ปล่อยตัวปล่อยใจ นั่งรถไฟสโลว์ไลฟ์ ล่องใต้ลงตรัง

สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคนครับ 🙏🏻🙏🏻🙏🏻
วันนี้จะมาเขียนกระทู้เป็นครั้งแรก แบ่งปันประสบการณ์การนั่งรถไฟทางไกล แบกเป้เที่ยวล่องใต้
"ทริปนั่งรถไฟสโลว์ไลฟ์ ล่องใต้ทางรถไฟสายอันดามัน" ลองเปลี่ยนแนวการเดินทาง นั่งรถไฟไกลๆไม่ได้ลำบากอย่างที่คิด
"อยากเที่ยว อยากเที่ยว..." เป็นสิ่งที่คิดเสมอเมื่อรู้ว่าจะมีวันหยุด แต่ช่วงนี้ป่วย ไม่ปกติ มือไม้สั่น จะให้ขับรถมอเตอร์ไซค์ขึ้นเหนือไกลๆเหมือนแต่ก่อน ก็คงได้เข้าโรงพยาบาลหาหมอทำกายภาพบำบัดอีกแน้แท้ ไม่ไหวแน่ๆ

เห็นวันหยุดยาว 4 วัน ตอนแรกก็คิดในใจ ขึ้นเหนือไปเชียงใหม่ดีมั้ย?? 
เห็นตามหน้าเฟซบุ๊คแล้ว น้ำตาจะไหล ถ้าให้ไปเจอผู้คนมากมาย ไปแย่งกันกินกันใช้ ไม่เอาๆ
เลยคิดขึ้นมาได้ หน้าหนาวก็ล่องใต้ได้นะ ไม่เจอฝน คนคงไม่น่าจะเยอะ ว่าแล้วก็หาข้อมูล...

"ล่องตรังดีไหม คนคงไม่น่าเยอะหรอก"

"ทำไงจะได้ไปโดยไม่ต้องลำบากขับรถเอง???" ว่าแล้วก็หาข้อมูลวิธีการเดินทาง...
จะให้ขับรถไป 1000 กว่ากิโลเมตร ตายแน่ เลยลองเช็คราคาเครื่องบิน สงสัยเป็นเพราะช่วงหยุดยาว ดูราคาไปกลับแล้วสองคนคงหมดตูดไม่มีเหลือกินแน่ๆ
นั่งรถทัวร์ไกลๆลงใต้ก็ไม่เคย เหลือแต่รถไฟสินะ กะว่าถ้ามีตู้นอนแอร์จะไป ถ้าให้นั่งพัดลมคิดว่าน่าจะไข้แตกไม่ต้องเที่ยวกันพอดีแน่ ว่าแล้วก็ดิ่งไปสถานีรถไฟทันที
"ตอนนี้ช่วงโควิด จองตั๋วล่วงหน้าได้ 30 วันนะคะผู้โดยสาร ถ้าเดินทางช่วงหยุดยาวแนะนำรีบจองไว้ก่อนนะคะ" ว่าแล้วเราก็บอกจุดหมายปลายทางที่เราจะทำการจองเพื่อเดินทาง พนง.ก็บอกรายละเอียดตู้ที่ว่างให้จอง คงเป็นเพราะเรามาจองเร็ว ตู้นอนชั้น 1 เลยว่าง ว่าแล้วเราก็จัดแจงจองเลือกที่นั่งดีๆจะได้นั่งหันหน้าชมวิวได้ (กลัวได้นั่งหันหลัง 555) ราคาตั๋วโดยสารกรุงเทพ-ตรัง เตียงล่าง 1480 บาท เตียงบน 1280 บาท ได้ตั๋วมาเรียบร้อย อีก 1 เดือนเดินทาง
-Day 1 19/11/2563
หลังจากวางแผนมาทั้งเดือน เลยมีแผนว่าทริปนี้จะนั่งรถไฟทั้งทริป เลยตื่นเช้า จัดแจงเก็บของลงกระเป๋า มุ่งหน้าสู่จุดเริ่มต้นการเดินทาง สถานีรถไฟนครราชสีมา
"ไปเที่ยวไหนกันคะน้องวันนี้ ปากช่องรึเปล่า" พนง.ขายตั๋วเอ่ยถาม  "ไปตรังครับพี่ ขอตั๋วกรุงเทพ 2 ใบครับ" สงสัยวันนี้นักท่องเที่ยวจะเดินทางไปเที่ยวเขาใหญ่กันเยอะเลยนึกว่าเราจะไปปากช่องล่ะมั้ง ฮ่าๆ ได้ตั๋วแล้วก็มานั่งรอรถไฟออก
พอถึงเวลาแล้ว 08.22 น. รถไฟที่เราจะนั่งไปกรุงเทพก็มาถึง เป็นรถธรรมดาขบวน 234 สุรินทร์-กรุงเทพ
วันนี้ผู้โดยสารมีเยอะคึกคักพอสมควรเพราะเป็นวันหยุดยาว
ระหว่างทางก็นั่งชมวิวไปพลางๆ เดินเลาะบนขบวน ถ่ายรูปริมข้างทาง เป็นวิวที่หาไม่ได้ตอนขับรถยนต์หรือขับมอเตอร์ไซค์เที่ยว
หลังจากนั่งรถไฟกันมาครึ่งวัน เวลา 14.30 น. รถไฟของเราก็เข้าเทียบชานชาลาที่สถานีกรุงเทพ ที่ๆเราจะต่อรถไฟไปตรัง
ลงรถมาแล้ว เหลือเวลา 2 ชั่วโมงกว่าๆ เราเลยเตรียมซื้ออาหารมื้อเย็นและมื้อเช้าวันพรุ่งนี้ไว้กินบนขบวนรถ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงโควิด ขบวนรถไฟจึงไม่ได้พ่วงตู้เสบียงไว้ แวะถ่ายรูปเล็กน้อย
เวลา 16.00 น. รถไฟขบวน 83 กรุงเทพ-ตรัง ของเราก็เข้าเทียบชานชาลา เรารีบจัดแจงเก็บของไว้ในห้องของเรา จะได้มีเวลาเหลือเล็กน้อยไปเดินถ่ายรูปเล่นก่อนขบวนรถออก ไม่ต้องแบกของพะรุงพะรังไปถ่ายรูปไป ฮ่าๆ
ขบวนโรงแรมเคลื่อนที่ของเราในค่ำคืนนี้...
หลังจากเดินถ่ายรูปจนอิ่มหนำแล้ว ก็ได้เวลากลับมาห้องของเราเพื่อเตรียมออกเดินทาง กะว่าคืนนี้กินข้าวเย็นนอนสบายๆจะได้ตื่นเช้าสดชื่น ปรากฏว่า...

"ข้าวที่เราซื้อมาและวางไว้ในห้องกับน้ำชานมปั่นหายไป"

บรรลัยล่ะซิทีนี้ มารู้ตัวว่าหายก็อีก 15 นาทีรถจะออก ห้องก็ปิดไว้นะ มันจะหายไปได้ยังไง เราเลยตรวจเช็คของที่มี ดีนะเงินที่ใส่กระเป๋าไว้ 3000 บาทไม่ได้หายไปด้วย คงเป็นเพราะประตูห้องปิดไม่สนิท โจรมันเลยเปิดได้ แต่ก็แปลกใจเหมือนกัน ซิ้อของกินเตรียมไว้ 3 ชุด มันขโมยไปชุดเดียว สงสัยคงกลัวเราหิวล่ะมั้งเลยไม่เอาไปหมด แม่บ้านบ่นทั้งทางเลย คงต้องหาของกินมาอุดปากแม่บ้านให้ไว ไม่งั้นคืนนี้คงไม่ได้นอนทั้งคืนแน่ ฮ่าๆ

นึกขึ้นมาได้ มีป้าเดินขายข้าวกล่องบนขบวนรถอยู่ ซึ่งแกอยู่ตรงไหนของขบวนก็ไม่รู้ ว่าแล้วก็เดินจ้ำๆหาป้าแกก่อนรถออก เดินไปจนถึงหัวขบวนก็เจอป้าแกขาย เลยซื้อมาสองกล่อง ค่าเสียหายหมดไป 80 บาท ป้าแกยังใจดีแถมทิชชู่มา 1 ม้วนใหญ่ด้วย
เวลา 17.00 น. รถก็เคลื่อนออกจากสถานี ก็ทำอะไรไม่ได้มาก นั่งดูวิวก่อนจะมืด
พอตกค่ำ พนักงานบนรถก็มาจัดแจงปูเตียงนอนให้เรา พร้อมกับผ้าห่มและผ้าเช็ดตัวอย่างละผืนแพ็คใส่ถุงมาใหม่อย่างดี (บนรถไฟชั้น 1 จะมีห้องอาบน้ำสามารถอาบได้ซึ่งรถไฟชั้นอื่นจะไม่มี) ได้เวลาอาบน้ำนอน
นี่คือสภาพในห้องน้ำบนรถไฟ มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ มีกลิ่นเล็กน้อย แคบไปบ้าง แต่ก็สามารถทำธุระได้ไม่ลำบากอะไร



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่