สำหรับยานต์ยนต์แล้ว เราเคยตั้งคำถามไม่ว่าเขาพ่นสีได้อย่างไร เพราะว่าการพ่นสีแต่ละครั้ง สำหรับคนที่ไม่รู้จักว่าเขาพ่นสีอย่างไรแล้ว มันมีเครื่องอะไรบ้างที่สามารถไปพ่นสีได้ วันนี้เราสามารถศึกษานวัตกรรมเกี่ยวกับการพ่นสีตัวที่เกี่ยวกับรถยนต์ว่าหากเราต้องการพ่นสีแล้ว มีวิธีการอย่างไรบ้าง
สำหรับช่างที่มีโรงพ่นสีเล็กๆ หรือหากว่าต้องการที่จะทำการพ่นสีนั้น สิ่งที่ต้องการพ่นสีแน่นอนว่าการพ่นสีถือว่าเป็นอะไรที่เราเองสามารถที่จะทำการพ่นสีตัวรถยนต์ได้
การพ่นสีรถยนต์2K HS (High Solid) ก็เป็นอีกแบบหนึ่งในการที่จะพ่นสีเพื่อให้รถยนต์นั้นมีสีที่ละเอียดมากขึ้น เพราะว่าการพ่นสีรถด้วยวิธีนี้ถือว่าเป็นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเลยที่เดียว มีเนื้อสีที่มีความละเอียดและมีเนื้อมาก อีกทั้งยังได้รับการยอมรับจากโรงงานประกอบรถยนต์ ยิ่งรถพวกรถเบนซ์, BMW , AUDI,FERRARI แล้วอีกมากมายซึ่งเป็นตลาดรถใหญ่ทั่วโลกก็ใช้วิธีการนี้ในการพ่นสีรถยนต์2K
การพ่นสี2K เป็นการพ่นสีที่มีคุณภาพมากที่สุด และอีกอย่างหนึ่งเป็นสีที่ได้รับการผลิตออกมาจากโรงงานประกอบรถยนต์ตั้งแต่เริ่มแรกของการผลิตรถยนต์ อีกทั้งใช้อุณหภูมิที่สูงถึง 180-250 องศาเซียลซีส
สีจริงระบบ 2K แบบ 2 ขั้นตอนนี้หมายถึง ระบบสีจริงทับหน้าด้วยตัวเคลียร์ 2K
ซึ่งตัวสีจริงยังเป็นสีระบบ 1K แต่จะมีคูณสมบัติที่ดีกว่าสี 1K โดยทั่วไปคือ เนื้อสีเข้มข้น การกลบตัวของสีดี ใช้ทินเนอร์น้อย พ่นง่าย แห้งเร็ว เมื่อสีแห้งตัวฟิล์มสีจะไม่เงาต้องใช้เคลียร์ทับหน้า สีจริงระบบ 2K แบบนี้ สามารถทำได้ทั้ง สีMetallic,สีPearl,สีSollic ซึ่งความเงางามนั้นจะขึ้นอยู่ที่การเลือกเคลียร์ที่ใช้ทับหน้าสี
เคลียร์ 2K ที่ใช้กันอยู่จะมีอัตราส่วนผสมตั้งแต่ 2ต่อ1,3ต่อ1,4ต่อ1,10ต่อ1 ขึ้นอยู่กับ
ลักษณะของงาน ตัวอย่างเช่น 2ต่อ1และ3ต่อ1 จะเหมาะสำหรับงานพ่นทั้งบานและทั้งคันต้องพ่นในห้องพ่นสี เนื่องจากแห้งช้าใช้เวลาในการแห้งผิว 2-4 ชั่วโมง แต่จะให้ความเงางามที่ดีมาก ส่วนอัตราส่วน ผสม 4 ต่อ 1, 10 ต่อ 1 จะเหมาะสำหรับงานซ่อมแผล เนื่องจากแห้งเร็วกว่าแห้งผิวใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที เท่านั้น ซึ่งสามารถพ่นโดยไม่ต้องใช้ห้องพ่นสีได้ เคลียร์ 2K แบบนี้ปัจจุบันได้รับความนิยมมากและ ได้มาแทนที่เคลียร์ระบบ 1K ไปแล้ว
ขั้นตอนการเตรียมงาน
1. ใช้กระดาษทรายนํ้าเบอร์ 1,000 ขัดสีรองพื้น
2. ล้างทำความสะอาดให้ทั่วตัวรถ
3. ใช้ลมเปาไล่ความชื้นออก
4. ติดกระดาษปิดบังส่วนที่ไม่ต้องการพ่นสี
5. ใช้ลมเป่าไล่ฝุ่นละอองให้ทั่ว
6. นำรถเข้าห้องพ่นสี
7. ติดกระดาษปิดบังส่วนที่ไม่ต้องการพ่นสี
8. ทำความสะอาดผิวชิ้นงานด้วยนํ้าเช็ดคราบ
9. ใช้ลมเป่าไล่ฝุ่นละอองให้ทั่ว
10. นำผ้าเหนียว (Tack Cloth) มาลูบเบาๆบนผิวชิ้นงาน เพื่อจับฝุ่น
11. ผสมสีนำมาพ่นโดยให้ปฎิบัติตามคำแนะนำของบริษัทผู้ผลิตของสีแต่ละยี่ห้อ
12. พ่นสีจริงจำนวน 2 เที่ยว ทิ้งช่วงระหว่างเที่ยว 10-15 นาที แรงดันลมที่ใช้
40-50 ปอนด์ต่อตรางนิ้ว
13. เมื่อพ่นสีเสร็จ ให้ทิ้งช่วงระหว่างสีจริงกับเคลียร์ 15 นาที
14. ให้นำผ้าเหนียว (Tack Cloth) มาลูบเบาๆบนผิวสี เพื่อจับละอองสีที่ติดอยู่
15. ผสมเคลียร์มาพ่นโดยให้ปฎิบัตืตามคำแนะนำของบริษัทผู้ผลิตเคลียร์แต่ละยี่ห้อ
16. พ่นเคลียร์จำนวน 2 เที่ยว ทิ้งช่วงระหว่างเที่ยว 15 นาที แรงดันลมที่ให้
50-60 ปอนด์ต่อตรางนิ้ว
17. เมื่อพ่นเคลียร์เสร็จ ทิ้งไว้ในห้องพ่นสีเพื่อให้สีแห้งผิว 2-4 ชั่วโมง หรือถ้าต้องการ
อบก็สามารถทำได้ โดยให้ศึกษาจากคำแนะนำของบริษัทผู้ผลิตแต่ละยี่ห้อ
18. การขัดยาเงาตกแต่งให้ทำหลังเคลียร์แห้งตัว 12 ชั่วโมง
ขั้นตอนการพ่นสีจริงระบบ 2K แบบ 3 ขั้นตอน
สีจริง 2K แบบ 3 ขั้นตอนส่วนมากจะใช้ในการพ่นแม่สีมุกทับบนสีจริงในเชดต่างๆ ซึ่งสี
จริงจะมีเชดสีที่ใกล้เคียงกับแม่สีมุข เพื่อให้การแสดงผลของแม่สีมุกออกมาในมุมมองที่เด่นชัดขึ้น
แม่สีมุกสีนิยมนำมาพ่น เช่น มุกขาว มุกนํ้าเงิน มุกม่วง มุกเขียว มุกทอง ส่วนเชดสีจริง
ที่ใช้ ตัวอย่างเช่น สีขาว สีฟ้าอ่อน สีเขียวอ่อน สีเหลืองอ่อน (แนะนำควรเลือกเชดสีอ่อนๆ เพราะคุณสมบัติ ของมุกจะมีความโปร่งแสงมาก ถ้าเลือกสีจริงเชดสีเข้มสีมุกจะไม่สามรถกลบสีชั้นล่างได้)
ขั้นตอนการเตรียมงาน
1. ขัดสีรองพื้นด้วยกระดาษนํ้าเบอร์ 1,000
2. ล้างทำความสะอาดชิ้นงาน
3. ใช้ลมเป่าไล่ความชื้นให้ชิ้นงานแห้ง
4. ทำความสะอาดชิ้นงานด้วยนํ้าเช็ดคราบ
5. ใช้ลมเป่าไล่ฝุ่นละอองบนชิ้นงาน
6. นำผ้าเหนียวมาลูบเบาๆบนผิวชิ้นงาน เพื่อจับฝุ่น
7. นำสีจริงที่เลือกไว้ผสมกับทินเนอร์ตามอัตราส่วนผสมมาพ่นลงบนชิ้นงาน
2 เที่ยว ทิ้งช่วงระหว่างเที่ยว 10 นาที
8. นำแม่สีมุกผสมกับทินเนอร์ตามอัตราส่วนพ่นบนชิ้นงาน 2-3 เที่ยว ทิ้งช่วงระหว่างเที่ยว 10 นาที
9. ทิ้งช่วงระหว่างสีกับเคลียร์ 15 นาที
10. นำผ้าเหนียวมาลูบเบาๆบนผิวชิ้นงาน เพื่อจับละอองสี
12. นำเคลียร์ 2K มาพ่นจำนวน 2 เที่ยว ทิ้งช่วงระหว่างเที่ยว 10-15 นาที
ที่มาการเคลือบสีรถ Robot painting , paintest
https://www.taikisha.co.th
ROBOT PAINTING TEST : การพ่นสีระบบรถยนต์ เเบบ 2K
สำหรับช่างที่มีโรงพ่นสีเล็กๆ หรือหากว่าต้องการที่จะทำการพ่นสีนั้น สิ่งที่ต้องการพ่นสีแน่นอนว่าการพ่นสีถือว่าเป็นอะไรที่เราเองสามารถที่จะทำการพ่นสีตัวรถยนต์ได้
การพ่นสีรถยนต์2K HS (High Solid) ก็เป็นอีกแบบหนึ่งในการที่จะพ่นสีเพื่อให้รถยนต์นั้นมีสีที่ละเอียดมากขึ้น เพราะว่าการพ่นสีรถด้วยวิธีนี้ถือว่าเป็นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเลยที่เดียว มีเนื้อสีที่มีความละเอียดและมีเนื้อมาก อีกทั้งยังได้รับการยอมรับจากโรงงานประกอบรถยนต์ ยิ่งรถพวกรถเบนซ์, BMW , AUDI,FERRARI แล้วอีกมากมายซึ่งเป็นตลาดรถใหญ่ทั่วโลกก็ใช้วิธีการนี้ในการพ่นสีรถยนต์2K
การพ่นสี2K เป็นการพ่นสีที่มีคุณภาพมากที่สุด และอีกอย่างหนึ่งเป็นสีที่ได้รับการผลิตออกมาจากโรงงานประกอบรถยนต์ตั้งแต่เริ่มแรกของการผลิตรถยนต์ อีกทั้งใช้อุณหภูมิที่สูงถึง 180-250 องศาเซียลซีส
สีจริงระบบ 2K แบบ 2 ขั้นตอนนี้หมายถึง ระบบสีจริงทับหน้าด้วยตัวเคลียร์ 2K
ซึ่งตัวสีจริงยังเป็นสีระบบ 1K แต่จะมีคูณสมบัติที่ดีกว่าสี 1K โดยทั่วไปคือ เนื้อสีเข้มข้น การกลบตัวของสีดี ใช้ทินเนอร์น้อย พ่นง่าย แห้งเร็ว เมื่อสีแห้งตัวฟิล์มสีจะไม่เงาต้องใช้เคลียร์ทับหน้า สีจริงระบบ 2K แบบนี้ สามารถทำได้ทั้ง สีMetallic,สีPearl,สีSollic ซึ่งความเงางามนั้นจะขึ้นอยู่ที่การเลือกเคลียร์ที่ใช้ทับหน้าสี
เคลียร์ 2K ที่ใช้กันอยู่จะมีอัตราส่วนผสมตั้งแต่ 2ต่อ1,3ต่อ1,4ต่อ1,10ต่อ1 ขึ้นอยู่กับ
ลักษณะของงาน ตัวอย่างเช่น 2ต่อ1และ3ต่อ1 จะเหมาะสำหรับงานพ่นทั้งบานและทั้งคันต้องพ่นในห้องพ่นสี เนื่องจากแห้งช้าใช้เวลาในการแห้งผิว 2-4 ชั่วโมง แต่จะให้ความเงางามที่ดีมาก ส่วนอัตราส่วน ผสม 4 ต่อ 1, 10 ต่อ 1 จะเหมาะสำหรับงานซ่อมแผล เนื่องจากแห้งเร็วกว่าแห้งผิวใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที เท่านั้น ซึ่งสามารถพ่นโดยไม่ต้องใช้ห้องพ่นสีได้ เคลียร์ 2K แบบนี้ปัจจุบันได้รับความนิยมมากและ ได้มาแทนที่เคลียร์ระบบ 1K ไปแล้ว
ขั้นตอนการเตรียมงาน
1. ใช้กระดาษทรายนํ้าเบอร์ 1,000 ขัดสีรองพื้น
2. ล้างทำความสะอาดให้ทั่วตัวรถ
3. ใช้ลมเปาไล่ความชื้นออก
4. ติดกระดาษปิดบังส่วนที่ไม่ต้องการพ่นสี
5. ใช้ลมเป่าไล่ฝุ่นละอองให้ทั่ว
6. นำรถเข้าห้องพ่นสี
7. ติดกระดาษปิดบังส่วนที่ไม่ต้องการพ่นสี
8. ทำความสะอาดผิวชิ้นงานด้วยนํ้าเช็ดคราบ
9. ใช้ลมเป่าไล่ฝุ่นละอองให้ทั่ว
10. นำผ้าเหนียว (Tack Cloth) มาลูบเบาๆบนผิวชิ้นงาน เพื่อจับฝุ่น
11. ผสมสีนำมาพ่นโดยให้ปฎิบัติตามคำแนะนำของบริษัทผู้ผลิตของสีแต่ละยี่ห้อ
12. พ่นสีจริงจำนวน 2 เที่ยว ทิ้งช่วงระหว่างเที่ยว 10-15 นาที แรงดันลมที่ใช้
40-50 ปอนด์ต่อตรางนิ้ว
13. เมื่อพ่นสีเสร็จ ให้ทิ้งช่วงระหว่างสีจริงกับเคลียร์ 15 นาที
14. ให้นำผ้าเหนียว (Tack Cloth) มาลูบเบาๆบนผิวสี เพื่อจับละอองสีที่ติดอยู่
15. ผสมเคลียร์มาพ่นโดยให้ปฎิบัตืตามคำแนะนำของบริษัทผู้ผลิตเคลียร์แต่ละยี่ห้อ
16. พ่นเคลียร์จำนวน 2 เที่ยว ทิ้งช่วงระหว่างเที่ยว 15 นาที แรงดันลมที่ให้
50-60 ปอนด์ต่อตรางนิ้ว
17. เมื่อพ่นเคลียร์เสร็จ ทิ้งไว้ในห้องพ่นสีเพื่อให้สีแห้งผิว 2-4 ชั่วโมง หรือถ้าต้องการ
อบก็สามารถทำได้ โดยให้ศึกษาจากคำแนะนำของบริษัทผู้ผลิตแต่ละยี่ห้อ
18. การขัดยาเงาตกแต่งให้ทำหลังเคลียร์แห้งตัว 12 ชั่วโมง
ขั้นตอนการพ่นสีจริงระบบ 2K แบบ 3 ขั้นตอน
สีจริง 2K แบบ 3 ขั้นตอนส่วนมากจะใช้ในการพ่นแม่สีมุกทับบนสีจริงในเชดต่างๆ ซึ่งสี
จริงจะมีเชดสีที่ใกล้เคียงกับแม่สีมุข เพื่อให้การแสดงผลของแม่สีมุกออกมาในมุมมองที่เด่นชัดขึ้น
แม่สีมุกสีนิยมนำมาพ่น เช่น มุกขาว มุกนํ้าเงิน มุกม่วง มุกเขียว มุกทอง ส่วนเชดสีจริง
ที่ใช้ ตัวอย่างเช่น สีขาว สีฟ้าอ่อน สีเขียวอ่อน สีเหลืองอ่อน (แนะนำควรเลือกเชดสีอ่อนๆ เพราะคุณสมบัติ ของมุกจะมีความโปร่งแสงมาก ถ้าเลือกสีจริงเชดสีเข้มสีมุกจะไม่สามรถกลบสีชั้นล่างได้)
ขั้นตอนการเตรียมงาน
1. ขัดสีรองพื้นด้วยกระดาษนํ้าเบอร์ 1,000
2. ล้างทำความสะอาดชิ้นงาน
3. ใช้ลมเป่าไล่ความชื้นให้ชิ้นงานแห้ง
4. ทำความสะอาดชิ้นงานด้วยนํ้าเช็ดคราบ
5. ใช้ลมเป่าไล่ฝุ่นละอองบนชิ้นงาน
6. นำผ้าเหนียวมาลูบเบาๆบนผิวชิ้นงาน เพื่อจับฝุ่น
7. นำสีจริงที่เลือกไว้ผสมกับทินเนอร์ตามอัตราส่วนผสมมาพ่นลงบนชิ้นงาน
2 เที่ยว ทิ้งช่วงระหว่างเที่ยว 10 นาที
8. นำแม่สีมุกผสมกับทินเนอร์ตามอัตราส่วนพ่นบนชิ้นงาน 2-3 เที่ยว ทิ้งช่วงระหว่างเที่ยว 10 นาที
9. ทิ้งช่วงระหว่างสีกับเคลียร์ 15 นาที
10. นำผ้าเหนียวมาลูบเบาๆบนผิวชิ้นงาน เพื่อจับละอองสี
12. นำเคลียร์ 2K มาพ่นจำนวน 2 เที่ยว ทิ้งช่วงระหว่างเที่ยว 10-15 นาที
ที่มาการเคลือบสีรถ Robot painting , paintest https://www.taikisha.co.th