บ้านทุกหลังต้องการแสงสว่าง ไม่เฉพาะแสงจากธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังต้องการแสงประดิษฐ์จากหลอดไฟ และแสงไฟไม่ได้ทำหน้าที่ให้ความสว่างสไวเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถใช้สร้างบรรยากาศให้แตกต่าง หรือเติมการสะท้อนแสงเงา ช่วยเพิ่มมิติในจุดที่ต้องการเน้นเป็นพิเศษได้ด้วย เนื้อหานี้
“HomeGuru” จะพามาทำความรู้จักสีของแสงหรือ สีหลอดไฟ ให้มากขึ้น เพื่อเลือกใช้หลอดไฟให้สื่อสารอารมณ์ที่เจ้าของบ้านต้องการนำเสนอให้มากที่สุด
แสงสีไหนให้ความรู้สึกอย่างไร
การจัดแสงไฟเป็นหนึ่งกลวิธีที่นักออกแบบภายในใช้สร้างบรรยากาศบ้านให้มีความน่าสนใจมากขึ้น นั่นเป็นเพราะแสงจะมี “สี” ที่ให้ความรู้สึกต่างกัน การเลือกแสงของหลอดไฟให้ตรงกับการใช้งานภายในบ้านจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยหลอดไฟมาตรฐานทั่วไปที่นิยมใช้ในบ้าน จะมี 4 โทนสี ซึ่งแต่ละแบบก็เหมาะใช้กับสถานที่หรือสร้างบรรยากาศตามบริบทที่ต่างกันไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อ่านความรู้เรื่องดิมเมอร์เพิ่มเติมได้ที่ “ดิมเมอร์” เปลี่ยนจากสวิตซ์ไฟธรรมดาได้ง่ายๆ
อ่านความรู้เรื่องหลอดไฟ LED เพิ่มเติมได้ที่ การเลือกซื้อหลอดไฟ LED รู้ก่อนซื้อจะได้ไม่พลาด!
แสงวอร์มไวท์ (warm white)
เป็นสีโทนอุ่นออกสีทองส้ม แสงนวลตาไม่สว่างมากนัก ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย อบอุ่น และบรรยากาศโรแมนติก แสงวอร์มไวท์ยังสะท้อนวัสดุประดับตกแต่งที่ให้แสงสีทองสร้างความรู้สึกหรูหรามีระดับ สีของแสงประเภทนี้จึงเหมาะสำหรับการใช้งานตกแต่งหรือห้องที่ไม่ต้องการแสงสว่างมากนัก เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร รวมไปถึงการประยุกต์ใช้ร่วมกับการจัดสวนที่ต้องการความอบอุ่นอ่อนหวานได้ดี
Tips : สำหรับคนที่นอนหลับยาก ลองเปลี่ยนหลอดไฟภายในห้องนอนมาเป็นแสงวอร์มไวท์ โทนแสงสีส้มจะช่วยสร้างบรรยากาศให้เกิดการง่วงหาวนอน แตกต่างจากแสงไฟสีขาว จะทำให้ร่างกายตื่นตัวจึงนอนหลับได้ยากกว่า
เนเชอรัลไวท์ (Natural white)
เป็นโทนสีธรรมชาติกลางๆ โทนแสงช่วงเดียวกับแสงในเวลากลางวัน และยังมีความอุ่นอยู่แต่สีจะเริ่มออกมาทางสีขาว ค่อนข้างสว่างกว่าเมื่อเทียบกับ warm white แต่มองเห็นสิ่งรอบตัวชัดเจนกว่าสามารถใช้งานได้ทั่วไป เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ง่ายทุกห้อง เช่น ห้องรับประทานอาหาร ห้องแต่งตัว และห้องนอน
คูลไวท์ (Cool White)
โทนของแสงใกล้เคียงกับเนเชอรัลไวท์ไล่ระดับความสว่างมากขึ้นมาอีก ลักษณะเป็นแสงสีขาวที่ให้ความทันสมัย จึงให้ความสว่างที่ค่อนข้างสบายตา สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานได้ทุกรูปแบบทั้งภายในและภายนอก แสงสีนี้เมื่อสะท้อนกับสแตนเลสจะแวววาวให้ความรู้สึกทันสมัยจึงเหมาะกับการตกแต่งห้องครัวโมเดิร์น ห้องรับแขก หรือห้องใดๆ ที่ต้องการแสงสว่างขนาดพอเหมาะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อ่านวิธีจัดไฟในห้องนอนเพิ่มเติมได้ที่ จัดไฟห้องนอน ให้พักผ่อนหลับสบาย
อ่านความรู้เรื่องสวิตช์ 2 ทางเพิ่มเติมได้ที่ สวิตช์ 2 ทาง คืออะไร และจุดไหนบ้างที่ควรติดตั้ง
เดย์ไลท์ (Day Light)
เป็นแสงไฟสีขาวที่ค่อนไปโทนสีฟ้า เน้นการให้ความสว่างสูง สีของแสงช่วยให้มองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ชัดเจนในทุกมิติ ภายในบ้านจะรู้สึกถึงความสะอาด สดชื่น กระตือรือร้น เหมาะสำหรับห้องหรือสถานที่ที่ต้องการแสงสว่างอย่างเพียงพอ อาทิ ออฟฟิศ ห้องเรียน มุมอ่านหนังสือ และมุมแต่งหน้าที่ทำให้สีสันของเครื่องสำอางไม่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม
หลอดไฟเปลี่ยนสีได้ จบทุกฟิลลิ่งในหลอดเดียว
ในแต่ละวันแม้จะอยู่ในห้องเดิมก็อาจต้องการบริบทของแสงที่ไม่เหมือนกัน บางครั้งอาจจะต้องการแสงสว่างเพื่อทำงานในห้องนอน บางวันอยากได้ความผ่อนคลายชิลๆ กับแสงอุ่นๆ แบบร้านกาแฟ Mood ที่แตกต่างก็ต้องการรูปแบบแสงที่เข้ากันได้ หากเป็นเมื่อก่อนหากต้องการเปลี่ยนแสงในห้อง แทบจะไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะเปลี่ยนหลอดไฟเป็นจุดๆ แต่ยุคนี้เราสามารถตอบโจทย์ชีวิตให้ครอบคลุมมากขึ้นด้วยการติดตั้งหลอดไฟที่ออกแบบฟังก์ชันให้สามารถเปลี่ยนสีได้มากกว่า 1 สีในหลอดเดียว ซึ่งแบรนด์ต่างๆ ได้ทำการออกแบบมาให้ตอบโจทย์กับความต้องการมากที่สุด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อ่านวิธีเปลี่ยนหลอดไฟ LED เพิ่มเติมได้ที่ เปลี่ยนหลอดไฟแอลอีดี ไม่ยากอย่างที่คิด
อ่านความรู้เรื่องแสงไฟเพิ่มเติมได้ที่ มาทำความรู้จักกับ “แสงไฟ”
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ จากห้องธรรมดาห้องเดิม อาจกลายเป็นห้องโปรดที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น เพียงแค่ปรับแสง ปรับอารมณ์ด้วยสีสันจากหลอดไฟ สำหรับใครที่อยากจะเปลี่ยนอารมณ์เติมเสน่ห์ให้บ้านแบบง่ายๆ ไม่ต้องลงทุนมากแต่ได้ผลทันที ต้องลองหาซื้อหลอดไฟในรุ่นที่ชอบมาติดตั้งในบ้านกันดูครับ
HomeGuru by HomePro
อุ่นใจทุกเรื่องบ้านไปกับโฮมโปร และติดตามเคล็ดลับดีๆ เพื่อบ้านได้ทาง
http://bit.ly/HomeGuru_Homepro
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหาเรื่องบ้านกับ HomeGuru เพิ่มเติมได้ทาง
https://bit.ly/3dQm4XE
เปลี่ยนบรรยากาศในบ้านด้วย “สีหลอดไฟ”
บ้านทุกหลังต้องการแสงสว่าง ไม่เฉพาะแสงจากธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังต้องการแสงประดิษฐ์จากหลอดไฟ และแสงไฟไม่ได้ทำหน้าที่ให้ความสว่างสไวเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถใช้สร้างบรรยากาศให้แตกต่าง หรือเติมการสะท้อนแสงเงา ช่วยเพิ่มมิติในจุดที่ต้องการเน้นเป็นพิเศษได้ด้วย เนื้อหานี้ “HomeGuru” จะพามาทำความรู้จักสีของแสงหรือ สีหลอดไฟ ให้มากขึ้น เพื่อเลือกใช้หลอดไฟให้สื่อสารอารมณ์ที่เจ้าของบ้านต้องการนำเสนอให้มากที่สุด
แสงสีไหนให้ความรู้สึกอย่างไร
การจัดแสงไฟเป็นหนึ่งกลวิธีที่นักออกแบบภายในใช้สร้างบรรยากาศบ้านให้มีความน่าสนใจมากขึ้น นั่นเป็นเพราะแสงจะมี “สี” ที่ให้ความรู้สึกต่างกัน การเลือกแสงของหลอดไฟให้ตรงกับการใช้งานภายในบ้านจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยหลอดไฟมาตรฐานทั่วไปที่นิยมใช้ในบ้าน จะมี 4 โทนสี ซึ่งแต่ละแบบก็เหมาะใช้กับสถานที่หรือสร้างบรรยากาศตามบริบทที่ต่างกันไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสงวอร์มไวท์ (warm white)
เป็นสีโทนอุ่นออกสีทองส้ม แสงนวลตาไม่สว่างมากนัก ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย อบอุ่น และบรรยากาศโรแมนติก แสงวอร์มไวท์ยังสะท้อนวัสดุประดับตกแต่งที่ให้แสงสีทองสร้างความรู้สึกหรูหรามีระดับ สีของแสงประเภทนี้จึงเหมาะสำหรับการใช้งานตกแต่งหรือห้องที่ไม่ต้องการแสงสว่างมากนัก เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร รวมไปถึงการประยุกต์ใช้ร่วมกับการจัดสวนที่ต้องการความอบอุ่นอ่อนหวานได้ดี
Tips : สำหรับคนที่นอนหลับยาก ลองเปลี่ยนหลอดไฟภายในห้องนอนมาเป็นแสงวอร์มไวท์ โทนแสงสีส้มจะช่วยสร้างบรรยากาศให้เกิดการง่วงหาวนอน แตกต่างจากแสงไฟสีขาว จะทำให้ร่างกายตื่นตัวจึงนอนหลับได้ยากกว่า
เนเชอรัลไวท์ (Natural white)
เป็นโทนสีธรรมชาติกลางๆ โทนแสงช่วงเดียวกับแสงในเวลากลางวัน และยังมีความอุ่นอยู่แต่สีจะเริ่มออกมาทางสีขาว ค่อนข้างสว่างกว่าเมื่อเทียบกับ warm white แต่มองเห็นสิ่งรอบตัวชัดเจนกว่าสามารถใช้งานได้ทั่วไป เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ง่ายทุกห้อง เช่น ห้องรับประทานอาหาร ห้องแต่งตัว และห้องนอน
คูลไวท์ (Cool White)
โทนของแสงใกล้เคียงกับเนเชอรัลไวท์ไล่ระดับความสว่างมากขึ้นมาอีก ลักษณะเป็นแสงสีขาวที่ให้ความทันสมัย จึงให้ความสว่างที่ค่อนข้างสบายตา สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานได้ทุกรูปแบบทั้งภายในและภายนอก แสงสีนี้เมื่อสะท้อนกับสแตนเลสจะแวววาวให้ความรู้สึกทันสมัยจึงเหมาะกับการตกแต่งห้องครัวโมเดิร์น ห้องรับแขก หรือห้องใดๆ ที่ต้องการแสงสว่างขนาดพอเหมาะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เดย์ไลท์ (Day Light)
เป็นแสงไฟสีขาวที่ค่อนไปโทนสีฟ้า เน้นการให้ความสว่างสูง สีของแสงช่วยให้มองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ชัดเจนในทุกมิติ ภายในบ้านจะรู้สึกถึงความสะอาด สดชื่น กระตือรือร้น เหมาะสำหรับห้องหรือสถานที่ที่ต้องการแสงสว่างอย่างเพียงพอ อาทิ ออฟฟิศ ห้องเรียน มุมอ่านหนังสือ และมุมแต่งหน้าที่ทำให้สีสันของเครื่องสำอางไม่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม
หลอดไฟเปลี่ยนสีได้ จบทุกฟิลลิ่งในหลอดเดียว
ในแต่ละวันแม้จะอยู่ในห้องเดิมก็อาจต้องการบริบทของแสงที่ไม่เหมือนกัน บางครั้งอาจจะต้องการแสงสว่างเพื่อทำงานในห้องนอน บางวันอยากได้ความผ่อนคลายชิลๆ กับแสงอุ่นๆ แบบร้านกาแฟ Mood ที่แตกต่างก็ต้องการรูปแบบแสงที่เข้ากันได้ หากเป็นเมื่อก่อนหากต้องการเปลี่ยนแสงในห้อง แทบจะไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะเปลี่ยนหลอดไฟเป็นจุดๆ แต่ยุคนี้เราสามารถตอบโจทย์ชีวิตให้ครอบคลุมมากขึ้นด้วยการติดตั้งหลอดไฟที่ออกแบบฟังก์ชันให้สามารถเปลี่ยนสีได้มากกว่า 1 สีในหลอดเดียว ซึ่งแบรนด์ต่างๆ ได้ทำการออกแบบมาให้ตอบโจทย์กับความต้องการมากที่สุด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ จากห้องธรรมดาห้องเดิม อาจกลายเป็นห้องโปรดที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น เพียงแค่ปรับแสง ปรับอารมณ์ด้วยสีสันจากหลอดไฟ สำหรับใครที่อยากจะเปลี่ยนอารมณ์เติมเสน่ห์ให้บ้านแบบง่ายๆ ไม่ต้องลงทุนมากแต่ได้ผลทันที ต้องลองหาซื้อหลอดไฟในรุ่นที่ชอบมาติดตั้งในบ้านกันดูครับ
HomeGuru by HomePro
อุ่นใจทุกเรื่องบ้านไปกับโฮมโปร และติดตามเคล็ดลับดีๆ เพื่อบ้านได้ทาง http://bit.ly/HomeGuru_Homepro
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหาเรื่องบ้านกับ HomeGuru เพิ่มเติมได้ทาง https://bit.ly/3dQm4XE