ถอดใจอีกคน? โตโต้ ปิยรัฐ อดีตหัวหน้าการ์ดวีโว่ ยอมรับ ประยุทธ์อาจอยู่ต่อครบ 4 ปี เตือนแกนนำม็อบ 3 นิ้ว เดินแผนผิดพลาดบ่อย ทำแนวร่วมถอย คนเริ่มไม่โอเคกับม็อบ
.
5 ธ.ค.63 - นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ "โตโต้" อดีตหัวหน้าการ์ดกลุ่มราษฎร 63 We Volunteer หรือ WeVo ที่ปัจจุบันได้ประกาศแยกตัวออกมาจากการ์ดม็อบสามนิ้วเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังมีคลิปภาพและข่าวออกมาต่อเนื่อง ถึงการมีปัญหากันเองในกลุ่มการ์ดผู้ชุมนุมจนมีการทำร้ายร่างกายกันเอง เพื่อจะมาเคลื่อนไหวทำกิจกรรมการเมืองในนามของกลุ่มวีโว่ ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ แทบลอยด์ ไทยโพสต์ ช่วงหนึ่งโดยประเมินสถานการณ์การเมืองและการชุมนุมของม็อบต่อจากนี้ว่า หลังจากศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องคดีบ้านพักของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำให้พลเอกประยุทธ์ยังเป็นนายกฯต่อไป การเมืองไทย จากนี้ คงไม่ไปถึงจุดพีคหรือจุดต่ำกว่านี้ไปอีกแล้ว มันรักษาระดับแบบนี้ต่อไป ก็จะยื้อแบบนี้ไปจนเกว่าจะมีเหตุปัจจัยอื่นที่มันมีผลต่อสถานการณ์มากกว่านี้ โดยสถานการณ์ของม็อบพูดไปถึงเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหลัก มากกว่าสถาบันทางการเมืองอื่นๆ คิดว่าปัจจัยที่จะทำให้สถานการณ์พีคขึ้นหรือต่ำลงอยู่ที่ประเด็นของสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหลัก
.
หัวหน้ากลุ่มวีโว่ ที่เป็นอดีตแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ที่ทำกิจกรรมต่อต้านคสช.มาตั้งแต่ปี 2557 กล่าวอีกว่า ตราบใดที่หากยังไม่มีการบังคับใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อย่างรุนแรง และยังไม่มีการยกเลิก 112 สถานการณ์ม็อบก็จะไม่ลงและจะไม่ขึ้น เว้นแต่จะมีการบังคับใช้มาตรา 112 อย่างรุนแรง ก็จะนำไปสู่เหตุการณ์ที่ยกระดับ นำไปสู่การตื่นตัวอีกครั้งหนึ่งของประชาชน ซึ่งก็คิดว่าเป็นไปได้ที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์อาจจะอยู่ครบสี่ปี แต่เป็นการอยู่ครบด้วยความทุลักทุเลและหายนะทางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศ โดยตลอดช่วงอายุของรัฐบาล ก็จะมีการประท้วงจะเกิดขึ้นเป็นรายวันหรือรายสัปดาห์ หรือาจขยับเป็นรายเดือน แต่ไม่ได้ลดน้อยถอยลงไปในเชิงปริมาณ จะไม่ลดน้อยถอยลงในเชิงขบวนการ แต่จะแตกหน่อออกไปเป็นกลุ่มต่างๆ และที่สำคัญจะมีแนวทางที่หลากหลายมากขึ้น เพราะหลายคนอาจคิดว่า แนวทางที่คณะราษฏร 63 ต่อสู้อยู่ ณ ตอนนี้ไม่เวิรค์ก็ได้ อาจจะมีคนตั้งกลุ่มต่างๆ ขึ้นมาเพื่อต่อสู้ในแนวทางที่เขาเชื่อมั่นว่า เป็นแนวทางไปสู่หนทางแห่งชัยชนะก็ได้
.
อดีตหัวหน้ากลุ่มการ์ดม็อบคณะราษฏรฯ กล่าวถึงฉากจบของสถานการณ์และการชุมนุม ว่า ต้องอิงเวลาด้วย แต่หากในช่วง 1-2 ปีนี้ ก็คิดว่า พลเอกประยุทธ์ก็คงเป็นนายกฯต่อ ส่วนการต่อสู้ทางการเมือง ก็คงมีการจับกุมคุมขังแกนนำหลังจากนี้เมื่อสถานการณ์อ่อนล้า ถอยแรง หรือสะดุดขาตัวเองล้ม ก็เป็นไปได้ ถ้าเมื่อไหร่ม็อบแผ่ว ทำผิดพลาดบ่อย ๆประชาชนไม่ซื้อแล้ว แนวทางไม่โอเค คนไม่เอากับม็อบแล้ว พลเอกประยุทธ์ก็อาจถือโอกาสนั้นเคลียร์คดี และจัดการกับแกนนำ แล้วพลเอกประยุทธ์ก็อยู่ต่อได้ จนถึงวินาทีสุดท้าย หรืออาจจะไปอีกทางหนึ่ง แต่ให้น้ำหนักน้อยกว่าข้อแรก คือการชุมนุมจากนี้ จากที่ชุมนุมกันทุกวัน ก็จะเปลี่ยนเป็นการชุมนุมทุกสัปดาห์ แล้วก็คงขยับเป็นเดือนละครั้ง แต่ทุกครั้งที่เปลี่ยนไป จะต้องเป็นการชุมนุมที่ใหญ่ขึ้น ประเด็นต้องแหลมคมขึ้น ก็เป็นไปได้ จนถึงพลเอกประยุทธ์ลาออก หรือไม่ก็อยู่ครบเทอม ก็เป็นไปได้เหมือนกัน แต่ให้น้ำหนักข้อแรกก่อน คือนายกฯจะเอากฎหมายมาบังคับใช้อย่างเข้มงวด แล้วก็มีการจับกุมคุมขังแกนนำอย่างแน่นอน
.
เมื่อถามว่า หมายถึงแกนนำและผู้ชุมนุมก็ต้องทบทวนการเคลื่อนไหว มองจุดแข็งจุดอ่อนของตัวเองเพื่อไม่ให้สะดุดล้ม หัวหน้ากลุ่มวีโว่ระบุว่า ใช่ มันก็ต้องแบบนั้น เหมือนกับที่ตนทำอยู่ตอนนี้ พอเราทบทวนแล้วว่ารูปแบบนี้มันไม่ใช่ หรือยังมีปัญหาที่เราแก้ไม่ได้ ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยง ลดปัญหา ลดการกระทบกระทั่ง มีคนคอยสำรองทางให้เดิน ผมจะถากทางไว้รอ อันนี้ก็คือการปรับปรุงทบทวนรูปแบบการทำงาน
.
ถามต่อไปว่า สุดท้ายแล้วการชุมนุม จะเหมือนกับฮ่องกงหรือไ่ม่ ที่สุดท้ายที่ฮ่องกง การชุมนุมก็ไม่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ อดีตหัวหน้าการ์ดม็อบสามนิ้ว ที่บอกว่า เคยไปดูการชุมนุมประท้วงทางการเมืองที่ฮ่องกงมาก่อนหน้านี้ตอบว่า ฮ่องกงเขาเหมือนกับต่อสู้ way เดียวเลย ชุมนุม-จบ ชุมนุมยืดเยื้อ-จบ อย่างนี้หลายรอบตั้งแต่ปี 2557 ตนก็เคยเดินทางไปฮ่องกงเพื่อศึกษาเรื่องนี้ ซึ่งมันไม่เวิร์คกับเมืองไทย ประสบการณ์ที่ผ่านมา ทั้งของไทยเองและของเขา มันไม่เวิร์ค มิหนำซ้ำมวลชนจะล้าและเสียแนวร่วมไปเรื่อยๆ เพราะอย่าลืมว่าการชุมนุมแบบวันต่อวันที่ทำอยู่ ต้องอาศัยแรงสนับสนุนจากคนกรุงเทพฯ ไม่สามารถอาศัยคนต่างจังหวัดได้ เพราะการนัดชุมนุมแบบวันเว้นวัน แล้วยิ่งมีการ"แกง"กันอีกด้วย คนต่างจังหวัดไม่สามารถรับกับการแกงได้ เพราะเขาต้องเตรียมข้าวปลา อาหาร เตรียมค่าน้ำมัน เตรียมลางาน ก่อนจะเดินทางได้แต่ละครั้ง จึงต้องอาศัยคนกรุงเทพฯ เป็นกำลังหลักในการเคลื่อนย้ายคน แต่เมื่อไหร่ที่สร้างปัญหา สร้างให้คนกรุงเทพฯไม่ซื้อกับวิธีการของคุณ แล้วเป็นปัญหาเสียเอง เขาถอยขึ้นมาจะทำยังไง
.
เมื่อถามถึงว่าเป็นปัญหาแบบไหน อดีตหัวหน้าการ์ดม็อบคณะราษฏร บอกว่า ปัญหาหลายเรื่อง ก็เช่น การจราจร การกระทบกระทั่งของคนในพื้นที่ การนำเสนอเนื้อหาที่ซ้ำๆซากๆ ไม่นำไปสู่ชัยชนะที่แท้จริง มองว่าเป็นการยื้อเวลา การถ่วงรั้ง คือคนกรุงเทพฯ ต้องยอมรับอย่างหนึ่ง เมื่อฟีเวอร์เขาก็ฟีเวอร์ แต่เมื่อไม่เอา ก็คือไม่เอา ไม่อิน ก็คือไม่อิน ไม่เช่นนั้นคงไม่เกิดการสวิงโหวตของการเลือกตั้งแต่ละครั้ง เดี๋ยวก็พรรคเพื่อไทย เดี๋ยวก็ประชาธิปัตย์ มันสวิง เพราะคนเขามีความคิดบางอย่างที่ไม่ได้ยึดติดกับอะไรเลย
.
ถามย้ำว่า ตอนนี้มันก็กำลังเป็นอย่างนั้นแล้ว นายปิยรัฐกล่าวว่า ค่อนข้างมั่นใจว่า มันมีโอกาส เพราะเสียงสะท้อนกลับมาที่ตน มันไปในทิศทางเดียวกัน เขาก็เตือนมา เช่น ปิดถนนกันทุกวัน ประชาชนอาจไม่พอใจได้ หรือระวัง คุณทะเลาะกันทุกวัน ประชาชนอาจเอือมระอาก็ได้ หรือระวัง แนวทางคุณไม่ชัด เดี๋ยวคนโน้นลด คนนี้เพิ่ม ประชาชนอาจถือว่าคุณไม่มีหลักการ ไม่มีแนวทางที่ชัดเจน มันก็เป็นไปได้ทั้งหมด.
-------------------------------
แหล่งข่าว
-
https://www.thaipost.net/main/detail/86032
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website :
http://www.thailandvision.co
Facebook :
https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter :
https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube :
https://www.youtube.com/c/Thailandvision
@@@ แนวร่วมถดถอย?? @@@
.
5 ธ.ค.63 - นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ "โตโต้" อดีตหัวหน้าการ์ดกลุ่มราษฎร 63 We Volunteer หรือ WeVo ที่ปัจจุบันได้ประกาศแยกตัวออกมาจากการ์ดม็อบสามนิ้วเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังมีคลิปภาพและข่าวออกมาต่อเนื่อง ถึงการมีปัญหากันเองในกลุ่มการ์ดผู้ชุมนุมจนมีการทำร้ายร่างกายกันเอง เพื่อจะมาเคลื่อนไหวทำกิจกรรมการเมืองในนามของกลุ่มวีโว่ ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ แทบลอยด์ ไทยโพสต์ ช่วงหนึ่งโดยประเมินสถานการณ์การเมืองและการชุมนุมของม็อบต่อจากนี้ว่า หลังจากศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องคดีบ้านพักของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำให้พลเอกประยุทธ์ยังเป็นนายกฯต่อไป การเมืองไทย จากนี้ คงไม่ไปถึงจุดพีคหรือจุดต่ำกว่านี้ไปอีกแล้ว มันรักษาระดับแบบนี้ต่อไป ก็จะยื้อแบบนี้ไปจนเกว่าจะมีเหตุปัจจัยอื่นที่มันมีผลต่อสถานการณ์มากกว่านี้ โดยสถานการณ์ของม็อบพูดไปถึงเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหลัก มากกว่าสถาบันทางการเมืองอื่นๆ คิดว่าปัจจัยที่จะทำให้สถานการณ์พีคขึ้นหรือต่ำลงอยู่ที่ประเด็นของสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหลัก
.
หัวหน้ากลุ่มวีโว่ ที่เป็นอดีตแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ที่ทำกิจกรรมต่อต้านคสช.มาตั้งแต่ปี 2557 กล่าวอีกว่า ตราบใดที่หากยังไม่มีการบังคับใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อย่างรุนแรง และยังไม่มีการยกเลิก 112 สถานการณ์ม็อบก็จะไม่ลงและจะไม่ขึ้น เว้นแต่จะมีการบังคับใช้มาตรา 112 อย่างรุนแรง ก็จะนำไปสู่เหตุการณ์ที่ยกระดับ นำไปสู่การตื่นตัวอีกครั้งหนึ่งของประชาชน ซึ่งก็คิดว่าเป็นไปได้ที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์อาจจะอยู่ครบสี่ปี แต่เป็นการอยู่ครบด้วยความทุลักทุเลและหายนะทางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศ โดยตลอดช่วงอายุของรัฐบาล ก็จะมีการประท้วงจะเกิดขึ้นเป็นรายวันหรือรายสัปดาห์ หรือาจขยับเป็นรายเดือน แต่ไม่ได้ลดน้อยถอยลงไปในเชิงปริมาณ จะไม่ลดน้อยถอยลงในเชิงขบวนการ แต่จะแตกหน่อออกไปเป็นกลุ่มต่างๆ และที่สำคัญจะมีแนวทางที่หลากหลายมากขึ้น เพราะหลายคนอาจคิดว่า แนวทางที่คณะราษฏร 63 ต่อสู้อยู่ ณ ตอนนี้ไม่เวิรค์ก็ได้ อาจจะมีคนตั้งกลุ่มต่างๆ ขึ้นมาเพื่อต่อสู้ในแนวทางที่เขาเชื่อมั่นว่า เป็นแนวทางไปสู่หนทางแห่งชัยชนะก็ได้
.
อดีตหัวหน้ากลุ่มการ์ดม็อบคณะราษฏรฯ กล่าวถึงฉากจบของสถานการณ์และการชุมนุม ว่า ต้องอิงเวลาด้วย แต่หากในช่วง 1-2 ปีนี้ ก็คิดว่า พลเอกประยุทธ์ก็คงเป็นนายกฯต่อ ส่วนการต่อสู้ทางการเมือง ก็คงมีการจับกุมคุมขังแกนนำหลังจากนี้เมื่อสถานการณ์อ่อนล้า ถอยแรง หรือสะดุดขาตัวเองล้ม ก็เป็นไปได้ ถ้าเมื่อไหร่ม็อบแผ่ว ทำผิดพลาดบ่อย ๆประชาชนไม่ซื้อแล้ว แนวทางไม่โอเค คนไม่เอากับม็อบแล้ว พลเอกประยุทธ์ก็อาจถือโอกาสนั้นเคลียร์คดี และจัดการกับแกนนำ แล้วพลเอกประยุทธ์ก็อยู่ต่อได้ จนถึงวินาทีสุดท้าย หรืออาจจะไปอีกทางหนึ่ง แต่ให้น้ำหนักน้อยกว่าข้อแรก คือการชุมนุมจากนี้ จากที่ชุมนุมกันทุกวัน ก็จะเปลี่ยนเป็นการชุมนุมทุกสัปดาห์ แล้วก็คงขยับเป็นเดือนละครั้ง แต่ทุกครั้งที่เปลี่ยนไป จะต้องเป็นการชุมนุมที่ใหญ่ขึ้น ประเด็นต้องแหลมคมขึ้น ก็เป็นไปได้ จนถึงพลเอกประยุทธ์ลาออก หรือไม่ก็อยู่ครบเทอม ก็เป็นไปได้เหมือนกัน แต่ให้น้ำหนักข้อแรกก่อน คือนายกฯจะเอากฎหมายมาบังคับใช้อย่างเข้มงวด แล้วก็มีการจับกุมคุมขังแกนนำอย่างแน่นอน
.
เมื่อถามว่า หมายถึงแกนนำและผู้ชุมนุมก็ต้องทบทวนการเคลื่อนไหว มองจุดแข็งจุดอ่อนของตัวเองเพื่อไม่ให้สะดุดล้ม หัวหน้ากลุ่มวีโว่ระบุว่า ใช่ มันก็ต้องแบบนั้น เหมือนกับที่ตนทำอยู่ตอนนี้ พอเราทบทวนแล้วว่ารูปแบบนี้มันไม่ใช่ หรือยังมีปัญหาที่เราแก้ไม่ได้ ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยง ลดปัญหา ลดการกระทบกระทั่ง มีคนคอยสำรองทางให้เดิน ผมจะถากทางไว้รอ อันนี้ก็คือการปรับปรุงทบทวนรูปแบบการทำงาน
.
ถามต่อไปว่า สุดท้ายแล้วการชุมนุม จะเหมือนกับฮ่องกงหรือไ่ม่ ที่สุดท้ายที่ฮ่องกง การชุมนุมก็ไม่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ อดีตหัวหน้าการ์ดม็อบสามนิ้ว ที่บอกว่า เคยไปดูการชุมนุมประท้วงทางการเมืองที่ฮ่องกงมาก่อนหน้านี้ตอบว่า ฮ่องกงเขาเหมือนกับต่อสู้ way เดียวเลย ชุมนุม-จบ ชุมนุมยืดเยื้อ-จบ อย่างนี้หลายรอบตั้งแต่ปี 2557 ตนก็เคยเดินทางไปฮ่องกงเพื่อศึกษาเรื่องนี้ ซึ่งมันไม่เวิร์คกับเมืองไทย ประสบการณ์ที่ผ่านมา ทั้งของไทยเองและของเขา มันไม่เวิร์ค มิหนำซ้ำมวลชนจะล้าและเสียแนวร่วมไปเรื่อยๆ เพราะอย่าลืมว่าการชุมนุมแบบวันต่อวันที่ทำอยู่ ต้องอาศัยแรงสนับสนุนจากคนกรุงเทพฯ ไม่สามารถอาศัยคนต่างจังหวัดได้ เพราะการนัดชุมนุมแบบวันเว้นวัน แล้วยิ่งมีการ"แกง"กันอีกด้วย คนต่างจังหวัดไม่สามารถรับกับการแกงได้ เพราะเขาต้องเตรียมข้าวปลา อาหาร เตรียมค่าน้ำมัน เตรียมลางาน ก่อนจะเดินทางได้แต่ละครั้ง จึงต้องอาศัยคนกรุงเทพฯ เป็นกำลังหลักในการเคลื่อนย้ายคน แต่เมื่อไหร่ที่สร้างปัญหา สร้างให้คนกรุงเทพฯไม่ซื้อกับวิธีการของคุณ แล้วเป็นปัญหาเสียเอง เขาถอยขึ้นมาจะทำยังไง
.
เมื่อถามถึงว่าเป็นปัญหาแบบไหน อดีตหัวหน้าการ์ดม็อบคณะราษฏร บอกว่า ปัญหาหลายเรื่อง ก็เช่น การจราจร การกระทบกระทั่งของคนในพื้นที่ การนำเสนอเนื้อหาที่ซ้ำๆซากๆ ไม่นำไปสู่ชัยชนะที่แท้จริง มองว่าเป็นการยื้อเวลา การถ่วงรั้ง คือคนกรุงเทพฯ ต้องยอมรับอย่างหนึ่ง เมื่อฟีเวอร์เขาก็ฟีเวอร์ แต่เมื่อไม่เอา ก็คือไม่เอา ไม่อิน ก็คือไม่อิน ไม่เช่นนั้นคงไม่เกิดการสวิงโหวตของการเลือกตั้งแต่ละครั้ง เดี๋ยวก็พรรคเพื่อไทย เดี๋ยวก็ประชาธิปัตย์ มันสวิง เพราะคนเขามีความคิดบางอย่างที่ไม่ได้ยึดติดกับอะไรเลย
.
ถามย้ำว่า ตอนนี้มันก็กำลังเป็นอย่างนั้นแล้ว นายปิยรัฐกล่าวว่า ค่อนข้างมั่นใจว่า มันมีโอกาส เพราะเสียงสะท้อนกลับมาที่ตน มันไปในทิศทางเดียวกัน เขาก็เตือนมา เช่น ปิดถนนกันทุกวัน ประชาชนอาจไม่พอใจได้ หรือระวัง คุณทะเลาะกันทุกวัน ประชาชนอาจเอือมระอาก็ได้ หรือระวัง แนวทางคุณไม่ชัด เดี๋ยวคนโน้นลด คนนี้เพิ่ม ประชาชนอาจถือว่าคุณไม่มีหลักการ ไม่มีแนวทางที่ชัดเจน มันก็เป็นไปได้ทั้งหมด.
-------------------------------
แหล่งข่าว
- https://www.thaipost.net/main/detail/86032
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision