เมื่อคนรอด กลายเป็นคนผิด

ขอพูดรายละเอียดก่อนนะคะ
ก่อนหน้านี้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น 
หลานชาย สองคน
คนแรกเป็นหลานแท้ๆ อายุ 8 ขวบ 
ส่วนอีกคนเป็นลูกของลูกพี่ลูกน้องเรา อายุ 7 ขวบ
แต่น้องตัวใหญ่กว่าพี่ 
เหตุเกิดขึ้นโดยทั้งสองคนแอบชวนกันไปเล่นน้ำ
ด้วยวันนั้นทุกๆคนยุ่งมาก เลยคาดสายตา
ทำให้หลานอายุ 7 ขวบจมน้ำเสียชีวิต เพราะสระค่อนข้างลึก 
หลานแท้ๆเราได้วิ่งมาบอกป้าของหลานอีกคนว่าน้องจมน้ำ หลานได้เล่าเหตุการณ์ว่า น้องดันเขาขึ้นมาจากสระ น้องช่วยเขา แต่จังหวะดันน่าจะลื่น
ทุกคนที่โตๆก็พูดว่าหลาน ทำไมไม่มาบอกให้เร็วกว่านี้ ทำไมไม่โดดลงไปช่วย หลังจากความโศกเศร้าผ่านไป ญาติๆ แม่ พ่อ ของหลานที่เสียชีวิต
พาลกันเกลียดครอบครัวเรา พูดว่าครอบครัวเรา ว่าหลานเรา เราจะก้าวผ่าน จุดนี้ไปได้ยังไงคะ 
หลานเราในอนาคต ต้องมีปัญหาแน่นอน 
เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา แต่คนที่มีชีวิตอยู่ ใช่ว่าจะอยู่เป็นสุข
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ผู้ใหญ่ไม่อยากรู้สึกผิดที่ตัวเองปล่อยปะละเลย จึงไปโทษเด็กอีกคนว่าทำไมไม่ช่วย จะได้รู้สึกผิดน้อยลงเพราะความผิดไปอยู่ที่เด็กแล้ว การช่วยคนจมน้ำต้องมีเทคนิคด้วยนะ ไม่ใช่ไปช่วยมั่ว ๆ เพราะมีโอกาสที่คนช่วยจมน้ำตายตามไปด้วย ถ้าเด็กคนนั้นไปช่วยตอนนี้อาจตายทั้งคู่ก็ได้

ถ้าจะแก้ก็ต้องแก้ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก แต่ควรเน้นไปที่ผู้ใหญ่เป็นหลัก เพราะปัญหาของเด็กเกิดจากผู้ใหญ่ เด็กถูกผู้ใหญ่กดดันยัดเยียดความรู้สึกผิดให้ วิธีแก้ต้องไปแก้ที่ผู้ใหญ่ให้เลิกยัดเยียดความผิด ให้ผู้ใหญ่ค่อย ๆ ทำใจและปรับอารมณ์ ระหว่างนี้กันเด็กออกจากผู้ใหญ่ที่สร้างปัญหาก่อน เด็กจะได้ไม่รับผลกระทบเยอะนัก
ความคิดเห็นที่ 1
มันเป็นอุบัติเหตุครับ ปกป้องหลานคุณไว้ และคุณและหลานก็รู้สึกผิดจริงๆ และทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้วจริงๆ

ถ้าพ่อแม่ญาติต่างๆจะเกลียดคุณเพราะเรื่องนี้ ก็เลิกคบพวกเค้าไปเถอะครับ ไร้ค่า
ความคิดเห็นที่ 6
เพราะการโทษคนอื่นมันง่ายกว่าโทษตัวเองค่ะ

ครอบครัวคุณก็ดูแลหลานให้ดี อาจจะต้องพาไปปรึกษาจิตแพทย์ด้วยก็ดี ส่วนคนอื่นเราห้ามความคิดเค้าไม่ได้ ก็อยู่ห่างๆกันไว้ก็พอค่ะ ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็หาทางรับมือไปตามสถานการณ์
ความคิดเห็นที่ 12
พาน้องไปพบจิตแพทย์เด็กก่อนค่ะ น่าเป็นห่วงน้องในเรื่องภาวะเสี่ยงทางจิตใจจากเหตุวิกฤตนี้ค่ะ ซึ่งน้องเป็นคนเผชิญเหตุโดยตรง ควรพาไปประเมินและติดตามเยียวยาใจน้องก่อนค่ะ

อันนี้น่าจะสำคัญที่สุดล่ะ และเมื่อน้องมีภาวะจิตใจดีขึ้น เข้มแข็ง เข้าใจต่อเหตุการณ์ รอบข้างจะเกิดอะไรขึ้น น้องและครอบครัวก็น่าจะมีกำลังที่จะฝ่าฝันไปได้ค่ะ

ส่วนครอบครัวคนที่สูญเสีย ให้เวลาเขาระยะหนึ่งนะคะ เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้สึกโกรธ สับสน เสียใจ หลากความรู้สึก อย่าพึ่งได้นำมาเก็บไว้ในอารมณ์เรา เพียงแค่รับรู้และเห็นใจต่อสิ่งที่เขาต้องเผชิญก็พอ พร้อมกับครอบครัวคุณเองก็ต้องก้าวไปข้างหน้าด้วยเช่นกันน่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่