เข้าสู่ปลายปี อากาศมันดี บรรยากาศมันได้ ใครๆก็อยากไปภาคเหนือ เราเลยมีRouteเที่ยวที่แม่ฮ่องสอนมาฝากกันค่ะ
ทริปนี้4วัน3คืน กับ18สถานที่เที่ยวและที่พัก กับบรรยากาศสุดฟินสมกับหน้าหนาว มาแล้วไม่ผิดหวังค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พิมพ์หัวข้อกระทู้ผิด จริงๆ18สถานที่นะคะ มันแก้ไม่ได้ แง๊ ขออภัยค่ะ
ใครที่เวลาไปเที่ยวต่อให้ตื่นเช้าแค่ไหนก็ไหว แต่เวลาไปทำงานนั้นขี้เกียจจะตื่น เราคือพวกเดียวกัน อิอิ
จังหวัดแม่ฮ่องสอนถึงแม้จะเป็นที่สุดของความถนนโค้งชัน แต่มันคุ้มค่ามากเมื่อมาถึง โดยเส้นทางที่เราไปนี้เรียกได้ว่าแทบจะครบทุกการท่องเที่ยวไม่ว่าจะ ส่องพระอาทิตย์ยามเช้า เคล้าทะเลหมอก เที่ยวชมน้ำตก เดินป่าขึ้นเขา เข้าถ้ำ ชมแสงเย็น เห็นสายรุ้งขึ้นกลางแจ้ง วิ่งเล่นในทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่ ไปเข้าวัดทำบุญ ทานอาหารจีนยูนนาน นัดกันไปถ่ายดาว ชมไร่ชา ปั่นจักรยานกันเป็นแก็งค์แฟนฉัน เที่ยวชมวัฒนธรรมท้องถิ่น ฟินสุดๆ ถ้ามีโอกาสเราก็อยากชวนให้ไปกันนะคะ
เลิกงานปุ๊ปก็บินมาลงเชียงใหม่ปั๊ป เราเริ่มต้นเดินทางในตอนกลางคืน เพื่อจะไปถึงยังแม่ฮ่องสอนตอนเช้า ใครจะเดินทางแบบเราคนขับรถควรเป็นคนชำนาญทางและเชี่ยวชาญในการขับนะคะเพื่อความปลอดภัย
1.สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย
สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 ในตอนที่ญี่ปุ่นมาตั้งฐานทัพอยู่ในประเทศไทย โดยใช้เป็นเส้นทางเดินทัพลำเลียงเสบียงและอาวุธจากเชียงใหม่ ผ่านปายไปยังประเทศพม่า เราจำได้ว่าครั้งแรกที่มาแม่ฮ่องสอนราว10ปีที่แล้ว สมัยนั้นปายดังมากๆ และการเดินทางของเราในตอนนั้นคือนั่งรถตู้โดยสารจากเชียงใหม่มาที่ปายนี่แหละ แต่รถตู้จะเข้าไปจอดในเมืองปาย เราเลยไม่มีโอกาสที่จะแวะสถานที่เที่ยวที่ผ่าน เวลาผ่านไปนับ10ปีเราผ่านสถานที่นั้นอีกครั้งแต่ช่วงเวลาต่างไปจากเดิม ไม่ต้องถ่ายรูปแล้วติดผู้คนเหมือนสมัยที่ปายบูมมากๆ(ก็ใช่น่ะสิ ดึกขนาดนี้ใครจะออกมา ฮาา) จะว่าไปไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนทำให้รู้ว่าสถานที่นั้นก็ยังอยู่ มีแต่คนเท่านั้นที่เปลี่ยนไป
2.บ้านจ่าโบ่
รุ่งสางที่ต่างถิ่น เรามาถึงจุดหมายในเช้าวันแรกของการเดินทางที่อ.ปางมะผ้า กับหมู่บ้านเล็กๆของชาวลาหู่ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขา บรรยากาศแบบน่าตื่นเช้าทุกวันเลยถ้าที่กรุงเทพฯเป็นแบบนี้คงเลิศน่าดู
3.ภูผาหมอก
จากแถวร้านก๋วยเตี๋ยวเราก็จอดรถไว้และจ้างไกด์นำทาง100บาท ทางขึ้นมันจะอยู่ซอกๆหน่อย และต้องเดินเท้าขึ้นเขาไปประมาณ 500 เมตร ทางค่อนข้างชันเรียกได้ว่าเกือบจะปีนก็ไม่ได้ยากเกินไปแต่โปรดระมัดระวัง พอขึ้นไปถึงยอดภูผาหมอกด้านบนจะเป็นเขาหินแหลมคม และจะได้ชมวิวทะเลหมอก, พระอาทิตย์ขึ้นได้360องศา อาจจะงงกับภาพไหนวิว ใช่ค่ะดิฉันตะเกียกตะกายขึ้นมาแต่หมอกฟุ้งปิดกันวิสัยทัศน์ ไม่สามารถเห็นสิ่งใดได้เลย รอสักพักก็ไม่เปิดจำต้องตัดสินใจลงกัน แต่ก็ไม่เจ็บใจเท่าที่ชาวบ้านบอกว่าเมื่อวานสวยมาก แง๊.....
4.ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขา
หลังจากเดินขบวนกันลงมาจากภูผาหมอก ก็มากันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวในตำนาน กับมุมนี้เลยใครมาบ้านจ่าโบ่ก็ต้องมีรูปกันสัก1 เรียกได้ว่าเป็นLandmarkของบ้านจ่าโบ่เลยก็ว่าได้ และทุกคนคะฟ้ามันเปิดแล้ว ฮืออ จะให้ขึ้นไปที่ภูผาหมอกอีกรอบก็ไม่เอาแล้ววว ต้องไปที่อื่นต่อ...
อันที่จริงคือพี่ในทริปจองที่พักไว้เผื่อมาถึงกลางดึกจะได้แวะเข้าหลับนอนได้ แต่ด้วยความเครื่องบินเราดีเลย์ เลยมาถึงเอาก็ตี4-5 จะโทรหาที่โฮมสเตย์ก็เกรงใจเขา เราเลยนอนกันในรถไป แต่ก็มาทานอาหารเช้ากันนะคะ เพราะราคาที่พักรวมอาหารเช้าแล้ว เราก็นั่งทานพร้อมกับเจ้าบ้านเลย
5.ถ้ำน้ำลอด
ถ้ำที่สามารถล่องแพเข้าไปเพื่อชมหินงอก หินย้อย โดยลอดผ่านภูเขาเข้าไปและจะไปทะลุออกอีกด้านหนึ่ง ถ้ำน้ำลอดนี้มีอายุราว 2,000 ปีมาแล้วค่ะ มีการค้นพบเครื่องมือเครื่องใช้ในสมัยโบราณภายในถ้ำ แต่จะบอกว่ากลิ่นขี้ค้างคาวแรงมาก โปรดเตรียมเครื่องหอมไว้ดมเผื่อไม่ไหว ส่วนค่าเข้าชมถ้ำ+ล่องแพ+ผู้นำทาง 1-3คน450บาทค่ะ
6.ต้าเหล่าซือ รักไทยรีสอร์ท
วันนี้เราจะพักกันที่หมู่บ้านรักไทยค่ะ เป็นหมู่บ้านที่อยู่บนพื้นที่ราบสูงติดกับชายแดนพม่า คนส่วนใหญ่ชาวไทยเชื้อสายยูนนาน เลยทำให้วัฒนธรรม อาหาร สถาปัตยกรรมต่างๆค่อนไปทางจีน เป็นหมู่บ้านที่สวยทั้งในยามเย็นและยามเช้า หากมีเวลาควรมาค้างสักคืน เพราะถ้าแค่แวะมาเที่ยวอย่างเดียวอาจจะพลาดความสวยงามบางช่วงไปได้ ที่พักก็มีหลายที่ หลายราคา เลือกตามความชอบและความเหมาะสมของแต่ละคนได้เลยค่ะ ส่วนเราพักที่ ต้าเหล่าซือ รีสอร์ท ตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าหมู่บ้าน จะติดริมทะเลสาบ อยู่ตรงข้ามกับลีไวน์รักไทย(ที่พักชื่อดังวิวบนเขา) มีให้เลือกพักทั้งบ้านเป็นหลัง และเต็นท์ค่ะ ความสวยงามของที่พักอาจจะไม่เลิศเท่าของลีไวน์ แต่บรรยากาศหน้าที่พักมันดูดีที่สุดเลยเว้ยแก ใครงบจำกัดเราก็แนะนำนะ ถ้ารับสภาพได้ก็จองเลย
สนใจก็เข้าไปสอบถามกันได้เลยที่ FB:ที่พักบ้านรักไทยต้าเหล่าซือ
หลังจากเก็บสัมภาระแล้ว เราก็มาทานอาหารกัน ร้านนี้จะอยู่ข้างๆกับลีไวน์รักไทย ราคาไม่แพง มีของฝากให้ซื้อกันด้วยค่ะ
7.ลีไวน์รักไทย
ใครที่ไม่ได้พักที่ลีไวน์รักไทย ก็เข้าชมไร่ชาได้นะคะ จะมีเวลาให้เข้าชมและกฏระเบียบนิดหน่อยค่ะ แต่หากใครสนใจอยากเข้าพักที่นี่ก็เข้าไปสอบถามกันได้ที่ FB:Leewinerukthai Resort เขาจะเปิดให้จองที่พักกันเป็นช่วงและเต็มไวมากนะคะ
ชมไร่ชาเสร็จแล้วเราก็เช่าจักรยานจากที่ลีไวน์กันคนละคัน ปั่นกันเป็นแก็งค์แฟนฉันรอบหมู่บ้าน สนุกและเพลินมาก
8.ร้านอาหารลีไวน์รักไทย
ปั่นกันจนรอบก็ไปคืนจักรยานและมานั่งชิลรอชมพระอาทิตย์ตกกันที่นี่ค่ะ จะอยู่ติดกับที่พักของเรา สะดวกมากๆ เป็นร้านอาหารของลีไวน์รักไทย รีสอร์ท จะอยู่ตรงข้ามกับส่วนของที่พัก ติดริมน้ำค่ะ วิวดีสุดๆ ความสะท้อนกับน้ำนี้ ใครชอบถ่ายรูปมาก็คงจะถูกใจแน่นอนค่ะ
ในส่วนของอาหารค่ำก็จะเป็นยูนนานสไตล์ค่ะ และร่ำลาคืนนี้ไปด้วยภาพนี้ค่ะ
มาถึงบ้านรักไทย ถ้าไม่ได้เห็นไอหมอกลอยเหนือน้ำในยามเช้าก็เหมือนจะมาไม่ถึง 1ในHighlightของที่นี่ต้องยกให้เขาเลย มันจะดีแค่ไหนหากตื่นมาในตอนเช้าเปิดประตูออกมาก็ได้เห็นอะไรแบบนี้ นี่มันคือสิ่งเล็กๆที่เรียกว่าความสุขนะ บรรยากาศมันสุดจะบรรยาย ต้องลองมากันเอง จริงๆหมอกลอยบนผิวน้ำมาตั้งแต่ตอนค่ำแล้วแหละ นี่คือข้อดีของการพักที่ต้าเหล่าซือค่ะเพราะอยู่ติดริมน้ำเลย ทำให้เราได้เห็นได้ซึมซับบรรยากาศอย่างใกล้ชิด
วิวจากหน้าที่พักเอาจริงคือแบบเหมือนต่างประเทศอยู่นะ ใครอยากมาสัมผัสแบบนี้ต้องช่วงฤดูหนาวเท่านั้นนะ
แดดเริ่มมา หมอกเริ่มไป เรามูฟมาที่ร้านอาหารของลีไวน์รักไทย คือแสงดี ทุกอย่างดีหมด วิวชั้น2นะทุกคน ต้องไปๆ
9.สะพานซูตองเป้
สะพานไม้ไผ่ มีความยาวประมาณ 600เมตร เป็นสะพานไม้แห่งศรัทธาสร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาของพระภิกษุ สามเณร และชาวบ้าน บริเวณโดยรอบก็ปลูกข้าวทำนา ช่วงที่เราไปเขากำลังเก็บเกี่ยวพอดีเลย
10.วัดจองคำและวัดจองกลาง
ตั้งอยู่ในรั้วเดียวกัน มองจากด้านหน้าวัดจองคำจะอยู่ด้านซ้ายมือ ส่วนวัดจองกลางจะอยู่ทางขวามือ เป็นวัดแห่งแรกของจ.แม่ฮ่องสอน สถาปัตยกรรมจะเป็นไทยใหญ่ผสมกับศิลปะแบบพม่า ใครมาที่วัดนี้ เราแนะนำให้ถ่ายรูปจากมุมฝั่งตรงข้ามจะทำให้เห็นวัดทั้งสองได้อย่างชัดเจน
11.วัดพระธาตุดอยกองมู
ตั้งอยู่บนพื้นที่สูง เมื่อมองทิวทัศน์จากด้านบนจะทำให้เห็นตัวเมืองแม่อ่องสอนได้อย่างชัดเจน ด้านบนประดิษฐานพระธาตุเจดีย์ที่สวยงาม 2องค์ พระเจดีย์องค์ใหญ่เป็นที่บรรจุพระธาตุของพระโมคคัลลานะเถระ พระธาตุเจดีย์องค์เล็กบรรจุพระธาตุของพระสารีบุตร (นำมาจากประเทศพม่า)
12.หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว ห้วยเสือเฒ่า
เป็นหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เมือง สามารถเข้าเยี่ยมชมวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยงคอยาวได้ ภายในหมู่บ้านก็มีของที่ระลึกขาย หมู่บ้านเล็กๆไม่กี่หลังคาเรือน ใครอยากลองใส่คอก็ลองได้เลยเนียนๆไปกับเขา แฮ่ะๆ ช่วยอุดหนุนสินค้าเขา พูดคุยกับเขาก็สนุกดีนะ
13.นายจิ่ง โฮมสเตย์
คืนนี้เรามาพักกันที่ปางอุ๋ง ซึ่งที่นี่นอกจากจะกางเต็นท์ได้แล้ว ยังมีโฮมสเตย์เรียงรายกันหลายเจ้ามาก แต่ที่นี่คืออยู่ใกล้กับปางอุ๋งสุดเรียกได้ว่าอยู่หน้าป้ายปางอุ๋งเลยทีเดียว ใครสนใจเข้าไปสอบถามกันได้ค่ะที่ FB: นายจิ่ง โฮมสเตย์ at บ้านรวมไทย ปางอุ๋ง จ.แม่ฮ่องสอน
14.ปางอุ๋ง หรือ โครงการพระราชดำริปางตอง 2
อีก1สถานที่ ที่เราอยากไปมากที่สุดนั่นก็คือปางอุ๋ง อากาศเย็น มีบริการล่องแพชมวิว พระอาทิตย์กำลังตก บรรยากาศสงบๆ โ ค ต ร ดี มาเป็นคู่ก็สุดจะโรแมนติก มาเป็นหมู่คณะก็สนุกครึกครื้น แต่ถ้ามาเดี่ยวก็จะเหงาๆหน่อย แง๊
พระอาทิตย์ตกไปแล้วก็ถึงคิวของอาหารที่ต้องตกถึงท้องกันบ้าง อากาศเย็นๆแบบนี้ บรรยากาศมันได้แบบนี้ จะมีอะไรดีไปกว่าหมูกระทะ ลุยยย
ตื่นกันตั้งแต่ยังไม่สว่าง เดินขบวนกันไปรอถ่ายแสงเช้า แวะถ่ายดาวสักหน่อย ยิ่งมืดยิ่งเห็นดาวมันเป็นแบบนี้สินะ
อรุณสวัสดิ์คุณพระอาทิตย์ นอกจากที่บ้านรักไทยแล้ว ที่ปางอุ๋งก็ชมไอหมอกลอยเหนือน้ำได้อีกเช่นกัน
กิจกรรมล่องแพตอนเย็นก็ว่าสุดแล้ว ตอนเช้านี่สุดปังไปเลยจ้า
ลำแสงที่กระทบกับผิวน้ำ สวยสุดๆเลยแก
บริเวณลานต้นสนก็สวยไม่แพ้กัน เวลาที่แสงลอดผ่านลำต้น ถ่ายรูปกันเพลินเลย และนอกจากนี้ใครที่มาปางอุ๋งแล้วมีอีก1missionคือตามหาหงส์ดำ หงส์ขาวกันด้วยนะ ตอนเช้าๆนี่แหละจะเห็นหงส์ออกมาล่องน้ำโชว์ตัวกันค่ะ
ก่อนจะออกจากปางอุ๋ง เราก็แวะทานอาหารเช้ากันแถวโฮมสเตย์นี่แหละ ของกินเยอะเลย
[CR] 17จุดเช็คอิน ทริปส่งท้ายปีหนีร้อนขึ้นเหนือ ที่แม่ฮ่องสอน
เข้าสู่ปลายปี อากาศมันดี บรรยากาศมันได้ ใครๆก็อยากไปภาคเหนือ เราเลยมีRouteเที่ยวที่แม่ฮ่องสอนมาฝากกันค่ะ
ทริปนี้4วัน3คืน กับ18สถานที่เที่ยวและที่พัก กับบรรยากาศสุดฟินสมกับหน้าหนาว มาแล้วไม่ผิดหวังค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ใครที่เวลาไปเที่ยวต่อให้ตื่นเช้าแค่ไหนก็ไหว แต่เวลาไปทำงานนั้นขี้เกียจจะตื่น เราคือพวกเดียวกัน อิอิ
จังหวัดแม่ฮ่องสอนถึงแม้จะเป็นที่สุดของความถนนโค้งชัน แต่มันคุ้มค่ามากเมื่อมาถึง โดยเส้นทางที่เราไปนี้เรียกได้ว่าแทบจะครบทุกการท่องเที่ยวไม่ว่าจะ ส่องพระอาทิตย์ยามเช้า เคล้าทะเลหมอก เที่ยวชมน้ำตก เดินป่าขึ้นเขา เข้าถ้ำ ชมแสงเย็น เห็นสายรุ้งขึ้นกลางแจ้ง วิ่งเล่นในทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่ ไปเข้าวัดทำบุญ ทานอาหารจีนยูนนาน นัดกันไปถ่ายดาว ชมไร่ชา ปั่นจักรยานกันเป็นแก็งค์แฟนฉัน เที่ยวชมวัฒนธรรมท้องถิ่น ฟินสุดๆ ถ้ามีโอกาสเราก็อยากชวนให้ไปกันนะคะ
เลิกงานปุ๊ปก็บินมาลงเชียงใหม่ปั๊ป เราเริ่มต้นเดินทางในตอนกลางคืน เพื่อจะไปถึงยังแม่ฮ่องสอนตอนเช้า ใครจะเดินทางแบบเราคนขับรถควรเป็นคนชำนาญทางและเชี่ยวชาญในการขับนะคะเพื่อความปลอดภัย
1.สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย
สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 ในตอนที่ญี่ปุ่นมาตั้งฐานทัพอยู่ในประเทศไทย โดยใช้เป็นเส้นทางเดินทัพลำเลียงเสบียงและอาวุธจากเชียงใหม่ ผ่านปายไปยังประเทศพม่า เราจำได้ว่าครั้งแรกที่มาแม่ฮ่องสอนราว10ปีที่แล้ว สมัยนั้นปายดังมากๆ และการเดินทางของเราในตอนนั้นคือนั่งรถตู้โดยสารจากเชียงใหม่มาที่ปายนี่แหละ แต่รถตู้จะเข้าไปจอดในเมืองปาย เราเลยไม่มีโอกาสที่จะแวะสถานที่เที่ยวที่ผ่าน เวลาผ่านไปนับ10ปีเราผ่านสถานที่นั้นอีกครั้งแต่ช่วงเวลาต่างไปจากเดิม ไม่ต้องถ่ายรูปแล้วติดผู้คนเหมือนสมัยที่ปายบูมมากๆ(ก็ใช่น่ะสิ ดึกขนาดนี้ใครจะออกมา ฮาา) จะว่าไปไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนทำให้รู้ว่าสถานที่นั้นก็ยังอยู่ มีแต่คนเท่านั้นที่เปลี่ยนไป
2.บ้านจ่าโบ่
รุ่งสางที่ต่างถิ่น เรามาถึงจุดหมายในเช้าวันแรกของการเดินทางที่อ.ปางมะผ้า กับหมู่บ้านเล็กๆของชาวลาหู่ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขา บรรยากาศแบบน่าตื่นเช้าทุกวันเลยถ้าที่กรุงเทพฯเป็นแบบนี้คงเลิศน่าดู
3.ภูผาหมอก
จากแถวร้านก๋วยเตี๋ยวเราก็จอดรถไว้และจ้างไกด์นำทาง100บาท ทางขึ้นมันจะอยู่ซอกๆหน่อย และต้องเดินเท้าขึ้นเขาไปประมาณ 500 เมตร ทางค่อนข้างชันเรียกได้ว่าเกือบจะปีนก็ไม่ได้ยากเกินไปแต่โปรดระมัดระวัง พอขึ้นไปถึงยอดภูผาหมอกด้านบนจะเป็นเขาหินแหลมคม และจะได้ชมวิวทะเลหมอก, พระอาทิตย์ขึ้นได้360องศา อาจจะงงกับภาพไหนวิว ใช่ค่ะดิฉันตะเกียกตะกายขึ้นมาแต่หมอกฟุ้งปิดกันวิสัยทัศน์ ไม่สามารถเห็นสิ่งใดได้เลย รอสักพักก็ไม่เปิดจำต้องตัดสินใจลงกัน แต่ก็ไม่เจ็บใจเท่าที่ชาวบ้านบอกว่าเมื่อวานสวยมาก แง๊.....
4.ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขา
หลังจากเดินขบวนกันลงมาจากภูผาหมอก ก็มากันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวในตำนาน กับมุมนี้เลยใครมาบ้านจ่าโบ่ก็ต้องมีรูปกันสัก1 เรียกได้ว่าเป็นLandmarkของบ้านจ่าโบ่เลยก็ว่าได้ และทุกคนคะฟ้ามันเปิดแล้ว ฮืออ จะให้ขึ้นไปที่ภูผาหมอกอีกรอบก็ไม่เอาแล้ววว ต้องไปที่อื่นต่อ...
อันที่จริงคือพี่ในทริปจองที่พักไว้เผื่อมาถึงกลางดึกจะได้แวะเข้าหลับนอนได้ แต่ด้วยความเครื่องบินเราดีเลย์ เลยมาถึงเอาก็ตี4-5 จะโทรหาที่โฮมสเตย์ก็เกรงใจเขา เราเลยนอนกันในรถไป แต่ก็มาทานอาหารเช้ากันนะคะ เพราะราคาที่พักรวมอาหารเช้าแล้ว เราก็นั่งทานพร้อมกับเจ้าบ้านเลย
5.ถ้ำน้ำลอด
ถ้ำที่สามารถล่องแพเข้าไปเพื่อชมหินงอก หินย้อย โดยลอดผ่านภูเขาเข้าไปและจะไปทะลุออกอีกด้านหนึ่ง ถ้ำน้ำลอดนี้มีอายุราว 2,000 ปีมาแล้วค่ะ มีการค้นพบเครื่องมือเครื่องใช้ในสมัยโบราณภายในถ้ำ แต่จะบอกว่ากลิ่นขี้ค้างคาวแรงมาก โปรดเตรียมเครื่องหอมไว้ดมเผื่อไม่ไหว ส่วนค่าเข้าชมถ้ำ+ล่องแพ+ผู้นำทาง 1-3คน450บาทค่ะ
6.ต้าเหล่าซือ รักไทยรีสอร์ท
วันนี้เราจะพักกันที่หมู่บ้านรักไทยค่ะ เป็นหมู่บ้านที่อยู่บนพื้นที่ราบสูงติดกับชายแดนพม่า คนส่วนใหญ่ชาวไทยเชื้อสายยูนนาน เลยทำให้วัฒนธรรม อาหาร สถาปัตยกรรมต่างๆค่อนไปทางจีน เป็นหมู่บ้านที่สวยทั้งในยามเย็นและยามเช้า หากมีเวลาควรมาค้างสักคืน เพราะถ้าแค่แวะมาเที่ยวอย่างเดียวอาจจะพลาดความสวยงามบางช่วงไปได้ ที่พักก็มีหลายที่ หลายราคา เลือกตามความชอบและความเหมาะสมของแต่ละคนได้เลยค่ะ ส่วนเราพักที่ ต้าเหล่าซือ รีสอร์ท ตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าหมู่บ้าน จะติดริมทะเลสาบ อยู่ตรงข้ามกับลีไวน์รักไทย(ที่พักชื่อดังวิวบนเขา) มีให้เลือกพักทั้งบ้านเป็นหลัง และเต็นท์ค่ะ ความสวยงามของที่พักอาจจะไม่เลิศเท่าของลีไวน์ แต่บรรยากาศหน้าที่พักมันดูดีที่สุดเลยเว้ยแก ใครงบจำกัดเราก็แนะนำนะ ถ้ารับสภาพได้ก็จองเลย
สนใจก็เข้าไปสอบถามกันได้เลยที่ FB:ที่พักบ้านรักไทยต้าเหล่าซือ
หลังจากเก็บสัมภาระแล้ว เราก็มาทานอาหารกัน ร้านนี้จะอยู่ข้างๆกับลีไวน์รักไทย ราคาไม่แพง มีของฝากให้ซื้อกันด้วยค่ะ
7.ลีไวน์รักไทย
ใครที่ไม่ได้พักที่ลีไวน์รักไทย ก็เข้าชมไร่ชาได้นะคะ จะมีเวลาให้เข้าชมและกฏระเบียบนิดหน่อยค่ะ แต่หากใครสนใจอยากเข้าพักที่นี่ก็เข้าไปสอบถามกันได้ที่ FB:Leewinerukthai Resort เขาจะเปิดให้จองที่พักกันเป็นช่วงและเต็มไวมากนะคะ
ชมไร่ชาเสร็จแล้วเราก็เช่าจักรยานจากที่ลีไวน์กันคนละคัน ปั่นกันเป็นแก็งค์แฟนฉันรอบหมู่บ้าน สนุกและเพลินมาก
8.ร้านอาหารลีไวน์รักไทย
ปั่นกันจนรอบก็ไปคืนจักรยานและมานั่งชิลรอชมพระอาทิตย์ตกกันที่นี่ค่ะ จะอยู่ติดกับที่พักของเรา สะดวกมากๆ เป็นร้านอาหารของลีไวน์รักไทย รีสอร์ท จะอยู่ตรงข้ามกับส่วนของที่พัก ติดริมน้ำค่ะ วิวดีสุดๆ ความสะท้อนกับน้ำนี้ ใครชอบถ่ายรูปมาก็คงจะถูกใจแน่นอนค่ะ
ในส่วนของอาหารค่ำก็จะเป็นยูนนานสไตล์ค่ะ และร่ำลาคืนนี้ไปด้วยภาพนี้ค่ะ
มาถึงบ้านรักไทย ถ้าไม่ได้เห็นไอหมอกลอยเหนือน้ำในยามเช้าก็เหมือนจะมาไม่ถึง 1ในHighlightของที่นี่ต้องยกให้เขาเลย มันจะดีแค่ไหนหากตื่นมาในตอนเช้าเปิดประตูออกมาก็ได้เห็นอะไรแบบนี้ นี่มันคือสิ่งเล็กๆที่เรียกว่าความสุขนะ บรรยากาศมันสุดจะบรรยาย ต้องลองมากันเอง จริงๆหมอกลอยบนผิวน้ำมาตั้งแต่ตอนค่ำแล้วแหละ นี่คือข้อดีของการพักที่ต้าเหล่าซือค่ะเพราะอยู่ติดริมน้ำเลย ทำให้เราได้เห็นได้ซึมซับบรรยากาศอย่างใกล้ชิด
วิวจากหน้าที่พักเอาจริงคือแบบเหมือนต่างประเทศอยู่นะ ใครอยากมาสัมผัสแบบนี้ต้องช่วงฤดูหนาวเท่านั้นนะ
แดดเริ่มมา หมอกเริ่มไป เรามูฟมาที่ร้านอาหารของลีไวน์รักไทย คือแสงดี ทุกอย่างดีหมด วิวชั้น2นะทุกคน ต้องไปๆ
9.สะพานซูตองเป้
สะพานไม้ไผ่ มีความยาวประมาณ 600เมตร เป็นสะพานไม้แห่งศรัทธาสร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาของพระภิกษุ สามเณร และชาวบ้าน บริเวณโดยรอบก็ปลูกข้าวทำนา ช่วงที่เราไปเขากำลังเก็บเกี่ยวพอดีเลย
10.วัดจองคำและวัดจองกลาง
ตั้งอยู่ในรั้วเดียวกัน มองจากด้านหน้าวัดจองคำจะอยู่ด้านซ้ายมือ ส่วนวัดจองกลางจะอยู่ทางขวามือ เป็นวัดแห่งแรกของจ.แม่ฮ่องสอน สถาปัตยกรรมจะเป็นไทยใหญ่ผสมกับศิลปะแบบพม่า ใครมาที่วัดนี้ เราแนะนำให้ถ่ายรูปจากมุมฝั่งตรงข้ามจะทำให้เห็นวัดทั้งสองได้อย่างชัดเจน
11.วัดพระธาตุดอยกองมู
ตั้งอยู่บนพื้นที่สูง เมื่อมองทิวทัศน์จากด้านบนจะทำให้เห็นตัวเมืองแม่อ่องสอนได้อย่างชัดเจน ด้านบนประดิษฐานพระธาตุเจดีย์ที่สวยงาม 2องค์ พระเจดีย์องค์ใหญ่เป็นที่บรรจุพระธาตุของพระโมคคัลลานะเถระ พระธาตุเจดีย์องค์เล็กบรรจุพระธาตุของพระสารีบุตร (นำมาจากประเทศพม่า)
12.หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว ห้วยเสือเฒ่า
เป็นหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เมือง สามารถเข้าเยี่ยมชมวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยงคอยาวได้ ภายในหมู่บ้านก็มีของที่ระลึกขาย หมู่บ้านเล็กๆไม่กี่หลังคาเรือน ใครอยากลองใส่คอก็ลองได้เลยเนียนๆไปกับเขา แฮ่ะๆ ช่วยอุดหนุนสินค้าเขา พูดคุยกับเขาก็สนุกดีนะ
13.นายจิ่ง โฮมสเตย์
คืนนี้เรามาพักกันที่ปางอุ๋ง ซึ่งที่นี่นอกจากจะกางเต็นท์ได้แล้ว ยังมีโฮมสเตย์เรียงรายกันหลายเจ้ามาก แต่ที่นี่คืออยู่ใกล้กับปางอุ๋งสุดเรียกได้ว่าอยู่หน้าป้ายปางอุ๋งเลยทีเดียว ใครสนใจเข้าไปสอบถามกันได้ค่ะที่ FB: นายจิ่ง โฮมสเตย์ at บ้านรวมไทย ปางอุ๋ง จ.แม่ฮ่องสอน
14.ปางอุ๋ง หรือ โครงการพระราชดำริปางตอง 2
อีก1สถานที่ ที่เราอยากไปมากที่สุดนั่นก็คือปางอุ๋ง อากาศเย็น มีบริการล่องแพชมวิว พระอาทิตย์กำลังตก บรรยากาศสงบๆ โ ค ต ร ดี มาเป็นคู่ก็สุดจะโรแมนติก มาเป็นหมู่คณะก็สนุกครึกครื้น แต่ถ้ามาเดี่ยวก็จะเหงาๆหน่อย แง๊
พระอาทิตย์ตกไปแล้วก็ถึงคิวของอาหารที่ต้องตกถึงท้องกันบ้าง อากาศเย็นๆแบบนี้ บรรยากาศมันได้แบบนี้ จะมีอะไรดีไปกว่าหมูกระทะ ลุยยย
ตื่นกันตั้งแต่ยังไม่สว่าง เดินขบวนกันไปรอถ่ายแสงเช้า แวะถ่ายดาวสักหน่อย ยิ่งมืดยิ่งเห็นดาวมันเป็นแบบนี้สินะ
อรุณสวัสดิ์คุณพระอาทิตย์ นอกจากที่บ้านรักไทยแล้ว ที่ปางอุ๋งก็ชมไอหมอกลอยเหนือน้ำได้อีกเช่นกัน
กิจกรรมล่องแพตอนเย็นก็ว่าสุดแล้ว ตอนเช้านี่สุดปังไปเลยจ้า
ลำแสงที่กระทบกับผิวน้ำ สวยสุดๆเลยแก
บริเวณลานต้นสนก็สวยไม่แพ้กัน เวลาที่แสงลอดผ่านลำต้น ถ่ายรูปกันเพลินเลย และนอกจากนี้ใครที่มาปางอุ๋งแล้วมีอีก1missionคือตามหาหงส์ดำ หงส์ขาวกันด้วยนะ ตอนเช้าๆนี่แหละจะเห็นหงส์ออกมาล่องน้ำโชว์ตัวกันค่ะ
ก่อนจะออกจากปางอุ๋ง เราก็แวะทานอาหารเช้ากันแถวโฮมสเตย์นี่แหละ ของกินเยอะเลย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้