ถึงแม้ว่าตอนนี้โควิดจะยังระบาดอยู่ และเรายังต้องงดเดินทางออกนอกประเทศถ้าไม่มีเหตุจำเป็น
แต่ก็เริ่มเห็นความหวังรำไรกันแล้วเนอะ เพราะหลายๆประเทศก็เตรียมวัคซีนให้ประชาชนกันแล้ว

แน่นอนว่าขาเที่ยวอย่างเราก็แทบอดใจรอวันที่จะได้ไปเที่ยวไม่ไหวแล้ว ><

และแน่นอนว่าประเทศยอดนิยมสำหรับการไปเที่ยวของชาวไทยก็คือ 'ญี่ปุ่น'
วันนี้เราเลยมาชวนทุกคนอ่านข้อมูลเรื่องการเดินทางในญี่ปุ่นกันครับ

ไปดูกันเลยดีกว่าว่าวันนี้เราจะรีวิวการเดินทางแบบไหนในประเทศญี่ปุ่น



เมื่อต้องเดินทางในญี่ปุ่น สิ่งที่หลายๆคนกังวลใจคือค่าเดินทาง ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ามันแพงกว่าประเทศไทยเยอะครับ (แน่ล่ะ ก็ค่าครองชีพของญี่ปุ่นสูงกว่าไทยประมาณ 2-3 เท่าเลยนี่นา)

ทีนี้เลยเกิดคำถามว่า แล้วต้องทำยังไงถึงจะเดินทางไปไหนมาไหนได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะล่ะ?

ถ้าเป็นการเที่ยวในเมืองเพียงเมืองเดียว เช่น เที่ยวโตเกียว 3 วันอะไรแบบนี้ เราก็คงไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะถึงค่าเดินทางจะสูงกว่าไทย แต่ในเมื่อไม่ได้ไปไหนไกล ค่าเดินทางก็เลยไม่ได้สูงอะไรมาก

แต่ลองจินตนาการว่าถ้าเป็นการเที่ยวหลายเมือง และเมืองที่อยากไปมันอยู่ไกลกัน เช่น อยากไปทั้งโตเกียว โอซาก้า ฮิโรชิม่า อะไรประมาณนี้ นอกจาก JR PASS หรือตั๋วเครื่องบินราคาถูกแล้ว เรายังมีทางเลือกอื่นอีกไหมนะ?


ที่มาของรูปภาพ : https://willerexpress.com/st/3/en/pc/buspass/img2016/bnr360.png

วิธีเดินทางในญี่ปุ่นที่ผมจะมาแนะนำในวันนี้คือ ‘รถบัส’ ครับ แต่ถ้าคิดว่านี่คงเป็นเพียงการแนะนำว่านั่งรถบัสเที่ยวเป็นอย่างไร ขอบอกว่าไม่ใช่เลยครับ! เพราะว่าผมจะมาแนะนำตั๋วราคาพิเศษที่ชาวต่างชาติสามารถซื้อใช้ได้ นั่นก็คือ 'Willer Bus Pass'


ที่มาของรูปภาพ : https://willerexpress.com/st/3/en/pc/buspass/

รู้จักกับตั๋ว Willer Bus Pass

เจ้า Willer Bus Pass นี้คือตั๋วรถบัสที่ชาวต่างชาติเท่านั้นถึงจะมีสิทธิซื้อครับ (ชาวต่างชาติในที่นี้คือรวมทั้งผู้ถือพาสปอร์ตนักท่องเที่ยว และชาวต่างชาติที่ไม่ใช่นักท่องเที่ยว แต่ศึกษาหรือทำงานในประเทศญี่ปุ่น)

โดยตั๋วรถบัสที่ว่านี้ เราสามารถใช้ขึ้นรถบัสของบริษัท Willer ได้ในจำนวนวันและจำนวนเที่ยวรถบัสต่อวัน ตามที่บริษัทกำหนดครับ


ที่มาของรูปภาพ : https://willerexpress.com/st/3/en/pc/buspass/

ประเภทของตั๋ว Willer Bus Pass

ประเภทของตั๋ว Willer Bus Pass จะจำแนกออกเป็น

1. ตั๋วประเภทที่ใช้ได้เฉพาะวันจันทร์ถึงวันพฤหัส
   - ตั๋วสำหรับใช้ 3 วัน ราคา 10,200 เยน
   - ตั๋วสำหรับใช้ 5 วัน ราคา 12,800 เยน
   - ตั๋วสำหรับใช้ 7 วัน ราคา 15,300 เยน

2. ตั๋วประเภทใช้ได้ทุกวัน
   - ตั๋วสำหรับใช้ 3 วัน ราคา 12,800 เยน
   - ตั๋วสำหรับใช้ 5 วัน ราคา 15,300 เยน


ที่มาของรูปภาพ : https://willerexpress.com/st/3/en/pc/buspass/

ซึ่งตั๋วทั้ง 2 ประเภทจะมีช่วงเวลาที่ไม่ว่ายังไงก็ใช้ไม่ได้อยู่ 2 ช่วง คือ
1. ช่วง Golden Week (ปลายเดือนเมษายน – ต้นเดือนพฤษภาคม)
2. ช่วงเทศกาลโอบ้ง (หรือเชงเม้งของคนญี่ปุ่น ซึ่งตรงกับช่วงต้นถึงกลางเดือนสิงหาคม)

จำนวนรถบัสที่ใช้ได้ต่อวันคือ 3 เที่ยว ในที่นี้คือรถบัสวิ่งกลางวันสูงสุด 2 เที่ยว และรถบัสวิ่งกลางคืนสูงสุด 1 เที่ยว

การเลือกที่นั่งบนรถบัส



ในส่วนของการเลือกที่นั่ง เราสามารถเลือกได้ทั้งแบบ relax และแบบ standard ซึ่งเป็นที่นั่งเกรดทั่วไปครับ


ที่มาของรูปภาพ : https://willerexpress.com/st/3/en/pc/buspass/

จากประสบการณ์ที่ผมเคยนั่งรถบัสด้วยที่นั่งแบบ relax บ่อยๆ ผมคิดว่านั่งได้สบายพอประมาณนะครับ แต่ถ้าคนตัวใหญ่น่าจะรู้สึกอึดอัด

โดยเบาะสามารถปรับเอนได้เยอะและมีที่บังแสงอย่างดี เพราะงั้นในเรื่องการนอนก็คือนอนได้ครับ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องทำใจคือเรานอนบนรถที่กำลังวิ่ง ดังนั้นถ้าใครนอนหลับยากก็อาจจะลำบากหน่อย

วิธีการซื้อตั๋วรถบัส


ที่มาของรูปภาพ : https://willerexpress.com/st/3/en/pc/buspass/

ในส่วนของวิธีการซื้อตั๋วนี้ เราสามารถซื้อได้จากเว็บไซต์ของบริษัท Willer โดยจะต้องใช้บัตรเครดิตในการซื้อ ซึ่งก่อนที่จะซื้อตั๋วได้เราต้องสมัครเป็นสมาชิกเว็บ Willer ซะก่อน (ไม่มีค่าสมัครสมาชิกครับ)


ที่มาของรูปภาพ : https://willerexpress.com/st/3/en/pc/buspass/how-to-book.html

จากนั้นเมื่อซื้อตั๋วนี้ได้แล้ว เราก็สามารถเลือกเส้นทางของรถบัสที่เราต้องการได้จากหน้าจอของเจ้าของบัตร

โดยการจองจะมีข้อกำหนดดังนี้
   - ต้องทำการจองผ่านอินเทอร์เน็ตบนคอมพิวเตอร์หรือมือถือเท่านั้น
   - หากจองไปแล้วอยากเปลี่ยนเส้นทางหรือเปลี่ยนอะไรก็ตาม ให้กดยกเลิกแล้วจองใหม่ได้ภายในเวลาที่กำหนด


ที่มา : https://willerexpress.com/st/3/en/pc/buspass/how-to-book.html

เลือกเส้นทางต่างๆจากตรงนี้ (รายละเอียดดูในเว็บเอานะครับ)


ที่มา : https://willerexpress.com/st/3/en/pc/buspass/how-to-book.html

แนะนำให้ตรวจสอบเรื่องสถานที่ตั้งป้ายขึ้นลงรถให้ดีนะครับ เพราะบางทีป้ายมันจะอยู่ห่างจากสถานีรถไฟอยู่ ต้องระวังนิดนึง

พอเรากดจองรถบัสแล้ว เขาก็จะส่งรายละเอียดการจองให้เราทางอีเมล์ ซึ่งผมขอแนะนำให้เซฟสกรีนเอาไว้ยื่นให้คนขับรถบัสดูตอนจะขึ้นรถ (ทางคนขับอาจขอดูเอกสารยืนยันตัวตนอื่นๆเพิ่มเติม เช่น พาสปอร์ต บัตรประชาชน ฯลฯ)

ข้อดี & ข้อเสียของตั๋วรถบัส Willer Bus Pass


ที่มา : https://willerexpress.com/st/3/en/pc/buspass/

[ ข้อดี ]

ทีนี้ข้อดีของการใช้เจ้าตั๋วนี้คืออะไร?

แน่นอนว่ามันราคาถูกกว่าไปการซื้อตั๋วรถบัสแยกเป็นครั้งๆ แต่ยังมีอะไรอีกล่ะ?

ข้อดีที่ชัดเจนของเจ้าตั๋วนี้คือ เราไม่ต้องใช้ตั๋วในวันที่ต่อเนื่องกันครับ ซึ่งถ้าเทียบกับ JR PASS แล้ว ตั๋ว JR PASS จะมีความยุ่งยากในเรื่องของวันที่จะใช้ตั๋ว เพราะต้องใช้ในวันที่ต่อเนื่องกัน

บางคนอาจจะงงว่า อ้าว แล้วไงล่ะ? JR PASS ใช้นั่งรถไฟได้ตลอดนี่?

ตรงนี้ต้องเตือนกันอีกทีว่าหลายๆคนอาจลืมไปว่า JR PASS เป็นตั๋วที่ใช้นั่งได้เฉพาะรถไฟของ JR เท่านั้น ซึ่งถ้าเป็นภูมิภาคที่จุดท่องเที่ยวไม่ค่อยจะอิงกับรถไฟ JR เช่น คันไซ ตั๋ว JR จะแทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะการเดินทางภายในคันไซนั้น ส่วนมากเราจะใช้รถไฟใต้ดินหรือรถบัสในเมืองครับ

ดังนั้นสมมติว่าผมเริ่มทริปจากโตเกียว แล้วนั่งรถไฟไปคันไซ (เริ่มนับการใช้งาน JR PASS) โดยกะจะเที่ยวคันไซสัก 3 วัน ก็จะเท่ากับว่าการเอาเงิน 30,000 กว่าเยนไปซื้อตั๋ว JR PASS จะเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำครับ เพราะเราจะได้ใช้ JR PASS น้อยมาก

ถ้าเป็นแบบนี้ สมมติว่าเราลองเปลี่ยนจากนั่งรถไฟชินคันเซ็นมาซื้อตั๋วรถบัส Willer เพื่อไปคันไซ แล้วค่อยไปซื้อพาสตัวอื่นที่เหมาะสมกว่า เช่น Kansai Wide Pass หรือ Kintetsu Rail Pass แบบนี้ก็ย่อมจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่าครับ (ตั๋วรถบัสของ Willer ไม่ได้กำหนดว่าต้องใช้ในวันที่ต่อเนื่องกัน เราเลยสามารถเก็บไว้ใช้ได้ยาวๆในช่วง 2 เดือนนับจากวันที่ซื้อตั๋ว)

นอกจากนี้แล้ว ตั๋วรถบัส Willer ยังมีข้อดีอีกประการหนึ่ง ซึ่งจริงๆแล้วอันนี้เป็นข้อดีในแง่ของความเป็นรถบัสกลางคืน คือเราสามารถเซฟค่าโรงแรมไปได้คืนหนึ่งครับ เพราะเรานอนบนรถบัสเลย บางคนอาจจะสงสัยว่าแล้วเวลาอาบน้ำทำยังไง? ง่ายๆเลยครับ ให้ไปใช้บริการอาบน้ำที่ออนเซ็นหรืออินเทอร์เน็ตคาเฟ่สักแห่ง แล้วค่อยมาขึ้นรถบัสก็ได้ครับ

ข้อดีประการสุดท้าย ตั๋วนี้ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นนักท่องเที่ยวเท่านั้นถึงจะซื้อได้ ดังนั้นชาวต่างชาติที่อยู่อาศัยในญี่ปุ่น (เช่นผมเอง) ก็สามารถซื้อตั๋วนี้เพื่อประหยัดค่าเดินทางได้ครับ

[ ข้อเสีย ]

ทีนี้ข้อเสียของรถบัส Willer มีอะไรบ้างล่ะ?

อย่างที่บอกไปข้างต้น การนอนบนรถบัสที่กำลังวิ่งอยู่อาจจะไม่สบายเท่าไหร่ ที่นั่งก็ไม่ค่อยกว้างด้วย ยังไงมันก็คงไม่สบายเท่านอนโรงแรมแน่นอน

นอกจากนี้ รถบัส Willer ก็ไม่มีเส้นทางเดินรถในภูมิภาคฮอกไกโดและโอกินาว่าด้วย และแม้ว่าในภูมิภาคคิวชูกับโทโฮคุจะมีสายรถที่วิ่งอยู่บ้าง แต่ก็ค่อนข้างน้อยครับ


ที่มา : https://willerexpress.com/st/3/en/pc/buspass/

จากประสบการณ์ส่วนตัวของผมเอง ผมจำได้ว่าเคยใช้ตั๋วนี้โดยมีจุดเริ่มต้นจากโตเกียว มุ่งหน้าไปยังโอซาก้า จากนั้นก็นั่งรถบัสไปเที่ยวฮิโรชิม่าต่อ แล้วนั่งจากฮิโรชิม่ากลับโตเกียว

ตั๋วที่ซื้อเป็นแบบใช้ได้ในวันจันทร์ – พฤหัส ราคา 10,200 เยน แต่ถ้าลองนับรอบเดินทางที่ผมใช้ไปจริงๆ หากไม่มีตั๋ว Willer Bus Pass จะคิดเป็นเงินประมาณ 24,000 เยน ก็เท่ากับว่าตั๋วนี้ช่วยผมประหยัดไปเกือบๆ 14,000 เยนเลยนะครับ

ถ้ายังไงผมก็ขอฝากตั๋ว Willer Bus Pass ไว้เป็นทางเลือกการเดินทางในญี่ปุ่นให้พิจารณากันนะครับ
.
เว็บไซต์บริษัทรถบัส Willer > https://willerexpress.com/st/3/en/pc/buspass/
.
อ่านบทความนี้ในเวอร์ชั่นเว็บไซต์ได้ที่นี่ > วิธีเที่ยวญี่ปุ่นด้วยรถบัสกลางคืน Willer Bus Pass
.
เพิ่มเติม! นอกจากตั๋ว Willer Buss Pass แล้ว ผมยังมีรีวิวตั๋วรถบัส 'JBL Pass' ซึ่งเป็นตั๋วรถบัสอีกแบบหนึ่งที่ใช้เที่ยวญี่ปุ่นได้ด้วยครับ หากใครสนใจตามไปอ่านกันได้ที่นี่เลย > รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตั๋วรถบัส JBL Pass

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

*** ก่อนจะลากันไปในวันนี้ เราขอฝาก fromJapan เว็บไซต์และเพจเฟซบุ๊ก
ที่รวบรวมเรื่องราวจิปาถะเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นไว้ด้วยนะครับ
> https://fromjapan.info/th/

*** ถ้าสนใจอ่านเรื่องเคล็ดลับการเดินทางในประเทศญี่ปุ่น เข้าไปที่หน้านี้ได้เลย
> https://fromjapan.info/th/category-th/basicinfo-th/traveltips-th/

*** หรือถ้าใครชอบเล่นเฟซบุ๊กก็มาติดตามเพจ fromJapan.th
เพจที่รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับญี่ปุ่นกันได้ที่นี่เลย
> https://www.facebook.com/fromJapan.th/