ได้อ่าน และได้เสนอเป็นความเห็นไปหลายกระทู้ แต่อยากตั้งเสนอเป็นต้นความเห็นของตัวเองบ้าง
ประเด็นที่หลายท่านห่วงเรื่องความเหลื่อมล้ำกัน มันเป็นไปได้ทั่งสองทางเลย
คือ ชุดไพรเวทสไตล์ ขอเรียก ชุดลำลอง สร้างความเหลื่อมล้ำ และชุดลำลอง ลดความเหลื่อมล้ำ
ชุดลำลอง สร้างความเหลื่อมล้ำ มักจะเกิดในโรงเรียนที่มีชื่อเสียง โรงเรียนประจำจังหวัด ที่มีเด็กฐานะดี เข้ามาเพราะเป็นโรงเรียนที่เชื่อว่าดี และมีเชื่อเสียง กับคนที่ฐานะไม่ดี เข้ามาด้วยเหตุผล ใกล้บ้านหรืออะไรก็ตาม
คนที่มีความเหลื่อมล้ำกัน มันจะเกิดกับคนฐานะดี กับคนที่ฐานะพอมี แล้วอยากมีตามีเพื่อน ซึ่งจะไม่มีผลเลย สำหรับคนที่ครอบครัวสอนมาให้รับรู้ฐานะจริงๆ ของครอบครัว ซึ่งเรื่องนี้ มันจะถูกแบ่งแยกสังคมไปโดยปริยายอยู่แล้ว เช่น คนรวยเยอะ น้อยมากจะส่งมาเรียนรวมกับคนทั่วไป แต่ส่งไปเรียนนานาชาติ หรือต่างประเทศ คนที่ห่วงความเหลื่อมล้ำ ไม่ใช่คนฐานธงไม่ดี แต่มักจะเป็นคนที่บ้านพอมี ที่จะชอบอวดฐานะกับเพื่อน
ความทรงจำย้อนไป 30 ปีที่แล้ว ที่ฐานะไม่ดี ชุดลำลอง มีแค่เสื้อยืด 3-4 ตัว กางเกงขายาว มียีนส์เก่าๆ ไม่มีชื่อยี่ห้ออยู่ตัวนึง ก็ไม่ได้ต้องไปรู้สึกเปรียบเทียบกับใคร ใส่ชุดเดิมทุกครั้ง ที่ไปโรงเรียนวันเสาร์ ไปกิจกรรม ที่ไม่ใช่ชุดนักเรียน ก็ไม่มีอะไรนะ
ปีนี้ มีลูกเรียนในโรงเรียนเอกชน ย่านหลักสี่ ที่โรงเรียนนั้น เด็กนักเรียนใส่ชุดลำลอง(สุภาพ)กันสัปดาห์ละวัน ก็ไม่ได้เห็นเด็ก แต่งตัวกันเกินเหมาะสม ไม่ได้มีแบรนด์เนมอะไรกัน ทำกันมาตั้งนานแล้ว แตกต่างจากโรงเรียนเอกชนชายสาธรที่ทดลองวันเดียว แล้วเด็กแต่งจนเกินหมดสมกัน เป็นอันยกเลิก
โรงเรียนที่อยู่ในชุมชน ชนบท ชุดนักเรียน เป็นภาระของผู้ปกครอง ค่าใช้จ่าย ค่าชุดลูกเสือ เนตรนารี เครื่องประดับสัญลักษณ์โน่นนี่นั่น มันคือภาระ ค่าใช้จ่ายทั้งนั้น ชุดลำลอง ชุดอยู่บ้านมันพื้นฐานฯ เราอยู่บ้านการมาโรงเรียน สังเกตุได้จากภาพต่างที่ออกมาตามโรงเรียนที่เด็กขาดโอกาส มักจะมีแต่เด็กใส่ชุดอยู่บ้านมา เพราะไม่มีชุดนักเรียน
ส่วนตัว ไม่ได้สำคัญ ว่าจะมีหรือไม่มีชุดนักเรียน แต่ไม่เห็นด้วย กับชุดนักเรียนตอนนี้
1. เสื้อขาว สกปรกง่าย ซักยาก ยิ่งของเด็กๆ ที่วิ่งเล่นกันทั้งวัน ซักเสื้อลูกแต่ละครั้ง ใช้เวลานัดนาน แทนที่ผู้ปกครองจะได้เอาเวลาไปทำมาหากิน แต่ต้องตอบสนองกฏ ที่เพียงเพราะบางคนอยากเห็นเด็กๆ ใส่เสื้อขาว น่ารักดี
2. เสื้อขาวกับนักเรียนหญิง โดนน้ำ โดนเหงื่อ มันก็ทำให้เผยเนื้อหนัง โป๊ ทำให้ต้องบังคับใส่เสื้อยืด ข้างใน และบังคับสีของยกทรงอีกชั้น ไปโดยปริยาย ซึ่งจริงแล้ว เสื้อยืด อย่างเดียว จบกว่า แต่ต้องตอบสนองกฏ ที่เพียงเพราะบางคนอยากเห็นเด็กๆ ใส่เสื้อขาว น่ารักดีเหมือนข้อบน แต่อาจจะน่ารัก อีกแบบ แบบพวกโลลิคอน คอมเพล็กซ์ หรือเปล่า
3. เอาเวลามาเคร่งครัดกับ ระเบียบเครื่องแต่งกายเดินไป จนลืมภาระหน้าที่ของการสอน เช่น มัวแต่กร้อนผมเด็ก ทำให้อับอาย บังคับให้ไปตัดผมบ่อยเกินจำเป็น เป็นภาระผู้ปกครอง ถุงเท้า รองเท้า เคร่งกับสี หรือแม้แต่พื้นถุงเท้า
วินัย....
ชุดลำลอง หรือชุดนักเรียนที่บังคับใส่ ไม่ได้สร้างหรือกำหนดวินัยคนได้เลย
เราเห็นพวกมอเตอร์ไซค์ย้อนศร เราเห็นพวกขับรถฝ่าทางม้าลาย ฝ่าไฟแดงคนข้าม คนพวกนี้ ผ่านโรงเรียน ผ่านการบังคับชุดนักเรียนด้วยซ้ำ
หรือแม้แต่ทหาร ตำรวจที่ฝึกวินัยกันเข้มข้น แต่เราก็เห็นพวกหทารขี่รถมอเตอร์ไซค์แวนซ์ซุกป้ายทะเบียน ท่อเสียงดังในชุดทหาร เห็นได้ทุกวันหน้า บก.สส. แจ้งวัฒนะ เราเห็นตำรวจ พกปืนตุงเอว ไปนั่งกินเหล้าตามร้าน ทั้งๆ ที่กฏให้พกได้เฉพาะตอนเข้าเวร นี่คือตัวอย่างของอาชีพ ที่ฝึกวินัยกันตลอดเวลา
วินัย จะได้มา มาจากการฝึกจิตสำนึก สอนผลกระทบต่อสังคม มากกว่าการบังคับ เช่น ประเทศญี่ปุ่น เค้าจะสอนเรื่องความรับผิดต่อสังคม เป็นอันดับต้นๆ แต่เล็กแต่น้อย จึงมีวินัย ไม่ใช่การบังคับด้วยชุด
สุดท้าย ผมเห็นว่า มีชุดนักเรียนต่อไป แต่อาจจะใช้กับกางเกงผ้า หรือกางเกงยีนส์ เสื้อยืดคอปก ผ้าซักง่าย รองเท้าผ้าใบหุ้มส้นอะไรก็ได้ เด็กผู้หญิงตกแต่งกิ๊บ โบ สีผม อย่างที่ชอบได้พอประมาณ เด็กผู้ชายไว้ผมที่มันไม่ยาวเป็นหญิง เป็นพังค์ ซึ่งที่ผมเสนอมานี้ มันก็คือทรงผม ของคนส่วนใหญ่ในสังคม ผู้ใหญ่ทั่วไป ที่ไม่ได้อยู่ใน รร. นานๆ จะเจอประหลาด ที่สังคมรับไม่ได้สักคน
ปล. ในที่ทำงานผม แต่งกันประมาณนี้ ไม่ได้บังคับ จะมีใส่ชุดธุรกิจผู้ไทด์บ้าง หรือสูท บ้าง บางคน ประปรายเวลารับแขก แต่ผู้ใหญ่อย่างเราเอง ยังไม่ชอบเครื่องแบบที่มันดูแลยากเลย โดยเฉพาะคนที่ดูแลซักรีดกันเอง
การใส่ชุดนักเรียน ในความเห็นของคนรุ่นอา รุ่นลุงอย่างข้าพเจ้าฯ
ประเด็นที่หลายท่านห่วงเรื่องความเหลื่อมล้ำกัน มันเป็นไปได้ทั่งสองทางเลย
คือ ชุดไพรเวทสไตล์ ขอเรียก ชุดลำลอง สร้างความเหลื่อมล้ำ และชุดลำลอง ลดความเหลื่อมล้ำ
ชุดลำลอง สร้างความเหลื่อมล้ำ มักจะเกิดในโรงเรียนที่มีชื่อเสียง โรงเรียนประจำจังหวัด ที่มีเด็กฐานะดี เข้ามาเพราะเป็นโรงเรียนที่เชื่อว่าดี และมีเชื่อเสียง กับคนที่ฐานะไม่ดี เข้ามาด้วยเหตุผล ใกล้บ้านหรืออะไรก็ตาม
คนที่มีความเหลื่อมล้ำกัน มันจะเกิดกับคนฐานะดี กับคนที่ฐานะพอมี แล้วอยากมีตามีเพื่อน ซึ่งจะไม่มีผลเลย สำหรับคนที่ครอบครัวสอนมาให้รับรู้ฐานะจริงๆ ของครอบครัว ซึ่งเรื่องนี้ มันจะถูกแบ่งแยกสังคมไปโดยปริยายอยู่แล้ว เช่น คนรวยเยอะ น้อยมากจะส่งมาเรียนรวมกับคนทั่วไป แต่ส่งไปเรียนนานาชาติ หรือต่างประเทศ คนที่ห่วงความเหลื่อมล้ำ ไม่ใช่คนฐานธงไม่ดี แต่มักจะเป็นคนที่บ้านพอมี ที่จะชอบอวดฐานะกับเพื่อน
ความทรงจำย้อนไป 30 ปีที่แล้ว ที่ฐานะไม่ดี ชุดลำลอง มีแค่เสื้อยืด 3-4 ตัว กางเกงขายาว มียีนส์เก่าๆ ไม่มีชื่อยี่ห้ออยู่ตัวนึง ก็ไม่ได้ต้องไปรู้สึกเปรียบเทียบกับใคร ใส่ชุดเดิมทุกครั้ง ที่ไปโรงเรียนวันเสาร์ ไปกิจกรรม ที่ไม่ใช่ชุดนักเรียน ก็ไม่มีอะไรนะ
ปีนี้ มีลูกเรียนในโรงเรียนเอกชน ย่านหลักสี่ ที่โรงเรียนนั้น เด็กนักเรียนใส่ชุดลำลอง(สุภาพ)กันสัปดาห์ละวัน ก็ไม่ได้เห็นเด็ก แต่งตัวกันเกินเหมาะสม ไม่ได้มีแบรนด์เนมอะไรกัน ทำกันมาตั้งนานแล้ว แตกต่างจากโรงเรียนเอกชนชายสาธรที่ทดลองวันเดียว แล้วเด็กแต่งจนเกินหมดสมกัน เป็นอันยกเลิก
โรงเรียนที่อยู่ในชุมชน ชนบท ชุดนักเรียน เป็นภาระของผู้ปกครอง ค่าใช้จ่าย ค่าชุดลูกเสือ เนตรนารี เครื่องประดับสัญลักษณ์โน่นนี่นั่น มันคือภาระ ค่าใช้จ่ายทั้งนั้น ชุดลำลอง ชุดอยู่บ้านมันพื้นฐานฯ เราอยู่บ้านการมาโรงเรียน สังเกตุได้จากภาพต่างที่ออกมาตามโรงเรียนที่เด็กขาดโอกาส มักจะมีแต่เด็กใส่ชุดอยู่บ้านมา เพราะไม่มีชุดนักเรียน
ส่วนตัว ไม่ได้สำคัญ ว่าจะมีหรือไม่มีชุดนักเรียน แต่ไม่เห็นด้วย กับชุดนักเรียนตอนนี้
1. เสื้อขาว สกปรกง่าย ซักยาก ยิ่งของเด็กๆ ที่วิ่งเล่นกันทั้งวัน ซักเสื้อลูกแต่ละครั้ง ใช้เวลานัดนาน แทนที่ผู้ปกครองจะได้เอาเวลาไปทำมาหากิน แต่ต้องตอบสนองกฏ ที่เพียงเพราะบางคนอยากเห็นเด็กๆ ใส่เสื้อขาว น่ารักดี
2. เสื้อขาวกับนักเรียนหญิง โดนน้ำ โดนเหงื่อ มันก็ทำให้เผยเนื้อหนัง โป๊ ทำให้ต้องบังคับใส่เสื้อยืด ข้างใน และบังคับสีของยกทรงอีกชั้น ไปโดยปริยาย ซึ่งจริงแล้ว เสื้อยืด อย่างเดียว จบกว่า แต่ต้องตอบสนองกฏ ที่เพียงเพราะบางคนอยากเห็นเด็กๆ ใส่เสื้อขาว น่ารักดีเหมือนข้อบน แต่อาจจะน่ารัก อีกแบบ แบบพวกโลลิคอน คอมเพล็กซ์ หรือเปล่า
3. เอาเวลามาเคร่งครัดกับ ระเบียบเครื่องแต่งกายเดินไป จนลืมภาระหน้าที่ของการสอน เช่น มัวแต่กร้อนผมเด็ก ทำให้อับอาย บังคับให้ไปตัดผมบ่อยเกินจำเป็น เป็นภาระผู้ปกครอง ถุงเท้า รองเท้า เคร่งกับสี หรือแม้แต่พื้นถุงเท้า
วินัย....
ชุดลำลอง หรือชุดนักเรียนที่บังคับใส่ ไม่ได้สร้างหรือกำหนดวินัยคนได้เลย
เราเห็นพวกมอเตอร์ไซค์ย้อนศร เราเห็นพวกขับรถฝ่าทางม้าลาย ฝ่าไฟแดงคนข้าม คนพวกนี้ ผ่านโรงเรียน ผ่านการบังคับชุดนักเรียนด้วยซ้ำ
หรือแม้แต่ทหาร ตำรวจที่ฝึกวินัยกันเข้มข้น แต่เราก็เห็นพวกหทารขี่รถมอเตอร์ไซค์แวนซ์ซุกป้ายทะเบียน ท่อเสียงดังในชุดทหาร เห็นได้ทุกวันหน้า บก.สส. แจ้งวัฒนะ เราเห็นตำรวจ พกปืนตุงเอว ไปนั่งกินเหล้าตามร้าน ทั้งๆ ที่กฏให้พกได้เฉพาะตอนเข้าเวร นี่คือตัวอย่างของอาชีพ ที่ฝึกวินัยกันตลอดเวลา
วินัย จะได้มา มาจากการฝึกจิตสำนึก สอนผลกระทบต่อสังคม มากกว่าการบังคับ เช่น ประเทศญี่ปุ่น เค้าจะสอนเรื่องความรับผิดต่อสังคม เป็นอันดับต้นๆ แต่เล็กแต่น้อย จึงมีวินัย ไม่ใช่การบังคับด้วยชุด
สุดท้าย ผมเห็นว่า มีชุดนักเรียนต่อไป แต่อาจจะใช้กับกางเกงผ้า หรือกางเกงยีนส์ เสื้อยืดคอปก ผ้าซักง่าย รองเท้าผ้าใบหุ้มส้นอะไรก็ได้ เด็กผู้หญิงตกแต่งกิ๊บ โบ สีผม อย่างที่ชอบได้พอประมาณ เด็กผู้ชายไว้ผมที่มันไม่ยาวเป็นหญิง เป็นพังค์ ซึ่งที่ผมเสนอมานี้ มันก็คือทรงผม ของคนส่วนใหญ่ในสังคม ผู้ใหญ่ทั่วไป ที่ไม่ได้อยู่ใน รร. นานๆ จะเจอประหลาด ที่สังคมรับไม่ได้สักคน
ปล. ในที่ทำงานผม แต่งกันประมาณนี้ ไม่ได้บังคับ จะมีใส่ชุดธุรกิจผู้ไทด์บ้าง หรือสูท บ้าง บางคน ประปรายเวลารับแขก แต่ผู้ใหญ่อย่างเราเอง ยังไม่ชอบเครื่องแบบที่มันดูแลยากเลย โดยเฉพาะคนที่ดูแลซักรีดกันเอง