ตอนแรกที่ได้ยินข่าวว่าย้าถูกยืมตัวไปตราด ตอนนั้นก็ตกใจนะแต่ก็ไม่เกินความคาดหมาย เพราะว่าเราก็มีเซนส์บางอย่าง ตั้งแต่รู้ข่าวว่า ตุ้ย กรวิทย์ ที่อยู่ชลบุรี โดนยืมตัวไปเมืองกาญจน์ เราก็รู้สึกว่าเปิดแข่งหลังหยุดโควิด ย้าน่าจะถูกยืมตัว ตราดก็เป็นทีมหนึ่งที่เราเก็งไว้ เพราะว่านักบอลชลบุรีโดนยืมตัวไปตราดก่อนหน้านั้นหลายคน และแล้วมันก็ไม่เกินที่คาดไว้
ย้าถูกยืมตัวไปตราดเอฟซี 1 ฤดูกาล
ใจหายไหมก็ใจหาย ด้วยที่เรารู้มาก่อนหน้านั้นว่า ตราดไกลมาก ไกลกว่าชลบุรีอีก อยู่ชลบุรียังไม่ค่อยได้ไปหาเลย มันก็เหมือนระยะทางที่มันห่างกว่าเดิม ทำให้โอกาสที่เราจะไปดูย้าแข่งก็ยิ่งยากมากขึ้น
แต่เพื่ออนาคตของย้าที่จะได้รับโอกาสในการลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ การไปตราดคือโอกาสที่ดีที่สุดแล้วของย้าในตอนนี้
ช่วงก่อนที่จะเปิดการแข่งหลังหยุดโควิด ทางตราดมีนัดอุ่นเครื่องในบ้านกับสโมสรสมุทรสาครเอฟซี และช่วงนั้นก็เป็นช่วงวันหยุดยาวเดือนกันยายนที่เราสามารถเดินทางไปตราดได้ เนื่องด้วยเราไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ก็เลยต้องอาศัยรถสาธารณะไปที่ตราด เราเดินทางด้วยรถทัวร์ที่เอกมัย ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมงก็ถึงตัวเมืองตราด
ตราดเป็นเมืองเล็กๆ สนามฟุตบอลก็ไม่ไกลจากตัวเมือง ถ้าเป็นคนชอบเดินก็เดินไปสนามได้แบบไม่เหนื่อยมาก (ที่รู้เพราะว่าลองเดินมาแล้ว(ฮา)) ไม่ก็นั่งวินไปที่สนามก็ได้
พูดถึงย้าบ้าง ครั้งแรกที่เจอย้าหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานาน 7 เดือน หนวดเคราครึ้มเลย หุ่นก็ผอมลงไปจากแต่ก่อนมาก เราก็ดีใจนะที่ย้าดูแลตัวเองมากขึ้น ดูรักตัวเองมากขึ้นด้วย ก็ต้องให้เครดิตทางสโมสรตราดเอฟซีที่ดูแลย้าเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องฟิตเนส ที่ทำให้ย้ามีหุ่นที่ดีขึ้นมาแบบนี้
เท่าที่ได้คุยกับย้า เรารับรู้ถึงทัศนคติที่ดีขึ้นของย้า มองเห็นเป้าหมายของย้า การมาครั้งนี้คือความตั้งใจของย้าจริงๆ มาเพื่อหาโอกาสให้กับตัวเอง
หลังจากที่ได้ดูย้าลงเล่น สิ่งที่เรารับรู้ได้คือ ย้าคนเดิม สมัยที่เล่นบอลนักเรียน สมัยที่เล่นบอลยู19ของโค้ชจุ่น คนนั้นเริ่มกลับมาแล้ว เราได้เห็นย้าได้ทำหลายๆอย่างที่ย้าไม่ได้ทำตอนที่เล่นที่ชลบุรี เช่น การเตะมุม , การเตะฟรีคิก
มีครั้งนึงที่ย้าได้มีโอกาสเตะฟรีคิก โค้ชก็ตะโกนบอกย้า ให้มั่นใจ ไม่ต้องกลัว ทำเหมือนที่ซ้อมมา ลูกนั้นย้ายิงได้สวยนะ แค่มันชนคานดังสนั่นสนาม
(ตอนที่ย้าแข่งอุ่นเครื่อง ยังไม่ใส่เบอร์เสื้อของตัวเอง ตอนนี้ย้าใส่เบอร์ 44 )
หลังจบการแข่งขัน เราก็มั่นใจว่า ที่นี่เหมาะกับย้าจริงๆ ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงเลย และเราคิดว่าหลังจากเปิดฤดูกาล ย้าจะทำผลงานได้น่าพอใจ
เรามีโอกาสเจอย้าอีกสองครั้ง คือ ที่สนามเมืองทอง เดือนตุลาคม และ ที่สนามตราด เดือนพฤศจิกายน นอกจากนั้น เราก็ติดตามย้าผ่านทางถ่ายทอดสดมาโดยตลอด
8 นัดกับ 2 ประตู 1 แอสซิส ถือว่าเป็นผลงานที่ดีมากๆของย้า ประตูที่ย้ายิงแต่ละลูก ไม่เคยมีประตูไหนที่ย้าจะยิงแบบธรรมดาสักครั้ง ตั้งแต่ประตูแรกในไทยลีกของย้าตอนที่ย้าเล่นให้ชลบุรีในฤดูกาลที่แล้ว
จนมาถึงประตูที่สร้างชื่อให้กับย้าในนัดล่าสุด พูดไม่ออกเลยตอนที่ได้เห็นประตูนั้น แต่ไม่คิดว่า มันจะทำให้ย้าโดนพูดถึงมากในช่วงนี้
ตอนนี้ ย้าเริ่มถูกจับตามองมากขึ้น ย้าได้มีโอกาสติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ ทุกๆอย่างก็กำลังไปได้ดี และ น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าย้าไม่มีอาการบาดเจ็บมารบกวน ( ย้าได้รับบาดเจ็บตอนที่แข่งซีเกมส์ที่ฟิลิปปินส์ตอนเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว แล้วก็มาเจ็บอีกรอบตอนที่ไปแข่งบอลไทยลีกที่สุพรรณบุรี จนต้องถอนตัวทีมชาติชุดใหญ่ไปครั้งนึง )
จากความรู้สึกของเรา ไม่อยากให้ใครคาดหวังอะไรกับย้ามากนัก เพราะถ้าผิดหวังจากย้า ก็จะมารุมด่าย้า อย่างที่ย้าเคยโดนในช่วงที่ผ่านมา ย้าไม่ใช่คนที่เพอร์เฟ็คอะไร มีทั้งดี มีทั้งร้าย แต่โดยเนื้อแท้ของย้าก็ไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไร ก็มีช่วงที่ออกนอกลู่นอกทางไปบ้างตามประสาวัยรุ่น แต่อย่างน้อย ตอนนี้ย้าก็โตมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เริ่มกลับมาทำในสิ่งที่ดีกับอาชีพนักบอลมากขึ้น
ขอแค่กำลังใจเล็กๆให้กับย้า ให้กับการก้าวย่างครั้งใหม่ของย้าในการค้าแข้งในถิ่นใหม่อย่างตราดเอฟซีครั้งนี้
และสุดท้าย ก็ขอกำลังใจให้ทีมตราดเอฟซี ทีมเล็กๆที่ให้โอกาสคนมามากนักต่อนัก ทั้ง เจนรบ , วงศกร ฯลฯ ตอนนี้สถานการณ์ของตราดก็ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ การได้เชียร์ทีมท้ายตาราง มันก็สนุกไปอีกแบบนะ มาลองเชียร์กัน
เล่าประสบการณ์ ไปเชียร์ ย้า สิทธิโชค ภาโส ที่ ตราด
ใจหายไหมก็ใจหาย ด้วยที่เรารู้มาก่อนหน้านั้นว่า ตราดไกลมาก ไกลกว่าชลบุรีอีก อยู่ชลบุรียังไม่ค่อยได้ไปหาเลย มันก็เหมือนระยะทางที่มันห่างกว่าเดิม ทำให้โอกาสที่เราจะไปดูย้าแข่งก็ยิ่งยากมากขึ้น
แต่เพื่ออนาคตของย้าที่จะได้รับโอกาสในการลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ การไปตราดคือโอกาสที่ดีที่สุดแล้วของย้าในตอนนี้
ตราดเป็นเมืองเล็กๆ สนามฟุตบอลก็ไม่ไกลจากตัวเมือง ถ้าเป็นคนชอบเดินก็เดินไปสนามได้แบบไม่เหนื่อยมาก (ที่รู้เพราะว่าลองเดินมาแล้ว(ฮา)) ไม่ก็นั่งวินไปที่สนามก็ได้
หลังจากที่ได้ดูย้าลงเล่น สิ่งที่เรารับรู้ได้คือ ย้าคนเดิม สมัยที่เล่นบอลนักเรียน สมัยที่เล่นบอลยู19ของโค้ชจุ่น คนนั้นเริ่มกลับมาแล้ว เราได้เห็นย้าได้ทำหลายๆอย่างที่ย้าไม่ได้ทำตอนที่เล่นที่ชลบุรี เช่น การเตะมุม , การเตะฟรีคิก
มีครั้งนึงที่ย้าได้มีโอกาสเตะฟรีคิก โค้ชก็ตะโกนบอกย้า ให้มั่นใจ ไม่ต้องกลัว ทำเหมือนที่ซ้อมมา ลูกนั้นย้ายิงได้สวยนะ แค่มันชนคานดังสนั่นสนาม
(ตอนที่ย้าแข่งอุ่นเครื่อง ยังไม่ใส่เบอร์เสื้อของตัวเอง ตอนนี้ย้าใส่เบอร์ 44 )
เรามีโอกาสเจอย้าอีกสองครั้ง คือ ที่สนามเมืองทอง เดือนตุลาคม และ ที่สนามตราด เดือนพฤศจิกายน นอกจากนั้น เราก็ติดตามย้าผ่านทางถ่ายทอดสดมาโดยตลอด
8 นัดกับ 2 ประตู 1 แอสซิส ถือว่าเป็นผลงานที่ดีมากๆของย้า ประตูที่ย้ายิงแต่ละลูก ไม่เคยมีประตูไหนที่ย้าจะยิงแบบธรรมดาสักครั้ง ตั้งแต่ประตูแรกในไทยลีกของย้าตอนที่ย้าเล่นให้ชลบุรีในฤดูกาลที่แล้ว
จนมาถึงประตูที่สร้างชื่อให้กับย้าในนัดล่าสุด พูดไม่ออกเลยตอนที่ได้เห็นประตูนั้น แต่ไม่คิดว่า มันจะทำให้ย้าโดนพูดถึงมากในช่วงนี้
ตอนนี้ ย้าเริ่มถูกจับตามองมากขึ้น ย้าได้มีโอกาสติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ ทุกๆอย่างก็กำลังไปได้ดี และ น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าย้าไม่มีอาการบาดเจ็บมารบกวน ( ย้าได้รับบาดเจ็บตอนที่แข่งซีเกมส์ที่ฟิลิปปินส์ตอนเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว แล้วก็มาเจ็บอีกรอบตอนที่ไปแข่งบอลไทยลีกที่สุพรรณบุรี จนต้องถอนตัวทีมชาติชุดใหญ่ไปครั้งนึง )
จากความรู้สึกของเรา ไม่อยากให้ใครคาดหวังอะไรกับย้ามากนัก เพราะถ้าผิดหวังจากย้า ก็จะมารุมด่าย้า อย่างที่ย้าเคยโดนในช่วงที่ผ่านมา ย้าไม่ใช่คนที่เพอร์เฟ็คอะไร มีทั้งดี มีทั้งร้าย แต่โดยเนื้อแท้ของย้าก็ไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไร ก็มีช่วงที่ออกนอกลู่นอกทางไปบ้างตามประสาวัยรุ่น แต่อย่างน้อย ตอนนี้ย้าก็โตมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เริ่มกลับมาทำในสิ่งที่ดีกับอาชีพนักบอลมากขึ้น
ขอแค่กำลังใจเล็กๆให้กับย้า ให้กับการก้าวย่างครั้งใหม่ของย้าในการค้าแข้งในถิ่นใหม่อย่างตราดเอฟซีครั้งนี้