realme แบรนด์สมาร์ทโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกเปิดตัว realme Narzo 20 Pro สมาร์ทโฟนซีรีส์ใหม่ ที่มาพร้อมฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และพร้อมมอบความบันเทิงได้มากยิ่งขึ้นกับคนรุ่นใหม่ นอกจากนี้ ยังเปิดตัว realme UI 2.0 ที่ถูกอัพเกรดให้เข้ากับการใช้งานของเหล่าคน Gen Z ยิ่งขึ้น แน่นอนว่ามาพร้อมกับสเปกที่จัดเต็มพอสมควรในเรทราคานี้ทั้งเรื่องของ เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charge เต็ม100% ภายใน 34 นาที ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Helio G95 Gaming Processor กล้องหลัง AI 4 เลนส์ ความละเอียด 48MP หน้าจอ Ultra smooth display 90Hz และแบตเตอรี่ความจุ 4,500 mAh และงานออกแบบที่มีความแปลกใหม่มากขึ้น ทั้งลวดลายฝาหลังต่างๆนั้นเอง จะเน้นกลุ่มที่เน้นสเปกมากขึ้นไปอีกขั้นในการใช้งานเล่นเกมพร้อมกับ ประสบการณ์ความบันเทิงบนสมาร์ทโฟนในแง่ของเกม วิดีโอ และ Multi-tasking ทั้งหลาย
realme narzo 20 Pro นั้นมาพร้อมกับ การที่เน้นสเปกมากขึ้นในเรื่องของCPU ที่แรงขึ้นถ้าหากไปเทียบกับในเรทราคาใกล้กันนั้นเอง ใช้งาน ชิปเซต MediaTek Helio G95 12nm มาพร้อมการ์ดจอ Mali-G76 3EEMC4 พร้อมกับ RAM LPPDDR4x 8GB + storage (UFS 2.1) 128GB และแน่นอนว่าใส่เทคโนโลยี ชาร์จไว 65W เข้ามาให้พร้อมใช้งานไม่แตกต่างกับรุ่นพี่เลย ใส่แบตเข้ามาให้ ความจุ 4,500mAh พร้อมกับใช้งาน หน้าจอ LCD ขนาด 6.5 นิ้ว (2400 × 1080 พิกเซล) Full HD+, มีรีเฟรชเรท 90Hz, ใช้กระจก Gorilla Glass 3+ กล้องหลัง 4 ตัว เลนส์หลักนั้น กล้องหลัง 48MP (f/1.8) + กล้อง ultra-wide 119° 8MP ( f/2.3) + กล้อง portrait B&W 2MP + กล้องมาโครขนาด 4cm 2MP (f/2.4), LED flash และ กล้องหน้า 16MP (f/2.1) ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX471 ถือว่าสเปกภาพรวมนั้นสบายๆในการใช้งาน และได้ชาร์จไวมาในเรทราคานี้ถือว่าดี
realme NARZO 20 PRO RAM 8GB STOPRAGE 128GB เปิดราคา 8,499 บาทไทย
UNBOX
ตัวกล่องนั้นยังคงมีการออกแบบสีเหลืองเช่นเดิม พร้อมกับตัวเลขทางด้านบนแน่นอนว่ามีเลขพร้อมบอกรุ่น แต่จะไม่ได้มีรูปตัวเครื่องอะไรมา ส่วนทางด้านอุปกรณ์ในกล่องนั้นยังไม่ได้มีอะไรเพิ่มใกล้เคียงกับรุ่นก่อนหน้าและรุ่นอื่นๆในเรท
- ตัวเครื่อง realme Narzo 20 Pro
- เคสใส TPU
- คู่มือ ที่จิ้มซิม
- ที่ชาร์จ 65W
- สายชาร์จ USB-A ไป USB-C
- ฟิล์มกันรอยติดมาให้แล้ว
เคสนั้นจะมีความหนาเป็นสีเทาๆเข้มๆเล็กน้อยใส่แล้วฝาหลังสะท้อนน้อยลงไปแบบชัดเจน การปกป้องนั้นในทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ตัวขอบกินเข้ามาบนหน้าจอ และมีความหนาสูงกว่าหน้าจอทำให้วางคว่ำได้สบาย คล้ายๆกับเคสรุ่นก่อน ส่วนฝาหลังนั้นก็คลุมได้หมด รวมถึงตัวเลนส์กล้องนั้นก็ทำออกมาปิดได้ดีมีความหนาขึ้นมาปกป้องได้เวลาวางต่างๆใช้งานทั่วไปคล้ายกับรุ่นก่อนๆของทาง realme หรือ ในรุ่นก่อนหน้านี้ถือว่าปกป้องได้ดีใช้งานได้จริง จะเห็นได้ว่าตัวเคสนั้นมีความนูนขึ้นมาปกป้องตัวเลนส์และหน้าจอขึ้นมาอีก และ ทั้ง 4 มุมนั้นในด้านหน้าจะทำความสูงพิเศษขึ้นมาเพื่อที่จะปกป้องหน้าจอให้ดีขึ้นไปอีกเวลาตกหรือวางคว่ำ ซึ่งเคสปกติทั้วไปจะไม่มีมุมพิเศษขึ้นมา
DESIGN
งานออกแบบในตระกูล NARZO นั้นจะพยายามทำให้มีความแตกต่างกับรุ่นอื่นๆของทางค่ายและเน้นแรงบันดาลใจสำหรับสายเกมมิ่งมากขึ้น ฝาหลังนั้นเล่นลวดลายแปลกตาสำหรับค่ายนี้เป็นตัว V สวยงามเล่นกับแสงสะท้อนได้ดีและแม้จะเป็นสีดำเองก็ตาม แต่ถ้าเจอแสงก็สวยงามพอสมควรเลยแหละ พร้อมกับวัสดุที่เป็นพลาสติก ตามเรทราคาของรุ่นนี้ และมาพร้อมกับสีขาว และ สีดำให้เลือกใช้งานกัน ส่วนน้ำหนักอะไรนั้นไม่ได้หนีจากพวกรุ่น realme 7i มากนักรวมถึงขนาดด้วยเช่นกัน แต่จะแตกต่างกันในแง่ของสเปก การออกแบบ ฝาหลังเล่นลวดลายต่างกันนั้นเอง
ในด้านหน้านั้นจะมาพร้อมกับ หน้าจอ 6.5 นิ้ว IPS LCD และมาพร้อมกับความละเอียด HD+ 1600×720 รองรับ 90Hz และ ดีไซน์หน้าจอแบบเจาะรูมุมซ้ายบน รองรับการใช้งานความสว่างสูงสุด 600 NITS สบายๆตัวนี้
ในส่วนขอบล่างหน้าจอนั้นปุ่มควบคุมนั้นจะอยู่ในหน้าจอ สามารถใช้งานเต็มหน้าจอได้แบบไม่มีปุ่ม ส่วนขอบข้างๆนั้นก็ทำได้บางพอๆกับรุ่นก่อนหน้านี้เลย และรู้สึกว่าขอบล่างทำได้บางพอๆกัน
ขอบหน้าจอส่วนบนนั้นจะเป็นที่อยู่ของกล้องหน้า 16MP F2.1 IMX471 พร้อมกับเป็นดีไซน์แบบหน้าจอเจาะรู งานออกแบบสวยเหมือนกับรุ่นพี่เลย อีกทั้งขอบเครื่องหน้าจอมีความบางขึ้น อัตราส่วนเต็มตามากขึ้นพร้อมกับแทรกลำโพงไว้ขอบเครื่องด้านบนด้วยเช่นกัน
ขอบเครื่องด้านล่างนั้นจะเป็น ลำโพงหลัก ช่อง USB-C และ รูไมค์ 2 ตัว รวมถึงรูหูฟัง 3.5 มม. นั้นยังอยู่ รุ่นนี้จะไม่มีการเล่นลวดลายอะไร เป็นแบบด้านจะเรียบๆเลยนั้นเอง การวางตำแหน่งเหมือนเดิมกับรุ่นก่อนๆเลย
ด้านขวานั้นจะเห็นว่าตัวเครื่องมี ปุ่ม Power ใส่เข้ามาให้รองรับการสแกนนิ้วในด้านข้าง ไม่มีการเล่นเส้นสายข้างๆ แต่เฟรมทั้งหมดก็ตามราคาคือจะเป็นพลาสติกทำสีด้านทั้งหมดเลย สวยงามใช้ได้เน้นความเรียบๆทั้งหมดสีดำเป็นหลัก
ในส่วนของด้านบนนั้นไม่มีรูไมค์ตัดเสียงมาให้ครับเป็นสีเงินเขียว แบบเดียวกับข้างอื่นๆ ส่วนวัสดุขอบเครื่องทั้งหมดจะเป็นพลาสติกด้าน แต่ฝาหลังนั้นจะยังโค้งมารับมือเหมือนกับรุ่นอื่นๆในยุคนี้ของค่ายทำให้จับถนัดมือ
ส่วนของด้านซ้ายนั้นจะเห็นว่าตัวเครื่องมี ปุ่มเพิ่ม ลดเสียง และมี ช่องใส่ถาดซิมครับ เป็นแบบ Triple Slot ฝาหลังนั้นจะโค้งลงมาตรงขอบข้างๆเล็กน้อย เหมือนกับรุ่นก่อนหน้านี้ทำให้จับถือได้ง่ายและเข้ากับมือได้ดี
ฝาหลังนั้นรุ่นนี้ถ้าหากไม่ได้มีหลอดไฟหรือแสงอาทิตย์ส่องเอียงๆนั้นจะมีความเรียบร้อยและเป็นสีดำเน้นๆมาก แต่ถ้าเจอแสงหลอดไฟในอาคารหรือว่าจะเป็นแสงอาทิตย์ต่างๆทำมุมตกกระทบจะเริ่มเห็นลวดลายออกมาเป็นคล้ายกับตัวอักษร V เรียงต่อเนื่องและมีความโดดเด่นมากขึ้น แต่ก็จะมองยากนิดหน่อย แต่ถ้าเมื่อไรเจอแสงบอกเลยว่าแอบสวยเหมือนกัน และตรงเลนส์กล้องถ้าเจอแสงนั้นจะมีความเงาสวยขึ้นเยอะมาก เล่นกับแสงสียามค่ำคืนได้ดี ส่วนทางด้านฝาหลังเองนั้นยังคงเป็นวัสดุพลาสติกเป็นหลัก พร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตแบบ AG Split นั้นเอง ส่วนสแกนนิ้วย้ายไปอยู่ขอบเครื่องด้านข้างแทนที่ด้านหลังแล้วทำให้ฝาหลังนั้นมีความเรียบเนียนต่อเนื่องมากขึ้นและกันละอองน้ำได้
การออกแบบกล้องหลังนั้นจะแตกต่างกันเมื่อเทียบกับ realme รุ่นอื่นๆทั้งการวางกล้องและดีเทลในโมดูลเลนส์ทั้งหมดครับรุ่นนี้จะยังคงวางเรียงกันปกติ แต่มีพื้นที่กินเข้ามามากขึ้น เล่นกับแสงเงาได้สวยแบบในภาพด้านล่างนั้นเองครับ ส่วนทางสเปกกล้องนั้นให้มาเพียงพอต่อการใช้งาน ตัวกล้องนั้นให้มา 4 ตัว มาพร้อมกับเลนส์หลัก 48MP F1.8 และเลนส์ที่ 2 นั้นมาพร้อมเลนส์มุมกว้าง 8MP f2.2 รองรับมุมกว้าง 119 องศา สำหรับเลนส์ที่ 3 นั้น 2MP f2.4 จะเป็นเลนส์ขาวดำ จับระยะ และเลนส์ 2MP f2.4 เลนส์มาโคร ระยะ 4 เซนติเมตร พร้อมไฟแฟลชครับ
SPEC
- หน้าจอ LCD ขนาด 6.5 นิ้ว (2400 × 1080 พิกเซล) FullHD+, มีรีเฟรชเรท 90Hz, ใช้กระจก Gorilla Glass 3+
- ชิปเซต MediaTek Helio G95 12nm มาพร้อมการ์ดจอ Mali-G76 3EEMC4
- RAM LPPDDR4x 8GB + storage (UFS 2.1) 128GB ที่ใส่ microSD card เพิ่มได้ถึง 256GB
- ซิมคู่ (nano + nano + microSD)
- Android 10 ที่ครอบด้วย realme UI
- กล้องหลัง 48MP (f/1.8) + กล้อง ultra-wide 119° 8MP ( f/2.3) + กล้อง portrait B&W 2MP + กล้องมาโครขนาด 4cm 2MP (f/2.4), LED flash
- กล้องหน้า 16MP (f/2.1) ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX471
- ปุ่มสแกนนิ้วด้านข้าง
- รูแจ็ค 3.5mm
- ขนาดตัวเครื่อง: 162.3×75.4×9.4mm; น้ำหนัก: 191กรัม
- รองรับ Dual 4G VoLTE, WiFi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5, GPS + GLONASS
- ใช้พอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 4,500mAh (typical) ที่รองรับชาร์จเร็ว SuperDart Charge 65W
- สีขาว White Knight และ สีดำ Black Ninja
PERFORMANCE
ทางด้านประสิทธิภาพนั้นรุ่นนี้ใช้งานทางด้าน MediaTek Helio G95 12nm พร้อมกับ RAM 8GB และใช้งานหน่วยความจำแบบ UFS 2.0 128GB ตัวนี้คือเร็วใช้งานได้ดีเลยทีเดียวและทำคะแนนในส่วนของ Antutu ไปได้ 302250 คะแนน และ Geekbench ได้ไป 516/1660 รวมถึงหน่วยความจำอ่านเขียนทำความเร็วไปได้ 519 MB/s และ DRM L1 สำหรับการดู NETFLIX รองรับสูงสุด HD ครับการใช้งานทั่วไปนั้นสบายๆเลยนั้นเองครับ
SYSTEM UI
realme UI นั้นเริ่มใส่เข้ามาแล้วในหลากหลายรุ่นพัฒนาขึ้นให้มีความแตกต่างความลื่นไหลและมี อนิเมชั่นมากกว่าเดิม รวมถึงยังคงอิงความเรียบง่ายที่จะไปคล้ายๆ Pure Android มากขึ้นครับ ในรุ่นนี้ยังใช้งานบนพื้นฐาน Android 10 และใช้ realme UI การแจ้งเตือนใช้ได้ มีเลขมุมแอปอะไรปกติ ไอคอนเป็นทรงกลมซะส่วนใหญ่ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป ลงตัวกับขนาดหน้าจอของตัวเครื่องครับสวยงามเลยหน้าตาเหมือนรุ่นพี่ 7 Pro แบบเป๊ะๆเลยนั้นเอง
หน้าการแจ้งเตือนและ Quick Setting นั้นเป็นอีกจุดที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ไอคอนการตั้งค่าอะไรเปลี่ยนไปทั้งหมดเป็นวงกลม และ คลีนขึ้น การกดเข้าอะไรต่างๆนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดรวมถึงไอคอนรูปเฟืองก็เปลี่ยนไปด้วย เมื่อลากลงมาก็เป็นการตั้งค่าแบบเต็ม รวมถึงแบ่งหน้าจออะไรนั้นยังมีมาให้ปกติ
ทางด้านแป้นพิมพ์นั้นเป็นของ Google ที่คุ้นเคยกันดีครับใช้ง่าย ดีงามเลยแหละ ส่วนหน่วยความจำพื้นที่ตัวเครื่อง มาให้ 128GB นั้นเหลือใช้งานได้ 110 หลังจากหักระบบออกไป และ RAM นั้นใช้งานเหลือ 4.3GB จาก 8 GB
[SR] รีวิว realme NARZO 20 PRO ใช้งาน HELIO G95 จอ 90Hz และ 65W SuperDart Charge !
realme แบรนด์สมาร์ทโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกเปิดตัว realme Narzo 20 Pro สมาร์ทโฟนซีรีส์ใหม่ ที่มาพร้อมฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และพร้อมมอบความบันเทิงได้มากยิ่งขึ้นกับคนรุ่นใหม่ นอกจากนี้ ยังเปิดตัว realme UI 2.0 ที่ถูกอัพเกรดให้เข้ากับการใช้งานของเหล่าคน Gen Z ยิ่งขึ้น แน่นอนว่ามาพร้อมกับสเปกที่จัดเต็มพอสมควรในเรทราคานี้ทั้งเรื่องของ เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charge เต็ม100% ภายใน 34 นาที ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Helio G95 Gaming Processor กล้องหลัง AI 4 เลนส์ ความละเอียด 48MP หน้าจอ Ultra smooth display 90Hz และแบตเตอรี่ความจุ 4,500 mAh และงานออกแบบที่มีความแปลกใหม่มากขึ้น ทั้งลวดลายฝาหลังต่างๆนั้นเอง จะเน้นกลุ่มที่เน้นสเปกมากขึ้นไปอีกขั้นในการใช้งานเล่นเกมพร้อมกับ ประสบการณ์ความบันเทิงบนสมาร์ทโฟนในแง่ของเกม วิดีโอ และ Multi-tasking ทั้งหลาย
realme narzo 20 Pro นั้นมาพร้อมกับ การที่เน้นสเปกมากขึ้นในเรื่องของCPU ที่แรงขึ้นถ้าหากไปเทียบกับในเรทราคาใกล้กันนั้นเอง ใช้งาน ชิปเซต MediaTek Helio G95 12nm มาพร้อมการ์ดจอ Mali-G76 3EEMC4 พร้อมกับ RAM LPPDDR4x 8GB + storage (UFS 2.1) 128GB และแน่นอนว่าใส่เทคโนโลยี ชาร์จไว 65W เข้ามาให้พร้อมใช้งานไม่แตกต่างกับรุ่นพี่เลย ใส่แบตเข้ามาให้ ความจุ 4,500mAh พร้อมกับใช้งาน หน้าจอ LCD ขนาด 6.5 นิ้ว (2400 × 1080 พิกเซล) Full HD+, มีรีเฟรชเรท 90Hz, ใช้กระจก Gorilla Glass 3+ กล้องหลัง 4 ตัว เลนส์หลักนั้น กล้องหลัง 48MP (f/1.8) + กล้อง ultra-wide 119° 8MP ( f/2.3) + กล้อง portrait B&W 2MP + กล้องมาโครขนาด 4cm 2MP (f/2.4), LED flash และ กล้องหน้า 16MP (f/2.1) ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX471 ถือว่าสเปกภาพรวมนั้นสบายๆในการใช้งาน และได้ชาร์จไวมาในเรทราคานี้ถือว่าดี
realme NARZO 20 PRO RAM 8GB STOPRAGE 128GB เปิดราคา 8,499 บาทไทย
UNBOX
ตัวกล่องนั้นยังคงมีการออกแบบสีเหลืองเช่นเดิม พร้อมกับตัวเลขทางด้านบนแน่นอนว่ามีเลขพร้อมบอกรุ่น แต่จะไม่ได้มีรูปตัวเครื่องอะไรมา ส่วนทางด้านอุปกรณ์ในกล่องนั้นยังไม่ได้มีอะไรเพิ่มใกล้เคียงกับรุ่นก่อนหน้าและรุ่นอื่นๆในเรท
- ตัวเครื่อง realme Narzo 20 Pro
- เคสใส TPU
- คู่มือ ที่จิ้มซิม
- ที่ชาร์จ 65W
- สายชาร์จ USB-A ไป USB-C
- ฟิล์มกันรอยติดมาให้แล้ว
เคสนั้นจะมีความหนาเป็นสีเทาๆเข้มๆเล็กน้อยใส่แล้วฝาหลังสะท้อนน้อยลงไปแบบชัดเจน การปกป้องนั้นในทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ตัวขอบกินเข้ามาบนหน้าจอ และมีความหนาสูงกว่าหน้าจอทำให้วางคว่ำได้สบาย คล้ายๆกับเคสรุ่นก่อน ส่วนฝาหลังนั้นก็คลุมได้หมด รวมถึงตัวเลนส์กล้องนั้นก็ทำออกมาปิดได้ดีมีความหนาขึ้นมาปกป้องได้เวลาวางต่างๆใช้งานทั่วไปคล้ายกับรุ่นก่อนๆของทาง realme หรือ ในรุ่นก่อนหน้านี้ถือว่าปกป้องได้ดีใช้งานได้จริง จะเห็นได้ว่าตัวเคสนั้นมีความนูนขึ้นมาปกป้องตัวเลนส์และหน้าจอขึ้นมาอีก และ ทั้ง 4 มุมนั้นในด้านหน้าจะทำความสูงพิเศษขึ้นมาเพื่อที่จะปกป้องหน้าจอให้ดีขึ้นไปอีกเวลาตกหรือวางคว่ำ ซึ่งเคสปกติทั้วไปจะไม่มีมุมพิเศษขึ้นมา
DESIGN
งานออกแบบในตระกูล NARZO นั้นจะพยายามทำให้มีความแตกต่างกับรุ่นอื่นๆของทางค่ายและเน้นแรงบันดาลใจสำหรับสายเกมมิ่งมากขึ้น ฝาหลังนั้นเล่นลวดลายแปลกตาสำหรับค่ายนี้เป็นตัว V สวยงามเล่นกับแสงสะท้อนได้ดีและแม้จะเป็นสีดำเองก็ตาม แต่ถ้าเจอแสงก็สวยงามพอสมควรเลยแหละ พร้อมกับวัสดุที่เป็นพลาสติก ตามเรทราคาของรุ่นนี้ และมาพร้อมกับสีขาว และ สีดำให้เลือกใช้งานกัน ส่วนน้ำหนักอะไรนั้นไม่ได้หนีจากพวกรุ่น realme 7i มากนักรวมถึงขนาดด้วยเช่นกัน แต่จะแตกต่างกันในแง่ของสเปก การออกแบบ ฝาหลังเล่นลวดลายต่างกันนั้นเอง
ในด้านหน้านั้นจะมาพร้อมกับ หน้าจอ 6.5 นิ้ว IPS LCD และมาพร้อมกับความละเอียด HD+ 1600×720 รองรับ 90Hz และ ดีไซน์หน้าจอแบบเจาะรูมุมซ้ายบน รองรับการใช้งานความสว่างสูงสุด 600 NITS สบายๆตัวนี้
ในส่วนขอบล่างหน้าจอนั้นปุ่มควบคุมนั้นจะอยู่ในหน้าจอ สามารถใช้งานเต็มหน้าจอได้แบบไม่มีปุ่ม ส่วนขอบข้างๆนั้นก็ทำได้บางพอๆกับรุ่นก่อนหน้านี้เลย และรู้สึกว่าขอบล่างทำได้บางพอๆกัน
ขอบหน้าจอส่วนบนนั้นจะเป็นที่อยู่ของกล้องหน้า 16MP F2.1 IMX471 พร้อมกับเป็นดีไซน์แบบหน้าจอเจาะรู งานออกแบบสวยเหมือนกับรุ่นพี่เลย อีกทั้งขอบเครื่องหน้าจอมีความบางขึ้น อัตราส่วนเต็มตามากขึ้นพร้อมกับแทรกลำโพงไว้ขอบเครื่องด้านบนด้วยเช่นกัน
ขอบเครื่องด้านล่างนั้นจะเป็น ลำโพงหลัก ช่อง USB-C และ รูไมค์ 2 ตัว รวมถึงรูหูฟัง 3.5 มม. นั้นยังอยู่ รุ่นนี้จะไม่มีการเล่นลวดลายอะไร เป็นแบบด้านจะเรียบๆเลยนั้นเอง การวางตำแหน่งเหมือนเดิมกับรุ่นก่อนๆเลย
ด้านขวานั้นจะเห็นว่าตัวเครื่องมี ปุ่ม Power ใส่เข้ามาให้รองรับการสแกนนิ้วในด้านข้าง ไม่มีการเล่นเส้นสายข้างๆ แต่เฟรมทั้งหมดก็ตามราคาคือจะเป็นพลาสติกทำสีด้านทั้งหมดเลย สวยงามใช้ได้เน้นความเรียบๆทั้งหมดสีดำเป็นหลัก
ในส่วนของด้านบนนั้นไม่มีรูไมค์ตัดเสียงมาให้ครับเป็นสีเงินเขียว แบบเดียวกับข้างอื่นๆ ส่วนวัสดุขอบเครื่องทั้งหมดจะเป็นพลาสติกด้าน แต่ฝาหลังนั้นจะยังโค้งมารับมือเหมือนกับรุ่นอื่นๆในยุคนี้ของค่ายทำให้จับถนัดมือ
ส่วนของด้านซ้ายนั้นจะเห็นว่าตัวเครื่องมี ปุ่มเพิ่ม ลดเสียง และมี ช่องใส่ถาดซิมครับ เป็นแบบ Triple Slot ฝาหลังนั้นจะโค้งลงมาตรงขอบข้างๆเล็กน้อย เหมือนกับรุ่นก่อนหน้านี้ทำให้จับถือได้ง่ายและเข้ากับมือได้ดี
ฝาหลังนั้นรุ่นนี้ถ้าหากไม่ได้มีหลอดไฟหรือแสงอาทิตย์ส่องเอียงๆนั้นจะมีความเรียบร้อยและเป็นสีดำเน้นๆมาก แต่ถ้าเจอแสงหลอดไฟในอาคารหรือว่าจะเป็นแสงอาทิตย์ต่างๆทำมุมตกกระทบจะเริ่มเห็นลวดลายออกมาเป็นคล้ายกับตัวอักษร V เรียงต่อเนื่องและมีความโดดเด่นมากขึ้น แต่ก็จะมองยากนิดหน่อย แต่ถ้าเมื่อไรเจอแสงบอกเลยว่าแอบสวยเหมือนกัน และตรงเลนส์กล้องถ้าเจอแสงนั้นจะมีความเงาสวยขึ้นเยอะมาก เล่นกับแสงสียามค่ำคืนได้ดี ส่วนทางด้านฝาหลังเองนั้นยังคงเป็นวัสดุพลาสติกเป็นหลัก พร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตแบบ AG Split นั้นเอง ส่วนสแกนนิ้วย้ายไปอยู่ขอบเครื่องด้านข้างแทนที่ด้านหลังแล้วทำให้ฝาหลังนั้นมีความเรียบเนียนต่อเนื่องมากขึ้นและกันละอองน้ำได้
การออกแบบกล้องหลังนั้นจะแตกต่างกันเมื่อเทียบกับ realme รุ่นอื่นๆทั้งการวางกล้องและดีเทลในโมดูลเลนส์ทั้งหมดครับรุ่นนี้จะยังคงวางเรียงกันปกติ แต่มีพื้นที่กินเข้ามามากขึ้น เล่นกับแสงเงาได้สวยแบบในภาพด้านล่างนั้นเองครับ ส่วนทางสเปกกล้องนั้นให้มาเพียงพอต่อการใช้งาน ตัวกล้องนั้นให้มา 4 ตัว มาพร้อมกับเลนส์หลัก 48MP F1.8 และเลนส์ที่ 2 นั้นมาพร้อมเลนส์มุมกว้าง 8MP f2.2 รองรับมุมกว้าง 119 องศา สำหรับเลนส์ที่ 3 นั้น 2MP f2.4 จะเป็นเลนส์ขาวดำ จับระยะ และเลนส์ 2MP f2.4 เลนส์มาโคร ระยะ 4 เซนติเมตร พร้อมไฟแฟลชครับ
SPEC
- หน้าจอ LCD ขนาด 6.5 นิ้ว (2400 × 1080 พิกเซล) FullHD+, มีรีเฟรชเรท 90Hz, ใช้กระจก Gorilla Glass 3+
- ชิปเซต MediaTek Helio G95 12nm มาพร้อมการ์ดจอ Mali-G76 3EEMC4
- RAM LPPDDR4x 8GB + storage (UFS 2.1) 128GB ที่ใส่ microSD card เพิ่มได้ถึง 256GB
- ซิมคู่ (nano + nano + microSD)
- Android 10 ที่ครอบด้วย realme UI
- กล้องหลัง 48MP (f/1.8) + กล้อง ultra-wide 119° 8MP ( f/2.3) + กล้อง portrait B&W 2MP + กล้องมาโครขนาด 4cm 2MP (f/2.4), LED flash
- กล้องหน้า 16MP (f/2.1) ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX471
- ปุ่มสแกนนิ้วด้านข้าง
- รูแจ็ค 3.5mm
- ขนาดตัวเครื่อง: 162.3×75.4×9.4mm; น้ำหนัก: 191กรัม
- รองรับ Dual 4G VoLTE, WiFi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5, GPS + GLONASS
- ใช้พอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 4,500mAh (typical) ที่รองรับชาร์จเร็ว SuperDart Charge 65W
- สีขาว White Knight และ สีดำ Black Ninja
PERFORMANCE
ทางด้านประสิทธิภาพนั้นรุ่นนี้ใช้งานทางด้าน MediaTek Helio G95 12nm พร้อมกับ RAM 8GB และใช้งานหน่วยความจำแบบ UFS 2.0 128GB ตัวนี้คือเร็วใช้งานได้ดีเลยทีเดียวและทำคะแนนในส่วนของ Antutu ไปได้ 302250 คะแนน และ Geekbench ได้ไป 516/1660 รวมถึงหน่วยความจำอ่านเขียนทำความเร็วไปได้ 519 MB/s และ DRM L1 สำหรับการดู NETFLIX รองรับสูงสุด HD ครับการใช้งานทั่วไปนั้นสบายๆเลยนั้นเองครับ
SYSTEM UI
realme UI นั้นเริ่มใส่เข้ามาแล้วในหลากหลายรุ่นพัฒนาขึ้นให้มีความแตกต่างความลื่นไหลและมี อนิเมชั่นมากกว่าเดิม รวมถึงยังคงอิงความเรียบง่ายที่จะไปคล้ายๆ Pure Android มากขึ้นครับ ในรุ่นนี้ยังใช้งานบนพื้นฐาน Android 10 และใช้ realme UI การแจ้งเตือนใช้ได้ มีเลขมุมแอปอะไรปกติ ไอคอนเป็นทรงกลมซะส่วนใหญ่ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป ลงตัวกับขนาดหน้าจอของตัวเครื่องครับสวยงามเลยหน้าตาเหมือนรุ่นพี่ 7 Pro แบบเป๊ะๆเลยนั้นเอง
หน้าการแจ้งเตือนและ Quick Setting นั้นเป็นอีกจุดที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ไอคอนการตั้งค่าอะไรเปลี่ยนไปทั้งหมดเป็นวงกลม และ คลีนขึ้น การกดเข้าอะไรต่างๆนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดรวมถึงไอคอนรูปเฟืองก็เปลี่ยนไปด้วย เมื่อลากลงมาก็เป็นการตั้งค่าแบบเต็ม รวมถึงแบ่งหน้าจออะไรนั้นยังมีมาให้ปกติ
ทางด้านแป้นพิมพ์นั้นเป็นของ Google ที่คุ้นเคยกันดีครับใช้ง่าย ดีงามเลยแหละ ส่วนหน่วยความจำพื้นที่ตัวเครื่อง มาให้ 128GB นั้นเหลือใช้งานได้ 110 หลังจากหักระบบออกไป และ RAM นั้นใช้งานเหลือ 4.3GB จาก 8 GB
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้