มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2563 เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และมีต่อเนื่องไป 11 วัน คือจนถึงวันที่ 23 พฤศจิกายน งานนี้จัดโดย องค์การพิพิธภัณฑวิทยาศาสตร์แห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยปกติจะจัดงานขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคมเป็นประจำของทุกปี แต่เนื่องด้วยสถานะการณ์ โควิด-19 ทำให้ต้องเลื่อนการจัดงานมาในเดือนพฤศจิกายนนี้ แต่ด้วยความที่เรายังไม่สามารถกลับมาเที่ยวได้แบบเดิม ทางงานก็มีมาตการความปลอดภัยในการเข้าชมนิทรรศการ เริ่มตั้งแต่ สแกนไทยชนะ และวัดอุณหภูมิก่อนเข้างาน อีกทั้งยังจำกัดจำนวนผู้เข้าชมในแต่ละรอบ ก่อนที่จะเข้าชมงานนั้น เราต้องลงทะเบียนผ่าน www.thailandnstfair.com เพื่อจองสิทธิ์การเข้าชมงานได้ ทั้งมาเอง และมาเป็นหมู่คณะ เลือกกวัน เวลาที่สะดวกในการเข้าชมได้ ดังนั้นปีนี้ถ้าใครมาเที่ยวงานอาจจะรู้สึกว่าคนเบาบางไปบ้างไม่เยอะเหมือนเช่นทุกปี นี่คือมาตรการปลอดภัยกับสุขภาพของทุกๆคน

และที่สำคัญปีนี้ ยังมีนิทรรศการออนไลน์ในรูปแบบ Hybrid Events ที่สามารถรับชมงานได้ทั้งแบบเข้าร่วมในสถานที่จริง และ ‘Virtual Exhibition นิทรรศการเสมือน 360 องศา’ ผ่านทางออนไลน์ ตะลุยโลกแห่งวิทยาศาสตร์เสมือนจริง พร้อมทั้งร่วมกิจกรรมบันเทิงพิเศษที่คัดสรรมาเฉพาะในงานนี้เท่านั้นเรียกว่า Virtual 360 องศา สำหรับคนที่ไม่สามารถมาเข้าชมได้ สามารถเข้าชมได้จากทาง เวปไซด์ www.thailandnstfair.com เราจะได้สนุกสนานกับวิทยาศาสตร์ได้แม้ว่าจะไม่ได้มาดูที่งานจริงๆ
สำหรับแฟนพันธ์ุแท้ของงานนี้ เป็นที่รู้กันว่าภายในงานทุกปีจะมีบูทไฮไลต์ไม่ตำกว่า 8 บูทจาก อพวช.ให้เราได้เรียนรู้กับวิทยาศาสตร์ในสาขาต่างๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ อีกทั้งยังมีบูทหน่วยงานต่างๆในกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำหรับการจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ในปีนี้ กระทรวง อว. ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศ รวม 93 หน่วยงานชั้นนำ จาก 11 ประเทศร่วมจัด เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้เกิดขึ้นแก่เยาวชนและสังคมไทย พร้อมทั้งสร้างสรรค์วิธีการ รูปแบบการนำเสนอใหม่เสริมแพลตฟอร์มออนไลน์เข้ามา ที่ไม่เพียงช่วยลดช่องว่างการเข้าถึงงานจากผู้เข้าชมงานที่อยู่พื้นที่ห่างไกลหรือผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางมา  แต่ยังเพิ่มโอกาสการเรียนรู้ เพิ่มช่องทางเลือกให้ผู้เข้าชมงาน ให้สนุกไปกับกิจกรรมและเปิดมุมมองการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

ในส่วนของงานปีนี้พื้นที่อาจจะไม่เท่าเดิม งานขึ้นจัดที่อาคารชาเลนเจอร์ 2  อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น. งานเข้าชมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย สำหรับบรรยากาศภายในงานปีนี้ มีความสนุกสนานเท่าเดิมเหมือนทุกๆปีที่ผ่านมา และความสนุกสนานและความรู้จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้น ติมตามต่อกันได้เลยค่ะ
เริ่มมาที่เดินเข้ามาในงาน จะได้พบกับบูทเฉลิมพระเกียรติ นิทรรศการเทิดพระเกียรติ (ROYAL PAVILION) 
จัดแสดง พระอัจฉริยภาพ “พระราชบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” พระอัจฉริยภาพ “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย” และ “พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย” นิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่ทรงมีคุณูปการต่องานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการศึกษาของประเทศไทย 


และ Hiligh ต่อยอดจากนิทรรศการเรื่อง ภารกิจพิชิตดวงจันทร์ (Mission to the Moon)จากปีที่แล้ว ในปีนี้จึงชวนให้ร่วมออกเดินทางไปยังดาวอังคารเพื่อสำรวจความเป็นไปได้ในการตั้งถิ่นฐานของมนุษยชาติ พบเรื่องราวความท้าทาย และเรียนรู้ข้อจำกัดต่างๆ ในอวกาศ รู้จักดาวอังคารในมุมมองที่หลากหลาย เรียนรู้ลักษณะทางกายภาพของดาวอังคาร พร้อมเรื่องราวของพัฒนาการด้านเทคโนโลยีและโครงการสำรวจดาวอังคารในด้านต่างๆ ตั้งแต่ การเดินทาง การถ่ายภาพ การสำรวจน้ำ ชั้นบรรยากาศ แร่ธาตุ  และยังมีความสนุกสนานสอดแทรกความรู้ กับโรงหนัง4D ที่ฉายเรื่องราวและความรู้ของภารกิจการค้นหาร่องรอยสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร ตื่นตาตื่นใจไปกับการจำลองชีวิตบนดาวอังคาร! ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ได้ความรู้สึกตื่นเต้นไม่ต่าง


นิทรรศการต่อมาที่ไม่ควรพลาดเลยคือ TECH BEHIND GAMES  นิทรรศการและกิจกรรมที่จะสร้างแรงบันดาลใจและประสบการณ์การเรียนรู้ด้านพัฒนาการของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผ่านเรื่องราวของการละเล่น เกม และกีฬาออนไลน์ รู้จักพัฒนาการและเข้าใจกระบวนการคิด การนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้าไปผสานในออกแบบเกมและกีฬาออนไลน์ ผ่านมุมมองใหม่ในการสร้างความรู้ ความบันเทิง ท้าทายความสามารถ และเสริมสร้างทักษะในการแก้ปัญหา และอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบและพัฒนาเกม ผ่านการเล่าเรื่องที่ทำให้คุณอาจมองภาพ การเล่นเกม ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป


และอีกหนึ่งเรื่องสำคัญในปีนี้ วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทำให้ผู้คนล้มตายกันอย่างมากมาย นิทรรศการมหันตภัยจิ๋ว (MICRO MONSTER) จึงเป็นหนึ่งในนิทรรศการหลักปีนี้ ที่ได้รับความสนใจมากมาย รู้เท่าทันอันตรายจากเชื้อโรค ด้วยวิธีการปฏิบัติทางสุขอนามัย
“การแพร่ระบาดของโรค กระทบต่อชีวิตของผู้คนทั่วโลก ทำให้พฤติกรรมการใช้ชีวิตหลายอย่าง จำเป็นต้องเปลี่ยนไป โดยที่ “เทคโนโลยี” และ “นวัตกรรม” เข้ามามีบทบาทชัดเจนมากขึ้น กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสกัดกั้นและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค และอำนวยความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิตของผู้คน”
และด้วยปีนี้เป็นปีสากลแห่งการพยาบาลและผดุงครรภ์ (International Year of the Nurse and the Midwifery) ในวาระครบรอบ 200 ปี วันเกิดของ ฟลอเรนซ์ ไนติงเกล พยาบาลชาวอังกฤษ จึงมีการแสดง โฮโลแกรม ประวัติของฟลอเรนซ์ ไนติงเกล พยาบาลชาวอังกฤษ ที่ช่วยให้เกิดแรงบันดาลใจในการจัดการสภาพแวดล้อมให้ถูกสุขลักษณะ เพื่อการป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งนำไปสู่การพยาบาลและการสร้างสุขอนามัยที่ดีในปัจจุบัน
และ ให้ความรู้เกี่ยวกับ โลกของเชื้อโรค เรื่องราวของโรคระบาดที่เกิดจากจุลินทรีย์ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดโรคระบาดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พบกับเชื้อโรคที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ในพื้นที่ที่คาดไม่ถึงในบ้าน จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของมนุษย์ และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับใช้ยาปฏิชีวนะ อีกทั้งพาเราให้รู้จักทางรอดจากโรค สัมผัสประสบการณ์การป้องกันตนเองด้วยหลักปฏิบัติทางสุขอนามัยที่ถูกวิธีผ่านชิ้นงานปฏิสัมพันธ์ พบกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีส่วนช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ รวมถึงแนวทางการดำเนินชีวิตตามวิถีของความปกติใหม่ (New normal)



“เมื่อโลกกำลังถึงกาลวิบัติ Plant Killer ออกอาละวาด ครอบงำจิตใจมนุษย์ บงการให้กระทำย่ำยีต่อพืช ความเดือดร้อนกระจายทุกหย่อมหญ้า พืชพรรณล้มตาย เราจึงจำเป็นต้องรวบรวมผู้กล้ามาร่วมขบวนการพิทักษ์พืช (Plant Rangers) เพื่อช่วยกอบกู้โลกให้พ้นวิกฤตนี้ เพราะ “พืช” คือ สิ่งมีชีวิตที่โอบอุ้มทุกสรรพชีวิตและมีคุณค่ายิ่งต่อโลกใบนี้ หาก “พืชถูกทำลาย” นั่นหมายถึง “โลกถูกทำลาย” และหมายถึง “เราทุกคน…ก็ถูกทำลาย” ด้วยเช่นกัน”
นิทรรศการที่ออกแบบเอาใจเด็กๆ สีสันสดใส ดึงดูดความสนใจไม่น้อยเลย นิทรรศการ ขบวนการพิทักษ์พืช พิทักษ์โลก (PLANT RANGER)
ปีนี้ยังเป็นปีสากลแห่งสุขภาพพืช (International Year of Plant Health) จึงเป็นจุดเริ่มต้นของนิทรรศการ “ขบวนการพิทักษ์พืช พิทักษ์โลก (Plant Rangers)” ที่ถ่ายทอดเรื่องราวการต่อสู้ของเหล่าขบวนการผู้พิทักษ์พืช Plant Rangers กับจอมวายร้าย Plant Killer เพื่อช่วยกอบกู้โลกที่กำลังเผชิญภาวะวิกฤตจากพืชพรรณล้มตาย โดยหวังกระตุ้นเตือนและปลูกฝังแนวคิดจิตอนุรักษ์แก่เยาวชนผู้จะเป็นกำลังสำคัญของโลกในอนาคตต่อไป ภายใต้การนำเสนอที่สนุกสนานแต่แฝงด้วยความรู้เรื่องพืชอย่างครบครัน โดยจำลองเป็นศูนย์ปฏิบัติการลับของขบวนการผู้พิทักษ์พืช Plant Rangers อันเป็นสถานที่ที่รวบรวมและฝึกฝนเหล่าผู้กล้าเพื่อมาร่วมทีมขบวนการพิทักษ์พืช และสอดแทรกความรู้เกี่ยวกับพืชไปด้วย
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมการสร้างสวนถาดขนาดเล็ก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการดูแลและปกป้องพืชได้ด้วยสองมือเรา และกิจกรรมสนุกสนานมากมายบนเวที อาทิ Research Show by Naturalist บิงโกพืชพรรณ และกิจกรรมตอบคำถามคว้ารางวัล ทำให้ผู้คนแวะเวียนมาร่วมกิจกรรม แน่นตลอดทั้งวัน

นิทรรศการศูนย์รวมเด็ก นิทรรศการเมกเกอร์: คุณสร้างอนาคต (MAKER: MAKE YOUR FUTURE) บูทที่เด็กๆทุกคนไม่พลาดที่จะมาเข้าร่วมกิจกรรม
นิทรรศการและกิจกรรมเพื่อสร้างแรงบันดาลใจการเป็นเมกเกอร์ (Maker) ในการสร้างสรรสิ่งประดิษฐ์เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันและต่อยอดสู่การทำธุรกิจของตนเอง ที่ใคร ๆ ก็เป็นเมกเกอร์ได้ และเมกเกอร์มีอยู่ในทุกสาขาอาชีพ การสร้างแรงบันดาลใจจากเมกเกอร์ต้นแบบที่จะนำเสนอถึงปัญหาอุปสรรคที่พบและการก้าวผ่านอุปสรรคสู่อาชีพและการทำธุรกิจ ภายในบูทนำเสนอนักเมกเกอร์ที่ประสบผลสำเร็จด้วยการสร้างรายได้จากการแก้ปัญหา 
พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส นำเสนอสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมที่เกิดขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 และกิจกรรมนักประดิษฐ์ โดยปีนี้ให้เด็กๆร่วมประดิษฐ์ Face Shield ใช้ได้ก้วยตัวเอง