรื่องที่รับไม่ได้เลยในบริษัทใหญ่ขนาดนี้
ดิฉันไม่รู้จะพึ่งใคร ขอความช่วยเหลือจริงๆค่ะ ขอบคุณจากใจและอนุโมทนาสาธุค่ะ