หนุ่มเสื้อเหลือง ร่ำไห้ประณามไทยภักดี ขนมวลชนมา จบงานไม่พากลับ
https://www.matichon.co.th/social/news_2451350
เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสมาชิกกลุ่มคนเสื้อเหลืองที่มาจาก จ.ชลบุรี ที่ไปร่วมชุมนุมหน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 17 พ.ย. จนเกิดการปะทะกับม็อบคณะราษฎร โดยระบุว่า ตนจะพูดเรื่องการพามวลชนมาร่วมอุดมการณ์ ทำให้คุณมีภาพลงสื่อโซเชียล มีผลงานให้รัฐบาล มีผลงานที่หน้ารัฐสภา คุณรู้ไหมว่า คนพวกนั้นเขามาจากไหน
“เมื่อคืนเวลาประมาณ 1 ทุ่มกว่า(17 พ.ย.) เกิดเหตุอะไรขึ้นคุณเห็นอยู่แล้ว ม็อบคณะราษฎร เขาผลักดันมา ตำรวจทิ้งแนวหมดแล้ว เหลือแต่แนวประชาชนคนเสื้อเหลือง ก็คือกลุ่มของ ศปปส. หรือไทยภักดี มีมวลชนอยู่ประมาณ 500-1,000 คน ไม่น่าเกินนี้ กล้าการันตีได้เลยว่า มวลชนที่อยู่ในนั้นมีเด็ก คนท้อง คนแก่ มีการ์ดคนดูแลที่เป็นวัยรุ่น ไม่เกิน 20 หรือ 30 คน คุณจัดตั้งมวลชน กิจกรรมคุณเสร็จตั้งแต่บ่าย 2 ทำไมคุณไม่บอกมวลชนให้กลับบ้าน แล้วรถทัวร์ที่เอาเขามา ทำไมมาทิ้งเขา บอกมารับตอนเช้าอีกวัน มันไม่ใช่นะ เหมือนคุณเอาพวกเขาไปเทหน้ารัฐสภา”
ชายคนดังกล่าวระบุต่อว่า เมื่อคืน(17 พ.ย.) ตนต้องช่วยคน คุณรู้ไหมว่าเด็กที่มา อย่างน้อยๆ มีเด็ก ป.6 อย่างที่อายุมากที่สุดคือ 90 ผู้หญิงแก่ๆ หูไม่ดี เลอะเลือนแล้ว เขามาร่วมอุดมการณ์กับคุณ อุดมการณ์ของคุณคืออะไร ทำไมคุณไม่พามวลชนกลับ ไม่ได้พูดเรื่องการเมือง แต่ตนเลือกพูดเรื่องเหตุเมื่อวาน(17 พ.ย.) ตนไปถึงที่นั่น 1 ทุ่ม ตีกันแล้วยกแรก คนแก่จะนอน สุดท้ายนอนไม่ได้
“เอามวลชนมามีแต่คนแก่ คนเหล่านั้นเขามากัน 12 รถบัส เขาทิ้งบ้านมา เขามาจากชลบุรี เพราะคุณให้คำมั่นเขาว่า จะมาทำอุดมการณ์คืออะไร คือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ แต่ผมถามจริงๆ คุณทำเสร็จแล้ว ทำไมไม่เอาประชาชนกลับ คุณไม่สงสารเขาเหรอ ผมไปช่วยจนเสียงหาย ไม่มีโทรโข่ง ไม่มีอุปกรณ์ ไปตัวคนเดียว ต้องพามวลชนเข้าแฟลตทหารหนีตาย”
ชายคนดังกล่าว บอกอีกว่า ตนไม่ได้อยู่ตรงข้ามม็อบราษฎร เพราะ 2 เรื่องเห็นด้วย แต่เรื่อง 3 ไม่เห็นด้วย คือการ..... จะเกลียดใครหรืออะไรก็แล้วแต่ จะเรียกเป็นเต่าล้านปีหรือไดโนเสาร์ แต่งานนี้ไม่มีการเอาคืน เราจะไม่ใช้นโยบายความรุนแรง เพราะการใช้ความรุนแรงมันไม่ใช่ทางออก แต่ต้องด่าคนที่นำมา
“เขามาร่วมกับคุณ แต่คุณเทเขา คุณรู้ไหมว่าเมื่อคืน(17 พ.ย.) ตี 1 กว่ารถจะมาครบ แล้วทุกคนร้องไห้ ข้าวไม่มีกิน น้ำไม่มีดื่ม จนมี ส.ส.หรือส.ว.นั่งรถอัลพาร์ดมาเยี่ยมประชาชน เขาไปซื้อข้าวซื้อน้ำมาให้ แต่มวลชนมี 500 กว่าคน แจกแต่จุดหน้า จุดหลังไม่ได้กิน เมื่อวานทหารไม่ได้ให้เข้า แต่พวกเราผลักดันเพื่อเอาประชาชนเข้าไป”
ชายเสื้อเหลืองกล่าวพร้อมร่ำไห้ว่า ตนเห็นป้าคนหนึ่งเหมือนยายของตน แกวิ่งไม่ไหว แกน่าสงสารมาก คือประเทศไทยไม่ควรมาถึงจุดนี้หรอก แต่ตนต้องด่าคนที่นำมา ตนเสียใจสงสารคนแก่ ผู้หญิงท้อง เด็ก หิวข้าว ม็อบเขาคนเยอะ ออกไปก็โดนกระทืบ แต่เมื่อวานตนทำดีที่สุดแล้ว ถ้าตนไม่ผลักดันเข้าแฟลตทหาร เอามวลชนให้รอด ต้องไม่ให้คนเจ็บ แต่เรื่องการปะทะ เสียใจร้องไห้นึกถึงคนแก่ นึกถึงตัวเราเองถ้าเราแก่ แล้วเราจะเป็นอย่างไร เมื่อวาน(17 พ.ย.) วิ่งจนหอบ
“ผมรับไม่ได้จริงๆ กดแชร์ให้ดังไปถึงคนที่พามา คนพามาไม่เท่าไหร่ แต่คนที่บอกให้อยู่ต่อ บอกเลยว่า ระย.. ให้เขาอยู่ แต่ไม่มาดูแล ไม่ส่งคนมาช่วย คุณสู้เด็กไม่ได้หรอก คุณเอาคนแก่ไปสู้กับเด็กได้ไง เมื่อคืนผมพกอาวุธไป แต่ไม่ได้ใช้ และห้ามด้วยว่าอย่าตีกัน มันไม่ควรมาถึงจุดนี้ คนที่ตั้งเป้าหมายให้ประชาชนตีกัน คุณตั้งเป้าหมายอะไร ตอบประชาชนให้ได้ ต้องการอะไรจากสังคม ผมขอประณาม การจัดมวลชนแบบนี้ไม่ถูกต้อง”
“สิ่งที่คุณทำจะทำให้คนแก่เสียชีวิตโดยใช่เรื่อง คนแก่ไม่ต้องกระทืบเขา เขาวิ่งหนีก็จะเป็นลมแล้ว หน่วยแพทย์ก็ไม่มี เมื่อคืนเป็นอะไรที่ทุเรศตามาก พวกคุณมันหยาบมากที่พาเขามาแล้วเท คุณไม่มีความรับผิดชอบ ไม่ควรมีความเป็นผู้นำ ผมจะบอกคุณให้ว่าคุณไม่ควรเป็นผู้นำคนหรอก ผมเสียใจที่คนแก่จะโดนกระทืบ”
ชายเสื้อเหลือง กล่าวอีกว่า ครั้งหน้าขอเถอะ อย่าจัดมวลชนมาปะทะมวลชนเลย เราสู้เด็กๆ เขาไม่ได้หรอก คุณใช้หลักวิชาการของความรู้ความจริงไปเผยแพร่ตามที่สาธารณะดีกว่า ตนว่าสิ่งที่คุณทำมันผิดมาก เอามวลชนมาปะทะกัน แล้วเข้าสู่อำนาจ คุณเข้าสู่อำนาจได้ จะอยู่ในอำนาจได้กี่ปี มันจะเป็นบาปติดตัวด้วย ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาดู ตนอาจจะอ่อนแอ แต่ตนเห็นเด็กคนแก่ แล้วรับไม่ได้ เมื่อวาน(17 พ.ย.)เห็นป้าคนหนึ่งลุกไม่ไหว แล้วเดินงกๆ เงิ่นๆ จะไปทางที่เด็กเขาตีกันอีก
“กฎหมายทำอะไรพวกเขาไม่ได้แล้ว เขาไม่กลัวกฎหมาย ผมไม่ได้ว่า แต่กฎหมายทำอะไรเด็กพวกนี้ไม่ได้ เขาไม่กลัว เพราะเขาจะล้มรัฐธรรมนูญ แต่ผมไม่ได้ปะทะกับเด็กๆ ผมช่วยเขาออกมา แต่ผมไม่ทำอะไรเขาทั้งนั้น แต่บอกว่าให้เขาเอาเพื่อนกลับไป แล้วผมก็ห้าม ผมขอบอกคนจัดเมื่อวาน(17 พ.ย.) กลุ่มที่มาจากชลบุรี 12 คันรถ กลับบ้านโดยสวัสดิภาพแล้ว แต่ผมจะไม่ขอบคุณ ศปปส. พวกคุณทิ้งพวกผม คุณทิ้งมวลชน คุณทำผิดคุณไปแก้ไข วันนี้คุณเป็นผู้นำไม่ได้แล้ว”
“อย่าบอกว่าจะฟ้องผม คุณฟ้องมาเลยว่าทำให้กลุ่มคุณเสียชื่อเสียง คุณฟ้องผม แล้วคุณพูดมาด้วยว่า คุณอยู่ตรงไหนของแฟลตทหาร แล้วใครเป็นคนพาเข้า คุณพูดให้ได้ ถ้าไม่มีความจริงมาพูด ผมตบหน้าคุณนะ แล้วมาดูกัน ไม่ใช่เหลืองกัดกันเอง แต่เอาความจริงมาพูดกัน -ึงหนี -ึงเอาอาชีวะมาเป็นโล่ให้พวก-ึง ไ-้น้องหัวโล้นที่ถือมีด พี่น้องเรา วันนี้ขอฝากช่วยแชร์ประณามเขาว่าอย่าเทมวลชนและประชาชน” ชายเสื้อเหลืองกล่าวทิ้งท้าย
https://www.facebook.com/SirawitChuangsen/posts/204929767675330
ด่วน! เผยผลตรวจ "น้ำ" สลายม็อบหน้าสภา พบสารเคมีสำคัญ โดนตัวไปอันตราย!
https://www.khaosod.co.th/politics/news_5367025
ด่วน! "อาจารย์อ๊อด" เผยผลตรวจ "น้ำ" ในเหตุการณ์ สลายม็อบ "ราษฎร" หน้ารัฐสภา พบสารเคมี ที่ใครโดน สุดอันตราย ทั้งทำลายดวงตา ผิวหนังจะไหม้อย่างรุนแรง
วันนี้ (20 พ.ย.) รศ.ดร.
วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ
อาจารย์อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยผลการตรวจสอบสารเคมีที่อยู่ในน้ำซึ่งเก็บจากสถานที่เกิดเหตุปะทะบริเวณแยกเกียกกาย ทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า
หลักๆ เจอสารเคมีในน้ำตัวอย่าง 5 ตัวนะครับ ขอเวลาวิเคราะห์ผล ค่ำๆ น่าจะรู้ว่าแต่ละตัวคืออะไรบ้าง โดยตัวอย่างน้ำ ณ สถานที่เกิดเหตุปะทะ บริเวณแยกเกียกกาย กำลังดำเนินการคุณภาพวิเคราะห์ด้วยเทคนิคขั้นสูงโดยเครื่อง GC-MS นะครับ ค่ำๆ รู้ผล
ต่อมา เมื่อเวลา 15.56 น. รศ.ดร.
วีรชัย ได้โพสต์เฟซบุ๊กอีกครั้ง เผยผลตรวจดังกล่าว ระบุว่า
ผลการวิเคราะห์น้ำที่เก็บได้จากแนวปะทะที่เกียกกาย ไม่รู้น้ำใครนะ #อนุญาตให้เผยแพร่ข้อมูลทางวิชาการนี้ทั้งภาพและคลิป
======================
น้ำที่เก็บมามีสีฟ้าออกน้ำเงินนะครับเนื่องจากว่า ปนเปื้อนกับสีที่ผู้ชุมนุมใช้สีน้ำเงิน จึงปนกันกับน้ำสีม่วง แต่อาจารย์อ๊อดนำมาสกัดด้วย DCM จนได้สารละลายสีม่วงพร้อมกับสารที่อยู่ในนั้นออกมาแยกชั้นตามภาพที่ 1-3
...............
อาจารย์อ๊อดเอาสารละลายสีม่วง ที่ได้มาวิเคราะห์ด้วยเทคนิค gc-ms (Gas chromatography–mass spectrometry (GC-MS)) พบว่าสีม่วงคือ Methylviolet 2b (เมทิลไวโอเลททูบี) ซึ่งเป็นสีม่วงธรรมดา ไม่มีพิษภัยอะไร และเจอสาร สำคัญ 5 ตัว ในสารละลายสีม่วงนั้น คือ
...............
(1) Dimethyl sulfoxide, DMSO (ไดเมททิล ซัลฟอกไซด์)
เป็นสารประกอบอินทรีย์ซัลไฟด์ มีลักษณะเป็นของเหลวไม่มีสี จุเดเดือดสูง นิยมใช้เป็นตัวทำละลายและใช้เป็นสารทำความสะอาดส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองถ้าได้รับในปริมาณมาก
(2) 2-Chlorobenzaldehyde (2-คลอโรเบนซัลดีไฮด์)
ลักษณะไม่มีสีหรือของเหลวใสสีเหลืองเล็กน้อย ข้อควรระวังคือทำให้ผิวหนังไหม้อย่างรุนแรงและทำลายดวงตา
โดย 2-Chlorobenzaldehyde ใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิต o-chlorobenzylidene malononitrile หรือ 2-chlorobenzalmalononitrile หรือ o-Chlorobenzylmalononitrile ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ในแก๊สซีเอส (CS gas)
ซึ่งเมื่อโดนแก๊สน้ำตาเข้าไปแล้ว จะเกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุตาและแก้วตาดำ ทำให้มีน้ำตาไหลออกมาก เยื่อบุตาจะแดงและแก้วตาดำจะบวม ตามองไม่เห็น น้ำมูกน้ำลายไหล ไอ หายใจลำบาก เมื่อร่างกายสัมผัสกับแก๊สน้ำตามักจะเกิดอาการภายในวินาทีหรือหลายนาที อาการจะเป็นอยู่นานประมาณ 15 –30 นาทีส่วนใหญ่จะหายเองภายในหนึ่งชั่วโมง
(3) 2-Chlorobenzyl alcohol (2-คลอโรเบนซิลแอลกอฮอล์) มีลักษณะเป็นผงสีขาว โดยสารตัวนี้ก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ทั้งต่อดวงตา ผิวหนัง แม้แต่การสูดดมเข้าไป
(4) 2-chlorobenzalmalononitrile (2-คลอโรเบนซัลมาโลโนไนไตร) หรือ o-Chlorobenzylmalononitrile (CS gas)
2-chlorobenzalmalononitrile หรือ o-Chlorobenzylmalononitrile ทางทหารเรียกสั้นๆว่า CS จัดเป็นอาวุธเคมี (chemical weapon) ที่ใช้คุมฝูงชน แต่ไม่ทำให้ถึงตาย (non-lethal chemical weapon) โดยปกติในอุณหภูมิห้อง ไม่ได้อยู่ในสถานะก๊าซ เป็นของแข็ง แต่ทำเป็นละอองได้ เหมือนสเปย์พริกไทย
(5) o-Chlorobenzylmalononitrile เป็นสารก่อการระเคืองเหมือนกันที่อยู่ใน CS gas เหมือนกัน เป็นอนุพันธ์ของสารหมายเลข (4)
===========
สารหมายเลข 1 เป็นตัวทำละลาย เพื่อทำให้สารอีก 4 ตัวละลายรวมเป็นเนื้อเดียวกันเป็นหัวเชื้อ ส่วนสารหมายเลข 2 3 4 5 เป็นกลุ่มแก๊สน้ำตาซึ่งใส่ตัวเดียวก็เกินพอแล้วครับแต่ใส่ไปทั้งหมด 4 ตัว
===========
ความเข้มข้นที่คำนวณได้จากเครื่อง
(1) = 10.39 % V/V
(2) = 10.87 % V/V
(3) = 8.56 % V/V
(4) = 63.93 % V/V
(5) = 6.25 % V/V
==========
งานวิชาการที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันได้แน่นอนว่า ความเข้มข้น 1% เทียบกับ 5% แก๊สน้ำตา(CS) อันไหนอันตรายกว่ากัน เนื่องจากความเสียหายส่วนใหญ่มาจากระยะในการยิง
ผลกระทบในคนได้มีการศึกษาผลของ CS smoke or aerosol and exposure via inhalation พบว่า aerosol เมื่อทำการผลิตโดยวิธี thermal dispersionที่มีขนาด 0.5um ในตัวทำละลาย methylene chlorideทำการศึกษากับอาสาสมัครเป็นเวลา90นาทีในพื้นที่ขนาด 0.5-1 mg/m3 พบว่าอาสาสมัครมีอาการผิวไหม้บริเวณปาก หายใจแล้วแสบรวมถึงแน่นหน้าอก
อ้างอิง : https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC1127513/
https://www.facebook.com/phutdhawong/posts/3516187921804826
JJNY : 4in1 เสื้อเหลืองร่ำไห้ประณามไทยภักดี/ผลตรวจน้ำสลายม็อบ พบสารเคมีอันตราย!/mob festร่วมชุมนุมนร./พท.เตรียมชงกมธ.ตร.
https://www.matichon.co.th/social/news_2451350
“เมื่อคืนเวลาประมาณ 1 ทุ่มกว่า(17 พ.ย.) เกิดเหตุอะไรขึ้นคุณเห็นอยู่แล้ว ม็อบคณะราษฎร เขาผลักดันมา ตำรวจทิ้งแนวหมดแล้ว เหลือแต่แนวประชาชนคนเสื้อเหลือง ก็คือกลุ่มของ ศปปส. หรือไทยภักดี มีมวลชนอยู่ประมาณ 500-1,000 คน ไม่น่าเกินนี้ กล้าการันตีได้เลยว่า มวลชนที่อยู่ในนั้นมีเด็ก คนท้อง คนแก่ มีการ์ดคนดูแลที่เป็นวัยรุ่น ไม่เกิน 20 หรือ 30 คน คุณจัดตั้งมวลชน กิจกรรมคุณเสร็จตั้งแต่บ่าย 2 ทำไมคุณไม่บอกมวลชนให้กลับบ้าน แล้วรถทัวร์ที่เอาเขามา ทำไมมาทิ้งเขา บอกมารับตอนเช้าอีกวัน มันไม่ใช่นะ เหมือนคุณเอาพวกเขาไปเทหน้ารัฐสภา”
ชายคนดังกล่าวระบุต่อว่า เมื่อคืน(17 พ.ย.) ตนต้องช่วยคน คุณรู้ไหมว่าเด็กที่มา อย่างน้อยๆ มีเด็ก ป.6 อย่างที่อายุมากที่สุดคือ 90 ผู้หญิงแก่ๆ หูไม่ดี เลอะเลือนแล้ว เขามาร่วมอุดมการณ์กับคุณ อุดมการณ์ของคุณคืออะไร ทำไมคุณไม่พามวลชนกลับ ไม่ได้พูดเรื่องการเมือง แต่ตนเลือกพูดเรื่องเหตุเมื่อวาน(17 พ.ย.) ตนไปถึงที่นั่น 1 ทุ่ม ตีกันแล้วยกแรก คนแก่จะนอน สุดท้ายนอนไม่ได้
“เอามวลชนมามีแต่คนแก่ คนเหล่านั้นเขามากัน 12 รถบัส เขาทิ้งบ้านมา เขามาจากชลบุรี เพราะคุณให้คำมั่นเขาว่า จะมาทำอุดมการณ์คืออะไร คือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ แต่ผมถามจริงๆ คุณทำเสร็จแล้ว ทำไมไม่เอาประชาชนกลับ คุณไม่สงสารเขาเหรอ ผมไปช่วยจนเสียงหาย ไม่มีโทรโข่ง ไม่มีอุปกรณ์ ไปตัวคนเดียว ต้องพามวลชนเข้าแฟลตทหารหนีตาย”
ชายคนดังกล่าว บอกอีกว่า ตนไม่ได้อยู่ตรงข้ามม็อบราษฎร เพราะ 2 เรื่องเห็นด้วย แต่เรื่อง 3 ไม่เห็นด้วย คือการ..... จะเกลียดใครหรืออะไรก็แล้วแต่ จะเรียกเป็นเต่าล้านปีหรือไดโนเสาร์ แต่งานนี้ไม่มีการเอาคืน เราจะไม่ใช้นโยบายความรุนแรง เพราะการใช้ความรุนแรงมันไม่ใช่ทางออก แต่ต้องด่าคนที่นำมา
“เขามาร่วมกับคุณ แต่คุณเทเขา คุณรู้ไหมว่าเมื่อคืน(17 พ.ย.) ตี 1 กว่ารถจะมาครบ แล้วทุกคนร้องไห้ ข้าวไม่มีกิน น้ำไม่มีดื่ม จนมี ส.ส.หรือส.ว.นั่งรถอัลพาร์ดมาเยี่ยมประชาชน เขาไปซื้อข้าวซื้อน้ำมาให้ แต่มวลชนมี 500 กว่าคน แจกแต่จุดหน้า จุดหลังไม่ได้กิน เมื่อวานทหารไม่ได้ให้เข้า แต่พวกเราผลักดันเพื่อเอาประชาชนเข้าไป”
ชายเสื้อเหลืองกล่าวพร้อมร่ำไห้ว่า ตนเห็นป้าคนหนึ่งเหมือนยายของตน แกวิ่งไม่ไหว แกน่าสงสารมาก คือประเทศไทยไม่ควรมาถึงจุดนี้หรอก แต่ตนต้องด่าคนที่นำมา ตนเสียใจสงสารคนแก่ ผู้หญิงท้อง เด็ก หิวข้าว ม็อบเขาคนเยอะ ออกไปก็โดนกระทืบ แต่เมื่อวานตนทำดีที่สุดแล้ว ถ้าตนไม่ผลักดันเข้าแฟลตทหาร เอามวลชนให้รอด ต้องไม่ให้คนเจ็บ แต่เรื่องการปะทะ เสียใจร้องไห้นึกถึงคนแก่ นึกถึงตัวเราเองถ้าเราแก่ แล้วเราจะเป็นอย่างไร เมื่อวาน(17 พ.ย.) วิ่งจนหอบ
“ผมรับไม่ได้จริงๆ กดแชร์ให้ดังไปถึงคนที่พามา คนพามาไม่เท่าไหร่ แต่คนที่บอกให้อยู่ต่อ บอกเลยว่า ระย.. ให้เขาอยู่ แต่ไม่มาดูแล ไม่ส่งคนมาช่วย คุณสู้เด็กไม่ได้หรอก คุณเอาคนแก่ไปสู้กับเด็กได้ไง เมื่อคืนผมพกอาวุธไป แต่ไม่ได้ใช้ และห้ามด้วยว่าอย่าตีกัน มันไม่ควรมาถึงจุดนี้ คนที่ตั้งเป้าหมายให้ประชาชนตีกัน คุณตั้งเป้าหมายอะไร ตอบประชาชนให้ได้ ต้องการอะไรจากสังคม ผมขอประณาม การจัดมวลชนแบบนี้ไม่ถูกต้อง”
“สิ่งที่คุณทำจะทำให้คนแก่เสียชีวิตโดยใช่เรื่อง คนแก่ไม่ต้องกระทืบเขา เขาวิ่งหนีก็จะเป็นลมแล้ว หน่วยแพทย์ก็ไม่มี เมื่อคืนเป็นอะไรที่ทุเรศตามาก พวกคุณมันหยาบมากที่พาเขามาแล้วเท คุณไม่มีความรับผิดชอบ ไม่ควรมีความเป็นผู้นำ ผมจะบอกคุณให้ว่าคุณไม่ควรเป็นผู้นำคนหรอก ผมเสียใจที่คนแก่จะโดนกระทืบ”
ชายเสื้อเหลือง กล่าวอีกว่า ครั้งหน้าขอเถอะ อย่าจัดมวลชนมาปะทะมวลชนเลย เราสู้เด็กๆ เขาไม่ได้หรอก คุณใช้หลักวิชาการของความรู้ความจริงไปเผยแพร่ตามที่สาธารณะดีกว่า ตนว่าสิ่งที่คุณทำมันผิดมาก เอามวลชนมาปะทะกัน แล้วเข้าสู่อำนาจ คุณเข้าสู่อำนาจได้ จะอยู่ในอำนาจได้กี่ปี มันจะเป็นบาปติดตัวด้วย ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาดู ตนอาจจะอ่อนแอ แต่ตนเห็นเด็กคนแก่ แล้วรับไม่ได้ เมื่อวาน(17 พ.ย.)เห็นป้าคนหนึ่งลุกไม่ไหว แล้วเดินงกๆ เงิ่นๆ จะไปทางที่เด็กเขาตีกันอีก
“กฎหมายทำอะไรพวกเขาไม่ได้แล้ว เขาไม่กลัวกฎหมาย ผมไม่ได้ว่า แต่กฎหมายทำอะไรเด็กพวกนี้ไม่ได้ เขาไม่กลัว เพราะเขาจะล้มรัฐธรรมนูญ แต่ผมไม่ได้ปะทะกับเด็กๆ ผมช่วยเขาออกมา แต่ผมไม่ทำอะไรเขาทั้งนั้น แต่บอกว่าให้เขาเอาเพื่อนกลับไป แล้วผมก็ห้าม ผมขอบอกคนจัดเมื่อวาน(17 พ.ย.) กลุ่มที่มาจากชลบุรี 12 คันรถ กลับบ้านโดยสวัสดิภาพแล้ว แต่ผมจะไม่ขอบคุณ ศปปส. พวกคุณทิ้งพวกผม คุณทิ้งมวลชน คุณทำผิดคุณไปแก้ไข วันนี้คุณเป็นผู้นำไม่ได้แล้ว”
“อย่าบอกว่าจะฟ้องผม คุณฟ้องมาเลยว่าทำให้กลุ่มคุณเสียชื่อเสียง คุณฟ้องผม แล้วคุณพูดมาด้วยว่า คุณอยู่ตรงไหนของแฟลตทหาร แล้วใครเป็นคนพาเข้า คุณพูดให้ได้ ถ้าไม่มีความจริงมาพูด ผมตบหน้าคุณนะ แล้วมาดูกัน ไม่ใช่เหลืองกัดกันเอง แต่เอาความจริงมาพูดกัน -ึงหนี -ึงเอาอาชีวะมาเป็นโล่ให้พวก-ึง ไ-้น้องหัวโล้นที่ถือมีด พี่น้องเรา วันนี้ขอฝากช่วยแชร์ประณามเขาว่าอย่าเทมวลชนและประชาชน” ชายเสื้อเหลืองกล่าวทิ้งท้าย
https://www.facebook.com/SirawitChuangsen/posts/204929767675330
ด่วน! เผยผลตรวจ "น้ำ" สลายม็อบหน้าสภา พบสารเคมีสำคัญ โดนตัวไปอันตราย!
https://www.khaosod.co.th/politics/news_5367025
ด่วน! "อาจารย์อ๊อด" เผยผลตรวจ "น้ำ" ในเหตุการณ์ สลายม็อบ "ราษฎร" หน้ารัฐสภา พบสารเคมี ที่ใครโดน สุดอันตราย ทั้งทำลายดวงตา ผิวหนังจะไหม้อย่างรุนแรง
วันนี้ (20 พ.ย.) รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยผลการตรวจสอบสารเคมีที่อยู่ในน้ำซึ่งเก็บจากสถานที่เกิดเหตุปะทะบริเวณแยกเกียกกาย ทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า
หลักๆ เจอสารเคมีในน้ำตัวอย่าง 5 ตัวนะครับ ขอเวลาวิเคราะห์ผล ค่ำๆ น่าจะรู้ว่าแต่ละตัวคืออะไรบ้าง โดยตัวอย่างน้ำ ณ สถานที่เกิดเหตุปะทะ บริเวณแยกเกียกกาย กำลังดำเนินการคุณภาพวิเคราะห์ด้วยเทคนิคขั้นสูงโดยเครื่อง GC-MS นะครับ ค่ำๆ รู้ผล
ต่อมา เมื่อเวลา 15.56 น. รศ.ดร.วีรชัย ได้โพสต์เฟซบุ๊กอีกครั้ง เผยผลตรวจดังกล่าว ระบุว่า
ผลการวิเคราะห์น้ำที่เก็บได้จากแนวปะทะที่เกียกกาย ไม่รู้น้ำใครนะ #อนุญาตให้เผยแพร่ข้อมูลทางวิชาการนี้ทั้งภาพและคลิป
======================
น้ำที่เก็บมามีสีฟ้าออกน้ำเงินนะครับเนื่องจากว่า ปนเปื้อนกับสีที่ผู้ชุมนุมใช้สีน้ำเงิน จึงปนกันกับน้ำสีม่วง แต่อาจารย์อ๊อดนำมาสกัดด้วย DCM จนได้สารละลายสีม่วงพร้อมกับสารที่อยู่ในนั้นออกมาแยกชั้นตามภาพที่ 1-3
...............
อาจารย์อ๊อดเอาสารละลายสีม่วง ที่ได้มาวิเคราะห์ด้วยเทคนิค gc-ms (Gas chromatography–mass spectrometry (GC-MS)) พบว่าสีม่วงคือ Methylviolet 2b (เมทิลไวโอเลททูบี) ซึ่งเป็นสีม่วงธรรมดา ไม่มีพิษภัยอะไร และเจอสาร สำคัญ 5 ตัว ในสารละลายสีม่วงนั้น คือ
...............
(1) Dimethyl sulfoxide, DMSO (ไดเมททิล ซัลฟอกไซด์)
เป็นสารประกอบอินทรีย์ซัลไฟด์ มีลักษณะเป็นของเหลวไม่มีสี จุเดเดือดสูง นิยมใช้เป็นตัวทำละลายและใช้เป็นสารทำความสะอาดส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองถ้าได้รับในปริมาณมาก
(2) 2-Chlorobenzaldehyde (2-คลอโรเบนซัลดีไฮด์)
ลักษณะไม่มีสีหรือของเหลวใสสีเหลืองเล็กน้อย ข้อควรระวังคือทำให้ผิวหนังไหม้อย่างรุนแรงและทำลายดวงตา
โดย 2-Chlorobenzaldehyde ใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิต o-chlorobenzylidene malononitrile หรือ 2-chlorobenzalmalononitrile หรือ o-Chlorobenzylmalononitrile ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ในแก๊สซีเอส (CS gas)
ซึ่งเมื่อโดนแก๊สน้ำตาเข้าไปแล้ว จะเกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุตาและแก้วตาดำ ทำให้มีน้ำตาไหลออกมาก เยื่อบุตาจะแดงและแก้วตาดำจะบวม ตามองไม่เห็น น้ำมูกน้ำลายไหล ไอ หายใจลำบาก เมื่อร่างกายสัมผัสกับแก๊สน้ำตามักจะเกิดอาการภายในวินาทีหรือหลายนาที อาการจะเป็นอยู่นานประมาณ 15 –30 นาทีส่วนใหญ่จะหายเองภายในหนึ่งชั่วโมง
(3) 2-Chlorobenzyl alcohol (2-คลอโรเบนซิลแอลกอฮอล์) มีลักษณะเป็นผงสีขาว โดยสารตัวนี้ก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ทั้งต่อดวงตา ผิวหนัง แม้แต่การสูดดมเข้าไป
(4) 2-chlorobenzalmalononitrile (2-คลอโรเบนซัลมาโลโนไนไตร) หรือ o-Chlorobenzylmalononitrile (CS gas)
2-chlorobenzalmalononitrile หรือ o-Chlorobenzylmalononitrile ทางทหารเรียกสั้นๆว่า CS จัดเป็นอาวุธเคมี (chemical weapon) ที่ใช้คุมฝูงชน แต่ไม่ทำให้ถึงตาย (non-lethal chemical weapon) โดยปกติในอุณหภูมิห้อง ไม่ได้อยู่ในสถานะก๊าซ เป็นของแข็ง แต่ทำเป็นละอองได้ เหมือนสเปย์พริกไทย
(5) o-Chlorobenzylmalononitrile เป็นสารก่อการระเคืองเหมือนกันที่อยู่ใน CS gas เหมือนกัน เป็นอนุพันธ์ของสารหมายเลข (4)
===========
สารหมายเลข 1 เป็นตัวทำละลาย เพื่อทำให้สารอีก 4 ตัวละลายรวมเป็นเนื้อเดียวกันเป็นหัวเชื้อ ส่วนสารหมายเลข 2 3 4 5 เป็นกลุ่มแก๊สน้ำตาซึ่งใส่ตัวเดียวก็เกินพอแล้วครับแต่ใส่ไปทั้งหมด 4 ตัว
===========
ความเข้มข้นที่คำนวณได้จากเครื่อง
(1) = 10.39 % V/V
(2) = 10.87 % V/V
(3) = 8.56 % V/V
(4) = 63.93 % V/V
(5) = 6.25 % V/V
==========
งานวิชาการที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันได้แน่นอนว่า ความเข้มข้น 1% เทียบกับ 5% แก๊สน้ำตา(CS) อันไหนอันตรายกว่ากัน เนื่องจากความเสียหายส่วนใหญ่มาจากระยะในการยิง
ผลกระทบในคนได้มีการศึกษาผลของ CS smoke or aerosol and exposure via inhalation พบว่า aerosol เมื่อทำการผลิตโดยวิธี thermal dispersionที่มีขนาด 0.5um ในตัวทำละลาย methylene chlorideทำการศึกษากับอาสาสมัครเป็นเวลา90นาทีในพื้นที่ขนาด 0.5-1 mg/m3 พบว่าอาสาสมัครมีอาการผิวไหม้บริเวณปาก หายใจแล้วแสบรวมถึงแน่นหน้าอก
อ้างอิง : https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC1127513/
https://www.facebook.com/phutdhawong/posts/3516187921804826