สวัสดีครับ ไม่ได้เข้ามาตั้งกระทู้ในบอร์ดเทพมรณะนานเลย ตอนแรกว่าจะทำสรุปเนื้อเรื่อง Bleach เทพมรณะให้มันเป็นเรื่องเป็นราวสักที แต่ไหนๆนิยายก็มีคนแปลไปแล้ว เนื้อเรื่องก็ได้รับการคลี่คลายไประดับหนึ่งแล้ว คราวนี้ผมเลยขอยกสิ่งละอันพันละน้อยที่ทำให้ผมตกหลุมรักเทพมรณะมาพูดคุยกับครับ ไม่รู้ว่าจะมีคนคิดเหมือนผมกันบ้างรึเปล่า ไปดูกันเลย
1. ความรักของยูซึจัง
สำหรับใครที่นึกหน้าไม่ออก คุโรซากิ ยูซึ ก็คือน้องสาวคนหนึ่งของอิจิโกะพระเอกของเรานั่นแหละครับ คนส่วนมากอาจจะจำเธอไม่ได้เพราะ คุโรซากิ คาริน น้องสาวอีกคนมีบทโดดเด่นกว่า ยูซึจังแม้จะมีบทออกมาน้อยแต่ก็มีความลึกซึ้งและมิติของคาแรคเตอร์ไม่แพ้ตัวหลักๆเลยครับ เป็นที่รู้กันว่าน้องสาวทั้งสองคนของอิจิโกะรักและติดเขามากๆ แต่ยูซึจังนั้นดูเหมือนจะมากเป็นพิเศษ ถึงแม้อาจารย์คุโบะจะไม่ได้เขียนให้เห็นเด่นชัด แต่จริงๆแล้วผมเดาว่าช่วงเวลาหนึ่งยูซึจังเคยมี"ความรัก" แบบลึกซึ้งกับอิจิโกะ ซึ่งโมเม้นแบบนี้มีให้เห็นประปรายตลอดทั้งเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการอวดผลสอบ การอวดชุดนักเรียนใหม่ รออิจิโกะกลับบ้านแบบตั้งอกตั้งใจมาก จนครั้งหนึ่งคารินถึงกับเคยพูดเอาไว้ว่า "เธอเลิกคิดเรื่องแบบนั้นเถอะ พี่เค้าก็เป็นแค่ผู้ชายวัยรุ่นธรรมดาๆเท่านั้นแหละ" แปลว่าคารินที่เป็นเด็กผู้หญิงที่โตมาด้วยกันนั้นรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของยูซึจังที่มีต่ออิจิโกะเป็นอย่างดี แม้กระทั่งตอนจบของเรื่องคารินจังยังแซวเลยว่า ที่ยูซึใจดีกับ คาซุอิ (คุโรซากิ คาซุอิ ลูกชายของอิจิโกะ) เพราะว่า คาซุอิคุงหน้าตาเหมือนอิจิโกะมากนั่นแหละ เป็นรายละเอียดเล็กๆเกี่ยวกับตัวละครรองที่หาได้ยากได้การ์ตูนโชวเนนเรื่องอื่นจริงๆครับ
2. ปลายสายของมิซึอิโระ
โคจิมะ มิซึอิโระ เป็นเพื่อนอีกคนหนึ่งในกลุ่มเพื่อนๆของอิจิโกะ คุณอาจจะจำเขาไม่ได้เช่นกันเพราะมีบทน้อยและด้วยนิสัยไม่โหวกเหวกเท่าเพื่อนคนอื่น ( อย่าง อาซาโนะ เคโงะ ที่โผล่มาทีไรก็มีฮาตลอด) แต่รู้หรือไม่ถึงแม้จะจืดจางถึงขนาดนี้เขายังเคยมีตอนพิเศษสั้นๆเป็นของตัวเองที่ทำให้ตัวละครนี้มีมิติมากขึ้นไปอีก มิซึอิโระนั้นถูกแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้ชายตัวเล็กๆ พูดน้อย สีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดๆและในมือมักถือโทรศัพท์อยู่เสมอ เหมือนเป็นเด็กติดโซลเชี่ยลคนหนึ่ง แต่ถึงแม้จะไม่มีการยืนยันอย่างชัดเจนจากอาจารย์คุโบะ(อีกแล้ว) แต่ผมเดาได้ว่า มิซึอิโระนั้นเป็นเด็กที่มีปมเรื่องแม่อย่างแน่นอน ยกตัวอย่างเช่นในตอนพิเศษของเขา ที่เป็นการเปิดเรียนวันแรกของม.ปลาย เขาได้โทรไปหาแม่ แต่ปลายสายกลับต่อว่าเขา บอกว่าทำให้หล่อนต้องเสียเวลา ผู้หญิงวัยกลางคนที่ยืนมองอยู่ถามว่าคุยกับใครหรือ มิซึอิโระตอบเพียงว่า เปล่าครับ จากสถานการณ์เช่น เป็นไปได้ไหมที่มิซึอิโระเป็นเด็กเลี้ยงต้อยของสาววัยทำงาน มิซึอิโระที่ฉลาดและโตเกินวัย ย่อมรู้จักวิธีพูดเอาใจผู้หญิงแน่ๆ แต่เขาทำไปเพื่อเงินเท่านั้นหรือ? ไม่มีการระบุว่ามิซึอิโระอยู่ที่บ้านของผู้หญิงคนนั้นมานานแค่ไหนแล้ว เป็นไปได้ไหมว่า เขาไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านตัวเองมาสักพักแล้ว แต่แม่ที่แสนยุ่งกับงานของเขากลับไม่เคยรู้ตัวเลย เป็นไปได้ไหมว่าเขาแค่ต้องการใครสักคนมาดูแลเขาบ้าง ทางจิตวิทยาเด็กที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่เร็วกว่าเด็กคนอื่น ก็มักมีภูมิหลังจากการที่ต้องใช้ชีวิตเพียงลำพัง ในตอนจบของตอนพิเศษนั้น มิซึอิโระบอกเราว่าคนเราทุกคนก็เหมือนกับสายโทรศัพท์ พยายามสุดชีวิตให้สายใยต่างๆยังเชื่อมโยงกันไว้ แต่สุดท้ายโลกก็ทำให้เราต้องตัดขาดจากกันอยู่ดี หรือที่มิซึอิโระถือโทรศัพท์อยู่ตลอด ก็เพราะเฝ้ารอให้ใครสักคนโทรกลับมา เชื่อมต่อสายสัมพันธ์ที่ขาดไปแล้วอีกครั้ง
3. ความฝันของฮัชวาลต์
ยูแกรม ฮัชวาลต์ คือหนึ่งในตัวร้ายสุดแกร่งของภาคสงครามเลือดพันปี มีความไกล้ชิดกับยูฮาบัชราชันย์ควินซี่และมีภูมิหลังร่วมกันกับนักรบโมฮอคดาราสุดเท่อย่างบัซบี น่าเสียดายที่ตัวละครที่มีบุคลิกน่าสงสัยเช่นนี้กลับมีจุดจบที่น่าสงสัยไม่แพ้กัน คือพี่จะตายเพราะโดนดูดพลังแค่นั้จริงเหรอ? แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดของฮัชวาลต์ เมื่อเรื่องราวของเขาเริ่มต้นที่โลกยุคกลาง ในยุคที่สังคมมนุษย์ยังผูกติดกับความเชื่อและแนวคิดปัจเจกบุคคลยังคงถูกครอบไว้ด้วยคำว่าครอบครัว ไม่เหมือนกับบัซบี ฮัชวาลด์เป็นเด็กกำพร้าที่อาศัยอยู่กับลุงของเขา แม้ไม่ได้การยืนยันอย่างชัดเจน(อาจารย์แกไม่เคยพูดเรื่องดาร์กๆตรงๆหรอกนะ ไม่รู้เป็นเพราะลีลาการเขียน หรือเพราะกองบก) แต่สามารถรับรู้ได้ว่าเขาโดนกดขี่ ได้รับความรุนแรงจากญาติที่ไม่ได้รักและไส่ใจเขาจริงๆ ความคิดของเขาถูกครอบโดยคำพูดเช่นว่า เธอทำอะไรไม่ได้หรอกถ้าไม่มีลุง เธอต้องอยู่ในการดูแลของลุงเสมอ ฮัชวาลด์ถูกตอกย้ำปมด้อยที่ไม่สามารถสร้าง ธนูควินซี่ของตัวเองขึ้นมาได้ ทั้งที่เด็กอายุเท่าเขาคนไหนก็ทำได้ ยิ่งตอกย้ำตวามเหลวไหลไม่ได้เรื่องและต้องการการชี้นำจากคนอื่นเสมอ ทำให้สุดท้ายหลังจากที่ทหารของยูฮาบัชถล่มปราสาทของบัซบีและเผาบ้านของลุง(ซึ่งน่าจะตายในกองไฟ) เขาจึงยอมตามบัซบีต้อยๆไปล้างแค้นยูฮาบัชทั้งที่ไม่ได้มีความคิดเห็นเป็นของตัวเองเลย
ผ่านมาหลายปีเขายังคงสร้างธนูควินซี่ของตัวเองไม่ได้ ซ้ำยังต้องเผชิญหน้ากับยูฮาบัชทั้งๆอย่างนั้น บัชบีเห็นว่านี่เป็นโอกาสดีที่จะได้แฝงตัวเข้าไปในกองทัพยูฮาบัชและจัดการเขาเสีย แต่ยูฮาบัชกลับสนใจแค่ฮัชวาลต์ เด็กไร้พรสวรรค์ที่ได้รับรู้ว่าแท้จริงแล้วเขามีพรสวรรค์ยิ่งกว่าใคร ยูฮาบัชราชันย์ควินซี่ถึงกับกล่าวว่าเขาคือครึ่งหนึ่งที่ตามหามาแสนนาน ในที่สุดเด็กชายกลวงเปล่าก็ได้รับการยอมรับ มีที่ยืนอยู่สังคมที่มองเขาอย่างเท่าเทียมหรือแม้แต่สูงส่งกว่า การได้รับการยอมรับจากราชันย์ควินซี่ยิ่งเติมเต็มปมในใจของเขา ชายคนต่อไปที่จะมาชี้เขาเป็นผู้ช่วยเขาให้รอดอย่างแท้จริง ในทางจิตวิทยา การศรัทธาในพระเจ้ามักเชื่อมโยงกับการศรัทธาใน "พ่อผู้ยิ่งใหญ่" เพราะมนุษย์มักเติมโตมาโดยสนิทกับแม่ ส่วนพ่อนั้นเป็เหมือนแบบอย่าง ผู้ชี้นำ ผู้ให้ความรู้ ผู้ช่วยให้รอด เด็กกำพร้าอย่างฮัชวาลต์ยิ่งโหยหา "พ่อผู้ยิ่งใหญ่" ยิ่งกว่าใคร การเข้าร่วมกับยูฮาบัช จึงเป็นยิ่งกว่าความฝัน ผมจึงกล้ายืนยันว่าเขาภักดีต่อยูฮาบัชอย่างจริงใจและยอมสละแม้ชีวิตตัวเองได้จริงๆ
แล้วความฝันของฮัชวาลต์คืออะไร? เราต่างรู้กันว่าในวาระสุดท้ายของเขา หลังจากการต่อสู้กับอิชิดะและโดนดูดพลังกลับไปโดยยูฮาบัช เขาได้บอกให้อิชิดะสะท้อนบาดแผลบนร่างกลับมาให้เขาเสีย เพราะคนไกล้ตายอย่างเขาถึงมีแผลเพิ่มก็ไม่ต่างกัน แม้แต่อิชิดะยังแปลกใจ ผมสรุปได้ว่ามันเป็นเพราะความสุดขั่วของบุคลิกของเขา ระหว่าง หัวใจของเขาที่ภักดีต่อยูฮาบัชกับความผูกพันธ์ที่มีต่อบัซบี ยูฮาบัชเป็นเหมือนผู้ช่วยให้รอดของเขา นำพาเขาให้พ้นจากเมฆทะมึนของชีวิตวัยเด็กสู่แสงสว่าง กลับกัน บัซบีที่คอยอยู่ข้างเขามาตลอด เป็นเพิ่อนคอยดูแลเขาในยามที่ไม่มีใคร แม้จะชอบยกตนข่มท่านอยู่บ้างแต่ก็จริงใจกับเขาเหมือนเป็นน้องชายแท้ๆเสมอ ถึงจะไม่ได้มีความแค้นกับยูฮาบัชโดยตรง แต่ความฝันของบัซบีก็ถูกฮัชวาลต์รับมาเป็นความฝันของตัวเองด้วย เขารู้ดีว่าไม่มีทางกล่อมให้บัซบียอมจำนนได้ สักวันหนึ่งบัซบีจะต้องตายด้วยน้ำมือของยูฮาบัช เพราะอย่างนั้น ถ้ามันต้องเป็นอย่างนั้น ให้มาตายด้วยน้ำมือเขาเองดีกว่า อย่างน้อยความฝันของบัซบีก็ยังคงสืบทอดมายังตัวเขา ภาระกิจสังหารยูฮาบัชยังคงเดินหน้าต่อไป ว่ากันว่าราชันย์ควินซี่เมื่อหลับไหล พลังของเขาและฮัชวาลต์จะสลับกัน ผมเดาว่า แม้แต่ความนึกคิดก็คงจะสามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ด้วย ครั้งหนึ่งยูฮาบัชเคยฝันว่าเขาโดนอิจิโกะฆ่าตาย ในตอนนั้นเขาคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ฮัชวาลอยากจะให้เขาเห็น แต่เเท้จริงแล้วมันเป็นการมองเห็นอนาคตของเขาเอง ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? นั่นก็เพราะลึกๆแล้วยูฮาบัชรู้ว่าฮัชวาลต์อยากให้เขาตาย และจริงๆในใจของฮัชวาลด์ก็แอบหวังว่าอิจิโกะจะเป็นผู้กำจัดยูฮาบัชลงได้จริงๆ ความย้อนแย้งของบุคลิกภาพอันซับซ้อนนี้แสดงออกด้วยดาบใหญ่ประจำตระกูลบัซที่ฮัชวาลต์ยังคงใช้อยู่จนวาระสุดท้าย เพื่อย้ำเตือนว่าก่อนจะเป็นมือขวาของราชันย์ควินซี่ เขายังเป็นคนของตระกูลบัซ เป็นเพื่อนเป็นพี่น้องของบัซบีที่เขารักนั่นเอง
4. วันเกิดของฮิสึกายะ
ฮิสึกายะ โทชิโร่ คือหัวหน้าหน่อยสุดเท่ขวัญใจเเม่ยกแห่ง13หน่วยพิทักษ์ จริงที่เขามักโดนยำเละและเป็นกระสอบทรายของทุกคนมาตลอดทั้งเรื่อง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าพี่แกเป็นคนที่มีร่างพัฒนาเยอะที่สุดรองจากพระเอก(ขนาดชุดควินซี่ยังได้ไส่อะคิดดู) แถมไม่ว่าจะโดนยำเละแค่ไหนก็ยังเป็นขวัญใจสาวๆน้อยใหญ่จนจบเรื่อง ที่ผมอยากจะเล่าให้ฟังก็คือ เรามักจะจำฮิสึกายะได้ในฐานะหัวหน้าเด็กจอมหัวร้อนเพราะแค่ภาคไอเซนภาคเดียวเขาหัวร้อนไปประมาณแปดร้อยรอบ แล้วทุกรอบก็นำมาซึ่งความวินาศ
แก่ตัวเองและคนรอบข้างทั้งสิ้น การจะเข้าใจความหัวร้อนของเขา เราต้องเข้าใจวิธีคิดของคนที่เติบโตมาจากเมืองลูคอนเสียก่อนว่าเป็นอย่างไร
คนจากเมืองลูคอนนั้นคือวิญญาณธรรมดาที่ถูกส่งมายังโซลโซลไซตี้ ไม่เหมือนพวกขุนนางในเซเรเทย์ พวกเขาไม่มีพลังกดดันวิญญาณ ไม่หิว มีลูกไม่ได้ เป็นเหมือนวิญญาณลองไปลอยมาที่สุด ค่ืออยู่ๆก็ผุดขึ้นมา นับเอาคนที่อยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวกันเอง จะบอกว่าไม่มีความสัมพันธ์จริงๆเกิดขึ้นเลย หรือมีความผูกพันธ์ที่แน่นแฟ้นก็ได้ เพราะคนที่นี่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด ความผูกพันธ์จึงเกิดจากใจล้วนๆ พวกเขาไม่มีวันเกิด(เพราะผุดขึ้นมาเฉยๆจริงๆ) วันเกิดจึงเป็นวันที่ตั้งขึ้นเอง หรือไม่ก็ตามแต่ที่คนที่พวกเขารักหรือผูกพันธ์กำหนดให้ เช่นวันแรกที่ได้เจอกัน ชาวเมืองลูคอนจำนวนน้อยเท่านั้นที่มีพลังวิญญาณและสามารถเป็นยมทูตได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังแตกต่างจากยมฑูตโดยกำเนิด พวกเขาถูกแบ่งชนชั้น การที่คนจากเมืองลูคอนได้เป็นหัวหน้าหน่วย แสดงได้ถึงความสำเร็จในการเลื่อนชนชั้น ต่อสู้กับความลำบากจนได้สบาย ฮิสึกายะเป็นหนึ่งในนั้น เขากับฮินาโมริอาศัยอยู่ร่วมกันในเมืองลูคอนจนกระทั่งคุณยายที่เลี้ยงดูพวกเขามาตายไป เขาทั้งสองจึงเข้าร่วมฝึกฝนเพื่อเป็นยมทูต แม้ฮิซึกายะจะเป็นอัจฉริยะในรอบพันปีจนได้เป็นหัวหน้าหน่วยในเวลาอันสั้น แต่ก็ไม่เคยลืมฮินาโมริที่เป็นเพื่อนที่เติบโตมาด้วยกันเลย ฮินาโมริเป็นเหมือนความสัมพันธ์เดียวในโลกของเขา ในตอนพิเศษ เบ่งบานในเดือนหนาว พูดถังการจัดงานวันเกิดให้กับไอเซน ฮิซึกายะบอกว่า คนจากเมืองลูคอนอย่างเขามีวันเกิดซะที่ไหนเลยไม่ค่อยเข้าใจเรื่องนี้ ตอนนี้จบลงที่การระลึกถึงความสัมพันธ์ต่างๆที่มีให้แก่กัน เหมือนดอกไม้ที่เบ่งบานในเดือนอันหนาวเหน็บ ทำให้มีความหวังในการมีชีวิตอยู่ต่อไป ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของชาวเมืองลูคอนนี้เองที่แสดงออกเป็นบุคลิกกันโดดเด่นของฮิสึกายะ ที่ไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายฮินาโมริเด็ดขาด นั่นก็เพราะฮินาโมริเป็นเหมือนกับชีวิตของเขา เป็นดั่งผู้มอบวันเกิดของเขานั่นเอง
5.ความรู้สึกของอิจิโกะและลูเคีย
ในฐานะกองอวยลูเคียอิจิโกะ ขอบอกสั้นๆแค่ว่าจริงๆคู่นี้มันเหมือนความสัมพันธ์ "โบรแมนซ์" มากๆคือเหมือนเพื่อนชายที่สนิทกันใจถึงกัน จริงที่ผมก็แอบหวังให้ทั้งสองคนรักกันอย่างชายหญิง แต่ผมอยากพูดมวลความรู้สึกบางที่เกิดขึ้นตอนที่ไกล้จบภาคโซลโซไซตี้ตอนที่อิจิโกะไปตามลูเคียกลับโลกที่บ้านของซูซาคุ แล้วลูเคียได้บอกกับเขาว่า เธอจะอยู่ที่โซลโซไซตี้ต่อ จริงๆฉากนั้นมันเหมือนฉากบอกเลิกกลายๆ เป็นการยืนยันความสัมพันธ์ของทั้งคู่ อิจิโกะที่เข้าใจเรื่องนี้ดีก็ได้แต่ยอมรับแล้วกลับโลกไปทั้งอย่างนั้น อีกครั้งหนึ่งคือฉากที่พลังยมทูตของอิจิโกะค่อยๆสลายไป คราวนี้เขาไม่อาจพบเจอกับลูเคียได้อีกเเล้ว ภาคอารันคาร์ความสัมพันธ์ของเขากับโฮริอิเมะก็พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น หรือนี่จะเป็นจุดจบแล้วจริงๆ? ทุกคนยังคงจำสายตาเว้าวอนนั้นได้ ตอนที่ลูเคียค่อยๆสลายหายไป แต่นั่นมันเป็นแค่ในมุมมองของอิจิโกะ จริงๆแล้วลูเคียยังคงยืนมองเขาต่อไปอีกสักพักรึเปล่านะ? เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ได้เลย
"ฉันจะตามทันมั้ยนะ...ความเร็วของโลกใบนี้ที่ไม่มีเธออยู่..."
ปล. ขอบคุณที่สละเวลาอ่านครับ
ปล.2 ใครมีโมเม้นเล็กๆที่ชอบในการ์ตูนสู้กันเรื่องนี้มาแบ่งปันกันได้นะครับ
สิ่งละอันพันละน้อยที่ทำเราให้เราตกหลุมรักเทพมรณะ
1. ความรักของยูซึจัง
สำหรับใครที่นึกหน้าไม่ออก คุโรซากิ ยูซึ ก็คือน้องสาวคนหนึ่งของอิจิโกะพระเอกของเรานั่นแหละครับ คนส่วนมากอาจจะจำเธอไม่ได้เพราะ คุโรซากิ คาริน น้องสาวอีกคนมีบทโดดเด่นกว่า ยูซึจังแม้จะมีบทออกมาน้อยแต่ก็มีความลึกซึ้งและมิติของคาแรคเตอร์ไม่แพ้ตัวหลักๆเลยครับ เป็นที่รู้กันว่าน้องสาวทั้งสองคนของอิจิโกะรักและติดเขามากๆ แต่ยูซึจังนั้นดูเหมือนจะมากเป็นพิเศษ ถึงแม้อาจารย์คุโบะจะไม่ได้เขียนให้เห็นเด่นชัด แต่จริงๆแล้วผมเดาว่าช่วงเวลาหนึ่งยูซึจังเคยมี"ความรัก" แบบลึกซึ้งกับอิจิโกะ ซึ่งโมเม้นแบบนี้มีให้เห็นประปรายตลอดทั้งเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการอวดผลสอบ การอวดชุดนักเรียนใหม่ รออิจิโกะกลับบ้านแบบตั้งอกตั้งใจมาก จนครั้งหนึ่งคารินถึงกับเคยพูดเอาไว้ว่า "เธอเลิกคิดเรื่องแบบนั้นเถอะ พี่เค้าก็เป็นแค่ผู้ชายวัยรุ่นธรรมดาๆเท่านั้นแหละ" แปลว่าคารินที่เป็นเด็กผู้หญิงที่โตมาด้วยกันนั้นรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของยูซึจังที่มีต่ออิจิโกะเป็นอย่างดี แม้กระทั่งตอนจบของเรื่องคารินจังยังแซวเลยว่า ที่ยูซึใจดีกับ คาซุอิ (คุโรซากิ คาซุอิ ลูกชายของอิจิโกะ) เพราะว่า คาซุอิคุงหน้าตาเหมือนอิจิโกะมากนั่นแหละ เป็นรายละเอียดเล็กๆเกี่ยวกับตัวละครรองที่หาได้ยากได้การ์ตูนโชวเนนเรื่องอื่นจริงๆครับ
2. ปลายสายของมิซึอิโระ
โคจิมะ มิซึอิโระ เป็นเพื่อนอีกคนหนึ่งในกลุ่มเพื่อนๆของอิจิโกะ คุณอาจจะจำเขาไม่ได้เช่นกันเพราะมีบทน้อยและด้วยนิสัยไม่โหวกเหวกเท่าเพื่อนคนอื่น ( อย่าง อาซาโนะ เคโงะ ที่โผล่มาทีไรก็มีฮาตลอด) แต่รู้หรือไม่ถึงแม้จะจืดจางถึงขนาดนี้เขายังเคยมีตอนพิเศษสั้นๆเป็นของตัวเองที่ทำให้ตัวละครนี้มีมิติมากขึ้นไปอีก มิซึอิโระนั้นถูกแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้ชายตัวเล็กๆ พูดน้อย สีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดๆและในมือมักถือโทรศัพท์อยู่เสมอ เหมือนเป็นเด็กติดโซลเชี่ยลคนหนึ่ง แต่ถึงแม้จะไม่มีการยืนยันอย่างชัดเจนจากอาจารย์คุโบะ(อีกแล้ว) แต่ผมเดาได้ว่า มิซึอิโระนั้นเป็นเด็กที่มีปมเรื่องแม่อย่างแน่นอน ยกตัวอย่างเช่นในตอนพิเศษของเขา ที่เป็นการเปิดเรียนวันแรกของม.ปลาย เขาได้โทรไปหาแม่ แต่ปลายสายกลับต่อว่าเขา บอกว่าทำให้หล่อนต้องเสียเวลา ผู้หญิงวัยกลางคนที่ยืนมองอยู่ถามว่าคุยกับใครหรือ มิซึอิโระตอบเพียงว่า เปล่าครับ จากสถานการณ์เช่น เป็นไปได้ไหมที่มิซึอิโระเป็นเด็กเลี้ยงต้อยของสาววัยทำงาน มิซึอิโระที่ฉลาดและโตเกินวัย ย่อมรู้จักวิธีพูดเอาใจผู้หญิงแน่ๆ แต่เขาทำไปเพื่อเงินเท่านั้นหรือ? ไม่มีการระบุว่ามิซึอิโระอยู่ที่บ้านของผู้หญิงคนนั้นมานานแค่ไหนแล้ว เป็นไปได้ไหมว่า เขาไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านตัวเองมาสักพักแล้ว แต่แม่ที่แสนยุ่งกับงานของเขากลับไม่เคยรู้ตัวเลย เป็นไปได้ไหมว่าเขาแค่ต้องการใครสักคนมาดูแลเขาบ้าง ทางจิตวิทยาเด็กที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่เร็วกว่าเด็กคนอื่น ก็มักมีภูมิหลังจากการที่ต้องใช้ชีวิตเพียงลำพัง ในตอนจบของตอนพิเศษนั้น มิซึอิโระบอกเราว่าคนเราทุกคนก็เหมือนกับสายโทรศัพท์ พยายามสุดชีวิตให้สายใยต่างๆยังเชื่อมโยงกันไว้ แต่สุดท้ายโลกก็ทำให้เราต้องตัดขาดจากกันอยู่ดี หรือที่มิซึอิโระถือโทรศัพท์อยู่ตลอด ก็เพราะเฝ้ารอให้ใครสักคนโทรกลับมา เชื่อมต่อสายสัมพันธ์ที่ขาดไปแล้วอีกครั้ง
3. ความฝันของฮัชวาลต์
ยูแกรม ฮัชวาลต์ คือหนึ่งในตัวร้ายสุดแกร่งของภาคสงครามเลือดพันปี มีความไกล้ชิดกับยูฮาบัชราชันย์ควินซี่และมีภูมิหลังร่วมกันกับนักรบโมฮอคดาราสุดเท่อย่างบัซบี น่าเสียดายที่ตัวละครที่มีบุคลิกน่าสงสัยเช่นนี้กลับมีจุดจบที่น่าสงสัยไม่แพ้กัน คือพี่จะตายเพราะโดนดูดพลังแค่นั้จริงเหรอ? แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดของฮัชวาลต์ เมื่อเรื่องราวของเขาเริ่มต้นที่โลกยุคกลาง ในยุคที่สังคมมนุษย์ยังผูกติดกับความเชื่อและแนวคิดปัจเจกบุคคลยังคงถูกครอบไว้ด้วยคำว่าครอบครัว ไม่เหมือนกับบัซบี ฮัชวาลด์เป็นเด็กกำพร้าที่อาศัยอยู่กับลุงของเขา แม้ไม่ได้การยืนยันอย่างชัดเจน(อาจารย์แกไม่เคยพูดเรื่องดาร์กๆตรงๆหรอกนะ ไม่รู้เป็นเพราะลีลาการเขียน หรือเพราะกองบก) แต่สามารถรับรู้ได้ว่าเขาโดนกดขี่ ได้รับความรุนแรงจากญาติที่ไม่ได้รักและไส่ใจเขาจริงๆ ความคิดของเขาถูกครอบโดยคำพูดเช่นว่า เธอทำอะไรไม่ได้หรอกถ้าไม่มีลุง เธอต้องอยู่ในการดูแลของลุงเสมอ ฮัชวาลด์ถูกตอกย้ำปมด้อยที่ไม่สามารถสร้าง ธนูควินซี่ของตัวเองขึ้นมาได้ ทั้งที่เด็กอายุเท่าเขาคนไหนก็ทำได้ ยิ่งตอกย้ำตวามเหลวไหลไม่ได้เรื่องและต้องการการชี้นำจากคนอื่นเสมอ ทำให้สุดท้ายหลังจากที่ทหารของยูฮาบัชถล่มปราสาทของบัซบีและเผาบ้านของลุง(ซึ่งน่าจะตายในกองไฟ) เขาจึงยอมตามบัซบีต้อยๆไปล้างแค้นยูฮาบัชทั้งที่ไม่ได้มีความคิดเห็นเป็นของตัวเองเลย
ผ่านมาหลายปีเขายังคงสร้างธนูควินซี่ของตัวเองไม่ได้ ซ้ำยังต้องเผชิญหน้ากับยูฮาบัชทั้งๆอย่างนั้น บัชบีเห็นว่านี่เป็นโอกาสดีที่จะได้แฝงตัวเข้าไปในกองทัพยูฮาบัชและจัดการเขาเสีย แต่ยูฮาบัชกลับสนใจแค่ฮัชวาลต์ เด็กไร้พรสวรรค์ที่ได้รับรู้ว่าแท้จริงแล้วเขามีพรสวรรค์ยิ่งกว่าใคร ยูฮาบัชราชันย์ควินซี่ถึงกับกล่าวว่าเขาคือครึ่งหนึ่งที่ตามหามาแสนนาน ในที่สุดเด็กชายกลวงเปล่าก็ได้รับการยอมรับ มีที่ยืนอยู่สังคมที่มองเขาอย่างเท่าเทียมหรือแม้แต่สูงส่งกว่า การได้รับการยอมรับจากราชันย์ควินซี่ยิ่งเติมเต็มปมในใจของเขา ชายคนต่อไปที่จะมาชี้เขาเป็นผู้ช่วยเขาให้รอดอย่างแท้จริง ในทางจิตวิทยา การศรัทธาในพระเจ้ามักเชื่อมโยงกับการศรัทธาใน "พ่อผู้ยิ่งใหญ่" เพราะมนุษย์มักเติมโตมาโดยสนิทกับแม่ ส่วนพ่อนั้นเป็เหมือนแบบอย่าง ผู้ชี้นำ ผู้ให้ความรู้ ผู้ช่วยให้รอด เด็กกำพร้าอย่างฮัชวาลต์ยิ่งโหยหา "พ่อผู้ยิ่งใหญ่" ยิ่งกว่าใคร การเข้าร่วมกับยูฮาบัช จึงเป็นยิ่งกว่าความฝัน ผมจึงกล้ายืนยันว่าเขาภักดีต่อยูฮาบัชอย่างจริงใจและยอมสละแม้ชีวิตตัวเองได้จริงๆ
แล้วความฝันของฮัชวาลต์คืออะไร? เราต่างรู้กันว่าในวาระสุดท้ายของเขา หลังจากการต่อสู้กับอิชิดะและโดนดูดพลังกลับไปโดยยูฮาบัช เขาได้บอกให้อิชิดะสะท้อนบาดแผลบนร่างกลับมาให้เขาเสีย เพราะคนไกล้ตายอย่างเขาถึงมีแผลเพิ่มก็ไม่ต่างกัน แม้แต่อิชิดะยังแปลกใจ ผมสรุปได้ว่ามันเป็นเพราะความสุดขั่วของบุคลิกของเขา ระหว่าง หัวใจของเขาที่ภักดีต่อยูฮาบัชกับความผูกพันธ์ที่มีต่อบัซบี ยูฮาบัชเป็นเหมือนผู้ช่วยให้รอดของเขา นำพาเขาให้พ้นจากเมฆทะมึนของชีวิตวัยเด็กสู่แสงสว่าง กลับกัน บัซบีที่คอยอยู่ข้างเขามาตลอด เป็นเพิ่อนคอยดูแลเขาในยามที่ไม่มีใคร แม้จะชอบยกตนข่มท่านอยู่บ้างแต่ก็จริงใจกับเขาเหมือนเป็นน้องชายแท้ๆเสมอ ถึงจะไม่ได้มีความแค้นกับยูฮาบัชโดยตรง แต่ความฝันของบัซบีก็ถูกฮัชวาลต์รับมาเป็นความฝันของตัวเองด้วย เขารู้ดีว่าไม่มีทางกล่อมให้บัซบียอมจำนนได้ สักวันหนึ่งบัซบีจะต้องตายด้วยน้ำมือของยูฮาบัช เพราะอย่างนั้น ถ้ามันต้องเป็นอย่างนั้น ให้มาตายด้วยน้ำมือเขาเองดีกว่า อย่างน้อยความฝันของบัซบีก็ยังคงสืบทอดมายังตัวเขา ภาระกิจสังหารยูฮาบัชยังคงเดินหน้าต่อไป ว่ากันว่าราชันย์ควินซี่เมื่อหลับไหล พลังของเขาและฮัชวาลต์จะสลับกัน ผมเดาว่า แม้แต่ความนึกคิดก็คงจะสามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ด้วย ครั้งหนึ่งยูฮาบัชเคยฝันว่าเขาโดนอิจิโกะฆ่าตาย ในตอนนั้นเขาคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ฮัชวาลอยากจะให้เขาเห็น แต่เเท้จริงแล้วมันเป็นการมองเห็นอนาคตของเขาเอง ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? นั่นก็เพราะลึกๆแล้วยูฮาบัชรู้ว่าฮัชวาลต์อยากให้เขาตาย และจริงๆในใจของฮัชวาลด์ก็แอบหวังว่าอิจิโกะจะเป็นผู้กำจัดยูฮาบัชลงได้จริงๆ ความย้อนแย้งของบุคลิกภาพอันซับซ้อนนี้แสดงออกด้วยดาบใหญ่ประจำตระกูลบัซที่ฮัชวาลต์ยังคงใช้อยู่จนวาระสุดท้าย เพื่อย้ำเตือนว่าก่อนจะเป็นมือขวาของราชันย์ควินซี่ เขายังเป็นคนของตระกูลบัซ เป็นเพื่อนเป็นพี่น้องของบัซบีที่เขารักนั่นเอง
4. วันเกิดของฮิสึกายะ
ฮิสึกายะ โทชิโร่ คือหัวหน้าหน่อยสุดเท่ขวัญใจเเม่ยกแห่ง13หน่วยพิทักษ์ จริงที่เขามักโดนยำเละและเป็นกระสอบทรายของทุกคนมาตลอดทั้งเรื่อง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าพี่แกเป็นคนที่มีร่างพัฒนาเยอะที่สุดรองจากพระเอก(ขนาดชุดควินซี่ยังได้ไส่อะคิดดู) แถมไม่ว่าจะโดนยำเละแค่ไหนก็ยังเป็นขวัญใจสาวๆน้อยใหญ่จนจบเรื่อง ที่ผมอยากจะเล่าให้ฟังก็คือ เรามักจะจำฮิสึกายะได้ในฐานะหัวหน้าเด็กจอมหัวร้อนเพราะแค่ภาคไอเซนภาคเดียวเขาหัวร้อนไปประมาณแปดร้อยรอบ แล้วทุกรอบก็นำมาซึ่งความวินาศแก่ตัวเองและคนรอบข้างทั้งสิ้น การจะเข้าใจความหัวร้อนของเขา เราต้องเข้าใจวิธีคิดของคนที่เติบโตมาจากเมืองลูคอนเสียก่อนว่าเป็นอย่างไร
คนจากเมืองลูคอนนั้นคือวิญญาณธรรมดาที่ถูกส่งมายังโซลโซลไซตี้ ไม่เหมือนพวกขุนนางในเซเรเทย์ พวกเขาไม่มีพลังกดดันวิญญาณ ไม่หิว มีลูกไม่ได้ เป็นเหมือนวิญญาณลองไปลอยมาที่สุด ค่ืออยู่ๆก็ผุดขึ้นมา นับเอาคนที่อยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวกันเอง จะบอกว่าไม่มีความสัมพันธ์จริงๆเกิดขึ้นเลย หรือมีความผูกพันธ์ที่แน่นแฟ้นก็ได้ เพราะคนที่นี่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด ความผูกพันธ์จึงเกิดจากใจล้วนๆ พวกเขาไม่มีวันเกิด(เพราะผุดขึ้นมาเฉยๆจริงๆ) วันเกิดจึงเป็นวันที่ตั้งขึ้นเอง หรือไม่ก็ตามแต่ที่คนที่พวกเขารักหรือผูกพันธ์กำหนดให้ เช่นวันแรกที่ได้เจอกัน ชาวเมืองลูคอนจำนวนน้อยเท่านั้นที่มีพลังวิญญาณและสามารถเป็นยมทูตได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังแตกต่างจากยมฑูตโดยกำเนิด พวกเขาถูกแบ่งชนชั้น การที่คนจากเมืองลูคอนได้เป็นหัวหน้าหน่วย แสดงได้ถึงความสำเร็จในการเลื่อนชนชั้น ต่อสู้กับความลำบากจนได้สบาย ฮิสึกายะเป็นหนึ่งในนั้น เขากับฮินาโมริอาศัยอยู่ร่วมกันในเมืองลูคอนจนกระทั่งคุณยายที่เลี้ยงดูพวกเขามาตายไป เขาทั้งสองจึงเข้าร่วมฝึกฝนเพื่อเป็นยมทูต แม้ฮิซึกายะจะเป็นอัจฉริยะในรอบพันปีจนได้เป็นหัวหน้าหน่วยในเวลาอันสั้น แต่ก็ไม่เคยลืมฮินาโมริที่เป็นเพื่อนที่เติบโตมาด้วยกันเลย ฮินาโมริเป็นเหมือนความสัมพันธ์เดียวในโลกของเขา ในตอนพิเศษ เบ่งบานในเดือนหนาว พูดถังการจัดงานวันเกิดให้กับไอเซน ฮิซึกายะบอกว่า คนจากเมืองลูคอนอย่างเขามีวันเกิดซะที่ไหนเลยไม่ค่อยเข้าใจเรื่องนี้ ตอนนี้จบลงที่การระลึกถึงความสัมพันธ์ต่างๆที่มีให้แก่กัน เหมือนดอกไม้ที่เบ่งบานในเดือนอันหนาวเหน็บ ทำให้มีความหวังในการมีชีวิตอยู่ต่อไป ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของชาวเมืองลูคอนนี้เองที่แสดงออกเป็นบุคลิกกันโดดเด่นของฮิสึกายะ ที่ไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายฮินาโมริเด็ดขาด นั่นก็เพราะฮินาโมริเป็นเหมือนกับชีวิตของเขา เป็นดั่งผู้มอบวันเกิดของเขานั่นเอง
5.ความรู้สึกของอิจิโกะและลูเคีย
ในฐานะกองอวยลูเคียอิจิโกะ ขอบอกสั้นๆแค่ว่าจริงๆคู่นี้มันเหมือนความสัมพันธ์ "โบรแมนซ์" มากๆคือเหมือนเพื่อนชายที่สนิทกันใจถึงกัน จริงที่ผมก็แอบหวังให้ทั้งสองคนรักกันอย่างชายหญิง แต่ผมอยากพูดมวลความรู้สึกบางที่เกิดขึ้นตอนที่ไกล้จบภาคโซลโซไซตี้ตอนที่อิจิโกะไปตามลูเคียกลับโลกที่บ้านของซูซาคุ แล้วลูเคียได้บอกกับเขาว่า เธอจะอยู่ที่โซลโซไซตี้ต่อ จริงๆฉากนั้นมันเหมือนฉากบอกเลิกกลายๆ เป็นการยืนยันความสัมพันธ์ของทั้งคู่ อิจิโกะที่เข้าใจเรื่องนี้ดีก็ได้แต่ยอมรับแล้วกลับโลกไปทั้งอย่างนั้น อีกครั้งหนึ่งคือฉากที่พลังยมทูตของอิจิโกะค่อยๆสลายไป คราวนี้เขาไม่อาจพบเจอกับลูเคียได้อีกเเล้ว ภาคอารันคาร์ความสัมพันธ์ของเขากับโฮริอิเมะก็พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น หรือนี่จะเป็นจุดจบแล้วจริงๆ? ทุกคนยังคงจำสายตาเว้าวอนนั้นได้ ตอนที่ลูเคียค่อยๆสลายหายไป แต่นั่นมันเป็นแค่ในมุมมองของอิจิโกะ จริงๆแล้วลูเคียยังคงยืนมองเขาต่อไปอีกสักพักรึเปล่านะ? เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ได้เลย
"ฉันจะตามทันมั้ยนะ...ความเร็วของโลกใบนี้ที่ไม่มีเธออยู่..."
ปล. ขอบคุณที่สละเวลาอ่านครับ
ปล.2 ใครมีโมเม้นเล็กๆที่ชอบในการ์ตูนสู้กันเรื่องนี้มาแบ่งปันกันได้นะครับ