วันนี้เมื่อ 13 ปีที่แล้ว
ริคาโด้ กาก้า คือมนุษย์คนสุดท้ายที่คว้าบัลลงดอร์ 
.
 ก่อนที่จะเข้าสู่ยุคของ สัตว์ประหลาดและมนุษย์ต่างดาวนามว่า คริสเตียโน โรนัลโด้ และลีเนล เมสซี
.
.
 ริคาโด ไอเซซอน ดอสซานโตส หรือชื่อที่เรารู้จักกันในชื่อของ ริคาโด้ กาก้า
เขาคือนักเตะขวัญใจแฟนบอลปีศาจแดงดำ เอซีมิลาน ในช่วงเวลานั้น
.
 ย้อนกลับไปปี 2002
หลังจากเป็นส่วนหนึ่งในการพาทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์โลกปี 2002เด็ก
หนุ่มผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ก็ถูกมิลานดึงตัวมาจากสโมสรเซาเปาโล ยอดทีมจากแดนแซมบ้า เพื่อหวังจะให้เป็นตัวแทนของ รุย คอสต้า กองกลางอัฉริยะทีมชาติโปรตุเกส
.
 และกาก้าก็ไม่ได้ทำให้สาวกปีศาจแดงดำต้องผิดหวังเมื่อสถาปนาตัวเองเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งคอสต้าได้อย่างไม่มีที่ติ โดยเฉพาะในยุคของยอดกุนซือ คาร์โล อันเชลอตติ ที่จับกาก้าเป็นเพลเมเกอร์ คอยป้อนบอลให้ อันเดร เชพเชงโก้ ,เฮอนัล เครโป, ฟิลิปโป้ อินซากี้ พาเอซีมิลานเข้าชิงถ้วยยูฟ่าแชมป์เปี่ยนลีกถึงสองสมัย (คว้าแชมป์ 1 ครั้ง)
.
 จุดเด่นของ กาก้า นอกจากหน้าตาหล่อเหลาระดับดาราแล้ว เขายังมีความเร็วที่พร้อมจะกระชากผ่านกองหลังคนใดก็ได้ ยิ่งรวมกับทักษะการจ่ายบอลและลูกยิงที่เฉียบคม เขาจึงถูกยกให้เป็นกองกลางที่ดีสุดในโลกในช่วงเวลานั้น
.
 โดยเฉพาะอย่างยิ่งแมตท์การแข่งขันยูฟ่าแชมเปี่ยนลีกปี 2006-2007 รอบรองชนะเลิศที่พบกับแมนเซสเตอร์ยูไนเต็ด
ซึ่งช่วงเวลานั้นนับเป็นยุครุงเรืองของผีแดง เพราะรวบรวมดาวดังไว้มากมาก อาทิคริสเตียนโน โรนัลโด้ ,เวน รูนีย์ โดยเฉพาะผลงานในถ้วยใบใหญ่ของยุโรปปีนั้นก็เรียกว่าสุดยอดมาก เพราะเก็บชัยชนะได้ 8 นัดรวด รวมถึงการถล่มเอเอส โรม่าของฟรานเซสโก้ ตอตติ คากรุงโรมไป 7-1 ก่อนที่จะเข้าไปพบกับเอซี มิลานในรอบรองชนะเลิศ
.
 โดยนัดแรกที่โอลแทรฟฟอร์ด ถึงแม้ว่าแมนยูสามารถเอาชนะไปได้ 3-2 แต่กาก้าก็ทำไปคนเดียวถึงสองประตู และยังสร้างซ็อตมหัศจรรย์ให้วงการลูกหนังต้องจารึกโดยการโชว์ทักษะอันสุดยอด
.
จากจังหวะรับบอลยาวจากดีด้าผู้รักษาประตู ก่อนสปีดหนีดาร์เรน เฟรสเซอร์ ต่อด้วยกระดกบอลหลอก กาเบรียล ไฮน์เซ่ และปาทริซ เอฟร่าที่ยืนขวางอยู่ให้ล้มระเนระนาดและหลุดเข้าไปยิงเล่นทางผ่านมือ เอ็ดเวิร์ด ฟานเดอร์ซ่าอย่างเลือดเย็น
.
 ถึงแม้ว่าจะยิงประตูทีมเยือนมาถึง 2 ลูก แต่ถึงกระนั้นแมนยูฯก็ยังกุมความได้เปรียบไว้อยู่ เพราะเพียงแค่เสมอนัดต่อไปในซานซิโรก็เพียงพอที่จะตีตั๋วไปเล่นรอบชิงที่เอเธนท์ (ย้ำอีกครั้งว่าแมนยู ชนะมา 8 นัดรวด ไม่มีเสมอหรือแพ้)
.
 จนเซอร์ อเล็ก ฟอร์กูสันผู้จัดการทีมยังออกมาแสดงความมั่นใจสุดๆ โดยการประกาศว่าจะเข้าไปชิงชนะเลิศกับคู่รักคู่แค้นตลอดกาลอย่างลิเวอร์พูล (มองข้ามเอซีมิลานในรอบsemi finalไปแล้ว)
.
.
 แต่ความฝันของท่านเซอร์ก็ต้องพังทลายลง เมื่อเทพบุตรสุดหล่อจากบราซิล ได้ร่ายเวทมนต์ในกลางพื้นสนามซานซิโร่สยบผีหลงหลุม พาเอซีมิลานผลิกกลับมาถล่มแมนยู 3-0 โดยกาก้าทำไปอีก 1 ประตู (คาเรน ซีดอร์ฟ 1 , จิลาดิโน่ 1)
รวมสองนัด เอซีมิลานผ่านเข้ารอบไปด้วยสกอร์รวม 5-3 โดยแฟนบอลและสื่อมวลชลทั่วโลกต่างยกชัยชนะครั้งนี้ว่าเกิดจากฝีเท้าของกาก้า หรือเรียกอีกมุมว่า แมนยูแพ้ต่อกาก้าเพียงคนเดียว
.
.
 ไม่ใช่แค่ผลงานการแข่งขันกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดจะเป็นส่วนช่วยให้ ริคาโด้ กาก้าก้าวไปสู่การคว้าบัลลองดอร์ ในท้ายที่สุดแล้ว นอกจากนี้ก็ยังส่งผลต่อแฟนบอลปีศาจแดงในประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตร้อนใกล้เส้นศูนย์สูตร ที่ต้องค่อยปิดหู หลบหน้าหลบตาเพื่อนฝูงเพราะกลัวเพลงฮิตแห่งปี อย่างเพลง "ผีกาก้า" จะลอยเข้ามาหลอกหลอนอีกด้วย
.
.

.
.#goalstorm #เจาะลึก #บอลนอก #onthisday #กาก้า
ที่มา
https://web.facebook.com/goalstorm