เพราะอุปกรณ์กันขโมยไม่ได้มีแค่กล้องครับ หลายคนพอนึกถึงระบบกันขโมย ก็จะนึกถึงกล้องวงจรปิด ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่จริงๆ ระบบกันขโมยมีมากกว่านั้นครับ อย่างผมเองก็อยากหาระบบที่ไว้กันขโมยที่ดีกว่าปัจจุบัน เพราะบ้านผมมีกล้องอยู่แล้ว เต็มที่ก็แค่ดูได้ว่าใครทำอะไร ดูคนในบ้าน แต่ไม่ได้ร้องเตือนหรือ Alarm อะไร

ทีนี้ก็เริ่มมีบางเจ้าที่พยายามทำระบบกันขโมยแบบครบวงจร คือเตือน Alarm ตรวจจับความเคลื่อนไหวต่างๆ อย่างล่าสุดผมได้ระบบกันขโมยมาชุดนึง ของแบรนด์ Bluguard รุ่น Ximple W2 ซึ่งผลิตจากประเทศมาเลเซีย ในระบบเค้ามีทั้งกล้อง ตัวจับความเคลื่อนไหว และพวกเซนเซอร์ต่างๆ มาลองดูกันดีกว่าครับว่าจะมีอะไรในกล่อง และใช้งานยังไงบ้าง
มาดูตัวระบบกันขโมยก่อนครับ ซึ่งจะแยกกล่องกับตัวกล้องวงจรปิด โดยทำงานร่วมกัน จะมีอุปกรณ์ไล่ไปตั้งแต่
- คู่มือ ซึ่งไม่น่ามีใครอ่านเท่าไร 555 
- ตัว Gateway เอาไว้ควบคุมการทำงานเซนเซอร์ทั้งหมด โดยจะต้องเชื่อมกับ Router
- Siren จะร้องเตือนเมื่อมีการงัดแงะประตู (เมื่อ Arm ระบบ)
- เซนเซอร์ ประตู 2 ชิ้น ติดที่ประตู หากมีการงัดแงะ ไซเรนจะดัง
- PIR หรือตัวตรวจจับความเคลื่อนไหว เมื่อระบบ Arm หรือทำงาน หากมีใครผ่านจะร้องดังทันที
- Keychain หรือรีโมท สำหรับควบคุมเครื่องให้ระบบArm/Disarm/SOS ได้ ทั้งนี้สามารถควบคุมผ่านแอปพลิเคชั่นบนมือถือได้เช่นกัน
- สาย LAN สำหรับเสียบกับ Gateway และกล้อง (กล้องจะใช้สาย LAN เชื่อมต่อแค่ครั้งแรก)
- อแดปเตอร์สำหรับเสียบปลั๊ก

มาดูวิธีการติดตั้งกันครับ ไม่ยากครับ ทำได้เองเลย 
เริ่มต้นจาก เสียบสาย LAN ระหว่าง Gateway กับ Router ในบ้านของคุณ
หลังจากเสียบสาย LAN เข้า Router แล้ว ก็เสียบปลั๊ก เครื่องจะดังแจ้งเตือน 2 ครั้ง คือตอนเปิดเครื่อง กับเมื่อเครื่อง Boot พร้อมใช้งาน (ประมาณ 2-3 นาทีหลังจากเปิดเครื่อง) เป็นอันว่าเครื่องพร้อมทำงานแล้วครับ

อ้อ ตัว Gateway เนี่ยเค้ามีแบตเตอรี่ในตัวนะครับ ถ้าไฟดับสามารถสำรองไฟได้ 24 ชั่วโมง ดังนั้นถ้าถอดปลั๊กมาแล้วไฟตัวเครื่องไม่ดับก็ไม่ต้องแปลกใจครับ

ตัว Ximple W2 รุ่นนี้ เค้าใช้คลื่น 921 MHz ซึ่งเป็นจุดเด่นของเค้าเพราะ ปกติสัญญาณคลื่นที่นิยมใช้จะเป็นพวก 433 868 330 MHz ซึ่งพอใช้คลื่นเหล่านี้กันเยอะก็จะเกิดปัญหา สัญญาณกวนกัน หรือโจรแฮกได้ง่าย ถ้าใช้ Bluguard ไม่ต้องกังวลเรื่องสัญญาณถูกกวนเลยครับ และได้รับอนุญาตจาก กสทช เรียบร้อย ฉะนั้นสบายใจได้ครับ 
จากนั้น วางตัว Siren ครับ อย่างผมวางไว้ในห้องครับ หากมีอะไรก็จะดังมาที่นี่ทันที ไซเรนตัวนี้ดังมากนะครับ ได้ยินทั่วทั้งบ้านเลย อย่างตัวนี้มีแบตเตอรี่ในตัว แค่วางไว้มันจะเชื่อมต่อกับตัว Gateway หรือกล่องควบคุมโดยอัตโนมัติ

การส่งสัญญาณจาก Gateway ไปเซนเซอร์ทำงานได้กว้างพอควรเลยครับ ควบคุมได้ไกลถึง 100 เมตร จากที่ลองในบ้านก็สามารถควบคุมแอป ใช้งานได้ทั้งบ้านนะครับ (ผมอยู่บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดประมาณ 130 ตารางวาได้)
อันนี้ผมซื้อกล้องวงจรปิดด้วย ซึ่งจะเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่นเดียวกัน เอาไว้สอดส่องเวลาเราไม่อยู่บ้าน ครับ 

เดี๋ยวเรื่องการเชื่อมต่อกับแอป มาดูต่อกันในพาร์ทต่อไปครับผม