สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ถ้าคติความเชื่อแบบไทย ผู้หญ่จะทำตัวยังไงก็ได้ หน้าที่ลูกคือต้องกราบเท่านั้น ห้ามสงสัย ห้ามตั้งคำถาม ห้ามปฎิรูป
ถ้าคุณยึดคตินี้ก็ต้องก้มหน้าก้มตาช่วยแม่ไปม้ชีวิตตัวเองจะวอดวายตามไปด้วย
แต่ถ้าคุณเป็นคนรุ่นใหม่ เห็นแม่เป้นอย่างนี้ คุณต้องเลิกกราบ และลุกขึ้นมาปฎิรูปเพื่อให้แม่ปรับปรุงตัวเอง ถ้าไม่ปรับปรุงตัวก็ต้องตัดหางปล่อยวัด
ก่อนที่จะวินาศกันทั้งบ้าน
ถ้าคุณยึดคตินี้ก็ต้องก้มหน้าก้มตาช่วยแม่ไปม้ชีวิตตัวเองจะวอดวายตามไปด้วย
แต่ถ้าคุณเป็นคนรุ่นใหม่ เห็นแม่เป้นอย่างนี้ คุณต้องเลิกกราบ และลุกขึ้นมาปฎิรูปเพื่อให้แม่ปรับปรุงตัวเอง ถ้าไม่ปรับปรุงตัวก็ต้องตัดหางปล่อยวัด
ก่อนที่จะวินาศกันทั้งบ้าน
ความคิดเห็นที่ 7
ไม่เนรคุณครับ เพราะการมีลูกแท้จริงแล้วมาจากความต้องการของสามี ภรรยา ที่อยากมีลูกเพื่อประโยชน์ของตน
ในที่นี้คือ เอาไว้เป็นสิ่งยึดความสัมพันธ์ของคู่รัก เอาไว้เป็นสิ่งต่างหน้าเผื่ออีกคนตายก่อน เอาไว้ให้ตนได้มีความสุขในการ complete task หนึ่งของชีวิต
สิ่งที่ผมเกริ่น คือจะสื่อว่า อย่าให้ค่ากับคำว่า กตัญญู มากไปนัก... เพราะคนโง่ มักเอาคำนี้มาใช้จนเกร่อ โดยไม่ดูบริบทรวม แล้วเอาไปเป็นข้ออ้างในการสนับสนุนให้ผู้ให้กำเนิดทำผิดได้เนืองๆ
ทีนี้การที่แม่คุณทำสิ่งที่เป็นปัญหา โดยที่คุณให้โอกาสแล้ว ยังกลับไปทำอีก คุณไม่จำเป็นต้องช่วยละครับ...
เว้นแต่คุณอยากได้ชื่อว่า กตัญญู แต่สร้างเนื้อสร้างตัวไม่ขึ้น ใช้ชีวิตหาเงินมาให้แม่เล่นการพนันสนุกๆไปเรื่อยๆ... ส่วนคุณไม่ได้ลงทุน เพื่อชีวิตบั้นปลายของตัวเองสักที
แรกๆที่คุณยังแก้ปัญหาให้ไหว คุณจะรักอยู่ครับ ผมเชื่อว่าถ้าคุณเจอแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่คุณคิดได้ว่า เอ๊ะ ชีวิตฉันต้องเป็นแบบนี้ เพราะแม่แท้ๆเลยเหรอ ถึงจุดนึง คุณจะค่อยๆเกลียดจนไม่สนคำว่า กตัญญูครับ
ในที่นี้คือ เอาไว้เป็นสิ่งยึดความสัมพันธ์ของคู่รัก เอาไว้เป็นสิ่งต่างหน้าเผื่ออีกคนตายก่อน เอาไว้ให้ตนได้มีความสุขในการ complete task หนึ่งของชีวิต
สิ่งที่ผมเกริ่น คือจะสื่อว่า อย่าให้ค่ากับคำว่า กตัญญู มากไปนัก... เพราะคนโง่ มักเอาคำนี้มาใช้จนเกร่อ โดยไม่ดูบริบทรวม แล้วเอาไปเป็นข้ออ้างในการสนับสนุนให้ผู้ให้กำเนิดทำผิดได้เนืองๆ
ทีนี้การที่แม่คุณทำสิ่งที่เป็นปัญหา โดยที่คุณให้โอกาสแล้ว ยังกลับไปทำอีก คุณไม่จำเป็นต้องช่วยละครับ...
เว้นแต่คุณอยากได้ชื่อว่า กตัญญู แต่สร้างเนื้อสร้างตัวไม่ขึ้น ใช้ชีวิตหาเงินมาให้แม่เล่นการพนันสนุกๆไปเรื่อยๆ... ส่วนคุณไม่ได้ลงทุน เพื่อชีวิตบั้นปลายของตัวเองสักที
แรกๆที่คุณยังแก้ปัญหาให้ไหว คุณจะรักอยู่ครับ ผมเชื่อว่าถ้าคุณเจอแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่คุณคิดได้ว่า เอ๊ะ ชีวิตฉันต้องเป็นแบบนี้ เพราะแม่แท้ๆเลยเหรอ ถึงจุดนึง คุณจะค่อยๆเกลียดจนไม่สนคำว่า กตัญญูครับ
แสดงความคิดเห็น
เลิกตามใช้หนี้ให้แม่ ที่มาจากการติดการพนันหรือทำยังไงต่อไปดี
ตอนนี้เราอายุ 27ปี เริ่มมีความเครียดสะสมเกี่ยวกับแม่ที่กลับไปติดการพนันอีกรอบ ขอเกริ่นก่อนนะคะ แต่ก่อนฐานะทางบ้านยากจน ตอนนี้ค่อนข้างดีขึ้นแล้ว เราเป็นพี่สาวคนโตเริ่มเข้ามาทำงานในกรุงเทพตั้งแต่อายุ 18ปี ทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนจนจบ ป.ตรี ไม่เคยรบกวนทางบ้านเลยและมีส่งเงินให้ทางบ้านใช้ (เพราะตอนนั้นที่บ้านก็ไม่มีเงิน) ที่บ้านมีปัญหาอะไรเราก็จะเป็นคนช่วยที่บ้านตลอด จะมีเรื่องหนี้ที่แม่ก่อขึ้น คือเอาที่ดินไปจำนำแล้วเขาจะมายึด เราก็หาเงินมาไถ่คืนไว้ได้ (ที่จำนำเพราะแม่ติดการพนัน ตอนนั้นยังไม่หนักมาก) ช่วงนั้นหนักสุดคือใช้หนี้ก้อนนั้น ตอนนั้นก็ไม่ค่อยเครียดมากเพราะยังหาเงินได้ตลอด ช่วงประมาณ 8ปีที่แล้ว และรายจ่ายอื่นๆ หยิบย่อยเราก็เป็นคนดูแล
ที่บ้านเริ่มดีขึ้นเพราะแม่มีแฟนต่างชาติ แฟนเขาซื้อของเครื่องใช้เครื่องอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่างอยู่แบบสบาย (และแม่ก็หยุดเล่นการพนันเพราะแม่ได้ไปสาบานไว้กับวัดแห่งหนึ่งไว้ 5ปี) ทุกอย่างดำเนินชีวิตดีหมด ราบรื่นไปทุกๆอย่าง รวมถึงเราด้วยการงานก็ดีขึ้น แม่มีแฟนต่างชาติแม่ก็จะมีเงินเดือนใช้จากแฟนแม่ทุกเดือน แล้วเราก็ไม่ได้ส่งเงินให้ที่บ้านอีกเลย จะมีนานๆทีแม่ขอทีหลักหมื่นทุกครั้งก็ให้ไป
มาถึงปีนี้ธุรกิจที่เราทำอยู่ก็เริ่มแย่กระทบจากโควิดเศรษฐกิจบ้านเราด้วย เรื่องแม่พึ่งมาแดงช่วงไม่กี่เดือน เรามารู้ทีหลังว่าแม่กลับไปเล่นการพนัน รอบนี้เหมือนจะหนักสุด มีที่ดินที่เคยซื้อไว้ก็ขายหมด มอไซค์ทุกคันเอาเข้าไฟแนนซ์หมด ทองที่เราซื้อให้เป็นของขวัญก็เอาไปขาย และที่หนักสุดเลยคือเอารถยนต์ไปจำนำกับพวกนอกระบบ แล้วมันก็เร่งให้แม่ไปไถ่คืนมา ถ้าไม่ไถ่จะเอาไปขายให้ประเทศเพื่อนบ้าน แล้วแม่เราก็แก้ปัญหาโดยเอาเล่มรถยนต์ไปเข้าไฟแนนซ์ แม่ก็โทรมาขอเราให้ไปค้ำประกันให้ ทีแรกเราไม่ยอมค้ำให้เด็ดขาดเพราะมันเป็นหนี้ที่มาจากการพนัน พอเราไม่ยอมแม่ก็ขู่ว่าจะฆ่าตัวตายบ้าง บอกจะสาปแช่งเราบ้าง เดี๋ยวชาวบ้านจะตราหน้าบ้างว่าไม่ช่วยแม่ สุดท้ายเราก็ตกลงช่วยค้ำให้ วันนั้นเราอยู่กรุงเทพเราก็ขับรถกลับบ้านทันทีเพื่อไปยื่นเอกสารทำเรื่องยอดกู้อยู่ที่ 500,000 ไม่รวมดอกเบี้ย พอถึงบ้านเรื่องอื่นๆก็เข้ามาเรื่อยๆ เจ้าหนี้มาทวงหนี้ที่บ้านหลายเจ้า รวมถึงหนี้รายวัน มาแบบน่ากลัวมากที่ต่างจังหวัด บางวันตื่นเช้ามาแม่ก็ออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อหนีหนี้รายวัน เราเห็นแม่เป็นแบบนั้นก็อดสงสารไม่ได้อีก ก็เลยตัดสินใจเอาเงินเก็บที่มีอยู่ปิดหนี้รายวัน ที่มีอยู่ 6 เจ้าจ่ายให้ทั้งหมดเป็นเงินประมาณ 3หมื่นกว่า แต่พอมารู้อีกทีหนี้รายวันก็ยังไม่หมดยังมีอีกเห้อ เราก็จ่ายไปแค่นั้นพอ เรื่องยื่นกู้ไฟแนนซ์รถยนต์ก็ผ่านแล้ว เราก็ไปเอารถกลับมาจากเจ้าหนี้นอกระบบ เราก็ได้ตกลงกับแม่ไว้ ว่าแม่เลิกเล่นเถอะนะการพนันจะหมดตัวทุกอย่างแล้ว อีกอย่างหนูก็ไม่มีกำลังจะช่วยแม่ได้แล้วนะหนูก็มีหนี้สินที่ต้องจ่าย แม่ก็ให้สัญญาว่าจะไม่กลับไปเล่น วันถัดมาเราก็กลับมากรุงเทพทำงานต่อ
แต่เรื่องก็ยังไม่จบ แม่ก็กลับไปเล่นเหมือนเดิม แถมยังเอารถยนต์ไปจำนำอีกแล้วตอนนี้ สิ่งที่เราเครียดอยู่ตอนนี้คือ แม่เอารถไปจำนำแล้วถ้าเจ้าหนี้เอารถไปขายต่อประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าแม่ยังติดพนันแบบนี้อยู่หนี้สินที่กู้จากไฟแนนซ์มา ไม่มีเงินผ่อนต่อ ภาระก็ต้องตกมาที่เราเพราะเป็นคนค้ำประกัน ส่วนเราก็ยังมีหนี้ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ตกเดือน 1หมื่นกว่าบาท ยังไม่รวมค่ากินค่าใช้ต่างๆ และรายรับก็เริ่มไม่คล่องตัวเหมือนแต่ก่อน
เราอยากถามในมุมมองของคนเป็นลูก ถ้าแม่ยังก่อหนี้ไม่หยุด ถ้าลูกหยุดที่จะไม่ตามใช้หนี้ให้ มันจะผิดไหม หรือเป็นคนเนรคุณไหม เราควรทำจิตใจแบบไหนถึงจะไม่คิดมากเรื่องนี้ เครียดที่แม่เป็นแบบนี้ ครอบครัวเหมือนกำลังจะพัง