สวัสดีค่ะ เราไม่รู้จะเรียบเรียงยังไง ถ้ามันเข้าใจยากก็ขอโทษด้วยนะคะ
เริ่มจากที่บ้านเรากดดันเรื่องเรียนมาตั้งแต่เด็กๆ(ประมาณประถม)แล้วค่ะ แม่อยากให้เราทำให้ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ก่อนเราเป็นคนพูดเก่งมาก เราจำได้ว่าเราเคยกลับบ้านมาแล้วมาเล่าให้ป๊าให้แม่ ให้พี่ฟังตลอดว่า วันๆนึงเราทำอะไรมาบ้าง ครูสั่งงานอะไร สอนเรื่องอะไร แต่คงเพราะเราพูดมากเกินไปมั้งคะ ที่บ้านเราเขาถึงตอบมาให้เราเงียบ เขา ”ไม่อยากฟัง ไม่ต้องเล่าได้ไหม แค่ทำงานก็เหนื่อยพอแล้ว ทำไมต้องมานั่งฟังเรื่องของเธอด้วย“ เราจำมันมาจนทุกวันนี้ว่าเราเล่าอะไรให้คนในบ้านฟังไม่ได้ เดี๋ยวเราจะกลายเป็นคนน่ารำคาญอีกเขาเหนื่อยพอแล้ว เราเลยไปคุยกับน้าเราแทน มีปัญหาอะไรเราก็จะคุยกับน้าก่อน น้าก็คงไปบ่นแม่แหละมั้งคะ แม่เลยมาว่าเราว่าเป็นภาระ55555555555 เราเลยไม่ได้เอาเรื่องอะไรไปปรึกษาใครอีกเลย กับเพื่อนเราก็ไม่ได้รู้สึกสนิทกับใครถึงขั้นที่จะคุยได้ทุกเรื่อง คนที่สนิทมากๆก็มีเรื่องให้เครียดพอแล้ว เลยไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลย
แล้วบ้านเราก็ทะเลาะกันหนักอีกครั้งนึงค่ะ คือ การสอบเข้าม.ปลาย แม่เราอยากให้เราเรียนวิทย์-คณิต แต่เราไม่ชอบเลยอยากเรียนภาษาเกาหลี เราหาว่าแถวบ้านเรามีที่ไหนเปิดสอนสายภาษาเกาหลีไหม และมันก็เป็นห้องEPค่ะ เราก็ไปสอบ เราติดโรงเรียนนั้น บ้านแทบแตกเลยค่ะ แม่ไม่ยอมให้เรียนเลย เพราะเค้าอยากให้เรียนอีกที่นึง ใกล้บ้านมากกว่า และอยากให้เรียนวิทย์คณิต แต่พี่เราก็ช่วยคุยให้ มามอบตัวให้ จ่ายทุกอย่างให้ แต่สุดท้ายพี่เราก็มากล่อมให้เราไปสมัครโรงเรียนที่แม่อยากให้เข้า เค้าบอกเราว่า “สมัครแล้วสอบให้ติด แล้วเดี๋ยวไปต่อรองให้ว่าเธอทำได้ แล้วให้เธอเรียนที่ที่เธออยากเรียน” เราก็ยอมไปสมัคร แต่สมัครเป็นสายภาษาจีน แล้วเราก็ติดค่ะ แต่น่าจะติดเพราะคะแนนโอเน็ต ตอนนั้นคะแนนเราค่อนข้างดีเลย แล้วพี่ก็บอกให้เราเรียนที่นี่เลย แม่ก็ไม่ค่อยโอเคกับสายการเรียน แต่เค้าก็โอเคกว่าที่เราจะไปเรียนภาษาเกาหลี แต่เราไม่โอเคกับภาษาจีนเลย5555555 เรากระ
กระสนเรียนจนมันจบมาได้ แต่เรากับที่บ้านก็ห่างกันมากขึ้นตั้งแต่ที่เขาให้เราเรียนโรงเรียนที่เค้าเลือกอะ คนตั้งใจสอบแต่ไม่ได้เรียน
ปัญหาก็มาอีก การสอบเข้ามหาลัย เราอยากเรียนพวกศิลปกรรม แต่แม่บอกมันทำอะไรไม่ได้ เข้ายังคงหัวคิดเก่าอยู่อะ เราเลยอะเรียนภาษา เรายื่นคะแนนรอบ3 รอบ4ไม่ติดเลยค่ะ55555 เราเลยไปคุยกับแม่ว่าขอเข้ามอเอกชน ตอนแรกเค้าก็โอเค แต่พี่เราแต่งงานเพื่อนแม่มางานเค้าถามเราว่า เรียนมหาลัยอะไร พอเราตอบไป เพื่อนแม่ทำหน้าแปลกๆอะค่ะ555555 cหลังจากงานแต่งแม่ก็มาคุยให้เรายื่นรอบรอบ5 เราเลยยื่นมอในกรุงเทพ ใกล้บ้านน้า อย่างน้อยเราก็ได้มาอยู่กับน้า แต่เค้าก็มาให้เรายื่นคะแนนไปที่มอที่เชียงราย เพราะเค้าเองที่ชอบจังหวัดนี้ ชอบอากาศ แล้วเค้าบอกว่า เรียนที่นี่ดีกว่า เราติดสัมภาษถ์ทั้งสองที่เลย วันสัมมันติดกันเลยค่ะ สมมติ มอที่เรายื่นที่กรุงเทพ สัมวันที่1 มอที่เชียงรายสัมวันที่2 แต่แม่บังคับเราขึ้นรถมากับเขาวันที่1 เขาจะขับรถมา ทั้งๆที่ ถ้าเราไปสัมแล้วบินมาสัมที่เชียงรายก็ทัน แต่เค้าไม่ให้เราสัม ให้เรามาสัมที่เชียงราย และเราติด เค้าเลยให้เราเรียนที่นี่เลย
ทุกคนเราเรียนที่นี่มาเข้าปีที่2แล้ว เราพยายามขอเค้าซิ่วหลายครั้งมาก เราไม่ได้อยากเรียนที่นี่ เราไม่ได้อยากเรียนสาขานี้ เราอยากอยู่บ้าน อยากอยู่กรุงเทพ เรารู้สึกว่าเราเข้ากับเพื่อนไม่ได้ เข้ากับใครไม่ได้เลย แล้วก็เราเพื่อนค่ะ ตอนแรกเราอยู่อีกกลุ่มนึง แต่เรามาเรียนกับกลุ่มตอนนี้เพราะ ย้ายออกมาหอนอกแล้วใกล้กับเพื่อนกลุ่มนี้จะได้ติดรถเข้าไปเรียนได้ แล้ววันนึงเราก็ขับรถเข้ามอปกติ เราพาเพื่อนล้ม เราบอกแม่ แม่บอกแม่ผิดหวังกับการกระทำเรามากๆ เราอะตัวเองเจ็บมันก็เจ็บ แต่เราทำเพื่อนเจ็บด้วย เราก็โทษตัวเองมากพอแล้ว พอแม่มาบอกอย่างงี้ เราเหมือนไม่มีอะไรดีเลย ้หมือนเป็นภาระมากขึ้นไปอีก เราก็รู้สึกผิดกับเพื่อน มันมีค่าเสียหายที่รถไหลไปโดนรถเก๋ง แม่เราให้เก็บจากเพื่อนด้วยเพราะมากด้วยกัน แต่ในใจเราก็แต่มันล้มเพราะเรา เพื่อนไม่ควรต้องจ่าย เพื่อนก็ไม่ได้บ้านมีเงิน เราไม่อยากทำมห้เพื่อนลำบากอะ แล้วเราก็ถอยออกมาจากเพื่อนนิดนึง ไม่รู้ทำไม แต่เราถอยออกมา เรารู้สึกตัวเองไม่ดี เราเป็นปัญหา เราทำเพื่อนเจ็บ ทำแม่ผิดหวัง มันแย่ไปหมดทุกอย่าง
เราอยากให้เค้าฟังเราบ้าง ว่าเราเหนื่อย เราพยายามเรียนให้ดีแล้ว เราก็อยากทำให้แม่ภูมิใจเหมือนกัน แต่เค้าไม่เคยให้กำลังใจเราเลย เค้าพูดแค่ว่า ทำไมทำได้แค่นี้ มันต้องดีกว่านี้ ต้องดีขึ้นอีก ช่วงนี้เราเริ่มเก็บตัว เรานอนเยอะขึ้นกว่าเดิมมากๆ เราไม่มีสมาธิทำอะไรเลย ใกล้สอบแล้วด้วยงานก็เบอะ ทุกอย่างมันบีบเราเต็มไปหมด เราบอกแม่ว่าเหนื่อย เราอยากกลับบ้าน แม่ตอบมาว่า แม่ก็เหนื่อย ยังไม่ต้องกลับมาหรอก ไปอ่านหนังสือได้แล้ว บางที่เราก็อยากหายไปเลย อยากตายไปเลยแต่เรากลัวถ้าเราทำอะไรไปแล้วเราไม่ตาย แม่จะมาว่าเราอีกว่าเป็นภาระเขาอีก แต่เราเคยนะเราบอกเค้าว่าถ้าเราตายก็ปล่อยเราตายไปเลยนะ เราไม่เป็นอะไรหรอก แต่แม่ตอบมาว่า เธอไม่เป็นแม่เป็นไง แม่จะอยู่ยังไง เราเลยอยู่ต่อเพราะเดี๋ยวเขาผิดหวัง เราไม่อยากให้เขารู้สึกว่าเราไม่ดีอีกแล้วอะ
เราไม่รู้ว่าทำไมความคิดเรามันเป็นแบบนี้ ไม่รู้ว่าทำไมช่วงนี้มันยากจัง ไม่รู้ว่าทำไมเราร้องไห้บ่อยจัง ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่การออกไปนอกห้อง การออกไปเรียนมันยาก เราพยายามไม่ร้องไห้ข้างนอกนั้น เราพยายามไม่สนใจเพื่อนที่เปลี่ยนไป พยายามไม่สนใจว่าเราเห็รเพื่อนแท็กกันทุกคนจะไปดูหนังแต่ไม่แท็กเรา มันอาจจะเพราะเราเก็บตัวจนห่างกับเพื่อนเอง
เห้อมันยาวมากจังเลยนะคะ55555ขอโทษนะคะ เราแค่อยากถามว่าเราควรไปลองพบจิตแพทย์ดูดีไหมคะ แล้วจิตแพทย์ที่เชียงรายมีที่ไหนดีบ้างคะ พบคุณแม่ครั้งแรกเค้าจะให้ทำอะไรบ้างคะ
ขอบคุณล่วงหน้าเลยนะคะ
เราควรไปพบ จิตแพทย์ ไหมคะ?
เริ่มจากที่บ้านเรากดดันเรื่องเรียนมาตั้งแต่เด็กๆ(ประมาณประถม)แล้วค่ะ แม่อยากให้เราทำให้ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ก่อนเราเป็นคนพูดเก่งมาก เราจำได้ว่าเราเคยกลับบ้านมาแล้วมาเล่าให้ป๊าให้แม่ ให้พี่ฟังตลอดว่า วันๆนึงเราทำอะไรมาบ้าง ครูสั่งงานอะไร สอนเรื่องอะไร แต่คงเพราะเราพูดมากเกินไปมั้งคะ ที่บ้านเราเขาถึงตอบมาให้เราเงียบ เขา ”ไม่อยากฟัง ไม่ต้องเล่าได้ไหม แค่ทำงานก็เหนื่อยพอแล้ว ทำไมต้องมานั่งฟังเรื่องของเธอด้วย“ เราจำมันมาจนทุกวันนี้ว่าเราเล่าอะไรให้คนในบ้านฟังไม่ได้ เดี๋ยวเราจะกลายเป็นคนน่ารำคาญอีกเขาเหนื่อยพอแล้ว เราเลยไปคุยกับน้าเราแทน มีปัญหาอะไรเราก็จะคุยกับน้าก่อน น้าก็คงไปบ่นแม่แหละมั้งคะ แม่เลยมาว่าเราว่าเป็นภาระ55555555555 เราเลยไม่ได้เอาเรื่องอะไรไปปรึกษาใครอีกเลย กับเพื่อนเราก็ไม่ได้รู้สึกสนิทกับใครถึงขั้นที่จะคุยได้ทุกเรื่อง คนที่สนิทมากๆก็มีเรื่องให้เครียดพอแล้ว เลยไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลย
แล้วบ้านเราก็ทะเลาะกันหนักอีกครั้งนึงค่ะ คือ การสอบเข้าม.ปลาย แม่เราอยากให้เราเรียนวิทย์-คณิต แต่เราไม่ชอบเลยอยากเรียนภาษาเกาหลี เราหาว่าแถวบ้านเรามีที่ไหนเปิดสอนสายภาษาเกาหลีไหม และมันก็เป็นห้องEPค่ะ เราก็ไปสอบ เราติดโรงเรียนนั้น บ้านแทบแตกเลยค่ะ แม่ไม่ยอมให้เรียนเลย เพราะเค้าอยากให้เรียนอีกที่นึง ใกล้บ้านมากกว่า และอยากให้เรียนวิทย์คณิต แต่พี่เราก็ช่วยคุยให้ มามอบตัวให้ จ่ายทุกอย่างให้ แต่สุดท้ายพี่เราก็มากล่อมให้เราไปสมัครโรงเรียนที่แม่อยากให้เข้า เค้าบอกเราว่า “สมัครแล้วสอบให้ติด แล้วเดี๋ยวไปต่อรองให้ว่าเธอทำได้ แล้วให้เธอเรียนที่ที่เธออยากเรียน” เราก็ยอมไปสมัคร แต่สมัครเป็นสายภาษาจีน แล้วเราก็ติดค่ะ แต่น่าจะติดเพราะคะแนนโอเน็ต ตอนนั้นคะแนนเราค่อนข้างดีเลย แล้วพี่ก็บอกให้เราเรียนที่นี่เลย แม่ก็ไม่ค่อยโอเคกับสายการเรียน แต่เค้าก็โอเคกว่าที่เราจะไปเรียนภาษาเกาหลี แต่เราไม่โอเคกับภาษาจีนเลย5555555 เรากระกระสนเรียนจนมันจบมาได้ แต่เรากับที่บ้านก็ห่างกันมากขึ้นตั้งแต่ที่เขาให้เราเรียนโรงเรียนที่เค้าเลือกอะ คนตั้งใจสอบแต่ไม่ได้เรียน
ปัญหาก็มาอีก การสอบเข้ามหาลัย เราอยากเรียนพวกศิลปกรรม แต่แม่บอกมันทำอะไรไม่ได้ เข้ายังคงหัวคิดเก่าอยู่อะ เราเลยอะเรียนภาษา เรายื่นคะแนนรอบ3 รอบ4ไม่ติดเลยค่ะ55555 เราเลยไปคุยกับแม่ว่าขอเข้ามอเอกชน ตอนแรกเค้าก็โอเค แต่พี่เราแต่งงานเพื่อนแม่มางานเค้าถามเราว่า เรียนมหาลัยอะไร พอเราตอบไป เพื่อนแม่ทำหน้าแปลกๆอะค่ะ555555 cหลังจากงานแต่งแม่ก็มาคุยให้เรายื่นรอบรอบ5 เราเลยยื่นมอในกรุงเทพ ใกล้บ้านน้า อย่างน้อยเราก็ได้มาอยู่กับน้า แต่เค้าก็มาให้เรายื่นคะแนนไปที่มอที่เชียงราย เพราะเค้าเองที่ชอบจังหวัดนี้ ชอบอากาศ แล้วเค้าบอกว่า เรียนที่นี่ดีกว่า เราติดสัมภาษถ์ทั้งสองที่เลย วันสัมมันติดกันเลยค่ะ สมมติ มอที่เรายื่นที่กรุงเทพ สัมวันที่1 มอที่เชียงรายสัมวันที่2 แต่แม่บังคับเราขึ้นรถมากับเขาวันที่1 เขาจะขับรถมา ทั้งๆที่ ถ้าเราไปสัมแล้วบินมาสัมที่เชียงรายก็ทัน แต่เค้าไม่ให้เราสัม ให้เรามาสัมที่เชียงราย และเราติด เค้าเลยให้เราเรียนที่นี่เลย
ทุกคนเราเรียนที่นี่มาเข้าปีที่2แล้ว เราพยายามขอเค้าซิ่วหลายครั้งมาก เราไม่ได้อยากเรียนที่นี่ เราไม่ได้อยากเรียนสาขานี้ เราอยากอยู่บ้าน อยากอยู่กรุงเทพ เรารู้สึกว่าเราเข้ากับเพื่อนไม่ได้ เข้ากับใครไม่ได้เลย แล้วก็เราเพื่อนค่ะ ตอนแรกเราอยู่อีกกลุ่มนึง แต่เรามาเรียนกับกลุ่มตอนนี้เพราะ ย้ายออกมาหอนอกแล้วใกล้กับเพื่อนกลุ่มนี้จะได้ติดรถเข้าไปเรียนได้ แล้ววันนึงเราก็ขับรถเข้ามอปกติ เราพาเพื่อนล้ม เราบอกแม่ แม่บอกแม่ผิดหวังกับการกระทำเรามากๆ เราอะตัวเองเจ็บมันก็เจ็บ แต่เราทำเพื่อนเจ็บด้วย เราก็โทษตัวเองมากพอแล้ว พอแม่มาบอกอย่างงี้ เราเหมือนไม่มีอะไรดีเลย ้หมือนเป็นภาระมากขึ้นไปอีก เราก็รู้สึกผิดกับเพื่อน มันมีค่าเสียหายที่รถไหลไปโดนรถเก๋ง แม่เราให้เก็บจากเพื่อนด้วยเพราะมากด้วยกัน แต่ในใจเราก็แต่มันล้มเพราะเรา เพื่อนไม่ควรต้องจ่าย เพื่อนก็ไม่ได้บ้านมีเงิน เราไม่อยากทำมห้เพื่อนลำบากอะ แล้วเราก็ถอยออกมาจากเพื่อนนิดนึง ไม่รู้ทำไม แต่เราถอยออกมา เรารู้สึกตัวเองไม่ดี เราเป็นปัญหา เราทำเพื่อนเจ็บ ทำแม่ผิดหวัง มันแย่ไปหมดทุกอย่าง
เราอยากให้เค้าฟังเราบ้าง ว่าเราเหนื่อย เราพยายามเรียนให้ดีแล้ว เราก็อยากทำให้แม่ภูมิใจเหมือนกัน แต่เค้าไม่เคยให้กำลังใจเราเลย เค้าพูดแค่ว่า ทำไมทำได้แค่นี้ มันต้องดีกว่านี้ ต้องดีขึ้นอีก ช่วงนี้เราเริ่มเก็บตัว เรานอนเยอะขึ้นกว่าเดิมมากๆ เราไม่มีสมาธิทำอะไรเลย ใกล้สอบแล้วด้วยงานก็เบอะ ทุกอย่างมันบีบเราเต็มไปหมด เราบอกแม่ว่าเหนื่อย เราอยากกลับบ้าน แม่ตอบมาว่า แม่ก็เหนื่อย ยังไม่ต้องกลับมาหรอก ไปอ่านหนังสือได้แล้ว บางที่เราก็อยากหายไปเลย อยากตายไปเลยแต่เรากลัวถ้าเราทำอะไรไปแล้วเราไม่ตาย แม่จะมาว่าเราอีกว่าเป็นภาระเขาอีก แต่เราเคยนะเราบอกเค้าว่าถ้าเราตายก็ปล่อยเราตายไปเลยนะ เราไม่เป็นอะไรหรอก แต่แม่ตอบมาว่า เธอไม่เป็นแม่เป็นไง แม่จะอยู่ยังไง เราเลยอยู่ต่อเพราะเดี๋ยวเขาผิดหวัง เราไม่อยากให้เขารู้สึกว่าเราไม่ดีอีกแล้วอะ
เราไม่รู้ว่าทำไมความคิดเรามันเป็นแบบนี้ ไม่รู้ว่าทำไมช่วงนี้มันยากจัง ไม่รู้ว่าทำไมเราร้องไห้บ่อยจัง ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่การออกไปนอกห้อง การออกไปเรียนมันยาก เราพยายามไม่ร้องไห้ข้างนอกนั้น เราพยายามไม่สนใจเพื่อนที่เปลี่ยนไป พยายามไม่สนใจว่าเราเห็รเพื่อนแท็กกันทุกคนจะไปดูหนังแต่ไม่แท็กเรา มันอาจจะเพราะเราเก็บตัวจนห่างกับเพื่อนเอง
เห้อมันยาวมากจังเลยนะคะ55555ขอโทษนะคะ เราแค่อยากถามว่าเราควรไปลองพบจิตแพทย์ดูดีไหมคะ แล้วจิตแพทย์ที่เชียงรายมีที่ไหนดีบ้างคะ พบคุณแม่ครั้งแรกเค้าจะให้ทำอะไรบ้างคะ
ขอบคุณล่วงหน้าเลยนะคะ