เครดิต
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1925568
-การเป็นนักแสดงอิสระที่ดูเหมือนจะง่าย ความจริงนั้นไม่ใช่เลย
-ช่องทางรอดของดาราไร้งานกับการผันตัวเป็นนักแสดงอิสระ
-อิสระแล้วอยากปังต้องทำยังไง?
เมื่อหลายสิบปีก่อนการที่นักแสดงคนนึงจะออกมาเป็นนักแสดงอิสระ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างเสี่ยงที่จะทำให้ไม่ค่อยมีงานละครออกมาสู่สายตาประชาชนเท่าไหร่ เนื่องด้วยต้นสังกัดต้องป้อนงานให้กับนักแสดงในสังกัดของตนก่อนแล้วค่อยยื่นโอกาสให้กับเด็กนอกสังกัด
เพราะเหตุนี้จึงทำให้หลายคนมองว่าการจะมาเป็นนักแสดงอิสระอาจจะไม่รอด หากจะยึดงานแสดงเป็นอาชีพหลักเลี้ยงดูปากท้อง จึงต้องพยายามหาสังกัดให้กับตัวเอง ซึ่งก็มีตัวเลือกน้อยนิดแค่ 3, 5, 7 และ 9
ข้อดีของการเป็นนักแสดงมีค่ายมีสังกัด
1. ไม่ต้องวิ่งหางานเอง ต้นสังกัดจัดการให้เกือบทุกอย่าง
2. รู้ว่าปีนี้ต้องเล่นละครกี่เรื่อง วางแพลนชีวิตของตัวเองได้
3. รายได้มีแน่นอน
ข้อเสียของการเป็นนักแสดงมีค่ายมีสังกัด
1. นักแสดงต้องอยู่ภายใต้กฎกติกาที่ต้นสังกัดวางเอาไว้
2. นักแสดงจะต้องทำงานอยู่แค่ภายในช่องที่เซ็นสัญญาเอาไว้เท่านั้น
แต่ปัจจุบันอะไรๆ ก็เปลี่ยนไป เนื่องจากช่องทีวีมีเยอะมากขึ้น และการที่ช่องเกิดใหม่ยังไม่มีนักแสดงเป็นของตัวเอง การจะปั้นเด็กให้ติดตลาด มีชื่อเสียงเปรี้ยงปร้างเหมือนช่องใหญ่ๆ ที่ทำเอาไว้นั้นเป็นเรื่องที่ยากไม่น้อย ต้องใช้เวลาในการเจียระไนค่อนข้างนาน
เพราะฉะนั้น การที่ช่องเปิดใหม่จะไปเสนอทางเลือกให้กับดาราที่มีชื่อเสียงและฝีมือที่จะหมดสัญญาจากช่องใหญ่ๆ มาร่วมงานกับช่องของตนนั้น ก็เป็นอีกทางเลือกที่หลายๆ ช่องทำกัน
และเมื่อดาราเริ่มเห็นช่องทางการมีงานเพิ่มขึ้น จากที่เคยต้องการที่จะมีสังกัดเอาไว้คอยซัพพอร์ตตัวเอง ตอนนี้หลายคนขอโบกมือลาผันตัวเองเป็นนักแสดงอิสระน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
เพราะเหตุนี้ เลยทำให้นักแสดงทั้งตัวใหญ่ ตัวเล็ก เริ่มคิดว่า หากยังอยู่ช่องเดิมที่มีนักแสดงหลายร้อยชีวิต โอกาสที่จะมีงานละครก็คงจะน้อยลง เนื่องจากคู่แข่งเยอะ การแข่งขันสูง ออกไปทำงานนอกช่องน่าจะรอด มีงานให้ได้ทำมากมายหลากหลายขึ้น
เราจึงได้เห็นดาราตัวใหญ่ๆ ระดับพระเอก นางเอก หรือเบอร์รองๆ หลายคนไม่ต่อสัญญากับช่องเก่า ออกมาเป็นนักแสดงอิสระ รับงานละครเอง โผล่หน้าช่องนั้นที ช่องนี้ทีเยอะแยะมากขึ้น
ซึ่งการเป็นนักแสดงอิสระนั้น ไม่ใช่แค่จะมีงานมากขึ้น ได้รับค่าเหนื่อยมากขึ้น แต่ยังจะได้รับบทบาทใหม่ๆ ที่ท้าทายความสามารถอีก เพราะถ้าหากยังอยู่สังกัดเดิม โอกาสที่จะได้บทดีๆ เด่นๆ อาจจะมาไม่ถึงก็เป็นได้ เพราะถูกเบอร์ใหญ่ๆ หรือลูกรัก พวกบรรดาเด็กเส้น ปาดหน้าเอาบทดีๆ ไปก่อน
ข้อดีของการเป็นนักแสดงอิสระไม่มีต้นสังกัด
1. สามารถรับงานได้หมดตามที่ตนเองพอใจ
2. มีอิสระในการตัดสินใจเลือกงาน รับงานที่เหมาะกับตัวเองหรือที่อยากจะทำเยอะมากขึ้น
ข้อเสียของการเป็นนักแสดงอิสระไม่มีต้นสังกัด
1. เนื่องจากการที่ไม่มีต้นสังกัดคอยดูแล นักแสดงต้องทำอะไรเองหมด
2. หากไม่มีคอนเนกชั่นเยอะนั่นอาจจะกลายเป็นข้อเสียได้ที่ทำให้สู้นักแสดงอิสระคนอื่นไม่ได้
ต้องบอกว่าการที่มาเป็นนักแสดงอิสระใช่ว่าจะไปได้รอดทุกคน เพราะมันอยู่ที่ฝีมือทางการแสดง บวกกับโอกาสและประสบการณ์จากการทำงาน เพราะหากมีชั่วโมงบินที่สูง การแสดงเข้าขั้นถูกใจคนดู จะกลายเป็นนักแสดงเนื้อหอมที่ใครๆ ก็รุมแย่งตัวไปร่วมงาน ซึ่งก็มีแค่บางคนเท่านั้นที่รอด ที่จะมีงานล้นมือโผล่ช่องนั้นทีโผล่ช่องนี้ทีจนคนดูเบื่อหน้าไปเลย
ส่วนคนที่เป็นนักแสดงอิสระแล้วไปไม่รอด ก็มีให้เห็นอยู่ไม่น้อย ออกจากช่องเดิมเพราะไม่ค่อยมีงาน หวังมาหาน้ำบ่อหน้าด้วยการเป็นนักแสดงอิสระก็ยังไม่มีงานอีก หรือมีงานแล้วแต่กลับเล่นละครไม่เข้าตากรรมการ หรือเล่นละครดี แต่พฤติกรรมไม่ค่อยน่ารัก ก็ยิ่งทำให้เงียบกริบเข้าไปอีก
เพราะฉะนั้นการเป็นนักแสดงอิสระก็มีการแข่งขันสูงไม่แพ้การที่เป็นนักแสดงมีค่ายมีสังกัด แต่ถ้าหากมั่นใจว่าตัวเองมีคอนเน็กชั่นเริด สั่งสมประสบการณ์เพียบ ฝีมือเฉียบ มีผลงานที่คนยอมรับ และที่สำคัญมีวินัย ไม่เหวี่ยงวีน เอาแต่ใจ ไม่เห็นแก่ตัว มีความเป็นมืออาชีพแล้วละก็ ลุยเลย การเป็นนักแสดงอิสระไร้สังกัดงานรุมอยู่ใกล้แค่เอื้อม
เป็นกำลังใจให้กับทุกคนในวงการบันเทิง ที่มีสังกัดดูแล หรือ เป็นอิสระดูแลตัวเอง สิ่งที่ทุกคนต้องมีและทำอยู่เสมอคือต้องพัฒนาตัวเองให้มีศักยภาพและมีฝีมือขึ้นเรื่อยๆ สมกับที่ได้รับโอกาสที่มายืนอยู่ในจุดนี้ได้ จุดที่หลายๆ คนอยากจะเข้ามา
ดาราผันตัวเองเป็นนักแสดงอิสระ ปังจริงหรือแค่ขายฝัน
เครดิต
https://www.thairath.co.th/entertain/news/1925568
-การเป็นนักแสดงอิสระที่ดูเหมือนจะง่าย ความจริงนั้นไม่ใช่เลย
-ช่องทางรอดของดาราไร้งานกับการผันตัวเป็นนักแสดงอิสระ
-อิสระแล้วอยากปังต้องทำยังไง?
เมื่อหลายสิบปีก่อนการที่นักแสดงคนนึงจะออกมาเป็นนักแสดงอิสระ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างเสี่ยงที่จะทำให้ไม่ค่อยมีงานละครออกมาสู่สายตาประชาชนเท่าไหร่ เนื่องด้วยต้นสังกัดต้องป้อนงานให้กับนักแสดงในสังกัดของตนก่อนแล้วค่อยยื่นโอกาสให้กับเด็กนอกสังกัด
เพราะเหตุนี้จึงทำให้หลายคนมองว่าการจะมาเป็นนักแสดงอิสระอาจจะไม่รอด หากจะยึดงานแสดงเป็นอาชีพหลักเลี้ยงดูปากท้อง จึงต้องพยายามหาสังกัดให้กับตัวเอง ซึ่งก็มีตัวเลือกน้อยนิดแค่ 3, 5, 7 และ 9
ข้อดีของการเป็นนักแสดงมีค่ายมีสังกัด
1. ไม่ต้องวิ่งหางานเอง ต้นสังกัดจัดการให้เกือบทุกอย่าง
2. รู้ว่าปีนี้ต้องเล่นละครกี่เรื่อง วางแพลนชีวิตของตัวเองได้
3. รายได้มีแน่นอน
ข้อเสียของการเป็นนักแสดงมีค่ายมีสังกัด
1. นักแสดงต้องอยู่ภายใต้กฎกติกาที่ต้นสังกัดวางเอาไว้
2. นักแสดงจะต้องทำงานอยู่แค่ภายในช่องที่เซ็นสัญญาเอาไว้เท่านั้น
แต่ปัจจุบันอะไรๆ ก็เปลี่ยนไป เนื่องจากช่องทีวีมีเยอะมากขึ้น และการที่ช่องเกิดใหม่ยังไม่มีนักแสดงเป็นของตัวเอง การจะปั้นเด็กให้ติดตลาด มีชื่อเสียงเปรี้ยงปร้างเหมือนช่องใหญ่ๆ ที่ทำเอาไว้นั้นเป็นเรื่องที่ยากไม่น้อย ต้องใช้เวลาในการเจียระไนค่อนข้างนาน
เพราะฉะนั้น การที่ช่องเปิดใหม่จะไปเสนอทางเลือกให้กับดาราที่มีชื่อเสียงและฝีมือที่จะหมดสัญญาจากช่องใหญ่ๆ มาร่วมงานกับช่องของตนนั้น ก็เป็นอีกทางเลือกที่หลายๆ ช่องทำกัน
และเมื่อดาราเริ่มเห็นช่องทางการมีงานเพิ่มขึ้น จากที่เคยต้องการที่จะมีสังกัดเอาไว้คอยซัพพอร์ตตัวเอง ตอนนี้หลายคนขอโบกมือลาผันตัวเองเป็นนักแสดงอิสระน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
เพราะเหตุนี้ เลยทำให้นักแสดงทั้งตัวใหญ่ ตัวเล็ก เริ่มคิดว่า หากยังอยู่ช่องเดิมที่มีนักแสดงหลายร้อยชีวิต โอกาสที่จะมีงานละครก็คงจะน้อยลง เนื่องจากคู่แข่งเยอะ การแข่งขันสูง ออกไปทำงานนอกช่องน่าจะรอด มีงานให้ได้ทำมากมายหลากหลายขึ้น
เราจึงได้เห็นดาราตัวใหญ่ๆ ระดับพระเอก นางเอก หรือเบอร์รองๆ หลายคนไม่ต่อสัญญากับช่องเก่า ออกมาเป็นนักแสดงอิสระ รับงานละครเอง โผล่หน้าช่องนั้นที ช่องนี้ทีเยอะแยะมากขึ้น
ซึ่งการเป็นนักแสดงอิสระนั้น ไม่ใช่แค่จะมีงานมากขึ้น ได้รับค่าเหนื่อยมากขึ้น แต่ยังจะได้รับบทบาทใหม่ๆ ที่ท้าทายความสามารถอีก เพราะถ้าหากยังอยู่สังกัดเดิม โอกาสที่จะได้บทดีๆ เด่นๆ อาจจะมาไม่ถึงก็เป็นได้ เพราะถูกเบอร์ใหญ่ๆ หรือลูกรัก พวกบรรดาเด็กเส้น ปาดหน้าเอาบทดีๆ ไปก่อน
ข้อดีของการเป็นนักแสดงอิสระไม่มีต้นสังกัด
1. สามารถรับงานได้หมดตามที่ตนเองพอใจ
2. มีอิสระในการตัดสินใจเลือกงาน รับงานที่เหมาะกับตัวเองหรือที่อยากจะทำเยอะมากขึ้น
ข้อเสียของการเป็นนักแสดงอิสระไม่มีต้นสังกัด
1. เนื่องจากการที่ไม่มีต้นสังกัดคอยดูแล นักแสดงต้องทำอะไรเองหมด
2. หากไม่มีคอนเนกชั่นเยอะนั่นอาจจะกลายเป็นข้อเสียได้ที่ทำให้สู้นักแสดงอิสระคนอื่นไม่ได้
ต้องบอกว่าการที่มาเป็นนักแสดงอิสระใช่ว่าจะไปได้รอดทุกคน เพราะมันอยู่ที่ฝีมือทางการแสดง บวกกับโอกาสและประสบการณ์จากการทำงาน เพราะหากมีชั่วโมงบินที่สูง การแสดงเข้าขั้นถูกใจคนดู จะกลายเป็นนักแสดงเนื้อหอมที่ใครๆ ก็รุมแย่งตัวไปร่วมงาน ซึ่งก็มีแค่บางคนเท่านั้นที่รอด ที่จะมีงานล้นมือโผล่ช่องนั้นทีโผล่ช่องนี้ทีจนคนดูเบื่อหน้าไปเลย
ส่วนคนที่เป็นนักแสดงอิสระแล้วไปไม่รอด ก็มีให้เห็นอยู่ไม่น้อย ออกจากช่องเดิมเพราะไม่ค่อยมีงาน หวังมาหาน้ำบ่อหน้าด้วยการเป็นนักแสดงอิสระก็ยังไม่มีงานอีก หรือมีงานแล้วแต่กลับเล่นละครไม่เข้าตากรรมการ หรือเล่นละครดี แต่พฤติกรรมไม่ค่อยน่ารัก ก็ยิ่งทำให้เงียบกริบเข้าไปอีก
เพราะฉะนั้นการเป็นนักแสดงอิสระก็มีการแข่งขันสูงไม่แพ้การที่เป็นนักแสดงมีค่ายมีสังกัด แต่ถ้าหากมั่นใจว่าตัวเองมีคอนเน็กชั่นเริด สั่งสมประสบการณ์เพียบ ฝีมือเฉียบ มีผลงานที่คนยอมรับ และที่สำคัญมีวินัย ไม่เหวี่ยงวีน เอาแต่ใจ ไม่เห็นแก่ตัว มีความเป็นมืออาชีพแล้วละก็ ลุยเลย การเป็นนักแสดงอิสระไร้สังกัดงานรุมอยู่ใกล้แค่เอื้อม
เป็นกำลังใจให้กับทุกคนในวงการบันเทิง ที่มีสังกัดดูแล หรือ เป็นอิสระดูแลตัวเอง สิ่งที่ทุกคนต้องมีและทำอยู่เสมอคือต้องพัฒนาตัวเองให้มีศักยภาพและมีฝีมือขึ้นเรื่อยๆ สมกับที่ได้รับโอกาสที่มายืนอยู่ในจุดนี้ได้ จุดที่หลายๆ คนอยากจะเข้ามา