ตั้งแต่คบกันมา 5 ปี เขาดีกับเรามาก ช่วยเหลือเราทุกอย่าง ดูแลพ่อแม่เรา แต่ข้อเสียของเขาคือ ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน แฟนจะบอกเลิกเราทุกครั้ง และไล่เราไปอยู่ที่อื่น ซึ่งเราไม่เคยพูดเลย ถ้าไม่รู้สึกว่าอยากเลิกจริงๆ แม้กระทั้งวันที่เราย้ายออกมา เราก็ไม่ปริปากพูดว่าเลิกกับเขา ส่วนใหญ่ที่ทะเลาะก็มีแต่เรื่องไร้สาระ
แล้วทุกครั้งที่ทะเลาะ เขาจะแยกของทุกอย่าง เช่น ไม่ให้เราซักผ้าให้ ไม่ให้ทำกับข้าวให้ หรือไม่นอนเตียงเดียวกัน (เราแต่งงานกันแล้ว)เราก็พยายามใจเย็นทุกครั้ง เราพูดกับเขาว่า นี่เราแค่ทะเลาะกันนะ ไม่ได้เกลียดกัน ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย คู่รักเราทะเลาะกันได้ โกรธกันได้ แต่ก็ทำหน้าที่ของตัวเองเหมือนเดิม เราไม่ใช่เด็กที่ต้องมานั่งแยกสิ่งของ แล้วถ้ามีลูกต่อไปทำแบบนี้ ลูกจะคิดยังไง เห็นพ่อกับแม่มานั่งแยกสิ่งของกัน
จนครั้งล่าสุด เราขอไปดูคอนเสิร์ตศิลปินกลุ่มนึง เขาไม่พอใจ โวยวายว่าเราให้ความสำคัญคนอื่นมากกว่า บอกให้เราเลือก เราเลยถามว่าให้เราเลือกอะไร แค่ไปดูคอนเสิร์ต แต่เขาบอกถ้าเลือกมันก็เลิกกันไปเลย และขนของออกไป เราไม่เข้าใจ คำพูดที่เขาพูดกับเราเหมือนเราไปมีชู้ แล้วมาทะเลาะกันเรื่องศิลปินที่เขาไม่รู้จักแม้กระทั่งเรา พอจะอธิบายก็ไม่ให้เราพูด
เราก็เลยตัดสินใจที่จะย้ายออก เขารื้อที่นอนที่เราซื้อขึ้น ไม่ยอมนอนที่นอนของเรา ส่วนเรานอนข้างล่าง พอตอนเช้า เขาก็ทำท่าเอาขาก่ายที่นอนแล้วก็ยันๆ ให้ที่นอนตกจากเตียงมาทับเรา ทำไมต้องทำอะไรเหมือนเด็กๆ อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ เราไม่อยากที่จะอดทนกับอะไรแบบนี้แล้ว เลยย้ายมาอยู่คนเดียวทั้งทีไม่มีเงินสักบาท แต่เรากลับโดนว่า ว่าเราทิ้งเขา เขายังมีแม่ ยังมีญาติๆ ที่คอยช่วยเหลือ แต่เราไม่มีใคร ก็มีแต่เขา
มันเจ็บปวดทุกครั้งที่โดนเขากระทำแบบนี้ เหมือนเอามีดค่อยๆเฉือนเนื้อออกทีละนิด จนหมด สุดท้ายมาถามว่าเรารักเขามั้ย ทั้งๆที่มันไม่มีหัวใจแล้ว
ที่เราตัดสินใจย้ายออกมา เขาคิดว่าเราเลือกศิลปินมากกว่าเขา แต่จริงๆแล้ว เราเบื่อความงี่เง่าไม่มีเหตุผลมากกว่าที่ต้องเจอกับเรื่องปัญญาอ่อนแบบนี้ทุกครั้ง คอนเสิร์ตเราก็ไม่ได้ไปดู ทิ้งเงินส่วนนั้นไปเลย เพราะต้องย้ายห้อง นี่เราทำถูกแล้วใช่มั้ย เรายังรักเขานะ อยากใช้ชีวิตกับเขา อยากมีลูกด้วยกัน แต่อยากให้เขาเลิกเป็นแบบนี้ เราเหนื่อยที่จะทะเลาะ
แฟนบอกเลิก เพราะไปดูคอนเสิร์ตศิลปิน
แล้วทุกครั้งที่ทะเลาะ เขาจะแยกของทุกอย่าง เช่น ไม่ให้เราซักผ้าให้ ไม่ให้ทำกับข้าวให้ หรือไม่นอนเตียงเดียวกัน (เราแต่งงานกันแล้ว)เราก็พยายามใจเย็นทุกครั้ง เราพูดกับเขาว่า นี่เราแค่ทะเลาะกันนะ ไม่ได้เกลียดกัน ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย คู่รักเราทะเลาะกันได้ โกรธกันได้ แต่ก็ทำหน้าที่ของตัวเองเหมือนเดิม เราไม่ใช่เด็กที่ต้องมานั่งแยกสิ่งของ แล้วถ้ามีลูกต่อไปทำแบบนี้ ลูกจะคิดยังไง เห็นพ่อกับแม่มานั่งแยกสิ่งของกัน
จนครั้งล่าสุด เราขอไปดูคอนเสิร์ตศิลปินกลุ่มนึง เขาไม่พอใจ โวยวายว่าเราให้ความสำคัญคนอื่นมากกว่า บอกให้เราเลือก เราเลยถามว่าให้เราเลือกอะไร แค่ไปดูคอนเสิร์ต แต่เขาบอกถ้าเลือกมันก็เลิกกันไปเลย และขนของออกไป เราไม่เข้าใจ คำพูดที่เขาพูดกับเราเหมือนเราไปมีชู้ แล้วมาทะเลาะกันเรื่องศิลปินที่เขาไม่รู้จักแม้กระทั่งเรา พอจะอธิบายก็ไม่ให้เราพูด
เราก็เลยตัดสินใจที่จะย้ายออก เขารื้อที่นอนที่เราซื้อขึ้น ไม่ยอมนอนที่นอนของเรา ส่วนเรานอนข้างล่าง พอตอนเช้า เขาก็ทำท่าเอาขาก่ายที่นอนแล้วก็ยันๆ ให้ที่นอนตกจากเตียงมาทับเรา ทำไมต้องทำอะไรเหมือนเด็กๆ อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ เราไม่อยากที่จะอดทนกับอะไรแบบนี้แล้ว เลยย้ายมาอยู่คนเดียวทั้งทีไม่มีเงินสักบาท แต่เรากลับโดนว่า ว่าเราทิ้งเขา เขายังมีแม่ ยังมีญาติๆ ที่คอยช่วยเหลือ แต่เราไม่มีใคร ก็มีแต่เขา
มันเจ็บปวดทุกครั้งที่โดนเขากระทำแบบนี้ เหมือนเอามีดค่อยๆเฉือนเนื้อออกทีละนิด จนหมด สุดท้ายมาถามว่าเรารักเขามั้ย ทั้งๆที่มันไม่มีหัวใจแล้ว
ที่เราตัดสินใจย้ายออกมา เขาคิดว่าเราเลือกศิลปินมากกว่าเขา แต่จริงๆแล้ว เราเบื่อความงี่เง่าไม่มีเหตุผลมากกว่าที่ต้องเจอกับเรื่องปัญญาอ่อนแบบนี้ทุกครั้ง คอนเสิร์ตเราก็ไม่ได้ไปดู ทิ้งเงินส่วนนั้นไปเลย เพราะต้องย้ายห้อง นี่เราทำถูกแล้วใช่มั้ย เรายังรักเขานะ อยากใช้ชีวิตกับเขา อยากมีลูกด้วยกัน แต่อยากให้เขาเลิกเป็นแบบนี้ เราเหนื่อยที่จะทะเลาะ