สวัสดีค่ะทุกคน คราวนี้ “Wherever We Go” จะพาไปเที่ยวทริปพิเศษๆ กับการรถไฟแห่งประเทศไทยกันค่ะ นั่นก้อคือ “ทริปรถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์” ที่จังหวัดลพบุรีค่ะ ซึ่งทริปพิเศษนี้การรถไฟแห่งประเทศไทยจะจัดขึ้นแค่ปีละหนเท่านั้นเองนะคะ ตามเราไปเที่ยวกันเลยคร้า

เรามาเริ่มต้นเดินทางกันเลยค่ะ ที่สถานีกรุงเทพ หรือสถานีหัวลำโพง โดยรถไฟเคลื่อนขบวนออกจากสถานีในช่วงเช้าเวลา 07.10 น.จากนั้นจะหยุดรับ-ส่ง ผู้โดยสารตามสถานีต่างๆ คือ สามเสน บางซื่อ บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง รังสิต อยุธยา สระบุรี แก่งคอย แก่งเสือเต้น จนถึงจุดชมวิว “รถไฟลอยน้ำ” ที่กลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์นั่นเองคร้า

"รถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์" เป็นเส้นทางท่องเที่ยวทางรถไฟแบบ ไปเช้า-เย็นกลับ ที่เปิดรอบนำเที่ยวแค่วันเสาร์ และอาทิตย์ ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน – มกราคมของทุกปี ซึ่งปีนี้จะมีทั้งหมด 19 รอบ  โดยเริ่มเดินทางทริปแรกในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 และไปสิ้นสุดทริปสุดท้ายในวันที่ 31 มกราคม 2564เลยล่ะค่ะ

โดยขบวนรถจะหยุดกลางสันเขื่อน ประมาณ 30 นาที เพื่อให้เราลงไปชมวิวเขื่อน และถ่ายภาพสวยๆ ซึ่งเราจะเห็นวิวของรถไฟที่อยู่บนสะพาน และด้านล่างไปผืนน้ำกว้างใหญ่ของเขื่อนฯ นับเป็นภาพที่สวยงามแปลกตา และหาชมได้ยากเลยล่ะค่ะ
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ถือเป็นเขื่อนดินกักเก็บน้ำที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ตามแนวพระราชดำริของรัชกาลที่ 9 เพื่อป้องกันการเกิดน้ำท่วมในบริเวณลุ่มแม่น้ำป่าสักในฤดูน้ำหลาก และขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูร้อน นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดลพบุรีอีกด้วยล่ะค่ะ

และหลังจากนั้นเราก้อเดินทางกันต่อไปค่ะ ซึ่งสถานีต่อไปก้อคือสถานีโคกสลุง ซึ่งสถานีนี้จะเป็นสถานีสุดทาง และที่สถานีนี้รถไฟจะจอดพัก 30 นาที เพื่อรอเปลี่ยนหัวรถลาก และให้เราได้ลงไปช็อปปิ้งสินค้าพื้นบ้าน อาหาร และพืชผักผลไม้ท้องถิ่น ที่จำหน่ายโดยชาวบ้านที่อยู่ในชุมชนแห่งนี้ เราสามารถเลือกซื้อกันได้ในราคาไม่แพง ชาวบ้านที่นี่ก็ยิ้มแย้มแจ่มใส ทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านคอยต้อนรับผู้มาเยือนอย่างเป็นมิตรเลยล่ะค่ะ

เมื่อครบเวลาตามกำหนดแล้ว เราก้อเดินทางกันต่อเลยค่ะ โดยขบวนรถไฟจะพาเราย้อนกลับไปทางเดิมเพื่อไปยังเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์  โดยเราจะมีเวลาท่องเที่ยวในรอบๆบริเวณเขื่อน ประมาณ 4 ชั่วโมง ซึ่งเราสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามอัธยาศัย ไม่ว่าจะเป็นรับประทานอาหารกลางวันจากร้านค้าของกลุ่มชุมชนท้องถิ่น ซื้อของฝากท้องถิ่น นั่งรถตัวหนอนชมเขื่อน ชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ หรือนั่งรถตู้ไปบ้านกล้วย & ไข่ ชมไร่ทานตะวัน และสวนเฟิร์นยักษ์ไร่ทรัพย์ประยูร ชอบแบบไหนก้อเลือกได้เลยคร้า
เราขอเลือกช้อยส์ที่จะนั่งรถตู้ออกไปเที่ยวรอบนอกบริเวณเขื่อนไปกันค่ะ ไปชมไร่ทานตะวันและสวนเฟิร์นยักษ์ ซึ่งจะอยู่ไม่ไกลจากเขื่อนมากนัก  โดยจะต้องเสียค่ารถตู้ไป-กลับ คนละ 60 บาทเท่านั้นเองค่ะ
ในบริเวณของบ้านกล้วย & ไข่ ซึ่งจะเป็นคาเฟ่ ร้านอาหารและร้านจำหน่ายสินค้าของฝาก โดยบริเวณด้านหลังของร้านจะมีไร่ทานตะวันอยู่ด้วยล่ะค่ะ ที่ไร่ทานตะวันแห่งนี้จะมีค่าเข้าชม คนละ 20 บาทนะคะ แต่เราขอบอกเลยล่ะค่ะว่าคุ้ม เพราะไร่ทานตะวันแห่งนี้กว้างขวางสุดตาเลยล่ะค่ะ เราสามารถเลือกชม เลือกมุมโพสต์ท่าถ่ายรูปกันได้แบบชิลล์ๆเลยล่ะค่ะ

หลังจากนั้นเราไปกันต่อเลยค่ะ ที่สวนเฟิร์นยักษ์ไร่ทรัพย์ประยูร ซึ่งจะอยู่ห่างจากจุดแรกประมาณ 5 กิโลเมตร ไร่ทรัพย์ประยูร เป็นแหล่งปลูกเฟิร์นที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี โดยที่นี่จะมีคาเฟ่ให้บริการเครื่องดื่มและยังมีในส่วนของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ของว่าง ของทานเล่น ที่อยู่ในบริเวณสวนที่รายล้อมด้วยความเขียวขจีของไม้ประดับและเฟิร์นสีเขียวขนาดใหญ่ห้อยระย้าสวยงามมากๆเลยล่ะค่ะ
หลังจากนั้นพวกเราก้อนั่งรถตู้กลับมาที่เขื่อนเพื่อเตรียมตัวกลับกรุงเทพฯกันค่ะ ยังพอมีเวลาเหลืออยู่บ้าง เราก้อเลยขอช้อปปิ้งหาของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านกันหน่อยคร้า รถไฟจะออกจากสถานีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เวลาบ่าย 3โมงครึ่ง โดยเดินทางย้อนกลับไปทางเดิม และจอดทุก ๆ สถานีเดิม จนไปถึงที่จุดหมายปลายทางคือสถานีกรุงเทพฯในช่วงเย็นเวลา 6โมง 50นาทีโดยประมาณคร้า

สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจยังคงสามารถเดินทางไปกับ “ทริปรถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์” ได้นะคะ โดยการจองหรือซื้อตั๋วล่วงหน้ากับการรถไฟแห่งประเทศไทยได้เลยค่ะ การเดินทางจะมี ทุกๆ วันเสาร์และอาทิตย์ตั้งแต่ตอนนี้จนถึงสิ้นเดือนมกราคมปีหน้าเลยล่ะค่ะ โดยอัตราค่าโดยสารเด็ก และผู้ใหญ่จะเป็นราคาเดียวกัน ซึ่งค่าโดยสารไป-กลับ รถนั่งชั้น 3 ธรรมดาแบบพัดลม  กรุงเทพ-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์-กรุงเทพ คนละ 290 บาท และค่าโดยสารไป-กลับ รถนั่งชั้น 2 แบบปรับอากาศ กรุงเทพ-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์-กรุงเทพ คนละ 490 บาท ค่ะ

📍📍  ขอฝากช่องยูทูปด้วยนะคะ ❤️❤️🥰🥰...ฝากช่วยกด "ติดตาม"  หรือ "Subscribe" 
เป็นกำลังใจให้เราด้วย ตามลิ้งค์ข้างล่างนี้นะคร้า 🙏🙏 
 https://bit.ly/2JTvKVC
หรือติดตามเราในช่องทางอื่นได้ที่
https://www.facebook.com/Wherever.V.Go/ 
https://www.instagram.com/wherever_we_go_corner/
ขอบคุณคร้า...