คิดถึง ภาค 2 บทที่ 1

กระทู้สนทนา


.


               ปีนี้บอสและเพื่อน ๆ เข้าเรียนชั้นมัธยมปีที่ 1 แต่ทว่าพวกเธอต้องแยกจากกัน ไม่ใช่เพราะเธอไม่อยากตามเพื่อน เพราะแม่ของเธอให้เข้าเรียนโรงเรียนใกล้บ้านก่อน นั่นคือโรงเรียนประจำตำบล

               ก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร บอสจำใจต้องแยกจากเพื่อนซี้มาเรียนที่นี่ ด้วยความคิดแบบสมัยของแม่ กลัวว่าเธอจะเสียผู้เสียคนหลงไหลไปกับสังคมในเมือง ดูแม่ของเธอคิดสิ! บอสได้แต่ถอนหายใจกับเหตุผลของมารดา

               จ๋อม กับสองฝาแฝดเข้าไปเรียนในตัวจังหวัด ถึงเป็นเช่นนี้พวกเธอก็ยังเล่นด้วยกัน วันหยุดเสาร์อาทิตย์เที่ยวไปเล่นด้วยกันอยู่เนือง ๆ

               เพื่อน ๆ รุ่นเดียวกันเข้าเรียนโรงเรียนประจำตำบลเป็นส่วนใหญ่ มีแค่หกคนได้ที่เข้าไปเรียนในตัวจังหวัด แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอหายเหงาได้เลย

              เพื่อนกลุ่มนี้ไม่ใช่กลุ่มที่เธอเล่นด้วยเป็นหลัก หลังจากนี้ไปอีกนานคงต้องได้สนิทกัน ด้วยความจำใจและจำยอม แค่เพื่อนร่วมห้องสมัยประถมเฉย ๆ ถึงจะแลดูสนิทกันก็ตาม ลึก ๆ เธอไม่ได้สนิทใครสักคนเลย

               เอาเถอะในเมื่อเธอเลือกไม่ได้ เธอก็จำต้องปรับตัวเองให้อยู่กับเพื่อน ๆ กลุ่มนี้ให้ได้ แม่สัญญากับเธอว่าขึ้น ม.ปลายแล้วจะยอมให้เธอเข้าไปเรียนในตัวจังหวัด

                วันเปิดเรียนวันแรกทำเอาเธอตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย บอสรีดชุดนักเรียน จัดกระเป๋า ขัดรองเท้าหนังนักเรียนด้วยกีวี่จนเงาวับ เตรียมความพร้อมไว้ตั้งแต่เมื่อคืน และตั้งนาฬิกาปลุกในโทรศัพท์ไว้ปลุกตอนหกโมงเช้า ทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้แล้ว รอแค่พรุ่งนี้อาบน้ำไปโรงเรียนใหม่อย่างเดียว

               แม่ซื้อโทรศัพท์เครื่องราคาสุดแพง สุดหรูหราให้กับเธอ เพื่อแลกกับการที่เธอยอมตามใจ เรียนโรงเรียนตำบลก่อน ซึ่งเธอก็พอใจอยู่ไม่น้อย ถึงได้ยอมตามใจแม่แต่โดยดี ทั้งกลุ่มเพื่อนโทรศัพท์ของเธอแพงที่สุด หรูกว่าของจ๋อมและสองฝาแฝดอีก

               บอสแต่งตัวเสร็จทานข้าวเช้าที่ยายเตรียมให้เรียบร้อย พร้อมกับพี่ ๆ ทุกคนและน้องบีม ตอนนี้พวกเธอเข้าเรียนขั้นมัธยมกันแล้ว ยกเว้นน้องบีมที่ยังเรียนชั้นประถม

               ที่บ้านของเธอมีมอเตอร์ไซค์สองคัน ซึ่งเป็นของพี่ ๆ ทั้งหมด พี่บอมกับพี่บอลซ้อนไปด้วยกัน พี่ปาวกับพี่แป้งซ้อนไปด้วยกัน คู่พี่น้องใครคู่พี่น้องมัน พี่ปาวบอกให้เธอซ้อนสามไปด้วย เธอปฏิเสธ เพราะพวกเธอนัดกันไว้แล้วจะเดินไปโรงเรียน

              โรงเรียนประจำตำบลจัดตั้งขึ้นที่หมู่บ้านของเธอ ชื่อโรงเรียนยังใช้ชื่อหมู่บ้านของเธอด้วย ถึงจะเป็นโรงเรียนประจำตำบลก็ตาม เพราะว่าชื่อตำบลก็เป็นชื่อเดียวกันกับหมู่บ้านของเธออีกนั่นแหละ

               โรงเรียนตั้งอยู่ห่างออกไปจากตัวหมู่บ้านประมาณหนึ่งกิโลเมตร ในที่สาธารณะหรือป่าช้าเก่า ตรงข้ามกับโรงเรียนเป็นป่าช้าที่ยังใช้งานในปัจจุบัน

                บอสรีบสวัสดียายรับเงินไปโรงเรียนห้าสิบบาท ก่อนจะรีบเดินไปบ้านออย จุดนัดพบกันของพวกเธอคือบ้านของออย เพื่อน ๆ คงไปกันหมดแล้ว เธอไม่อยากเป็นคนสุดท้ายที่เพื่อนต้องรอ

               บอสคว้าเอากระเป๋าและสวัสดียายอีกครั้งรีบเดินจำอ้าวออกไปทันที มาถึงก็พบเพื่อน ๆ มากันเกือบครบหมดแล้ว เฉพาะกลุ่มของพวกเธอมีกันเจ็ดคน เมื่อเพื่อนคนสุดท้ายมาถึงพวกเธอก็ออกเดินทางกันไปโรงเรียนได้

               เด็กผมสั้นเสื้อคอซองกระโปงกรีบกลาง แต่ละคนรีดจนมันวับกันเลยทีเดียว สะพายกระเป๋านักเรียนสีดำเหมือนนัดกันมา ใช่พวกเธอนัดกันซื้อเอง มันเป็นอะไรที่มีความสุขเล็ก ๆ ที่ต้องมีเหมือนกัน เพราะอยู่แก๊งเดียวกัน

               บอสมีพวงกุญแจตุ๊กตาห้อยไว้ที่ซิปกระเป๋าด้วย ระหว่างทางมีเพื่อนรุ่นพี่กลุ่มอื่น ๆ เดินร่วมทางไปด้วยอย่างครึกครื้น รถมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านหน้าไปล้วนแต่เป็นมอเตอร์ไซค์ของนักเรียนโรงเรียนนี้กันทั้งนั้น

                เมื่อมาถึงโรงเรียน บอสตื่นตาตื่นใจอยู่ไม่น้อย ต่างคนต่างรีบเดินขึ้นอาคารเรียนเพื่อไปหาห้องของตนเอง ชั้น ม.1 มีทั้งหมด 5 ห้อง แต่ละห้องจะติดชื่อของนักเรียนเอาไว้ ว่าใครอยู่ห้องไหน

               ห้องคิงหรือห้องที่เก่งที่สุดคือห้อง 5 นับถอยหลังลงมาห้องบ๊วยสุดคือห้อง 1 บอสรีบเดินหาดูชื่อตัวเองอย่างใจจดใจจ่อ มีเพื่อนนักเรียนคนอื่น ๆ มากมายมายืนมุงดูชื่อของตนเองเช่นกัน เบียดเสียดกันเข้าไปดูชื่อที่ติดไว้หน้าประตูห้อง

               เธอไล่หาชื่อตัวเองมาเรื่อย ๆ ภาวนาขอให้ได้อยู่ห้อง 5 และคำขอของเธอเป็นจริง ชื่อเด็กหญิงสุนิสาถูกติดที่ห้องห้า ลำดับที่ห้าพอดีเลย บอสยิ้มดีใจรีบหาชื่อเพื่อนในกลุ่มของตนว่ามีใครบ้างที่อยู่ห้องนี้ จะได้นั่งด้วยกัน

               และก็มีออย น้ำ ทราย เธอ แพท เธอตกลงนั่งคู่กันกับน้ำ ออยนั่งคู่กับทราย เหลือแพทนั่งกับเพื่อนหมู่บ้านอื่น บอสสงสารแพทที่เป็นตัวเศษจะให้ทำอย่างไร ครูไม่ให้นั่งสามคน จะให้เธอเสียสละมันก็กะไรอยู่ สุดท้ายแล้วต้องปล่อยแพทไปตามยถากรรม แพทได้นั่งคู่กับเพื่อนหมู่บ้านอื่น แพทเข้าใจไม่งอนพวกเธอสี่คน

                ที่หน้ากระดานเขียนข้อความยินดีตอนรับนักเรียนใหม่ทุกคน ตามด้วยชื่อของคุณครูที่ปรึกษา ตอนประถมมีห้องเดียวเรียกคุณครูประจำชั้น พอขึ้นมัธยมต้องเรียกว่าครูที่ปรึกษา

                ชั่วโมงแรกของการเรียน เจอครูคนแรกเป็นครูประจำห้องของเธอ หรือครูที่ปรึกษานั่นเอง คุณครูให้แนะนำตัวเองชื่ออะไร ชื่อเล่นว่าอะไร มาจากโรงเรียนไหน ให้เพื่อน ๆ ในห้องฟัง

                เริ่มตั้งแต่แถวแรก จากขวาไปซ้าย ทุกคนลุกขึ้นยืนแนะนำตัวเองเสียงดังฟังชัด ให้เพื่อน ๆ ได้รู้จัก พร้อมปรบมือให้เพื่อเป็นการต้อนรับ ต่อไปนี้เราจะเป็นเพื่อนกัน

               “ดิฉันเด็กหญิง สุนิสา ทรัพย์ทวีสินธุ์ค่ะ ชื่อเล่นบอส มาจากโรงเรียนราษฎร์สงเคราะห์ค่ะ”
เพื่อนๆ ปรบมือให้เธอ เมื่อเธอแนะนำตัวเองจบ

               คุณครูยิ้มให้เธอ “มาจากตรงนี้เอง ใกล้ ๆ กัน ไม่ต้องย้ายไปไหนไกลเลย เรียนที่นี่เลย” คุณครูชี้ไปทางโรงเรียนประถมของเธอ ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำหมู่บ้านเท่านั้น ส่วนโรงเรียนมัธยมเรียนรวมทุกหมู่บ้านเลย คุณครูบอกให้เธอนั่งลงเหมือนเดิม และเป็นทีของน้ำแนะนำตัว เพราะน้ำนั่งคู่กับเธอ

               วันแรกของการเปิดเรียนไม่ค่อยได้เรียนเท่าไหร่ เพราะแนะนำตัวให้คุณครูประจำรายวิชารู้จัก ส่วนพวกเธอรู้จักกันหมดแล้ว

               บอสตื่นเต้นมาก มันรู้สึกตื่นตาตื่นใจอย่างบอกไม่ถูก ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป นี่มันคือโรงเรียนของผู้ใหญ่ มันไม่เหมือนตอนเรียนประถมเลย แต่ลึก ๆ ภายในใจเธอคิดถึงจ๋อม คิดถึงพิมพ์กับแพรวอยู่ไม่น้อย คิดถึงมากจนต้องโทรไปคุยด้วยในช่วงพักเที่ยงตลอดระยะเวลาของสัปดาห์แรก ของการแยกห่างกัน ของการเรียนชั้น ม.1 กันเลย

               เธอต้องปรับตัวในหลาย ๆ เรื่อง ๆ ทั้งเรื่องการเรียน ต้องเขียนให้ทันตามที่คุณครูพูด ไม่ใช่จดตามคุณครูเขียนให้ดูบนกระดาน ครูอ่านให้จดตาม ทันก็ทันไม่ทันก็ไปลอกเพื่อนเอา

               เรียนเป็นชั่วโมง สลับคุณครูเข้าสอนแต่ละรายวิชา ไม่ใช่ครูคนเดียวทุกวิชาเหมือนตอนประถม เธอต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน เปลี่ยนแปลงตัวเอง มีความรับผิดชอบต่อตนเองมากขึ้น

               ที่แน่ ๆ ที่เห็นได้ชัดเจนคือเธอต้องตั้งใจฟังคุณครูสอน เพราะไม่มีแพรวให้ลอกอีกแล้ว เธอต้องช่วยเหลือตัวเอง จะลอกน้ำก็ไม่ได้ เธอต่างหากที่ต้องเป็นที่พึ่งให้กับน้ำ

               พอถึงชั่วโมงของวิชาสังคมทีไร เธอต้องตั้งใจฟังเป็นพิเศษ จิตใจต้องอยู่กับเนื้อกับตัว ไม่วอกแวก เพราะครูสอนไปเร็วมาก ดุก็ที่หนึ่ง เป็นครูผู้หญิงที่ดุมาก และสอนผ่านไปแล้วไปเลย ทวนสองรอบพอ ไม่มีรอบที่สาม

               ถ้าใครเผลอจดไม่ทันที่ครูพูดก็ผ่านไปเลย บอสได้วิชามือเร็ว เขียนเร็วมาจากวิชาสังคมนั่นเอง จดทันไว้ก่อน ครูอ่านไม่ออกก็แล้วแต่ครู ไม่มีใครอ่านลายมือเธอออกนอกจากตัวเธอเอง บางครั้งตนเองยังอ่านลายมือตนเองไม่ออกเลย...

                บอสนึกหน้าคุณครูวัยยังสาวท่านหนึ่ง ครูวิชาสังคมชั้น ม.1 ขึ้นมาดื้อ ๆ และก็ยิ้มคนเดียว ด้วยความเอ็นดูคุณครูท่านนี้ ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แต่คล่องแคล่วว่องไวมาก

               สอนก็ดุ ไม่รู้จะดุไปทำไม เธอติดเขียนเร็วจนเป็นนิสัยเพราะคุณครูท่านนี้เลย และเขียนตัวหนังสือก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ เขียนให้ตัวเองอ่านออกคนเดียวเป็นพอ น้ำชอบถามเสมอ อี่บอสตัวอะไรของมืง คำว่าอะไร อ่านว่าอะไร อยู่เสมอ ๆ และเธอก็ชอบบอกเพื่อนว่านี่แหละคนจะได้เป็นหมอ ตัวหนังสือหมอรู้จักมั้ย ฮา

จบบท...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่