สวัสดีค่ะน้องๆทุกคนจากที่พี่ทิ้งcontact ไว้ใต้โพสต์ของใครสักคนเมื่อนานมาแล้วที่โพสต์ถามเกี่ยวกับสาขานี้แล้วช่วงนี้ก็เริ่มมีน้องๆหลายคนเริ่มทักเข้ามา วันนี้พี่จึงตัดสินใจที่จะเขียนรีวิวสาขานี้จากประสบการณ์ส่วนตัว3ปี เน้นย้ำนะคะประสบการณ์ส่วนตัว
มาเริ่มกันเลยค่ะ อันดับแรกจุดประสงค์ในการเข้ามาเรียนในสาขานี้ค่ะ พี่เข้ามาในรอบ1/2โควต้า10%(คือรอบนี้ค่อนข้างเข้าง่ายค่ะเอาจริงๆแล้ว) ตอนนั้นพี่เรียนอยู่สายวิทย์-คณิตฯค่ะแล้วก็ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองชอบอะไร อยากทำอะไร อยากทำหลายอย่างเลยค่ะทั้งวิศวะฯ โปรแกรมเมอร์ นักบัญชีนุ้นนี่นั่นตามประสา แต่ในขณะนั้นตัวพี่เองก็รู้สึกว่าไม่ได้เก่งในด้านนี้อะไรมากมายไม่ได้ชอบด้วยซ้ำแค่พองูๆปลาๆ ที่เข้าสายวิทย์มาก็เพราะว่ามันน่าจะเก๋น่าดู พี่ก็เลยล่องลอยแบบนั้นไปเรื่อยๆจนวันนึงที่โรงเรียนก็รับเอาครูสอนภาษาจีนมาเพิ่มแล้วได้มาสอนห้องพี่ค่ะ แต่เดิมเด็กสายวิทย์กับภาษาจีนก็ไม่ได้ถูกคออะไรกันมากนักแต่พออาจารย์คนนี้มาสอน มันสนุกค่ะ เรียนแล้วมันสนุกเลยทำให้ชอบขึ้นมาถึงจะเรียนแค่พินอินและการออกเสียงแต่มันสัมผัสได้ถึงความชอบพี่เลยตัดสินใจว่าจะไปเรียนสายภาษาต่อในมหาวิทยาลัยแล้วกัน ถึงจะไม่ค่อยมีพื้นฐานก็เถอะ ไม่กี่เดือนต่อมาโควต้า10%ก็ได้ลอยมาตกที่โรงเรียนของพี่ค่ะ ตอนนั้นก็ไม่รู้สึกอะไรเปิดไปเรื่อย แล้วมาสะดุดตรงชื่อสาขาวิชาค่ะ ในใจคือเก๋ม้ากก!!เรียน2ภาษาเลยหรอเนี้ยเก๋สุดๆ สำหรับพี่ตอนนั้นเรียนภาษาเดียวมันไม่เริ่ดค่ะต้อง2ภาษาถึงจะเอาตัวรอดในโลกนี้ได้ แต่ตอนนี้พี่เข้าใจแล้วค่ะภาษาเดียวก็เก๋อยู่ นั่นก็เพราะความเก๋นั่นแหละค่ะเลยทำให้พี่เลือกเรียนสาขานี้
-ต่อไปการสอบเข้าค่ะหลังจากที่พร่ำเพ้อพรรณนามานาน สำหรับตัวพี่เองพี่เข้ามาในรอบโควต้า10%ที่จะส่งไปให้ในแต่ละโรงเรียนแต่พี่ก็ไม่รู้ว่าไปได้ไกลถึงไหนสำหรับรอบนี้ปีพี่ปี61ไม่ได้สอบสัมภาษณ์ค่ะแต่ไม่รู้ว่าผ่านมาหลายปีแล้วจะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้างขอให้น้องๆติดตามข่าวสารทางเว็บของมหาวิทยาลัยเอาเลยนะคะพาร์ทนี้สั้นหน่อยเพราะพอพี่ติดแล้วก็ปล่อยเลยค่ะ555555
-ต่อไปเป็นการรีวิวหลักสูตรค่ะ ที่มหาวิทยาลัยหรือ มพ. จะเรียกสาขานี้ที่เรียน2ภาษาว่าจีนคู่ค่ะ(ตอนนี้คณะวิทยาลัยการศึกษาก็เปิดหลักสูตรครูจีนซึ่งเป็นคู่ขนานแล้วเหมือนกัน เวลารับน้องกับสายรหัสก็จะมาเอาที่คณะศิลปศาสตร์ค่ะ หรืออาจะมีสายรหัสของฝั่งวิทลัยอีกด้วยอันนี้ไม่แน่ใจ) ส่วนสาขาที่เรียนภาษาอังกฤษเฉยๆ หรือจีนเฉยๆ ก็จะเรียกว่าอิ้งเพียว หรือจีนเพียวค่ะ จีนคู่จะเรียนเหมือนสาขาจีนเพียวกับอิ้งเพียวทุกอย่างค่ะ โดยจะเรียน5ปี แล้วก็เรียนซัมเมอร์ด้วย(3เทอม) และหลักสูตรจะปรับเปลี่ยนทุกๆ2ปีค่ะ แล้วก็จะเรียนจะช้ากว่าเพียวหน่อยเพราะต้องแบ่งมาเรียนค่ะไม่ได้เอาวิชาที่สาขาเพียวเรียนปัจจุมาแล้วเรียนพร้อมกันแบบนั้นมันจะหนักเกินไปค่ะ อย่างวิจัยเพียวเรียนปี3แต่คู่ขนานจะเป็นปี4 ฝึกงานเพียวจะฝึกปี4เทอม2แต่คู่ขานจะฝึกปี5เทอม2ค่ะ เข้ามาเทอมแรกก็จะมีวิชาของมหาวิทยาลัยแล้วก็วิชาGEเหมือนกับหลายๆมหาวิทยาลัยเลยค่ะ ซึ่งเป็นวิชาที่น่าเบื่อมาก ปี1ที่เข้ามาใหม่กลัวว่าจะเรียนไม่ทันเพื่อนหรือไม่มีพื้นฐานมาไม่ต้องกลัวค่ะเพราะสาขาจะปูพื้นใหม่หมดเรียนตั้งแต่เรียนพินอินเลย ส่วนคนที่พื้นดีอย่าประมาทนะคะเพราะอาจารย์พี่บอกเสมอว่าคนที่มีพื้นมาจะประมาทแล้วจะถูกคนที่ไม่มีอะไรติดตัวมาเลยแซงเอาได้ค่ะ เพราะฉะนั้นแอคทีฟคัวเองตลอดเวลาลองหาหนังสือHSKมาอ่านพรางๆก็ดีค่ะ ปี1ปี2สำหรับเด็กจีนคู่61คือชิวมากๆค่ะ เรียนแค่ไม่กี่ตัว ชิวจนรู้สึกว่าเสียดายค่าเทอมจังเลยยย พอขึ้นปี3มันก็ค่อยๆเข้มข้นขึ้นค่ะไม่ยากอะไรมากนักถ้าจัดการเวลาและควบคุมตัวเองให้ดีๆ สาขานี้เปิดปีแรกปีไหนไม่รู้ค่ะแต่จีนคู่รุ่นแรกไม่มีใครจบ รุ่นที่2จบไป1คน ปีที่แล้วก็จบไม่กี่คน ส่วนปีนี้พี่ปี5เท่าที่รู้น่าจะกำลังฝึกงานอยู่5คนค่ะ ส่วนปี3นั้นเหลืออยู่16คนค่ะจาก29คน อีกอย่างนึงคือสาขานี้จะไม่มีวิชาโท และวิชาเสรีค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นคือจีนคู่ขนานไม่สามารถลงทะเรียนเองได้ค่ะ เพราะเขาจัดวิชาและให้เลือกอาจารย์ผู้สอนให้แล้ว จะไม่มีโมเม้นต์แบบว่าตื่นเช้ามาเพื่อแย่งกันลงทะเบียนเรียนค่ะแบบนั้นไม่มีแน่นอน
-ต่อมารีวิวสาขาค่ะ อาจารย์บอกว่าสาขานี้อยู่กันแบบครอบครัวค่ะ พี่ก็โอเคตามนั้นก็ได้ครอบครัวรักกันๆ สาขานี้จะไม่ค่อยเหมือนสาขาอื่นในคณะสักเท่าไหร่นัก เพราะจะมีกิจกรรมของสาขาเป็นของตัวเองแยกมาอีกค่ะ สาขานี้จะมีเสื้อสาขาและติ้งสาขาแล้วก็เสื้อช็อปสาขาด้วยจะได้เป็นชั้นปีไปค่ะ อย่างติ้งก็จะได้ปี3 เสื้อช็อปก็จะได้ปี4ค่ะ ส่วนตัวของติ้งนั้นเขาว่ามันจะไปเหมือนติ้งของเอกจีนมหาวิทยาลัยนเรศวรนะคะ เพราะว่ามพ เคยเป็นวิทยาเขตของมน ค่ะส่วนสาเหตุที่ว่าทำไมต้องเหมือนกันอาจารย์ก็ได้ให้คำนิยามคร่าวๆว่า คนจีนเขานับถือบรรพบุรุษเพราะว่าเขาไม่ได้ลืมรากเหง้าและความเป็นมาของตัวเองว่ามาจากไหน ฉะนั้นเราอยู่เอกจีนเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมเราก็ไม่ควรที่จะลืมว่าเรานั้นมาจากไหนเช่นกันค่ะน่าจะประมาณนี้คร่าวๆนะคะ
-ต่อมาเป็นคณะค่ะสาขาวิชาภาษาจีนจะสังกัดอยู่ที่ คณะศิลปศาสตร์ค่ะมี5สาขา อิ้ง จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศษ ไทย คู่ขนานก็จะมี จีน-อิ้ง, ฝรั่ง-อิ้ง, นิติฯ-อิ้ง แล้วก็การจัดการสารสนเทศ(ICT)-อิ้ง ค่ะ ส่วนกิจกรรมเยอะแยะมากมายเลยค่ะทั้งเล็กใหญ่ไม่ว่าจะเป็นรับน้อง ออกค่าย และแห่ผ้าห่มพระธาตุ อันนี้งานใหญ่ค่ะโดยจะทำร่วมกัน3คณะ ศิลปศาสตร์ วิทยาลัยการศึกษา และรัฐศาสตร์ค่ะ
-ต่อมารีวิวมหาวิทยาลัยพะเยา (มพ.) อันนี้คร่าวๆพอค่ะเพราะไม่ได้มาในหัวข้อรีวิวมหาวิทยาลัยเนอะ มอนี้หนาวดีค่ะโดยอากาศของวันนี้ที่เขียนรีวิว8ธค. 63 อยู่ที่14องศาค่ะ ไม่แน่ว่าปลายปีหรือต้นปีอาจจะเพิ่มหรืออาจะลดก็ได้ ปีก่อนๆจะมีดอกพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยบานสะพรั่งเต็มหน้ามอเลยค่ะเสียดายมาอยู่นี่เข้าปีที่3แล้วมันไม่เห็นเหมือนรูปที่เขาถ่ายไว้เลยเพราะว่ามันหมดหนาวไวมั้งคะ หวังว่าปีนี้จะได้เห็นแบบหนาๆแล้วก็ถ่ายรูปคู่ด้วย สภาพอากาศค่ะ ร้อนก็ร้อนมากยิ่งถ้าเรียนซัมเมอร์แล้วต้องนั่งรถเมล์ของมหาวิทยาลัยไปเรียนตอนบ่ายอีกด้วยละก็บอกเลยค่ะแทบเป็นลมเพราะมันร้อนแบบเดอะเบสท์เลย
จบการรีวิ้วค่ะ หากผิดพลาดประการณ์ใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ส่วนใครที่มีข้อสงสัยอะไรก็โพสต์ไว้ใต้กระทู้นี้เลยค่ะ อาจมีคนอื่นที่มีคำถามเดียวกันเข้ามาอ่านจะได้เข้าใจอย่างตรงกันเนาะ สำหรับน้องๆหลายคนที่กำลังสนใจหรือกำลังลังเลว่าจะเข้าสาขานี้ดีไหม พี่หวังว่ากระทู้นี้จะเกิดประโยชน์และเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจนะคะแล้วพี่จะรอให้น้องๆมาเป็นครอบครัวเดียวกันนะคะ รัก
รีวิวสาขาวิชาภาษาจีนคู่ขนานวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยพะเยา
มาเริ่มกันเลยค่ะ อันดับแรกจุดประสงค์ในการเข้ามาเรียนในสาขานี้ค่ะ พี่เข้ามาในรอบ1/2โควต้า10%(คือรอบนี้ค่อนข้างเข้าง่ายค่ะเอาจริงๆแล้ว) ตอนนั้นพี่เรียนอยู่สายวิทย์-คณิตฯค่ะแล้วก็ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองชอบอะไร อยากทำอะไร อยากทำหลายอย่างเลยค่ะทั้งวิศวะฯ โปรแกรมเมอร์ นักบัญชีนุ้นนี่นั่นตามประสา แต่ในขณะนั้นตัวพี่เองก็รู้สึกว่าไม่ได้เก่งในด้านนี้อะไรมากมายไม่ได้ชอบด้วยซ้ำแค่พองูๆปลาๆ ที่เข้าสายวิทย์มาก็เพราะว่ามันน่าจะเก๋น่าดู พี่ก็เลยล่องลอยแบบนั้นไปเรื่อยๆจนวันนึงที่โรงเรียนก็รับเอาครูสอนภาษาจีนมาเพิ่มแล้วได้มาสอนห้องพี่ค่ะ แต่เดิมเด็กสายวิทย์กับภาษาจีนก็ไม่ได้ถูกคออะไรกันมากนักแต่พออาจารย์คนนี้มาสอน มันสนุกค่ะ เรียนแล้วมันสนุกเลยทำให้ชอบขึ้นมาถึงจะเรียนแค่พินอินและการออกเสียงแต่มันสัมผัสได้ถึงความชอบพี่เลยตัดสินใจว่าจะไปเรียนสายภาษาต่อในมหาวิทยาลัยแล้วกัน ถึงจะไม่ค่อยมีพื้นฐานก็เถอะ ไม่กี่เดือนต่อมาโควต้า10%ก็ได้ลอยมาตกที่โรงเรียนของพี่ค่ะ ตอนนั้นก็ไม่รู้สึกอะไรเปิดไปเรื่อย แล้วมาสะดุดตรงชื่อสาขาวิชาค่ะ ในใจคือเก๋ม้ากก!!เรียน2ภาษาเลยหรอเนี้ยเก๋สุดๆ สำหรับพี่ตอนนั้นเรียนภาษาเดียวมันไม่เริ่ดค่ะต้อง2ภาษาถึงจะเอาตัวรอดในโลกนี้ได้ แต่ตอนนี้พี่เข้าใจแล้วค่ะภาษาเดียวก็เก๋อยู่ นั่นก็เพราะความเก๋นั่นแหละค่ะเลยทำให้พี่เลือกเรียนสาขานี้
-ต่อไปการสอบเข้าค่ะหลังจากที่พร่ำเพ้อพรรณนามานาน สำหรับตัวพี่เองพี่เข้ามาในรอบโควต้า10%ที่จะส่งไปให้ในแต่ละโรงเรียนแต่พี่ก็ไม่รู้ว่าไปได้ไกลถึงไหนสำหรับรอบนี้ปีพี่ปี61ไม่ได้สอบสัมภาษณ์ค่ะแต่ไม่รู้ว่าผ่านมาหลายปีแล้วจะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้างขอให้น้องๆติดตามข่าวสารทางเว็บของมหาวิทยาลัยเอาเลยนะคะพาร์ทนี้สั้นหน่อยเพราะพอพี่ติดแล้วก็ปล่อยเลยค่ะ555555
-ต่อไปเป็นการรีวิวหลักสูตรค่ะ ที่มหาวิทยาลัยหรือ มพ. จะเรียกสาขานี้ที่เรียน2ภาษาว่าจีนคู่ค่ะ(ตอนนี้คณะวิทยาลัยการศึกษาก็เปิดหลักสูตรครูจีนซึ่งเป็นคู่ขนานแล้วเหมือนกัน เวลารับน้องกับสายรหัสก็จะมาเอาที่คณะศิลปศาสตร์ค่ะ หรืออาจะมีสายรหัสของฝั่งวิทลัยอีกด้วยอันนี้ไม่แน่ใจ) ส่วนสาขาที่เรียนภาษาอังกฤษเฉยๆ หรือจีนเฉยๆ ก็จะเรียกว่าอิ้งเพียว หรือจีนเพียวค่ะ จีนคู่จะเรียนเหมือนสาขาจีนเพียวกับอิ้งเพียวทุกอย่างค่ะ โดยจะเรียน5ปี แล้วก็เรียนซัมเมอร์ด้วย(3เทอม) และหลักสูตรจะปรับเปลี่ยนทุกๆ2ปีค่ะ แล้วก็จะเรียนจะช้ากว่าเพียวหน่อยเพราะต้องแบ่งมาเรียนค่ะไม่ได้เอาวิชาที่สาขาเพียวเรียนปัจจุมาแล้วเรียนพร้อมกันแบบนั้นมันจะหนักเกินไปค่ะ อย่างวิจัยเพียวเรียนปี3แต่คู่ขนานจะเป็นปี4 ฝึกงานเพียวจะฝึกปี4เทอม2แต่คู่ขานจะฝึกปี5เทอม2ค่ะ เข้ามาเทอมแรกก็จะมีวิชาของมหาวิทยาลัยแล้วก็วิชาGEเหมือนกับหลายๆมหาวิทยาลัยเลยค่ะ ซึ่งเป็นวิชาที่น่าเบื่อมาก ปี1ที่เข้ามาใหม่กลัวว่าจะเรียนไม่ทันเพื่อนหรือไม่มีพื้นฐานมาไม่ต้องกลัวค่ะเพราะสาขาจะปูพื้นใหม่หมดเรียนตั้งแต่เรียนพินอินเลย ส่วนคนที่พื้นดีอย่าประมาทนะคะเพราะอาจารย์พี่บอกเสมอว่าคนที่มีพื้นมาจะประมาทแล้วจะถูกคนที่ไม่มีอะไรติดตัวมาเลยแซงเอาได้ค่ะ เพราะฉะนั้นแอคทีฟคัวเองตลอดเวลาลองหาหนังสือHSKมาอ่านพรางๆก็ดีค่ะ ปี1ปี2สำหรับเด็กจีนคู่61คือชิวมากๆค่ะ เรียนแค่ไม่กี่ตัว ชิวจนรู้สึกว่าเสียดายค่าเทอมจังเลยยย พอขึ้นปี3มันก็ค่อยๆเข้มข้นขึ้นค่ะไม่ยากอะไรมากนักถ้าจัดการเวลาและควบคุมตัวเองให้ดีๆ สาขานี้เปิดปีแรกปีไหนไม่รู้ค่ะแต่จีนคู่รุ่นแรกไม่มีใครจบ รุ่นที่2จบไป1คน ปีที่แล้วก็จบไม่กี่คน ส่วนปีนี้พี่ปี5เท่าที่รู้น่าจะกำลังฝึกงานอยู่5คนค่ะ ส่วนปี3นั้นเหลืออยู่16คนค่ะจาก29คน อีกอย่างนึงคือสาขานี้จะไม่มีวิชาโท และวิชาเสรีค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นคือจีนคู่ขนานไม่สามารถลงทะเรียนเองได้ค่ะ เพราะเขาจัดวิชาและให้เลือกอาจารย์ผู้สอนให้แล้ว จะไม่มีโมเม้นต์แบบว่าตื่นเช้ามาเพื่อแย่งกันลงทะเบียนเรียนค่ะแบบนั้นไม่มีแน่นอน
-ต่อมารีวิวสาขาค่ะ อาจารย์บอกว่าสาขานี้อยู่กันแบบครอบครัวค่ะ พี่ก็โอเคตามนั้นก็ได้ครอบครัวรักกันๆ สาขานี้จะไม่ค่อยเหมือนสาขาอื่นในคณะสักเท่าไหร่นัก เพราะจะมีกิจกรรมของสาขาเป็นของตัวเองแยกมาอีกค่ะ สาขานี้จะมีเสื้อสาขาและติ้งสาขาแล้วก็เสื้อช็อปสาขาด้วยจะได้เป็นชั้นปีไปค่ะ อย่างติ้งก็จะได้ปี3 เสื้อช็อปก็จะได้ปี4ค่ะ ส่วนตัวของติ้งนั้นเขาว่ามันจะไปเหมือนติ้งของเอกจีนมหาวิทยาลัยนเรศวรนะคะ เพราะว่ามพ เคยเป็นวิทยาเขตของมน ค่ะส่วนสาเหตุที่ว่าทำไมต้องเหมือนกันอาจารย์ก็ได้ให้คำนิยามคร่าวๆว่า คนจีนเขานับถือบรรพบุรุษเพราะว่าเขาไม่ได้ลืมรากเหง้าและความเป็นมาของตัวเองว่ามาจากไหน ฉะนั้นเราอยู่เอกจีนเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมเราก็ไม่ควรที่จะลืมว่าเรานั้นมาจากไหนเช่นกันค่ะน่าจะประมาณนี้คร่าวๆนะคะ
-ต่อมาเป็นคณะค่ะสาขาวิชาภาษาจีนจะสังกัดอยู่ที่ คณะศิลปศาสตร์ค่ะมี5สาขา อิ้ง จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศษ ไทย คู่ขนานก็จะมี จีน-อิ้ง, ฝรั่ง-อิ้ง, นิติฯ-อิ้ง แล้วก็การจัดการสารสนเทศ(ICT)-อิ้ง ค่ะ ส่วนกิจกรรมเยอะแยะมากมายเลยค่ะทั้งเล็กใหญ่ไม่ว่าจะเป็นรับน้อง ออกค่าย และแห่ผ้าห่มพระธาตุ อันนี้งานใหญ่ค่ะโดยจะทำร่วมกัน3คณะ ศิลปศาสตร์ วิทยาลัยการศึกษา และรัฐศาสตร์ค่ะ
-ต่อมารีวิวมหาวิทยาลัยพะเยา (มพ.) อันนี้คร่าวๆพอค่ะเพราะไม่ได้มาในหัวข้อรีวิวมหาวิทยาลัยเนอะ มอนี้หนาวดีค่ะโดยอากาศของวันนี้ที่เขียนรีวิว8ธค. 63 อยู่ที่14องศาค่ะ ไม่แน่ว่าปลายปีหรือต้นปีอาจจะเพิ่มหรืออาจะลดก็ได้ ปีก่อนๆจะมีดอกพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยบานสะพรั่งเต็มหน้ามอเลยค่ะเสียดายมาอยู่นี่เข้าปีที่3แล้วมันไม่เห็นเหมือนรูปที่เขาถ่ายไว้เลยเพราะว่ามันหมดหนาวไวมั้งคะ หวังว่าปีนี้จะได้เห็นแบบหนาๆแล้วก็ถ่ายรูปคู่ด้วย สภาพอากาศค่ะ ร้อนก็ร้อนมากยิ่งถ้าเรียนซัมเมอร์แล้วต้องนั่งรถเมล์ของมหาวิทยาลัยไปเรียนตอนบ่ายอีกด้วยละก็บอกเลยค่ะแทบเป็นลมเพราะมันร้อนแบบเดอะเบสท์เลย
จบการรีวิ้วค่ะ หากผิดพลาดประการณ์ใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ส่วนใครที่มีข้อสงสัยอะไรก็โพสต์ไว้ใต้กระทู้นี้เลยค่ะ อาจมีคนอื่นที่มีคำถามเดียวกันเข้ามาอ่านจะได้เข้าใจอย่างตรงกันเนาะ สำหรับน้องๆหลายคนที่กำลังสนใจหรือกำลังลังเลว่าจะเข้าสาขานี้ดีไหม พี่หวังว่ากระทู้นี้จะเกิดประโยชน์และเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจนะคะแล้วพี่จะรอให้น้องๆมาเป็นครอบครัวเดียวกันนะคะ รัก