สวัสดีครับ พอดีได้หยุดยาวเลยถือโอกาสไปเที่ยว ภูเก็ตกับพังงา แบบยาวๆ 5 วัน 4 คืน
รูปอาจจะเยอะหน่อยนะครับ เราพิมพ์ไม่ค่อยเก่ง แต่เราจะเล่าไปตาม timeline ที่เราไปมาเลยนะ
เริ่มเดินทางจากสนามบินดอนเมือง เราใช้ตั๋ว โปรของแอร์เอเชีย บินไปที่ภูเก็ต พอลงสนามบิน ก็เป็นเวลาประมาณ บ่ายโมง
เราเดินทางโดยการเช่ารถขับ ที่แรกที่ไปแวะคือ ร้านขายของฝาก คุณแม่จู้ ของฝากเมืองภูเก็ต ไม่รู้จะซื้อของฝากที่ไหน มาที่นี่ไม่ผิดหวัง
มีให้เลือกหลายอย่าง
ถ้าเราซื้อเยอะ ขี้เกียจหิ้วกลับ เราสามารถบรรจุลงกล่อง ที่ร้านมีบริการให้ แล้วก็ส่ง Kerry จากที่ร้านได้เลย
เรามาแวะกินข้าวที่ Three Monkeys Restaurant มาถึงก็จอดรถที่ลานจอดรถ จะมีรถรับส่งพาขึ้นไป
ร้านจะมีหลายโซนให้เลือกนั่ง วันนี้เราเลือกนั่งเป็นชั้น 2 เป็นโซนที่คนชอบขึ้นมานั่งมากที่สุด บรรยายกาศดี
โดยรวมร้านบรรยากาศดี แต่วันนี้ ทัวร์ลงคนเลยเยอะมากๆ อาหารรสชาติดี นอกจากนั้น ที่นี้มีโซน Hanuman World ด้วย
จะมีโรยตัว มี Ziplines และอื่นๆให้เล่นด้วย แต่วันนี้ไม่ได้เตรียมตัวมาเลยไม่ได้เล่น
ทานอาหารเสร็จก็เดินทางไป Check in ที่โรงแรม EcoLoft Hotel โรงแรมที่อยู่ในตัวเมืองภูเก็ต เดินทางสะดวก ห้องพักราคาไม่แพง
มีสระว่ายน้ำอยู่ด้านบนมองเห็นวิวเมืองด้วย
หลัง Check in โรงแรมเรียบร้อย ท้องก็เริ่มร้อง เลยว่าจะไปหาขนมกินเล่น เห็นว่ามีร้านเปิดใหม่ชื่อ Day & Night Of Phuket
ร้านจะอยู่ใกล้ร้านระย้า เลยเอารถไปจอดที่ระย้าแต่จะไม่อุดหนุนเขา แล้วเอารถไปจอดก็ใช่เรื่อง
เลยไปกินแกงปูใบชะพลูที่ร้านวันจันทร์ (ร้านเครือญาติกับระย้า เลยเอารถไปจอดระย้าได้ แล้วก็บอกพนักงานว่าจะไปกินร้านวันจันทร์)
หลังจากกินเสร็จแล้วก็เดินมาที่ ร้าน Day & Night Of Phuket
ร้านมีอาหารคาวหวาน มีเครื่องดื่ม ขนม กลางคืนก็เป็นร้านนั่งชิวด้วย วันนี้มาลองเมนูเครื่องดื่ม กาแฟ dirty กับ โรสเลมอนเนตโซดา
ช่วงเย็น วันนี้อยากจะไปกินอาหารทะเล เลยตัดสินใจไปที่หาดราไวย์ มีที่จอดรถ โดยจะมีค่าบริการ 50 บาท
บริเวณนี้ด้านหนึ่งจะเป็นเหมือนตลาดสด ขายกุ้ง หอย ปู ปลา อาหารทะเลต่างๆ อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นร้านอาหาร
โดยเราก็เดินเลือกของแล้วก็เอาไปให้ร้านทำเป็นเมนูต่างๆ ทางร้านเขาก็จะคิดค่าปรุงอาหารไป
ซึ่งมีร้านอาหารให้เลือกค่อนข้างเยอะ วันนี้เราตัดสินใจเลือกร้านมุขมณี ซีฟู้ด เป็นร้านใหญ่ มีหลายโต๊ะ ลูกค้าเยอะ
วันนี้เราสั่งกันหลายเมนู พวกทอดกระเทียมทำได้ดี เมนูต้มยำก็อร่อย แต่ถ้าคนกินเผ็ด อาจจะบอกรสชาติไม่ค่อยจัดจ้านเท่าไหร่
เมนูนิ่งซีอิ้วดี แต่พวกเมนูซาชิมิส่วนตัวรู้สึกว่ายังทำไม่ค่อยดีมีกลิ่นคาวเลือดหน่อยๆ
เมนูที่เราชอบ ได้แก่ กั้งทอดกระเทียม กุ้งเผา ปลาเก๋าแก้มแดงทำต้มยำ (ปลาเก๋าแก้มแดงเนื้อจะเด้ง)
และปลาเก๋าหินทำนึ่งซีอี๊ว (เนื้อปลาเก๋าหินจะนุ่มๆ เหนียวๆ เหมือนกินแก้มปลาเลย แต่ปลาเก๋าหิน หนังด้านนอกจะมีพิษ
ถ้าจะกินก็ต้องเลือกร้านที่สามารถทำได้นะ)
กินมื้อเย็นเสร็จก็ประมาณ 21.30 แต่ยังไม่ได้กินของหวานเลย เราก็เลยขับรถกลับมาในเมือง มาร้านขนมหวานชื่อ หวานละมุน
เป็นร้านขนมที่ปิดดึก (11.00-23.00) ร้านนี้มีขนมไทยหลายอย่างให้เลือก มีขนมปังปิ้ง มีปิงซูด้วย จัดไป 2 คน 4 อย่าง กินเสร็จก็กลับที่พัก
วันที่สอง Check out จากโรงแรม มุ่งหน้าสู่ท่าเรือ Visit Panwa เราเอารถมาจอดทิ้งไว้ที่ท่าเรือ เพราะคืนนี้เราจะไปนอนที่บนเกาะพีพี
เราเดินทางกับ Love Andaman เป็นบริษัทที่เราเลือกใช้บริการตลอดเวลามาเที่ยวทะเลภูเก็ต มาถึงท่าเรือก็ลงชื่อ
ที่นี่เขามีอาหารเช้าเตรียมให้ด้วยนะครับ
เวลาประมาณ 9.30 ก็ออกเดินทางสู่พีพี แต่ก่อนจะถึงพีพี เราก็จะแวะกันที่ อ่าวปิเละ
จุดนี้เหมือนสระว่ายน้ำกลางทะเล น้ำใส สวยมาก เหมาะแก่การเล่นน้ำและถ่ายรูป
ที่อ่าวปิเละ เราสามารถเช่าเรือหางยาวเพื่อไปมุมต่างๆได้ และถ้าวันไหนน้ำลงเราจะให้เขาไปจอดตรงหาดทรายเพื่อถ่ายรูปได้ด้วย
(เรือหางยาวไม่รวมอยู่ในค่าทริป เราสามารถเช่าเหมาลำหรือไปรวมกับคนอื่นๆก็ได้)
เราจะอยู่ตรงนี้ประมาณ 1 ชั่วโมง รับรองว่าได้ถ่ายรูป เล่นน้ำจนพอใจแน่ๆ ถ้าไม่รู้จะให้ใครถ่ายรูปให้ก็เรียกไกด์ให้ถ่ายรูปให้ได้เลยนะ
หลังจากอ่าวปิเละ เราก็จะนั่งเรือผ่าน ถ้ำพญานาคและอ่าวมาหยา ก่อนที่จะไปจุดดำน้ำ ซึ่งเขาจะสอนการใส่หน้ากากดำน้ำ
และมีแจก mouthpiece อันใหม่ให้ โดยเราไม่ต้องไปใช้ร่วมกับใคร ถ้าเราว่ายน้ำเป็นก็สามารถลงได้เลย แต่ถ้าว่ายไม่เป็น
ไกด์ก็จะให้เกาะแผ่นโฟมแล้วเขาก็จะลากไปให้ดูรอบๆ บริเวณนี้เราก็จะพบปลาการ์ตูนด้วย รูปใต้น้ำทริปนี้เราถ่ายด้วย iPhone (ใส่เคสกันน้ำ)
ทั้งหมด เพราะลืมเอา GoPro ไป
หลังจากดำน้ำเสร็จเราก็จะมุ่งหน้าสู่ เกาะ พีพี ดอน เป็นที่ที่เราจะรับประทานอาหารกลางวัน ใครที่ไม่ได้ค้างคืนบนเกาะพีพี
เขาก็จะปล่อยให้ทานข้าว พักผ่อน หรือเดินเล่นบนเกาะ เมื่อถึงเวลาก็จะออกไปเกาะไผ่ แล้วกลับท่าเรือที่ภูเก็ต แต่รอบนี้เราจะค้างคืนที่เกาะ พีพี
เมื่อทานข้าวเสร็จเราก็เดินไปที่พัก คืนนี้เราพักที่ Blu Monkey Phi Phi Island เป็นโรงแรมใหม่ สะอาด เรียบง่ายและใกล้จุด ชมวิวของเกาะพีพีดอน
นอกจากที่นี่จะเป็นโรงแรมใหม่แล้ว โรงแรมที่นี่มีการลดใช้พลาสติกด้วย โดยให้ใช้ขวดแก้วไปเติมน้ำ แทนการใช้ขวดน้ำพลาสติก
และอีกอย่างที่เราชอบคือ ยาสระผม เจลอาบน้ำ ก็เป็นกลิ่นกล้วยด้วย รู้สึกเข้ากับชื่อโรงแรม Blu Monkey ดี
หลังจากพักผ่อนแล้ว ช่วงประมาณ 16.00 เราก็เดินขึ้นจุดชมวิว ด้านบนทางเดินดีแต่เดินเหนื่อยเอาเรื่องเลย
บริเวณจุดชมวิวจะต้องเสียค่าบริการด้วยนะ วิวด้านบนสวย สามารถนั่งชมพระอาทิตย์ตกได้
จากจุดชมวิว เราก็เดินมาบริเวณ ท่าเรือ หรือเอาง่ายๆก็แถวๆ เบอร์เกอร์คิงบนเกาะพีพี แถวนี้ก็จะมีร้านอาหารให้เราเลือกหลายร้าน
วันนี้เรากิน Pizza แล้วต่อด้วยโรตี แล้วก็ไปนั่งชิว ที่ร้าน Carlito's bar เขาบอกว่าจะมีโชว์ไฟตอน 21.30
กว่าจะเล่นจริง ก็ตอน 22.00 รอจนง่วงนั่งดูอยู่ประมาณ 20 นาทีก็กลับที่พักนอน
วันที่สาม ว่าจะตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ฝนดันตก รอถึง 10.00 ฝนก็เริ่มเบาเลย check out จากโรงแรม เอากระเป๋ามาฝากที่จุดรับประทานอาหารกลางวันเมื่อวานแล้วเราก็ไปหาอาหารเช้า หาขนมทาน
เรือจะมารับตอนประมาณ 14.00 มีเวลาเหลือ เราเลยไปหาร้านนวด นอนนวดรอ พอถึงเวลาเดี๋ยวไกด์เขาจะมาตามหาเราที่ร้านอาหารที่เรานั่งทานเมื่อวาน แล้วค่อยไปที่เรือเพื่อเดินทางไปเกาะไผ่ใช้เวลาเดินทางจากเกาะพีพี มาที่เกาะไผ่ไม่นาน ก็จะเป็นจุดที่เราจะแวะลงไปถ่ายรูป
หลังจากนั้นก็เดินทางกลับมาที่ท่าเรือ เอารถแล้วเดินทางไปโรงแรมที่พัก เข้าไป Check in แล้วเปลี่ยนชุด เพราะมีจองร้านอาหารอิตาเลี่ยนไว้
เราจองร้าน La Gaetana เอาไว้ โดยปกติร้านจะไม่รับ walk in ต้องจองมาก่อน
สปาเก็ตตี้ล็อบสเตอร์ คือเมนูเด็ดของที่นี้ ทานกับซอสพริกเผา เข้ากันดีมาก
เมนูอื่นๆ ก็อร่อย ขนมหวานก็ดี
เที่ยวภูเก็ต พังงา 5 วัน 4 คืน
เริ่มเดินทางจากสนามบินดอนเมือง เราใช้ตั๋ว โปรของแอร์เอเชีย บินไปที่ภูเก็ต พอลงสนามบิน ก็เป็นเวลาประมาณ บ่ายโมง
เราเดินทางโดยการเช่ารถขับ ที่แรกที่ไปแวะคือ ร้านขายของฝาก คุณแม่จู้ ของฝากเมืองภูเก็ต ไม่รู้จะซื้อของฝากที่ไหน มาที่นี่ไม่ผิดหวัง
มีให้เลือกหลายอย่าง
ถ้าเราซื้อเยอะ ขี้เกียจหิ้วกลับ เราสามารถบรรจุลงกล่อง ที่ร้านมีบริการให้ แล้วก็ส่ง Kerry จากที่ร้านได้เลย
เรามาแวะกินข้าวที่ Three Monkeys Restaurant มาถึงก็จอดรถที่ลานจอดรถ จะมีรถรับส่งพาขึ้นไป
ร้านจะมีหลายโซนให้เลือกนั่ง วันนี้เราเลือกนั่งเป็นชั้น 2 เป็นโซนที่คนชอบขึ้นมานั่งมากที่สุด บรรยายกาศดี
โดยรวมร้านบรรยากาศดี แต่วันนี้ ทัวร์ลงคนเลยเยอะมากๆ อาหารรสชาติดี นอกจากนั้น ที่นี้มีโซน Hanuman World ด้วย
จะมีโรยตัว มี Ziplines และอื่นๆให้เล่นด้วย แต่วันนี้ไม่ได้เตรียมตัวมาเลยไม่ได้เล่น
ทานอาหารเสร็จก็เดินทางไป Check in ที่โรงแรม EcoLoft Hotel โรงแรมที่อยู่ในตัวเมืองภูเก็ต เดินทางสะดวก ห้องพักราคาไม่แพง
มีสระว่ายน้ำอยู่ด้านบนมองเห็นวิวเมืองด้วย
หลัง Check in โรงแรมเรียบร้อย ท้องก็เริ่มร้อง เลยว่าจะไปหาขนมกินเล่น เห็นว่ามีร้านเปิดใหม่ชื่อ Day & Night Of Phuket
ร้านจะอยู่ใกล้ร้านระย้า เลยเอารถไปจอดที่ระย้าแต่จะไม่อุดหนุนเขา แล้วเอารถไปจอดก็ใช่เรื่อง
เลยไปกินแกงปูใบชะพลูที่ร้านวันจันทร์ (ร้านเครือญาติกับระย้า เลยเอารถไปจอดระย้าได้ แล้วก็บอกพนักงานว่าจะไปกินร้านวันจันทร์)
หลังจากกินเสร็จแล้วก็เดินมาที่ ร้าน Day & Night Of Phuket
ร้านมีอาหารคาวหวาน มีเครื่องดื่ม ขนม กลางคืนก็เป็นร้านนั่งชิวด้วย วันนี้มาลองเมนูเครื่องดื่ม กาแฟ dirty กับ โรสเลมอนเนตโซดา
ช่วงเย็น วันนี้อยากจะไปกินอาหารทะเล เลยตัดสินใจไปที่หาดราไวย์ มีที่จอดรถ โดยจะมีค่าบริการ 50 บาท
บริเวณนี้ด้านหนึ่งจะเป็นเหมือนตลาดสด ขายกุ้ง หอย ปู ปลา อาหารทะเลต่างๆ อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นร้านอาหาร
โดยเราก็เดินเลือกของแล้วก็เอาไปให้ร้านทำเป็นเมนูต่างๆ ทางร้านเขาก็จะคิดค่าปรุงอาหารไป
ซึ่งมีร้านอาหารให้เลือกค่อนข้างเยอะ วันนี้เราตัดสินใจเลือกร้านมุขมณี ซีฟู้ด เป็นร้านใหญ่ มีหลายโต๊ะ ลูกค้าเยอะ
วันนี้เราสั่งกันหลายเมนู พวกทอดกระเทียมทำได้ดี เมนูต้มยำก็อร่อย แต่ถ้าคนกินเผ็ด อาจจะบอกรสชาติไม่ค่อยจัดจ้านเท่าไหร่
เมนูนิ่งซีอิ้วดี แต่พวกเมนูซาชิมิส่วนตัวรู้สึกว่ายังทำไม่ค่อยดีมีกลิ่นคาวเลือดหน่อยๆ
เมนูที่เราชอบ ได้แก่ กั้งทอดกระเทียม กุ้งเผา ปลาเก๋าแก้มแดงทำต้มยำ (ปลาเก๋าแก้มแดงเนื้อจะเด้ง)
และปลาเก๋าหินทำนึ่งซีอี๊ว (เนื้อปลาเก๋าหินจะนุ่มๆ เหนียวๆ เหมือนกินแก้มปลาเลย แต่ปลาเก๋าหิน หนังด้านนอกจะมีพิษ
ถ้าจะกินก็ต้องเลือกร้านที่สามารถทำได้นะ)
กินมื้อเย็นเสร็จก็ประมาณ 21.30 แต่ยังไม่ได้กินของหวานเลย เราก็เลยขับรถกลับมาในเมือง มาร้านขนมหวานชื่อ หวานละมุน
เป็นร้านขนมที่ปิดดึก (11.00-23.00) ร้านนี้มีขนมไทยหลายอย่างให้เลือก มีขนมปังปิ้ง มีปิงซูด้วย จัดไป 2 คน 4 อย่าง กินเสร็จก็กลับที่พัก
วันที่สอง Check out จากโรงแรม มุ่งหน้าสู่ท่าเรือ Visit Panwa เราเอารถมาจอดทิ้งไว้ที่ท่าเรือ เพราะคืนนี้เราจะไปนอนที่บนเกาะพีพี
เราเดินทางกับ Love Andaman เป็นบริษัทที่เราเลือกใช้บริการตลอดเวลามาเที่ยวทะเลภูเก็ต มาถึงท่าเรือก็ลงชื่อ
ที่นี่เขามีอาหารเช้าเตรียมให้ด้วยนะครับ
เวลาประมาณ 9.30 ก็ออกเดินทางสู่พีพี แต่ก่อนจะถึงพีพี เราก็จะแวะกันที่ อ่าวปิเละ
จุดนี้เหมือนสระว่ายน้ำกลางทะเล น้ำใส สวยมาก เหมาะแก่การเล่นน้ำและถ่ายรูป
ที่อ่าวปิเละ เราสามารถเช่าเรือหางยาวเพื่อไปมุมต่างๆได้ และถ้าวันไหนน้ำลงเราจะให้เขาไปจอดตรงหาดทรายเพื่อถ่ายรูปได้ด้วย
(เรือหางยาวไม่รวมอยู่ในค่าทริป เราสามารถเช่าเหมาลำหรือไปรวมกับคนอื่นๆก็ได้)
เราจะอยู่ตรงนี้ประมาณ 1 ชั่วโมง รับรองว่าได้ถ่ายรูป เล่นน้ำจนพอใจแน่ๆ ถ้าไม่รู้จะให้ใครถ่ายรูปให้ก็เรียกไกด์ให้ถ่ายรูปให้ได้เลยนะ
หลังจากอ่าวปิเละ เราก็จะนั่งเรือผ่าน ถ้ำพญานาคและอ่าวมาหยา ก่อนที่จะไปจุดดำน้ำ ซึ่งเขาจะสอนการใส่หน้ากากดำน้ำ
และมีแจก mouthpiece อันใหม่ให้ โดยเราไม่ต้องไปใช้ร่วมกับใคร ถ้าเราว่ายน้ำเป็นก็สามารถลงได้เลย แต่ถ้าว่ายไม่เป็น
ไกด์ก็จะให้เกาะแผ่นโฟมแล้วเขาก็จะลากไปให้ดูรอบๆ บริเวณนี้เราก็จะพบปลาการ์ตูนด้วย รูปใต้น้ำทริปนี้เราถ่ายด้วย iPhone (ใส่เคสกันน้ำ)
ทั้งหมด เพราะลืมเอา GoPro ไป
หลังจากดำน้ำเสร็จเราก็จะมุ่งหน้าสู่ เกาะ พีพี ดอน เป็นที่ที่เราจะรับประทานอาหารกลางวัน ใครที่ไม่ได้ค้างคืนบนเกาะพีพี
เขาก็จะปล่อยให้ทานข้าว พักผ่อน หรือเดินเล่นบนเกาะ เมื่อถึงเวลาก็จะออกไปเกาะไผ่ แล้วกลับท่าเรือที่ภูเก็ต แต่รอบนี้เราจะค้างคืนที่เกาะ พีพี
เมื่อทานข้าวเสร็จเราก็เดินไปที่พัก คืนนี้เราพักที่ Blu Monkey Phi Phi Island เป็นโรงแรมใหม่ สะอาด เรียบง่ายและใกล้จุด ชมวิวของเกาะพีพีดอน
นอกจากที่นี่จะเป็นโรงแรมใหม่แล้ว โรงแรมที่นี่มีการลดใช้พลาสติกด้วย โดยให้ใช้ขวดแก้วไปเติมน้ำ แทนการใช้ขวดน้ำพลาสติก
และอีกอย่างที่เราชอบคือ ยาสระผม เจลอาบน้ำ ก็เป็นกลิ่นกล้วยด้วย รู้สึกเข้ากับชื่อโรงแรม Blu Monkey ดี
หลังจากพักผ่อนแล้ว ช่วงประมาณ 16.00 เราก็เดินขึ้นจุดชมวิว ด้านบนทางเดินดีแต่เดินเหนื่อยเอาเรื่องเลย
บริเวณจุดชมวิวจะต้องเสียค่าบริการด้วยนะ วิวด้านบนสวย สามารถนั่งชมพระอาทิตย์ตกได้
จากจุดชมวิว เราก็เดินมาบริเวณ ท่าเรือ หรือเอาง่ายๆก็แถวๆ เบอร์เกอร์คิงบนเกาะพีพี แถวนี้ก็จะมีร้านอาหารให้เราเลือกหลายร้าน
วันนี้เรากิน Pizza แล้วต่อด้วยโรตี แล้วก็ไปนั่งชิว ที่ร้าน Carlito's bar เขาบอกว่าจะมีโชว์ไฟตอน 21.30
กว่าจะเล่นจริง ก็ตอน 22.00 รอจนง่วงนั่งดูอยู่ประมาณ 20 นาทีก็กลับที่พักนอน
วันที่สาม ว่าจะตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ฝนดันตก รอถึง 10.00 ฝนก็เริ่มเบาเลย check out จากโรงแรม เอากระเป๋ามาฝากที่จุดรับประทานอาหารกลางวันเมื่อวานแล้วเราก็ไปหาอาหารเช้า หาขนมทาน
เรือจะมารับตอนประมาณ 14.00 มีเวลาเหลือ เราเลยไปหาร้านนวด นอนนวดรอ พอถึงเวลาเดี๋ยวไกด์เขาจะมาตามหาเราที่ร้านอาหารที่เรานั่งทานเมื่อวาน แล้วค่อยไปที่เรือเพื่อเดินทางไปเกาะไผ่ใช้เวลาเดินทางจากเกาะพีพี มาที่เกาะไผ่ไม่นาน ก็จะเป็นจุดที่เราจะแวะลงไปถ่ายรูป
หลังจากนั้นก็เดินทางกลับมาที่ท่าเรือ เอารถแล้วเดินทางไปโรงแรมที่พัก เข้าไป Check in แล้วเปลี่ยนชุด เพราะมีจองร้านอาหารอิตาเลี่ยนไว้
เราจองร้าน La Gaetana เอาไว้ โดยปกติร้านจะไม่รับ walk in ต้องจองมาก่อน
สปาเก็ตตี้ล็อบสเตอร์ คือเมนูเด็ดของที่นี้ ทานกับซอสพริกเผา เข้ากันดีมาก
เมนูอื่นๆ ก็อร่อย ขนมหวานก็ดี